ฉันเป็นสุดที่รักของประธานมู่! ?

บทที่ 387 เธอทานยาคุมหรือยัง



บทที่ 387 เธอทานยาคุมหรือยัง

“นั่นมันไวน์อันล้ำค่าของฉันนะ อย่าได้ทำตามอำเภอ ใจชอบนะโว้ย” เมื่อเห็นเขาทําท่าจะดื่มไวน์ราวกับดื่มน้ำ เปล่า เย่นจิ่งเหนียนก็รีบแย่งไวน์กลับมาทันที

ทันใดนั้นโทรศัพท์ของลู่เหวินซูก็ดังขึ้น

เขาหยิบขึ้นมาดู หน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่เพียงครู่หลังจาก นั้นก็คลายออก และนำโทรศัพท์เก็บใส่กระเป๋า “ฉันจะ ออกไปข้างนอกหลายวัน พรุ่งนี้นายช่วยไปคฤหาสน์สี่ ดูหลี่ซูเจ๋ให้ฉันหน่อย

“สุดท้ายนายก็ยังอยู่กับเธอ” เย่นจิ่งเหนียนถอน หายใจ

ก่อนหน้านี้ที่เห็นลู่เหวินซูแปลกไป เขาก็พอจะเดาได้แล้ว

เขาถาม “เรื่องคุณเส็งใช่ไหม”

เมื่อเห็นลู่เหวินซูไม่ตอบ เย่นจิ่งเหนียนก็ส่ายหน้า และ เอ่ยติ “เหวินซู ครั้งนี้นายประมาทเกินไป รวบรวมหลัก ฐานจัดการส่งเข้าคุก แล้วค่อยไปลงมือในคุกเอาไม่ได้ หรือวะ”

“ในคุกมันลงมือไม่สะดวก”

“ก็แปลว่านายจะลงมือหนักไม่ได้อย่างไรเล่า” เย่นจิ่งเหนียนนึกเป็นห่วง “ตายพร้อมกันห้าคน ทั้งบริษัท เหอเส็งยังเป็นส่วนสำคัญของการเติบโตทางGDPของ บริษัทเยนจิง พวกเขาจะต้องตรวจสอบแน่”

“ฉันให้เฉินคางไปจัดการ หมดจดจนไม่มีใครตามหา เจอแน่” ลู่เหวินซูหาได้สนใจไม่ เขายกขวดไวน์กระดก อีกครั้ง

“นายนี่นะ…” เย่นจิ่งเหนียนหมดคำจะพูด “หลี่ซูเจ๊รู้ เรื่องนี้หรือไม่”

“นายไม่ได้ขังเธอไว้ใช่ไหม”

จากอาการบนสีหน้าของลู่เหวินซูแล้ว เย่นจิ่งเหนียนก็ เดาได้ในทันที

เขาคิ้วขมวด ในตอนที่อยากจะพูดอะไร ลู่เหวินซูก็ได้ นำขวดไวน์เปล่าวางไว้ตู้เย็น

ทั้งที่ดื่มเป็นเวลานานแล้ว แต่ลู่เหวินซูเพียงแค่หน้า แดงเล็กน้อยเท่านั้น ดวงตายังคงเปล่งประกาย “ไอ้สาม พรุ่งนี้อย่าลืมไป คฤหาสน์ สี่ด้วย ฉันไปก่อน”

“ฉันเป็นนักวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่หมอโว้ย” เย่นจิ่งเหนี ยนตะโกนไล่หลังเขาด้วยความหงุดหงิด “นายตามหมอส่วนตัวสักคนไม่ได้หรือไง”

สิ่งที่ตอบกลับมามีเพียงเสียงปิดประตูเท่านั้น

เย่นจิ่งเหนียนมองกระป๋องเบียร์ที่เกลื่อนกลาดอยู่บน พื้น ก็ได้แต่เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน “ฉันไม่น่าเปิดประตูให้แม่ งเลยโว้ย”

ทั้งยังสูญเสียไวน์ไปถึงสองขวดอีกต่างหาก

ตั้งแต่ที่ได้รับรู้เรื่องบาดแผลของหลี่ซูเจ๋จากคนใช้ ทั้งยังเงียบยิ่งกว่าเมื่อก่อน เจียน่าก็ยิ่งมั่นใจ ว่าระหว่าง หลี่ซูเจ่และลู่เหวินซูได้พังเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เมื่อพังลงไปแล้ว ก็คงใกล้จะออกไปจากที่นี่ในไม่ช้า ไม่เร็วแล้ว

เมื่อนึกถึงชีวิตที่จะได้ใช้กับลู่เหวินซู ทั้งยังได้เชิดหน้า อย่างมั่นใจต่อหน้าเพื่อนสาวเหล่านั้น เพียงแค่นึกถึง อนาคตเจียน่าก็หลับไปทั้งรอยยิ้ม

เช้านี้เธอตื่นตั้งแต่เช้าตรู่ สวมชุดคลุมชุดนอนและลง ไปด้วยท่าทางเกียจคร้าน

“เธอทำได้ดีมาก” อาศัยจังหวะที่คนรับใช้ในบ้านยังอยู่กันไม่เยอะ เจียน่าใช้สายตาเรียกชิงเหอให้มาหา และตบเงินเป็นรางวัลให้กับเธอ

