ฉันเป็นสุดที่รักของประธานมู่! ?

บทที่537 ถ้าเก็บไว้ไม่ได้จริงๆ ฉันก็จะยอมแพ้



บทที่537 ถ้าเก็บไว้ไม่ได้จริงๆ ฉันก็จะยอมแพ้

“ยัง เมื่อกี้เรียกแล้วยังไม่ตอบ

“เมื่อคืนคุณนายก็นอนไวมากนะคะ? “คนใช้พูดอย่าง สงสัย“ปกติแปดโมงกว่าคุณนายก็ลงมาแล้วค่ะ”

ได้ยินคนใช้พูดแบบนี้ จ่องซึงก็รู้สึกผิดปกติ

ปกติหลี่ซูเจ๋จะไม่ขี้เซา ทำไมเมื่อกี้เขาเรียกถึงไม่ตอบ นะ?

“หล่อนท้อง น่าจะไม่ค่อยสบาย”จ๋องซึงวางถ้วยลง และลุกขึ้น”เดี๋ยวผมไปดูหล่อน”

จ๋องซึงไปเคาะที่หน้าประตูอีกครั้ง“ซูเจ๋ คุณไม่สบาย เหรอ? ”

“ซูเจ๋? ”

เคาะห้องดังมาก เรียกอยู่สองสามครั้งก็ยังไม่มีคน

ตอบ

สีหน้าของจ๋องซึงหม่นลงจึงเปิดประตู

พอเข้าห้องไปเขาก็มองหลี่ซูเจ๋บนเตียง ขมวดคิ้วแน่น และรีบก้าวเท้าเข้าไปตบแก้มของหล่อน

“เฮ้ เฮ้ ซูเจ๋ คุณเป็นอะไรไป?”
เขาถึงพบว่าร่างของหลี่ซูเจ๋เต็มไปด้วยเหงื่อ ชุดนอน ผ้าไหมบนตัวเปียกไปหมด ท่าทางแย่มาก

จ๋องซึงไม่กล้าชักช้าต่อไป รีบหยิบเสื้อคลุมมาคลุม ร่างหล่อนแล้วก็รีบอุ้มลงไป

เขาพูดกับคนใช้ว่า: “หล่อนดูผิดปกติ ผมจะพาหล่อน ไปโรงพยาบาล เดี่ยวคุณบอกเพื่อนผมให้ด้วย

คนใช้รีบพยักหน้า“โอเคค่ะ คุณชายมีอะไรก็โทรหา ฉันนะคะ”

จ๋องซึงที่อุ้มหล่อนไป ลู่เหวินซูที่อยู่อีกห้องก็ตื่นพอดี ลู่เหวินซูนั่งลงแล้วก็ลูบขมับที่ปวด หัวยังคงปวดอยู่

เขามองไปรอบๆห้องนอน คิดได้ว่าเมื่อคืนโทรศัพท์หา จ๋องซึง นี่น่าจะเป็นบ้านของจ๋องซึง

“ห่าเอ้ย ให้ฉันนอนบนพรม! “ลู่เหวินซูคิดว่าปกติตัว เองมักจะดีกับจ๋องซึง แต่สุดท้ายเขากลับให้ตัวเองนอน ลงบนพรม แล้วใบหน้าก็หม่นลง

ลู่เหวินซูเห็นว่าชุดสูทบนตัวยับยู่ยี่และยังมีกลิ่น เหม็นๆ จึงขมวดคิ้วเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำ

ออกมาก็เลือกเสื้อผ้าสองสามชุดในตู้มาเปลี่ยน ตอนที่ลู่เหวินซูลงไปคนใช้ก็เห็นพอดีเลยพูดกับเขาว่า: “ท่านน่าจะเป็นเพื่อนของคุณจ๋องใช่ไหมคะ? อาหารเช้าเตรียมไว้หมดแล้ว ลองไปดูนะคะว่าทานได้ ไหม”

