ฉันเป็นสุดที่รักของประธานมู่! ?

บทที่ 317 ยังโง่กว่าลู่เหวินซูอีก



บทที่ 317 ยังโง่กว่าลู่เหวินซูอีก

ถังซินคิดแล้วคิดอีก จากนั้นจึงเอ่ยถามคุณแม่ถังขึ้น ว่า “แม่ แม่ว่าเธอหมายความว่าอย่างไร อยากที่จะใช้ วิธีการของความรักความผูกพันธ์ในการทำให้เป้าหมาย สำเร็จหรอ?”

ถังซินจ้องมองไปที่ยันต์

“ไม่ใช่หรอก เธอมาซื้อเหล้าแล้วหลายครั้ง ก็ดูเป็น คนดี” คุณแม่ถังเอ่ยขึ้น และล็อคประตูร้านค้า “ถือได้ ว่าเป็นพี่สะใภ้ของพ่อเธอที่ไปแต่งงานใหม่ และก็ไม่ได้ แค้นอะไรกับเธอ”

ถังซินมองคุณแม่ถังอย่างระมัดระวังตัว “แม่ ทำไมแม่ ดูเข้าข้างเธอ เธอไม่ได้ขอร้องอะไรแม่จริงๆใช่มั้ย”

“ไม่มี”

‘เธอไม่ได้พูดเรื่องกวนลี่หลั่งกับแม่จริงๆหรอ?”

“ไม่มีจริงๆ” คุณแม่ถังมองขู่เธอ น้ำเสียงไม่พอใจ “เธออย่าคิดรังเกียจคนอื่นขนาดนี้ จะพูดยังไงดีหล่ะ… เฮ้อ ช่างมันเถอะ ไปซื้อกับข้าว”

ถังซินจี้ถามอย่างแปลกประหลาดใจ “แล้วมันคืออะไร หล่ะ? แม่ปิดบังอะไรฉัน?”

“เขาเป็นผู้ใหญ่แล้ว”
“ฉันจะบอกให้นะ แม่เป็นคนหูเบา หลังจากนี้ถ้าเธอมา อีก แม่อย่าไปสนใจเธอ” ถังซินไม่ได้สงสัยในคำพูดของ คุณแม่ถัง “ยังไงเธอก็เป็นครอบครัวเดียวกับกวนลี่หลั่ง ต้องเข้าข้างกวนลี่หลั่งอย่างแน่นอน”

“รู้แล้ว!”คุณแม่ถังยกมือโบกให้พอ “เธอยังอยากจะ ไปกินข้าวที่บ้านกับฉันมั้ย ไม่กินก็กลับไป!”

ถังซิน…

มีชีวิตโตมาจนถึงป่านนี้ คิดไม่ถึงว่าเริ่มจะถูกคุณแม่ ถังรังเกียจแล้วหรอ?

ขณะที่กดลิฟต์ลงไปชั้นล่างกับคุณแม่ถัง ถังซินก็ยัง จ้องมองยันต์นั้นอยู่ และคิดในใจขึ้นว่า เห็นได้ชัดว่าเมื่อ สักครู่นี้ฉันมีกริยาท่าทางที่ดีมาก

แสดงออกด้วยความเคารพนับถือ และยังเรียกว่าคุณ

ป้า

เหมือนกับที่คุณแม่ถังพูดซะที่ไหน ที่บอกว่าไม่เคารพ ผู้หลักผู้ใหญ่เลยหรอ?

หลังจากที่ซื้อกับข้าวแล้วกลับบ้าน คุณแม่ถังสั่งให้ถัง ซินไปช่วยจัดเก็บกล่ององุ่นเหล่านั้นให้เป็นระเบียบ

เพื่อที่จะทำไวน์ และตนเองก็เข้าไปในห้องครัว ยุ่งอยู่ กับการเตรียมอาหารกลางวัน
“แม่ ทำอะไรง่ายๆหน่อยก็ได้” ถังซินตะโกนไปยังห้อง ครัว เธอไม่ได้กินอะไรเลยตลอดทั้งเช้า หิวโหยจนท้อง ร้องจ๊อกๆ ขอเพียงแค่คุณแม่ถังทำอะไรเธอก็กินหมด

“เธอเด็ดองุ่นของเธอไป ไม่ต้องพูดมาก!

