ฉันเป็นสุดที่รักของประธานมู่! ?

บทที่ 134 พี่รองสนใจในตัวเธอใช่มั้ย



บทที่ 134 พี่รองสนใจในตัวเธอใช่มั้ย

“ถ้าอย่างนั้นจะเป็นใครได้? พี่สามของเธอหรอ ที่ชื่อผู่เจิ้ง เฉิง? ลู่เหวินซูพูดขึ้น ฉันสืบมาได้ว่ามู่เจิ้งเฉิงมักจะไปคลับ เฮ้าส์กับรองประธานจ้าวของบริษัทมู่ชื่อ สองคนต้องคุย เจรจาอะไรกันแน่นอน”

วี่เหวินถึงหน้าบึ้งเงียบไม่พูดไม่จา ผ่านไปสักพักถึงจะพูด ออกมา “บริษัทมู่ซื่อมองผิวเผินดูสงบ คนพวกนั้นแอบมีแผน อะไรพวกเราก็รู้กันดี พี่รองยิ่งรู้ชัดแจ้ง

ส่อให้เห็นเรื่องราวที่จะเกิดล่วงหน้า เย่นจิ้งเหนียนทอด ถอนหายใจ นอกจากไม่นับกำไรจากสาขาที่นิวยอร์ก มู่ชื่อ มูลค่าการตลาดรวมสูงเกินร้อยพันร้าน พี่รองถือหุ้นใหญ่ใน บริษัทมู่ชื่อคนเดียว แต่เป็นลูกเลี้ยงของท่านมู่ พี่น้องของ ท่านมู่ทั้งสามแน่นอนว่าต้องไม่ยอม

ลู่เหวินซูจึงพูดขึ้นว่า “ให้ฉันพูดนะตอนแรกพี่รองก็ดุร้าย ไปหน่อย เปิดโปงอาคนที่สามและอาหญิงเล็กยักยอกเงิน บริษัทมู่ซื่อ ขายความลับของบริษัทมู่ชื่อซึ่งสามารถทำให้ พวกเขาเข้าไปอยู่ในคุกจนถึงตายได้ ไม่อย่างนั้นคงไม่เกิด เรื่องแบบนี้เหมือนตอนนี้”

“นายพูดได้ดี แต่ดูเหมือนจะมีมากกว่านั้น” เย่นจิ้งเหนียนม องบนไปที่เขา และพูดขึ้นว่า “พี่รองไม่ใช่ว่าไม่อยาก เพียง แค่ทำไม่ได้ เขาไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับมู่เจิ้งเฉิ งกับมู่เจิ้งหย่า เป็นแค่ในนามของลุงกับหลาน แต่ท่านมู่เป็น พี่น้องแท้ๆกับพวกเขา ถึงแม้ว่าภายนอกจะไม่พูดแต่พี่รองก็อยากที่จะจัดการจริงๆ นายคิดว่าในใจของท่านมู่ไม่สนใจ อย่างนั้นหรอ?”

“หรือว่าครั้งนี้จะให้พวกเรากลับมาช่วย หรืออาจจะเพียง แค่อยากเขียพวกเขาออกจากบริษัทมู่ชื่อโดยสิ้นเชิง เอา บริษัทในนามคืนมา มากที่สุดก็หาที่ให้พวกเขาเลี้ยงตัวเอง และไม่ได้หมายถึงการสังหารให้ราบเรียบ

“เฮ้ย เรื่องแย่ๆของที่บ้านพี่รองนี่เยอะจริงๆ ดีนะที่บ้านฉัน มีฉันคนเดียว” ลู่เหวินซูเหนื่อยใจจนเอามือลูบจมูก หันหน้า มองไปทางวี่เหวินถึง “พี่ใหญ่ทำไมพี่ไม่พูดอะไรเลยหล่ะ?”

วี่เหวินถึงใช้นิ้วตีไปบนกางเกงสูท เขาเพียงแค่เอ่ยถามขึ้น มาว่า “เรื่องที่ให้นายสืบ มีข้อมูลอะไรบ้างมั้ย?”

“พี่ให้ฉันทำหลายเรื่อง เรื่องไหนอ่ะ?