“ภาษาจีนของคุณพูดได้คล่องแคล่วดีมาก”ลู่เหวินซู นั่งลงที่โต๊ะอาหาร”จ่องซึงหามาโดยเฉพาะเหรอ? ” คนใช้พยักหน้าตอบไปว่า : “เพราะว่าคุณนายพูด

ภาษาที่นี่ไม่ได้ คุณจ๋องก็เลยให้ฉันมาดูแลคุณนายค่ะ”

ลู่เหวินซูตอบรับ แล้วจึงเห็นว่ามีแค่เขา เหมือนว่าจ๋อง ซึงจะไม่อยู่

“เขาล่ะ? ”

“คุณนายไม่สบายค่ะ คุณชายเลยพาไปโรงพยาบาล แล้วให้ฉันดูแลท่าน

อาหารเช้าบนโต๊ะไม่น้อยเลยทีเดียวและยังมีขนมปัง นึ่งแบบจีนๆกับเต้าฮวยด้วย

ลู่เหวินซูชอบฝีมือของแม่บ้าน

คนใช้บอกว่าเต้าฮวยน่ะคุณนายเป็นคนสอน ใช้เวลา อยู่สองสามวันถึงจะทำเป็น

ได้ยินคนใช้พูดแบบนี้ ลู่เหวินซูก็ขมวดคิ้วหน่อยๆถาม หล่อนว่า: “จ๋องซึงจ้างคุณมาเมื่อไหร่เหรอ? แฟนเขา หน้าตาเป็นไงบ้าง สวยไหม?
“ฉันมาดูแลคุณนายนานแล้วค่ะ”คนใช้ตอบแล้วก็ถอน หายใจ คุณนายสวยมาก นิสัยก็ดี แต่ว่า……….มองไม่ เห็นค่ะ และคุณชายก็มาไม่บ่อยด้วย

“ฉันรู้มาว่าพวกเขาแยกห้องนอน คุณชายก็ไม่รัก คุณนายเลย แต่ว่านะ คุณนายตาไม่ดีและยังท้องอีก คุณชายต้องการแค่ลูก ควรเอาใจหล่อนมากกว่านี้ หน่อย”

คนใช้ยังพูดกับลู่เหวินซูว่า: “คุณกับคุณจ๋องเป็น เพื่อนกัน โน้มน้าวเขาหน่อยสิคะ”

ลู่เหวินซูคิดเรื่องแย่ๆของตัวเองจะมีเวลาที่ไหนไปยุ่ง เรื่องของจ๋องซึง อีกอย่างจ๋องซึงยังเอาหล่อนมาอยู่นี่ มา หาก็ไม่บ่อยอีก ชัดเจนว่าแค่เล่นๆแล้วเขาจะโน้มน้าวได้ ยังไง?

แต่ว่าคนใช้พูดเยอะขนาดนั้น เหมือนว่าสงสาร คุณนายนั่นเลย ลู่เหวินซูเลยตอบไปสองคำอย่าง คลุมเครือ

ทานข้าวเสร็จลู่เหวินซูก็เตรียมตัวออก

เขาอยู่ประเทศYนานขนาดนี้ ทำไมหาไม่เจอนะ อยู่ ต่อก็ไม่มีประโยชน์อะไร บริษัทก็มีงานเร่งด้วย

“ท่านไม่รอคุณชายกลับมาเหรอคะ?

“ไม่รอแล้ว ซื้อตั๋วเรียบร้อยหมดแล้ว”ลู่เหวินซูไปหยิบเสื้อคลุม “เดี๋ยวคุณบอกเขาละกัน”

“โอเคค่ะ”

ตอนที่ลู่เหวินซูหยิบของจะออกไป ก็หันไปเห็นรูปวาด

น้ำมันติดผนังโดยไม่ตั้งใจ เป็นดอกทานตะวัน

ลู่เหวินซูก็คิดได้ว่าหลี่ซูเจ๋ก็ชอบวาดดอกทานตะวัน

วันนั้นที่ทะเลาะกัน หล่อนเกือบจะเอารูปวาดดอก ทานตะวันไปเผาแล้ว แล้วก็เย็นชากับเขามากขึ้นด้วย