ถังซิน…

เมื่อถังซินเด็ดองุ่นเสร็จไปสี่กล่อง ก็ถือโอกาสช่วย คุณแม่ถังล้างเหยือกใหญ่หลายใบที่จะต้องใช้บรรจุ เหล้าที่กลั่นไว้ลงไป ในที่สุดคำพูดที่เฝ้ารอจากคุณแม่ ถังก็มาถึง “กินข้าวได้แล้ว!”

หลังจากที่ล้างมือแล้วเธอก็พุ่งตรงไปที่โต๊ะอาหาร

บนโต๊ะอาหารมีกับข้าวผัดห้าอย่าง ต้มหนึ่งอย่าง ต้ม ลูกชิ้นดมแล้วมีกลิ่นหอมมาก และยังมีขาหมูน้ำแดงอีก จานใหญ่!

“แม่ ไม่น่าหล่ะแม่ถึงทำนานขนาดนี้ ที่แท้ก็มีขาหมูน้ำ แดง” ถังซินรู้สึกอยากกินมาก จึงยื่นตะเกียบออกไปแต่ ก็โดนคุณแม่ถังตีออกอย่างไม่เกรงใจ

คุณแม่ถังได้เอาขาหมูที่ตักใส่ถ้วยไว้แล้วสองขาให้ เธอ “นี่คือของเธอ”

“ที่ตักไว้จานนั้นฉันกินไม่ได้หรือ?” ถังซินมองไปที่ ขาหมูน้ำแดงพวกนั้น และหันกลับมาดูถ้วยเล็ก เปรียบ เทียบกันอยู่สักครู่ ขาหมูสองอันที่อยู่ในถ้วยเล็กนั้น มีน้อยจนน่าสงสาร

ถังซินจึงพูดอย่างจริงจังขึ้นว่า “แม่ หมอบอกว่าให้แม่ กินอาหารอ่อนๆ อาหารที่ไม่มัน เพื่อถนอมรักษาสุขภาพ ขาหมูฉันกินได้เพียงคนเดียวเท่านั้น! แม่คงไม่คิดที่จะ บรรจุถุงสุญญากาศส่งไปให้กวนชิงเฟิงที่ต่างประเทศ หรอกนะ?”

“ถ้าฉันคิดจะส่งยังต้องดูค่าส่งและระยะเวลาในการ ส่งอีก!” คุณแม่ถังมองบนใส่เธอ และถือกล่องเก็บความ ร้อนมาสองใบ เอาขาหมูและต้มลูกชิ้นใส่ลงไปทั้งหมด

“อันนี้ของใคร?”

“อันนี้ให้ลูกเขย และคนนั้นคนที่อยู่ข้างๆเขา” ในตอน นั้นคุณแม่ถังนึกชื่อไม่ออก “เจ้าหน้าที่ที่ดูรูปร่างสูง ใหญ่…ลูก เขาชื่ออะไรนะ?”

“จางเฉิง เขาเป็นผู้ช่วยของประธานมู่ ไม่ใช่เจ้า หน้าที่” ถังซินพูดตอบกลับหลังจากที่พบว่ามีความผิด ปกติ “แม่ทำมากมายขนาดนี้ เพื่อให้พวกเขาหมดเลย หรือ? แล้วฉันกินอะไร

คุณแม่ถังชี้ไปบนโต๊ะ “ผักกาดขาว เธออ้วนแล้ว พอดี เลยจะได้ลดความอ้วน”

