ฉันเป็นสุดที่รักของประธานมู่! ?

บทที่ 147 ลองหัวเราะให้ฉันเห็นอีกสิ



บทที่ 147 ลองหัวเราะให้ฉันเห็นอีกสิ

“นายบอกว่าทําธุระเสร็จแล้วจะมาหาฉันไม่ใช่เหรอ ทำไม ทำธุระนานจังล่ะ” มู่เฉินหย่วนตัดบทเขา แถมมองเข้มใส่เขา ด้วย

สายตาดูเย็นชาจนลู่เหวินซูหนาวสั่น

“อ๋อ อ๋อ ใช่” ลู่เหวินซูพูดตะกุกตะกัก “มะ เมื่อกี้กำลัง ประชุมกับพวกผู้จัดการ”

พอเห็นลู่เหวินซูท่าทีแปลก ๆ ไป ถังซินก็เงยหน้าไปมอง เครื่องปรับอากาศ พูดด้วยความกังวล “อุณหภูมิก็ไม่ต่ำนะ คะ คุณลู่ทำไมพูดเสียงสั่น ๆ ล่ะคะ”

ลู่เหวินซูลูบ ๆ แขน “ผมรู้สึกหนาวมาก ผมอาจจะตัวเย็นมั้ง ครับ”

11

มู่เฉินหย่วนหลอกล้อกันก็รู้สึกไม่สบายใจ เลยจงใจพูด ขัดจังหวะขึ้นมา “ผมส่งวีแชทหาเลขาเกาแล้ว คุณกลับรถที่ จัดเอาไว้พิเศษไปบริษัทแล้วกันนะ”

ถังซินถาม “แล้วประธานมู่ คุณจะทำยังไงล่ะคะ”

“ผมมีธุระต้องทำนิดหน่อย เดี๋ยวให้เหวินซูส่งผมกลับไป”
“ถ้างั้นก็ได้ค่ะ” ถังซินไม่ปฏิเสธอีกต่อไป

เดิมทีเธอก็อยากจะกลับบริษัทอยู่แล้ว มู่เฉินหย่วนเรียก เลขาเกามา ช่วยประหยัดเวลาเธอไปได้ไม่น้อย

“พี่รอง เธอเป็นผู้รักษาการประธานของตระกูลมู่ ก็ต้อง เรียกประธานถังสิ” ลู่เหวินซูพูดล้อเล่น “พี่ยังเอาแต่เรียก เธอว่าคุณถังอยู่ได้ ดูห่างเหินมากจัง”

พอถังซินได้ยินก็รีบโบกไม้โบกมือพูดอย่างประหม่า ๆ ไม่ ค่ะ ประธานมู่เรียกฉันว่าคุณถังดีออกค่ะ อีกอย่างทนโดน เรียกว่าประธานถังไม่ได้เหมือนกัน ถ้าอย่างนั้น ประธานมู่คะ คุณลู่คะ ฉันไปก่อนนะคะ”

พอถังซินหันตัวเดินจากไป มู่เฉินหย่วนหัวเราะเบา ๆ ทันที “ประธานถัง สู้ๆนะ”

ถังซินเดินโซเซ เกือบล้มลง

ตายแล้ว ! โดนลุงมู่เรียกประธานถัง ทำไมฟังแล้วมันดูไม่ เข้าหูเลยนะ

เธอยิ่งก้าวเร็วขึ้นไปอีก แป๊บเดียวก็เหลือเงาแล้ว

ลู่เหวินซูเห็นท่าทางของถังซินแล้วก็หัวเราะลั่นออก มา “พี่รอง เธอตลกมาก พระเจ้า ฮาชะมัดยาดเลย พี่เรียก “ประธานถัง” ทำเอาเธอตกใจจนเกือบเผ่นหนีไปแล้ว”
มู่เฉินหย่วนมองเขาด้วยสายตาอันเย็นชา “ลองหัวเราะให้ ฉันเห็นอีกสิ”

“ผมไม่ได้หัวเราะนะ เมื่อกี้หน้ามันเป็นตะคริว” ลู่เหวินซูไอ ๆ เปลี่ยนเรื่องอย่างมีไหวพริบ “พี่ใหญ่กับพี่สามอยู่ในห้อง ส่วนตัวแหนะ มา รอง ผมเข็นพี่ไปนะ”

“ขอบใจนะ แต่ไม่ต้องหรอก” มู่เฉินหย่วนปัดมือเขาออก อย่างไม่เกรงใจ ใช้มือเข็นวีลแชร์เองเนียน ๆ ลู่เหวินซูอึ้งจน อ้าปากค้าง

ทําไมพี่รองให้ถังซินเข็น แต่ไม่ให้เขาเข็ม เขาน่ารังเกียจ ขนาดนี้เลยเหรอ

เหมือนกับว่าได้กลิ่นอะไรบางอย่าง ลู่เหวินซูรีบใส่หูฟัง แล้วพูดเบา ๆ “ฮัลโหล ๆ เหล่าเหอ นายรีบไปสืบดูสิว่าก่อน หน้านี้พี่รองอยู่ห้องไหน ทำอะไร แล้วส่งวีแชทมาให้ฉัน หมดเลยนะ”