วินาทีต่อมาลู่เหวินซูก็ได้รับแววตาที่เย็นชาของวี่เหวินถึง เขารู้สึกเสียวสันหลัง จึงรีบพูดขึ้นมาว่า “ไม่มี ฉันพูดกับพี่ แล้ว ต่อให้ฉันเสียเงินจำนวนมากเพื่อที่จะเชิญFBIที่มีความ ชำนาญมาก็สืบหาไม่พบ

“เรื่องนี้แปลกมากเลยใช่มั้ย?” เย่นจึงเหนียนพูดอย่างง งงวย “ไม่กี่สิบปีที่ผ่านมา ท่านม่ได้เอาพี่รองกลับมาจาก ประเทศไอร์แลนด์ ทำไมจะต้องกำจัดข้อมูลพวกนี้ทิ้ง เขา คิดที่จะปิดบังอะไร?”

“ แต่ว่าฉันคิดเสมอว่าท่านมู่ดีกับพี่รองมาก ที่บอกว่า ไม่ได้หมายถึงดีแบบเป็นครอบครัวลึกซึ้ง แต่เป็นในแบบทุกข์ ใจ ดังนั้นจึงเอาทุกอย่างให้กับพี่รอง”

เขามองและวิเคราะห์ปัญหาจากสภาพจริงได้อย่าง ละเอียด แต่ลู่เหวินซูกลับยังมึนงงเล็กน้อย และถามออก มาอย่างไม่สบายใจ นายหมายถึงอะไร หรือว่าเมื่อก่อนท่า นมู่มีรักแรก ทั้งสองคนได้มีเรื่องราวบางอย่างที่จำเป็นต้อง เลิกกัน คิดไม่ถึงว่าผู้หญิงคนนั้นท้องแล้ว และยังเป็นเพราะ ว่าคลอดพี่รองจึงทำให้ผู้หญิงคนนั้นตาย ท่านมารู้เรื่อง ทีหลัง ดังนั้นจึงดีกับพี่รองและทุกข์ใจกับพี่รองมาก”

“มิน่าหล่ะนายถึงโดนผู้หญิงหลอกอยู่บ่อยๆ สมองมี ปัญหามาก” เย่นจิ้งเหนียนพูดดูถูก “ก่อนหน้านี้ฉันทดสอบ เลือดของท่านพู่กับพี่รอง ทั้งสองคนไม่มีความสัมพันธ์กัน

“ถ้าพี่รองเป็นลูกแท้ๆของท่านมู่ ทำไมท่านม่ถึงได้รับเป็น ลูกบุญธรรม ในตอนนั้นบริษัทมู่ชื่อเจริญรุ่งเรืองอย่างสุดขีด มู่เจิ้งเฉิงและมู่เจิ้งหย่าพึ่งพาท่านมู่จนไม่กล้าหือกล้าคือ อะไร ยิ่งไปกว่านั้นไม่กล้าที่จะแตะต้อง รอง

ลู่เหวินซูจับไปที่ผม และเกือบจะร้องโหยหวนออกมา “ซับ ซ้อนมากเลยอ่ะ หัวใกล้จะระเบิดแล้ว”

“หาต่อไป วี่เหวินถึงเอ่ยปากพูดออกมา” น้ำเสียงเย็นชา “พลิกแผ่นดินไอซ์แลนด์หา เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่เจอข้อมูลที่ ท่านคู่กำจัดทิ้ง”

“ใช่ หาต่อไป” เย่นจิ้งเหนียนตบไหล่ของลู่เหวินซู และพูดออกมาอีกว่า “พวกเรามีพ่อแม่กันทุกคน ต่อให้โกรธกัน กับที่บ้านก็ยังมีคนคิดถึง พี่รองไม่มีอะไรทั้งนั้น

“อย่าดูภายนอกว่าพี่รองทำเป็นไม่พูดอะไร จริงๆแล้วใน ใจก็รู้สึกถูกทอดทิ้ง เขาเคารพในตัวท่านดู่ มองท่านมู่เป็น เหมือนพ่อแท้ๆของตนเอง แต่ก็อยากรู้เรื่องราวในชีวิตของ ตนเอง ไม่ใช่เพื่ออะไร เพียงแค่อยากรู้ว่าพ่อแม่ที่คลอดตัว เองมายังมีชีวิตอยู่ และสามารถพิสูจน์ได้