.….….….….แม่นจริงๆเลย” ในสายตาของคุณแม่ถัง ผู้ช่วย จางยังดีกว่าเธอที่เป็นลูกอีก “ตอนนี้บ่ายโมงแล้ว พวก เขาน่าจะสั่งอาหารมากินแล้ว แม่เอาไว้ให้ฉันกินเถอะ!”
“ฉันพึ่งโทรศัพท์ไปถาม พวกเขาบอกยังไม่ได้กิน”

เมื่อถังซินแทะขาหมูเสร็จแล้ว ก็หิ้วกระเป๋าเก็บความ ร้อนและกำลังจะออกไปด้วยอารมณ์ที่เป็นทุกข์

และเมื่อเกือบที่ออกประตู คุณแม่ถังยังเอาเหล้าที่ กลั่นเองให้กับถังซินอีกสองขวด “เขาเป็นคนข้างกาย ของลูกเขย ทั้งพูดจาดี เธอสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับ เขาหน่อย”

ถังซินหัวเราะ เหอๆ “ทำไมแม่ไม่ให้ฉันเอาไวน์องุ่น เหยือกใหญ่ๆสองเหยือกไปให้ด้วยเลยหล่ะ ให้พนักงาน ทั้งองค์กรณ์ชิมด้วยเลยยิ่งดี!”

“ก็ได้นะ แล้วเธอขนไปไหวมั้ย?”

…..พูดกับคุณแม่ยังไม่กี่คำ อารมณ์ของถังซินยิ่งไม่ ดีมากยิ่งขึ้น จึงออกจากบ้านมาเรียกรถ ใช้เวลาสิบกว่า นาทีก็ถึงบริษัทมู่ซื่อ

“ผู้จัดการถัง สวัสดีตอนบ่ายค่ะ”

พนักงานที่เดินผ่านต่างพากันทักทายถังซิน และจ้อง มองกระเป๋าเก็บความร้อนที่อยู่ในมือครั้งแล้วครั้งเล่า แววตาสอดรู้สอดเห็น ทำให้ถังซินต้องแอบๆไปขึ้นลิฟต์ ทางด้านตะวันตก
หลังจากที่ถึงชั้นบน ถังซินเห็นบรรยากาศในแผนก เลขานั้นเคร่งครัด ทุกคนกำลังยุ่งอยู่กับงาน

และผู้ช่วยจางก็เป็นหนึ่งในนั้น

ถังซินเข้าไปในแผนกเลขา เอากระเป๋าเก็บความร้อน หนึ่งอันและเหล้าสองขวดวางไว้บนโต๊ะของผู้ช่วยจาง จากนั้นจึงขยับตัวเบาๆ แต่ก็ส่งข้อความไปให้ผู้ช่วยจาง จนเขาตื่นตกใจ

ผู้ช่วยจางรีบปิดมือถือ และยืนขึ้น “คุณนาย คุณมาได้ ยังไง?”

“คุณนาย?”

คนในแผนกเลขาต่างเงยหน้าขึ้นมาพร้อมกัน และมอง ไปทางพวกเขาด้วยแววตาที่สะดุ้งตกใจ

มีเลขาคนหนึ่งเอ่ยถามอย่างระมัดระวังขึ้นว่า “ผู้ช่วย จาง คุณกับผู้จัดการถังเป็น…ยินดีด้วยนะ

“ไม่ใช่ ไม่ใช่แน่นอน” ห้องทำงานของประธานอยู่ ข้างๆ จึงทำให้ผู้ช่วยจางหวาดกลัวจนเสียงสั่น “ฉันกับ คุณนาย ถุย ไม่ใช่ คุณผู้หญิงมู่ต่างห่าง”

ทุกคนทอดถอนหายใจ แววตายิ่งตื่นตกใจและอยากรู้ อยากเห็นมากยิ่งขึ้น

เดิมทีผู้จัดการถังไม่ได้คบกับผู้ช่วยจางแต่กลับคบกับประธานมู่ และกลายเป็นคุณผู้หญิงมู่

“ฉันขอร้องนายหล่ะ เรียกชื่อฉันไม่ได้หรอ? จะมา เรียกอะไรคุณนาย!” ถังซินพูดต่อว่าด้วยเสียงเบา “ฉัน ยังบอกให้มู่เฉินหย่วนปิดไว้ก่อน ตอนนี้จบกัน ทุกคนรู้ หมดแล้ว!”

