ฉันเป็นสุดที่รักของประธานมู่! ?

บทที่ 135 ไอ้สาม ทำไมนายดุขนาดนี้



บทที่ 135 ไอ้สาม ทำไมนายดุขนาดนี้

แผลบนใบหน้ายังมีความเจ็บอยู่นิดหน่อย และบวกกับ ความไม่ง่วงนอน ถังซินเดินไปที่รถเพื่อไปเอาโน๊ตบุ๊คมา ทํางานที่เธอทําค้างไว้ให้เสร็จ

ถ้าไม่ใช่เพราะว่าปฏิบัติหน้าที่แทนประธาน เธอไม่รู้เลยว่า เป็นประธานจะยุ่งขนาดนี้

มีข้อมูลรายงานนับไม่ถ้วน การประชุมต่างๆ และยังมีงาน สังสรรค์ของแต่ละบริษัทและงานเลี้ยงเย็นการกุศลต่างๆ ที่ถูกเชื้อชวน… ทุกวันเวลาไม่พอที่จะใช้ สามารถจัดตาราง การเดินทางไปยาวไปถึงปีหน้า

เธอเข้าใจความลำบากของมู่เฉินหย่วนอย่างลึกซึ้ง

หลังจากที่จัดการกับอีเมลหลายฉบับ ถังซินถอนหายใจ ออกมาเฮือกใหญ่และใช้มือนวดไปตามคอที่ปวดเมื่อย

สายตาได้ชำเลืองไปมองที่เตียงคนไข้โดยบังเอิญ ได้เห็น ผู้ชายที่นอนผู้บนเตียงอย่างเงียบสงบ หน้าอกของเธอก็รู้สึก แน่น จมูกมีความคัดเจ็บขึ้นมา

ตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์จนมาถึงวันนี้ ก็เกือบจะครึ่ง เดือนแล้ว เรื่องต่างๆของบริษัทมู่ชื่อเธอได้จัดการทั้งหมด เรียบร้อยแล้ว แต่คุณอามู่ยังไม่ฟื้น

บาดเจ็บหนักขนาดนี้เลยหรอ?
ถังซินยื่นมือออกไป เหมือนกับอยากจะสัมผัสไปที่แก้ม ของเขา นิ้ว งจะสัมผัสไปที่ผิวหนังอันอ่อนโยน

ทันใดนั้นที่ข้างหูได้ยินเสียงประตูเคลื่อนไหวเบาๆ เธอรีบ ชักมือกลับอย่างเร็ว

“คุณถัง ยังไม่นอนหรอ?” เย่นจิ้งเหนียนผลักประตูเข้ามา และเห็นโน้ตบุ๊คที่วางไว้บนขาเธอ “คุณถัง เวลากลางวัน ทำงานที่บริษัทมู่ชื่อก็เพียงพอแล้ว ตอนกลางคืนก็พักผ่อน เถอะ”

ถังซินยิ้ม ยังไม่รู้สึกง่วงนอนก็เลยมานั่งทำงานเสียเลย

เย่นจิ้งเหนียนเทน้ำอุ่นหนึ่งแก้ว และเดินเข้ามายื่นให้เธอ “รีบนอนพักผ่อนเร็วๆ พี่รองของผมก็คงไม่อยากเห็นคุณถึง ทำงานหนักขนาดนี้”

“ขอบคุณค่ะ”

จริงๆแล้วถังซินรู้สึกกระหายนิดหน่อย จึงดื่มไปครึ่งค่อน แก้ว และไม่ได้สนใจสีหน้าของเย่นจิ้งเหนียน

เธอยุ่งอยู่กับงานอยู่นานแล้ว และคุยกับเย่นจิ่งเหนียนได้ ไม่กี่ประโยค เธอก็รู้สึกง่วงนอน จึงง่วงหาวออกมาหลาย ครั้ง

เย่นจิ้งเหนียนบอกให้เธอพักผ่อนเร็วๆ และก็เดินจากไป
ในห้องคนไข้ระดับสูง มีของทุกอย่างที่ต้องการใช้ทั้งหมด แล้ว เหมือนกับเป็นห้องนอนที่อยู่ในบ้าน ข้างๆมีการจัดวาง เตียงเสริม ถังซินมองไปที่ผู้ชายที่นอนอยู่บนเตียงคนไข้ และเพียงแค่ขยับขยับเก้าอี้