จี้ดอกทานตะวันที่หลี่ซูเจ๋ให้เขาก็ไม่รู้ไปตกที่ไหน

ลู่เหวินซูคิดไปก็ว้าวุ่นหน่อยๆ เดินไปไม่กี่ก้าวก็หัน กลับมาอีก เอารูปที่ติดกำแพงนั่นไปด้วยแล้วก็โอนเงิน ไปก้อนนึงให้จ๋องซึงถือว่าเขาซื้อรูปนี้

จ๋องซึงพาหลี่ซูเจ๋ไปถึงโรงพยาบาล

พอตรวจเสร็จหมอก็บอกว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แค่ ร่างกายหล่อนไม่ค่อยแข็งแรง

หมอยังเตือนอย่างนุ่มนวลว่า “คุณกับภรรยาดูท่าทาง ยังหนุ่มยังสาว ถ้ายังไม่รีบมีลูกก็รอให้ร่างกายของหล่อนดีขึ้นค่อยลองอีกทีก็ได้นะ คุณคิดว่ายังไง? ”

จ๋องซึงอึ้ง พอเข้าใจความหมายของหมอก็ลูบจมูก อย่างเขินอาย เดี๋ยวผมไปถามหล่อนก่อนครับ

“โอเค งั้นผมไปทํางานก่อน”

จ๋องซึงไปชำระเงิน ตอนที่กลับไปที่ห้องผู้ป่วยก็เห็นว่า หลี่ซูเจตื่นแล้ว

จ๋องซึงไม่ได้นุ่มนวลเท่าหมอ เขาไปพูดกับหลี่ซูเจ๋ ตรงๆว่า: “ซูเจ๋ หมอบอกว่าร่างกายคุณไม่แข็งแรง อยากให้คุณเอาออก

หลี่ซูเจนิ่งไป

สักพักนึงหล่อนก็ลูบท้องน้อยและพูดเสียงทุ้ม ว่า; “ฉันทานข้าวดีๆทุกวัน ก่อนนี้ก็มีหมอมาตรวจฉัน ถึงที่เลย ทำไมร่างกายยังอ่อนแออยู่อีกนะ”

จ๋องซึงดูออกว่าหล่อนอยากเก็บลูกไว้ก็รู้สึกงง“แฟน คุณทำกับคุณขนาดนี้ยังอยากเก็บลูกไว้อีกเหรอ? คุณ…….ยังรักเขาใช่ไหม? ”

หลี่ซูเจ๋ไม่ตอบอะไรได้แต่หันไปมองนอกหน้าต่าง

หลังจากนิ่งไปนาน หลี่ซูเจ๋ก็พูดด้วยเสียงอ่อน แรง: “ให้ฉันลองอีกหน่อย ถ้าเก็บไว้ไม่ได้จริงๆ ฉันก็จะ ยอมแพ้”หล่อนดีขึ้นค่อยลองอีกทีก็ได้นะ คุณคิดว่ายังไง?

จ๋องซึงอึ้ง พอเข้าใจความหมายของหมอก็ลูบจมูก อย่างเขินอาย เดี๋ยวผมไปถามหล่อนก่อนครับ”

“โอเค งั้นผมไปทํางานก่อน”

จ่องซึงไปชำระเงิน ตอนที่กลับไปที่ห้องผู้ป่วยก็เห็นว่า หลี่ซูเจตื่นแล้ว

จ๋องซึงไม่ได้นุ่มนวลเท่าหมอ เขาไปพูดกับหลี่ซูเจ๋ ตรงๆว่า: “ซูเจ๋ หมอบอกว่าร่างกายคุณไม่แข็งแรง อยากให้คุณเอาออก”

หลี่ซูเจนิ่งไป

สักพักนึงหล่อนก็ลูบท้องน้อยและพูดเสียงทุ้ม ว่า; “ฉันทานข้าวดีๆทุกวัน ก่อนนี้ก็มีหมอมาตรวจฉัน ถึงที่เลย ทำไมร่างกายยังอ่อนแออยู่อีกนะ