ผู้ช่วยจางจึงพูดบ่นขึ้นว่า “ประธานมู่บอกให้ผมเรียก แบบนี้”

“เขาบอกให้นายเรียก นายก็เรียกอย่างนั้นหรอ สมอง นายไม่สามารถพลิกแพลงเอาเองได้หรอ?” ถังซิน ถลึงตาใส่เขา “ปกติดูคุณเป็นคนฉลาด คิดไม่ถึงว่าบาง ครั้งยังโง่กว่าลู่เหวินซูอีก”

ผู้ช่วยจางรู้สึกน้อยใจจนอยากจะร้องไห้

อะไรวะเนี่ย!

นี่ไม่ใช่ความผิดของเขา นี่คือความผิดของประธาน

นะ!

แม่ฉันให้ฉันเอาข้าวกลางวันมาให้นาย และยังมีไวน์ องุ่นที่กลั่นเอง ถังซินชี้ไปทางกระเป๋าเก็บความร้อน และหันไปพูดกับคนอื่นในแผนกเลขา

เธอพูดด้วยคำพูดที่นิ่มนวล อ้างว่ามู่เฉินหย่วนไม่ชอบ ให้ถูกรบกวน ไม่ชอบพนักงานพูดซุบซิบนินทา คำพูด ของเธอทำให้ทุกคนรู้สึกกลัวได้สำเร็จ และพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าในวันนี้ไม่ได้ยินอะไรเลย

“ขอบคุณทุกคนมากค่ะ” ถังซินยิ้มหัวเราะ “ถือกระเป๋า เก็บความร้อนจากไปด้วยความพึงพอใจ”

เมื่อเธอออกไปแล้ว ทุกคนจึงเฮโลกันเข้าไปหาผู้ช่วย

จาง

ต่างคนต่างพากันถาม คำถามที่ถามนั้นช่างอยากรู้ อยากเห็น อยากที่จะได้ข้อมูลที่เป็นความจริงจากผู้ช่วย จาง แม้กระทั่งมีเลขาคนหนึ่งได้กลิ่นของอาหารที่อยู่ ในกระบอกเก็บความร้อนโชยออกมา จึงอยากที่จะเปิด กระบอกเก็บความร้อนออกมาดู

ผู้ช่วยจางตีไปที่มือของเลขาคนนั้นอย่างแรง และเงย หน้าพูดว่า “เวลาทำงาน มัวทำอะไรกันอยู่? พวกเธอลืม แล้วหรอว่าเมื่อสักครู่พูดอะไรออกมา อยากเก็บข้าวของ แล้วออกไปใช้มั้ย?”

จากนั้นเหล่าเลขาทั้งหลายจึงแยกย้ายกลับไปทำงาน

กัน

ผู้ช่วยจางเปิดกระบอกเก็บความร้อนออกมาก็เห็นขา หมูน้ำแดง ทำให้คนที่ได้กลิ่นต่างน้ำลายเสาะ

ได้กินอาหารกลางวันที่เอร็ดอร่อยขนาดนี้ ทำให้ ผู้ช่วยจางแทบจะน้ำตาไหลออกมา ในใจก็คิดว่าอยู่ กับประธานมู่ก็ยังมีข้อดีเหมือนกัน อย่างน้อยก็ได้กิน อาหารที่แม่ยายเขาทำ
อร่อยมากจริงๆเลย!

ผู้ช่วยจางตัดสินใจแน่วแน่ในใจแล้วว่า ต่อจากนี้ไม่ว่า ประธานมู่จะทะเลาะอะไรกับคุณถังซิน เขาก็จะเข้าข้าง ถังซิน

ข้างคุณถังซินคือผู้ชนะ!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