ครึ่งตัวฟุบไปที่บนเตียงคนไข้ เอาหน้าที่เป็นแผลครึ่งหน้า ขึ้น และค่อยงีบหลับไป

เธอยังคงเฝ้าอยู่ตรงนี้

หลังจากที่ถังซินนอนไปประมาณสิบนาที ประตูห้องคนไข้ ก็ถูกเปิดออกอีกครั้ง เย่นจิ่งเหนียนและลู่เหวินซูเข้ามาแล้ว

“บนหน้าของเธอเป็นแผล กินยานอนหลับเข้าไปคงไม่มี ผลอะไรใช่มั้ย” ลู่เหวินซูเอ่ยถามขึ้น

“ยานอนหลับที่ทำมาพิเศษ ไม่เป็นไร”

ลู่เหวินซูทำเสียง อ้อ ออกมา เดินเข้ามาก็เห็นถังซินนอน ฟุบอยู่บนข้างเตียงคนไข้ อดไม่ได้ที่จะพูดอย่างสนุกขึ้นว่า “ผู้หญิงคนนี้ตลกจัง ทำไมไม่นอนบนเตียงเสริม กังวลกับพี่ รองขนาดนี้เลยหรอ?”

“นายหุบปากเถอะ เย่นจึงเหนียนพูดอย่างอารมณ์ไม่ดี “ถ้าพูดมากอีกก็ไสหัวกลับไปเลย”

ลู่เหวินซูแสดงความรู้สึกที่เจ็บปวดออกมา พูดอย่าง น้อยใจขึ้นว่า “พี่สาม ทำไมพี่ถึงดุขนาดนี้ นายต้องไม่รักฉันแล้วแน่นอน”

เย่นจิ้งเหนียนยิ้มอย่างเย็นชา “ถ้าฉันรักนาย ฉันก็คงผิด ปกติแล้ว รีบผสมยาเร็ว”

หลังจากที่ถูกเย่นจิ้งเหนียนถีบเท้า ลู่เหวินซูก็ไม่กล้า วุ่นวายขึ้นมาอีก และเอามือเปิดฝากล่องออก และปรุงยา แทนเขา สักพักก็นำเอายานําครึ่งขวดเล็กมอบให้กับเย่นจิ่ง เหนียน

เย่นจึงเหนียนใช้เข็มฉีดยาดูดยาน้ำนี้ขึ้นมา

“นายเอาคุณถัง… “เย่นจิ้งเหนียนเห็นถังซินนอนฟุบอยู่ที่ เตียงคนไข้ ซึ่งขวางทางเขา จึงอยากที่จะให้ลู่เหวินซูอุ้ม เธอไปที่เตียงเสริม แต่พูดไปไม่กี่คำก็เลิกล้มความคิดนั้น ช่างเถอะ

“ให้พี่รองเห็นด้วยตาขอตัวเอง ว่าเคยมีผู้หญิงคนหนึ่ง ดูแลเค้าดีขนาดนี้”

ไม่นาน ยาที่อยู่ในเข็มฉีดยาก็ถูกฉีดเข้าไปที่แขนของมู่ เฉินหย่วนครึ่งหนึ่ง

ลู่เหวินซูได้จัดการเข็มฉีดยาและหลอดยาที่ใช้แล้ว และ ถอดถุงมือออก จากนั้นก็ยืนรออย่างเงียบสงบ สิบกว่านาที ผ่านไปแล้ว ผู้ชายที่อยู่บนเตียงคนไข้ก็ยังไม่ตื่น

ลู่เหวินซูลูบที่คางและเอ่ยถามเย่นจิ้งเหนียน “ทำไมนานขนาดนี้ ไม่ใช่ยาหมดอายุแล้วนะ?”