“ขอบคุณค่ะคุณเจียน่า” ชิงเหอแย้มยิ้ม และรีบเก็บ เงินทันที

“อ่อ ใช่” เจียน่านึกอะไรขึ้นมาได้ ก็กระซิบถามชิงเหอ “เธอทานยาคุมหรือยัง”

“น่าจะยังนะคะ” ชิงเหอเองก็ไม่มั่นใจ นิ่งคิดไปก่อน จะกล่าว “คุณลู่ให้พวกเรานับวันตกไข่ของเธอค่ะ คิดว่า ต้องการจะให้เธอท้อง จึงไม่ให้เธอทานยาคุมค่ะ”

เจียน่าก็คิดว่าเป็นเช่นนั้น นัยน์ตาทอประกายโหด เหี้ยม

มันไม่ง่ายนักที่เธอจะทำลายความสัมพันธ์ของหลี่ซูเจ๋ และลู่เหวินซู หากหลี่ซูเจ๋ท้อง เรื่องมันจะยิ่งยากเข้าไป ใหญ่

เธอไม่ต้องการแบ่งผู้ชายให้กับหลี่ซูเจอีกแล้ว

เจียน่าเรียกชิงเหอให้ก้มมา และกระซิบกับเธอ “ลิ้น ชักที่ห้องนอนของฉันมียาคุมอยู่ เธอไปเอามาบดแล้วใส่ ในนมแล้วเอาไปให้เธอกินซะ”

“นั่น นั่นมันไม่ได้นะคะคุณเจียน่า” ชิงเหอมีสีหน้า ลำบากใจ
“มีเพียงแค่ฉันกับเธอที่รู้ จะไปกลัวอะไร” เจียน่า กรอกหู “เธอดูสิว่าระหว่างเธอกับเหวินซูมันแย่ขนาด ไหน ย่อมไม่อยากท้องอยู่แล้ว ฉันเพียงแค่ช่วยเธอ เท่านั้น มันก็แค่เธอเอาขึ้นไป จะดื่มไม่ดื่มก็เรื่องของเธอ เธอไม่ต้องกลัวอะไรด้วยซ้ำ เดี่ยวคืนนี้ฉันจะนำเงินมา ให้เธอทันที”

ชิงเหอที่ถูกคำพูดของเจียน่าเข้าไป และนึกไปถึง เงินที่จะได้ ลังเลอยู่ชั่วครู่และก็พยักหน้าตกลงในที่สุด “เดี๋ยวฉันจะเอานมขึ้นไปค่ะ ฉันไม่สนเรื่องอื่นแล้ว”

“ฉันรู้อยู่แล้ว ว่าการยกหน้าที่นี้ให้เธอทำคือเรื่องที่ไม่ ผิด” ใบหน้าของเจียน่าหลุดยิ้มขึ้นมาน้อยๆ

ชิงเหอที่เตรียมอาหารเช้าของหลี่ซูเจ๋เรียบร้อยแล้วก็ ยกขึ้นไปยังชั้นสาม

เจียน่าที่ทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว ก็บิดตัวอย่าง เกียจคร้าน วางแผนว่าจะไปนอนต่อ ตอนบ่ายก็เรียก ช่างเสริมสวยมา

ในตอนที่กำลังจะขึ้นตึก เสียงกริ่งที่ประตูก็ดังขึ้น

แม่บ้านทำความสะอาดที่อยู่ที่ห้องรับแขกวิ่งไปเปิด ประตู และเอ่ยถามอย่างสงสัย “สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่า ใครหรือคะ”

“ผมคือเย่นจิ่งเหนียน เหวินซูให้ผมมาที่นี่ครับ”
เจียน่าที่กำลังจะขึ้นตึกได้ยินชื่อนั้นเข้าก็สั่นสะท้านไป ทั้งร่าง แอบคิดในใจว่าคงไม่ใช่เย่นจิ่งเหนียนคนนั้นใช่ ไหม

เธอหันกลับไปทางประตู ก็เห็นชายหนุ่มร่างสูงโปร่ง ยืนอยู่ที่หน้าประตู ทั้งยังสะพายกระเป๋ายามาด้วย ชัด แล้วว่านั่นคือนักวิจัยที่มีชื่อเสียง เย่นจิ่งเหนียน

คุณลู่รู้จักกับเย่นจิ่งเหนียนอย่างนั้นหรือ

เจียน่าที่ยังคงตื่นตึง คนรับใช้ก็ได้พาเย่นจิ่งเหนียนมา ยืนอยู่เบื้องหน้าของเธอแล้ว “คุณเจียน่าคะ ท่านนี้คือ เพื่อนของคุณผู้ชายค่ะ บอกว่ามาตรวจอาการคุณหลี่”

เหม่อมองชายหนุ่มท่าทางดูดีอยู่ชั่วครู่ ในที่สุดเจียน่า ก็ดึงสติกลับมาได้ “สวัสดีค่ะ คุณเย่น”