ลู่เหวินซูฟังแล้วในใจก็รู้สึกหงุดหงิด

เขารู้แจ้งอย่างแน่นอน

เขายังจำได้ว่าเมื่อครั้งที่พึ่งรู้จักพี่รอง พี่รองเป็นยังไง เข้า ใกล้ได้ยากมากกว่าวี่เหวินถึง ต่อมาได้อยู่ด้วยกันมากขึ้น ใบหน้าของพี่รองถึงจะมีรอยยิ้มขึ้นมา

จำได้ว่าตอนที่มู่ซืออันครบรอบวันเกิดอายุยี่สิบแปดปี ลู่ เหวินซูได้พูดหยอกเล่นว่า “พี่รอง พี่ว่าพี่อายุขนาดนี้แล้ว จะไม่หาภรรยาและเอาลูกออกมาเล่นด้วยซักคนหรอ? แล้ว ทรัพย์สินที่มีอยู่เป็นหมื่นล้านจะทำยังไง?”

มู่เฉินหย่วนเพียงแค่ยิ้มออกมาเบาๆ “ตัวฉันแม้แต่ตัวเอง มาจากไหนยังไม่รู้เลย ถ้าแต่งงานจะเป็นภาระคนอื่นเสียเป่า ว ถ้าวันไหนฉันจะแต่งงานจริงๆ นั่นก็คือเพื่อผลประโยชน์ บางอย่าง ไม่เกี่ยวกับความรัก”

แม้ว่าวี่เหวินถึงจะโตที่สุดในวัยกลางคนของพวกเขา แต่เขาพึ่งพาตระกูลวี่มาตลอด จะแต่งงานเมื่อไหร่ก็ไม่เป็นไร ซึ่งสถานการณ์แตกต่างจากมู่เฉินหย่วนมาก

เมื่อนึกถึงเรื่องในอดีตที่ผ่านมา ลู่เหวินซูก็รู้สึกเป็นทุกข์ยิ่ง ขึ้น เขาทอดถอนใจ และพูดด้วยคำพูดที่มีพลัง “สืบ! ฉันไม่ เชื่อว่าเรื่องของท่านมู่จะไม่หลงเหลือช่องโหว่อะไรไว้

เย่นจิ้งเหนียนยิ้มหัวเราะ สีหน้าของวี่เหวินถึงก็อ่อนโยน ลง ไม่เศร้าหมองมาก

เย่นจิ้งเหนียนจึงพูดขึ้นว่า “ฉันเดาว่าในโรงพยาบาลต้อง มีคนของพวกเขาคอยจับตามองอยู่ ข่าวการกินยาพิษฆ่าตัว ตายของพยาบาลที่ปลอมตัวมาคนนี้ พรุ่งนี้น่าจะเข้าหูพวก เขา ครั้งนี้พวกเขาทำไม่สำเร็จ น่าจะต้องมีครั้งหน้าอย่าง แน่นอน”

“คิดหาวิธีให้พี่รองตื่นขึ้นมา” วี่เหวินถึงพูดขึ้น ถังซินเป็น คนฉลาด แต่ว่าในโลกธุรกิจล้วนแล้วแต่เป็นเหมือนจระเข้ ที่กินคนโดยไม่กระพริบตา เธอยังไม่เคยผ่านการฝึกฝนมา อย่างหนัก เรื่องที่อยู่เบื้องหลังเธอรับมือไม่ไหว

“ฉันคิดเหมือนพี่ใหญ่” เย่นจิ้งเหนียนพยักหน้า และพูด อย่างเห็นด้วยว่า “นี่คือการต่อสู้กันภายในของตระกูลมู่ ไม่ จำเป็นที่จะต้องเอาเธอเข้าไปเกี่ยวพัน เธอทุ่มเทให้กับ บริษัทมู่ อมามากพอแล้ว”

ลู่เหวินซูยิ้มหัวเราะแล้วพูดขึ้นว่า “ฉันรู้ว่าจะต้องมี สถานการณ์ที่เกิดขึ้นกะทันหัน จึงให้คนเอาของของนายส่งกลับมาหมดแล้ว”

ได้ยินดังนั้น เย่นจึงเหนียนก็ตีไปที่เขา “ใช้ได้นะ ฉลาด มาก!”