เย่นจิ่งเหนียนพูดอย่างใจเย็นว่า “นายสามารถลองกินยาที่ มีฤทธิ์หนึ่งเดือนดู”

ลู่เหวินซูไม่พูดอะไรอีก

และก็ผ่านไปอีกห้านาที มู่เฉินหย่วนที่อยู่บนเตียงคนไข้ ก็ได้ขยับนิ้วมือ สุดท้ายก็ลืมตาขึ้นมา รูม่านตาค่อยๆโฟกัส ภาพ เขาเห็นเย่นจิ่งเหนียนและลู่เหวินซูที่ยืนอยู่ข้างๆเตียง

ลู่เหวินซูโบกมือให้เขาและพูดอย่างดีใจขึ้นว่า “พี่รอง ต้อนรับพี่กลับมา!

เมื่อเห็นพวกเขาทั้งสองอยู่ตรงนี้ มู่เฉินหย่วนก็เข้าใจแล้ว

“ไม่ใช่ว่ายังไม่ถึงเวลาหรอกหรอ?”หมดสติเกือบครึ่งเดือน ทำให้เสียงของเขาแหบแต่กลับยังมีความใจเย็น “ทำไมถึง ให้ยาถอนฉันแล้วหล่ะ?”

“ขอโทษจริงๆพี่รอง มีเรื่องฉุกเฉิน ฉันจำเป็นที่จะต้องทำ แบบนี้” เย่นจิ้งเหนียนพูดขึ้น

ทั้งสองขาของมู่เฉินหย่วนได้ใช้ยา ตอนนี้เส้นประสาท ของเขาก็เท่ากับว่าได้ตายไปแล้ว ไม่สามารถขยับได้ เขา ปรับเตียงขึ้นมา และเอาหมอนมาให้มู่เฉินหย่วนพิงที่หลัง

เมื่อมู่เฉินหย่วนยกมือขึ้น มือก็ไปสัมผัสเส้นผมอันอ่อนนุ่มจึงรู้สึกคันๆเล็กน้อย

เมื่อก้มหน้าลงก็เห็นคนนอนฟุบหน้าอยู่ที่ข้างเตียง และมี รอยแผลยาวปรากฏออกมาให้เห็นครึ่งหน้า ผิวหนังเวอะ ดู แล้วน่าหวาดกลัว

“นี่คือคุณถัง เธอไม่ค่อยวางใจเรื่องพี่รองก็เลยอยู่ที่โรง พยาบาล”

เมื่อเห็นมู่เฉินหย่วนจ้องมองที่ถังซิน เย่นจิ่งเหนียนจึงพูด ขึ้น

เขาเอาเรื่องที่มู่เฉินหย่วนประสบอุบัติเหตุ เรื่องบริษัทมู่ชื่อ และยังมีเรื่องที่คืนนี้เขาโดนลอบฆ่าบอกกับมู่เฉินหย่วน

มู่เฉินหย่วนยิ่งฟัง สีหน้าเขาก็ยิ่งหม่นหมอง

ตั้งแต่ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เขาถือว่าทุกอย่างจะดี แต่คิดไม่ถึงว่าจะมีคนกล้ามาจัดการเขาถึงที่โรงพยาบาล

หลังจากที่พูดเสร็จ เย่นจิ้งเหนียนก็พูดเสริมขึ้นอีก “พี่รอง ฉันรู้ว่าพี่เชื่อใจถังซิน แต่ว่าความสามารถของเธอมีขีดจำกัด ภาระหน้าที่ของบริษัทมู่ซื่อใหญ่ขนาดนี้ พี่ไม่ควรที่ให้เธอ แบกไว้ทั้งหมด

“ฉันเห็นด้วย” ลู่เหวินซูมองไปที่ถังซิน และพูดด้วยน้ำ เสียงสะอื้น “ถังซินเพื่อที่จะปกป้องพี่ ใบหน้าจึงโดนขีดเป็น แผลใหญ่ขนาดนี้ พี่รองพี่ดูสิ ไม่เจ็บปวดใจบ้างหรอ?”
มู่เฉินเหยินก้มหน้ามองเธออีกครั้ง