เย่นจิ่งเหนียนเพียงยิ้มรับน้อยๆ เท่านั้น

เขาหันหน้าไปกล่าวกับคนรับใช้ “บ่ายนี้ผมยังมีงาน วิจัยต่อ ช่วยนำทางผมไปที ตรวจอาการเสร็จผมจะรีบ ไปทันที”

“เดี๋ยวฉันพาคุณขึ้นไปเองค่ะ คุณเย่น” เจียน่านึก ไปถึงนมแก้วนั้นที่ชิงเหอเพิ่งจะเอาขึ้นไปที่ชั้นสาม จะ ให้เย่นจิ่งเหนียนเห็นมันไม่ได้เด็ดขาด จึงกล่าวอย่าง ร้อนรน “ฉันไม่มีธุระอื่นพอดี”

คนรับใช้เอ่ยเตือน “คุณเจียน่าลืมหรือคะ คุณลู่ไม่ให้คุณขึ้นไปที่ชั้นสามนะคะ

แม่บ้านทำความสะอาดที่น่าตายนึ่

เจียน่าลอบด่าคนรับใช้อย่างสาดเสียเทเสียอยู่ในใจ แต่ใบหน้านั้นยังคงรอยยิ้มเอาไว้ “จริงด้วย เพราะเมื่อ วานเหวินซูทะเลาะกับคุณหลี่ ฉันก็เลยกังวลกับคุณหนึ่ จนลืมเรื่องนี้ไปเลย

เย่นจิ้งเหนียนเหลือบมองเธอ

เพียงครู่เดียวก็มองผ่านเจียน่าไป

เขากล่าวยิ้มๆ “คุณเจียน่ายอมแบ่งปันผู้ชายของตัว เองให้กับผู้หญิงอีกหนึ่งคน ทั้งยังห่วงใยผู้หญิงคนนั้น ด้วย ช่างจิตใจดีและมีความเมตตาจริงๆ ครับ”

เจียน่ากล่าวอย่างมั่นใจ “ใครใช้ให้เหวินซูชอบเธอกัน คะ ฉันเองก็ไม่อยากทำให้เหวินซูโกรธเสียด้วย”

“ถึงแม้คุณเจียน่าจะขึ้นไปที่ชั้นสามไม่ได้ ก็ให้คนรับ ใช้พาผมขึ้นไปอย่างไรล่ะครับ” เย่นจิ้งเหนียนกล่าว

เขาไม่สนใจเจียน่าอีก และเดินขึ้นชั้นสามไปกับคนรับ ใช้ทันที

เจียน่ากุมอกด้วยความตื่นตระหนก รู้สึกว่าสายตาของเย่นจิ่งเหนียนมองทะลุไปถึงจิตใจของคนมากเกิน ไป จนน่าหวาดกลัว

ชิงเหอจะไม่เกิดเรื่องใช่หรือไม่

อีกด้าน ชิงเหอเคาะประตูก่อน แล้วจึงเปิดประตู เข้าไป

ชิงเหอคิดว่าหลี่ซูเจ๋จะซึมเศร้า จนยังนอนอยู่ที่เตียง เพราะอาการบาดเจ็บที่รับได้มาจากการทรมานเมื่อคืน

ไม่คิดว่าหลี่ซูเจ๋จะอาบน้ำเสร็จแล้ว ทั้งยังนั่งอาบ หนังสือใต้แสงแดดนั้น

ชิงเหอชะงักนิ่งไปอึดใจ รีบถือถาดอาหารเข้าไปวาง ลงกับโต๊ะ “คุณหลี่คะ อาหารเช้าค่ะ”

ชิงเหอลอบมองหลี่ซูเจ๋ ดูไร้ชีวิตชีวา เมื่อได้ยินเสียง ของเธอ ก็ยกนมแก้วนั้นขึ้นดื่ม

“คุณหลี่คะ เช่นนั้นฉันลงไปก่อนนะคะ” ชิงเหอก้มหน้า หลบ ถอยเท้าไปข้างหลัง เหงื่อท่วมฝ่ามือ

การทำเรื่องแบบนี้ย่อมทำให้เธออยู่ไม่สุข แต่จำนวน เงินที่มากมายนั้นก็ยังคงล่อตาล่อใจ อย่างไรเธอก็เพียง เอานมขึ้นมาให้เท่านั้น เป็นหลี่ซูเจ๋ที่ดื่มเอง หาได้เกี่ยว กับเธอไม่

ชิงเหอออกมาจากห้องนอนได้ เพิ่งจะได้ถอนหายใจอย่างโล่งอกเท่านั้น ก็พบเห็นคนรับใช้อีกคนหนึ่งพว ชายหนุ่มขึ้นมายังชั้นสามนี้

“ซิงเหอ นำอาหารมาให้คุณหลี่แล้วอย่างนั้นหรือ” เมื่อ ขึ้นมาถึง คนรับใช้คนนั้นก็บอกกับชิงเหอ “ท่านนี้คือ เพื่อนของคุณผู้ชาย ท่านมาดูอาการคุณหลี่”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