“นั่นคือ ถ้าไม่นับตามอายุแล้วหล่ะก็ ฉันแน่นอน…” เหวิน ซูเหมือนนึกอะไรออก แล้วสำลัก เอามือวางบนไหล่ของลู่ เหวินซู ฉันต้องเป็นไอ้สามแน่นอน นายต้องเป็นไอ้สื่

ถ้าจะเป็นพี่ใหญ่นั้นเป็นไปไม่ได้ หนึ่งสู้วี่เหวินถึงไม่ได้ สองก็คือ…หวาดกลัว

ลู่เหวินซูกระดกลิ้นขึ้น และพูดออกมาเหมือนกำลังคิด อะไรอยู่ “นายไม่คิดว่ามันแปลกหรอ? นอกจากพวกเราแล้ว แม้แต่ซือซือเขาก็ยังไม่เชื่อใจ ทำไมเค้าถึงเอาเรื่องพวกนี้ ส่งมอบให้คนที่ชื่อถังซินคนนั้น?”

“พวกนายว่า…. พี่รองสนใจในตัวเธอใช่มั้ย?” จากนั้นก็พูด เสียงกระซิบขึ้นอีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นพี่รองเอาคุณสั่งไว้ใน ฐานะอะไร ยังจะแต่งงานอยู่อีกมั้ย?”

วี่เหวินถึงสีหน้าไม่เปลี่ยน แต่ขากรรไกรเขากลับตึงแน่น

“พี่รองจะคิดยังไง ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับนาย” เย่นจิ้งเหนียน เพียงแค่มองไปที่วี่เหวินถึงแล้วละสายตากลับมา และลาก เหวินซูจากไป “รีบกลับเอาของมาให้ฉัน ต้องรีบใช้

“ฉันไปก็ได้ พี่สาม แรงที่มือพี่นี่ไม่น้อยเลยนะ แอบฝึกลับหลังฉันใช่มั้ย”

“หุบปาก”

หลังจากที่เย่นจิ้งเหนียนและลู่เหวินซูเดินไปไกลแล้ว วี่เห วินถึงยังยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับไปไหน ตรงข้ามเขาเป็นพื้นที่ สำหรับน้ำดื่ม ทันใดนั้นก็คิดถึงคืนวันนั้นที่สั่งจิ้งเหอให้เขา มาพูดคุยกันที่นี่ ในใจก็รู้สึกเจ็บปวด

เพียงแค่อีกนิดเดียว เขาก็จะลืมเธอออกจากสมองไปได้ อย่างสิ้นเชิง แต่เธอเหมือนกลับมาปรากฏตัวกะทันหัน ทำ ชีวิตเขาแทบจะถึงแก่ความตาย

ในตอนนั้น ได้บอกลาที่โรงพยาบาลและแยกจากกันเกือบ สี่ปีแล้ว เขาแทบอยากจะบีบคอเธอ

วี่เหวินถึงสะกดความรุนแรงที่อยู่ในตัว หยิบกล่องบุหรี่ที่ อยู่ในกระเป๋าเสื้อออกมา พอกำลังคิดที่จะจุดบุหรี่ก็คิดได้ ว่านี่คือโรงพยาบาล และเมื่อจะหยิบบุหรี่ออกจากปาก กลับ มองเห็นตัวภาษาอังกฤษที่อยู่บนนิ้วมือ

หน้าตาเขาดูดุร้ายขึ้นมา

ผ่านไปสักพักวี่เหวินถึงก็เก็บกล่องบุหรี่ และเดินไปทาง ระเบียงทางเดิน และถือโอกาสหยิบมือถือออกมา และต่อ สายออกไป

ตอนนี้มีเวลามั้ย ช่วยกันล้างของอย่างหนึ่งหน่อย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