หญิงสาวที่แก้มมีสีขาวนวล รอยแผลที่เวอะนั้นได้เหมือน กับตะขาบที่แปะอยู่ข้างบนตามแนวขวาง เมื่อมองดู ใจของ เขาก็เกิดความรู้สึกที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และมีความเจ็บ ปวดใจขึ้นมาอีกครั้ง

มู่เฉินหย่วนใช้นิ้วมือลูบไปตามรอยแผลของเธอ และพูด ขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาโดยที่ยังก้มหน้า “ป้าของฉันตั้งใจที่ วางแผนอุบัติเหตุทางรถยนต์ในครั้งนี้ แต่เป็นไปไม่ได้ที่จะ ส่งคนมาที่โรงพยาบาลอีกครั้ง ได้ไปสืบมามั้ย?”

ลู่เหวินซูรีบพูดตอบ “สืบมาแล้ว มู่เจิ้งหย่าช่วงนี้อยู่แต่ที่ บ้านตลอด เหมือนกับหลีกเลี่ยงการสงสัย แต่กู่เจิ้งเฉิงได้ พบกับรองประธานจ้าวของบริษัทมู่ซื่อเป็นบางครั้ง อาจจะ เป็นคนของเขา”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น มู่เฉินหย่วนก็ยิ้มอย่างเย็นชา “ดูแล้วอา สามของฉันกระวีกระวาดร้อนใจอยากที่จะกลืนกินบริษัท ชื่อแล้ว ถึงได้ไปร่วมมือกับรองประธานจ้าว”

“ฉันเดาว่าอาจจะเป็นเพราะการตัดสินใจของท่านมู่” เย่น จิ่งเหนียนพูดขึ้น “ตอนที่พี่หมดสติไปนั้น มู่เจิ้งหย่าและมู่เจิ้ง เฉิงไปที่บริษัทมู่ชื่อ คิดอยากที่จะเป็นคนปฏิบัติหน้าที่แทน ประธาน ใช้ข้ออ้างนี้เข้ากับผู้ถือหุ้นบางคน

“ต่อมาท่านมก็เข้ามา ท่านไม่ให้เกียรติและไว้หน้าพวก เขา ให้ถังซินขึ้นปฏิบัติหน้าที่แทนประธานโดยตรง
“พี่รอง ให้ฉันช่วยเถอะ ฉันกลับประเทศมาไม่มีอะไรทำ ใกล้จะเบื่อตายละเนี่ย” ลู่เหวินซูพูดขอร้อง ถ้าเขายังไม่มี อะไรทําอีกเขาเริ่มที่จะบ้าตายแล้ว “ให้ถังซินพักผ่อนอยู่ที่ บ้านอย่างสบายๆ”

“นายไม่ต้องเข้ามายุ่งหรอก”

ห้ะ ลู่เหวินซูชะงัก สีหน้าเต็มไปด้วยความเจ็บปวด “พี่รอง ฉันไม่มีค่าให้พี่เชื่อใจหรอ?”

มู่เฉินหย่วนพูดแค่เพียงว่า “เรื่องพวกนี้ ให้เธอจัดการก็ได้ แล้ว”

“พี่รอง พี่ไม่สามารถเห็นแก่ตัวตัวแบบนี้” เย่นจิ่งเหนียนข มวดคิ้ว แสดงออกว่าไม่พอใจคำตอบของมู่เฉินหย่วนอย่าง ชัดเจน

“ถังซินเป็นเพียงพนักงานของบริษัทมู่ชื่อ เป็นคนที่ใช้ ชีวิตคนหนึ่ง พี่ไม่ควรเอาเธอเข้าไปเกี่ยวข้องกับความขัด แย้งภายในของตระกูลมู่ มีเรื่องอะไรให้พวกเราพี่น้องช่วย จัดการแทนพี่ก็ได้เหมือนกัน”

“พวกนายไม่เข้าใจผู้หญิงคนนี้” มู่เฉินหยวนชำเลืองมอง ถังซิน เขารู้ว่าดีผู้หญิงคนนี้ฉลาดขนาดไหน “เธอฉลาดกว่า ที่พวกนายคิดไว้เยอะ เพียงแค่จำเป็นที่จะต้องเคี่ยวเข็ญซัก หน่อย”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