จ๋องซึงดูออกว่าหล่อนอยากเก็บลูกไว้ก็รู้สึกงง”แฟน คุณทำกับคุณขนาดนี้ยังอยากเก็บลูกไว้อีกเหรอ? คุณ……..ยังรักเขาใช่ไหม? ”

หลี่ซูเจ๋ไม่ตอบอะไรได้แต่หันไปมองนอกหน้าต่าง

หลังจากนิ่งไปนาน หลี่ซูเจ๋ก็พูดด้วยเสียงอ่อน แรง: “ให้ฉันลองอีกหน่อย ถ้าเก็บไว้ไม่ได้จริงๆ ฉันก็จะ ยอมแพ้”
หล่อนเสียลูกไปแล้วสองคน แต่พระเจ้าก็ยังไม่สน หล่อน

เห็นหลี่ซูเจ๋เสียใจขนาดนี้ จ๋องซึงก็ไม่พูดอะไรอีก รอ หลี่ซูเจ๋ดีขึ้นก็พาหล่อนกลับไป

คนใช้พูดกับจ๋องซึงว่า: “เพื่อนคุณทานข้าวเช้าเสร็จ ก็ไปค่ะ ให้ฉันมาบอกคุณ

“กินพักก็ของฉัน แต่กลับไม่ขอบคุณอะไรเลย! “จ๋อง ซึงบ่นอย่างไม่พอใจ ตอนที่เข้าห้องไปก็เห็นผนังโล่งๆ เลยถามคนใช้ว่า“ภาพที่แขวนล่ะ? ”

“คุณหมายถึงภาพดอกทานตะวันที่คุณนายวาดเห รอ? เหมือนว่าเพื่อนคุณจะเอาไปแล้วนะคะ”

จองซึงเงียบไปพักนึง

ลู่เหวินซูหน้าด้านจริงๆ ไปยังจะหยิบของไปด้วย! หลี่ซูเจ๋เม้มปาก ยิ้มบางๆ : “แค่รูปๆนึง เพื่อนคุณชอบ ฉันก็ดีใจ”

“นั่นมันรูปที่คุณวาดอย่างลำบากนะ คุณนี่! “จ๋องซึง ลูบหัวหล่อนแล้วก็เลิกพูดถึงเรื่องนี้“วันนี้พักเยอะๆพรุ่งนี้ พาไปปิคนิค”

หลี่ซูเจ๊นิ่งไปแล้วก็รีบพยักหน้า
ตอนที่จ่องซึงว่างก็เปิดโทรศัพท์ ถึงเห็นว่าลู่เหวินซู โอนเงินมาให้ก้อนนึง จำนวนเยอะทีเดียว

ความไม่สบายในใจเขาก็หายไปพักนึง”ก็โอเค แหละ! ”

จ่องซึงเอาเงินนี้ไปซื้อเสื้อผ้าให้หลี่ซูเจ๋ ส่วนเงินอื่นๆก็ เก็บเข้าบัตรแล้วเอาบัตรให้หลี่ซูเจ๋

กลัวว่าตัวเองมาประเทศYไม่ได้ หล่อนเจอเรื่องอะไรก็ ยังมีเงินไว้ใช้

สองสามวันถัดมาจ๋องซึงก็พาหลี่ซูเจ๋ไปปิคนิค เดิน เล่นไปทั่ว ต่อมาก็พาหล่อนไปนั่งเรือยอชท์เพื่อหวังว่า จะช่วยรักษาอารมณ์ของหล่อนได้

ทั้งสองเที่ยวเล่นอยู่หลายวัน แต่มีคนตามพวกเขาอยู่ ตลอดโดยไม่รู้ตัว

หลังจากอยู่ประเทศYมาอาทิตย์นึง คนที่บริษัทในจีน ก็โทรมา

จ๋องซึงให้คนใช้ดูแลดีๆแล้วรีบกลับประเทศ

วันที่สองที่อ๋องซึงจากไป โทรศัพท์ของหลี่ซูเจ๋ที่มีแค่ เบอร์ของจ๋องซึงกับคุณนายจ๋องก็ดังขึ้น


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