เขารู้สึกว่าพลาดละครฉากเด็ดอะไรไป

หลังจากที่มู่เฉินหย่วนเปิดประตูเข้ามาในห้องจึงเห็นวี่ เหวินถึงกับเย่นจิ่งเหนียนกำลังคุยกันอยู่ ก็ไม่รู้ว่าพูดอะไร แม้แต่คนเย็นชาอย่างวี่เหวินถึงถึงกับยิ้มออกมาได้

“คุยอะไรกันน่ะ” มู่เฉินหย่วนถามยิ้ม ๆ มีเพียงแต่วี่เหวินถึง รวมอยู่กับคนอื่นสองสามคน เขาถึงเลิกระแวดระวัง ทำตัว ตามสบาย “เล่นทำเอาพี่ใหญ่หัวเราะได้เลย
“พี่รอง” เย่นจิ้งเหนียนเห็นเฉินหย่วนเข้ามาเอง รีบลุกขึ้น จากโซฟา “เหวินซูล่ะ”

“นี่ นี่ ฉันอยู่นี่” ลู่เหวินซูโผล่ออกมาจากด้านหลังของมู่ เฉินหย่วน อธิบายให้ตัวเอง “เมื่อกี้ผมจะเข็นพี่รองมาที่นี่ แต่ พี่รองไม่ให้ผมเข็นเอง จะโทษผมไม่ได้นะ

เย่นจิ้งเหนียนมองเขาแว๊บหนึ่ง “นายทำให้พี่รองโกรธใช่ ไหมล่ะ”

“ฟ้าดินเป็นพยาน ผมเปล่านะ” ลู่เหวินซูร้องไห้เสียงดัง “พี่รองไม่ให้ผมเข็นจริง ๆ นะ ผมรู้สึกว่าพี่รองเห็นแฟนดีกว่า เพื่อนไปหน่อยนะ ให้คุณถังเข็น แต่พอเป็นผมกลับรังเกียจ”

ทันใดนั้น สายตาสามคู่ในห้องก็มองไปที่มู่เฉินหย่วน แวว ตาเต็มไปด้วยความอยากรู้

มู่เฉินหย่วนพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย “พูดเรื่องเหลวไหล อะไรของนาย กลิ่นเหงื่อนายแรงมาก ฉันได้กลิ่นแล้วไม่โอ เคเลย เดินไปหาที่นั่งไป” เข็นวีลแชร์ไปพักด้านใน

เย่นจิ้งเหนียนไม่ได้ซักไซ้ไล่เรียงอะไร แล้วรินชาให้มู่เฉิน หย่วน “ช่วงนี้ มู่เจิ้งหย่ากับขู่เจิ้งเฉิงแอบได้หุ้นตระกูลมู่มา ไม่น้อย ราคาก็ไม่ต่ำด้วย

“ฉันว่าคุณป้าชอบถลุงเงินมาแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว แถม ลูกชายของแกก็ต้องการเงินเพื่อรักษาความสัมพันธ์ มีเงิน อยู่ในมือไม่เท่าไหร่หรอก” มู่เฉินหย่วนพูดเรียบ ๆ “เงินส่วนใหญ่เป็นของมู่เจิ้งเฉิง”

วี่เหวินถึงยักคิ้ว พูดเสียงเข้ม “มู่เจิ้งเฉิงเจ้าเล่ห์เพทุบาย อยากจะกินตระกูลมู่จริง ๆ ในสายตาของเขาไม่เหมือนมู่เจิ้ง หย่าผู้เป็นน้องสาวที่ไม่ช้าก็เร็วเขี่ยเธอตกรอบไปได้”

“เฮ้ย นั่นมันก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ ประหยัดแรงพวกเราไง” ลู่ เหวินซูพูดข่าๆ

แต่สีหน้าเล่นจิ้งเหนียนกลับหนักแน่น “พวกเราคาดเดา ได้ และคาดว่ามู่เจิ้งหย่าก็คาดเดาได้เหมือนกัน อีกอย่างฉัน อยากรู้มากว่า มู่เจิ้งเฉิงไปเอาเงินทุนหมุนเวียนมาจากไหน เขามีหุ้นเดิมของตระกูลมู่อยู่สิบห้าเปอร์เซ็นต์แล้วนะ”

“ก่อนหน้านี้ไม่ใช่เพิ่งมีหกเปอร์เซ็นต์เองไม่ใช่เหรอ” ลู่เห วินซูสูดอากาศเย็นเข้าไปเต็ม ๆ “เขาติดต่อผู้ถือหุ้นไปกี่คน แล้วกันแน่นะ”

มู่เฉินหย่วนกลับไม่กังวลอะไร เพียงแค่พูดว่า “หุ้นเดิม ของตระกูลมู่ส่วนใหญ่อยู่ในมือของพ่อผม ถังซินได้รับหุ้น เดิมคืนมาส่วนหนึ่งแล้ว เขาก่อเรื่องไม่ได้หรอก”

เย่นจิ้งเหนียนพยัก ๆ หน้าอย่างเข้าใจ ยิ้มแล้วพูด “ดู ท่าทางพี่รองจะจัดการทุกอย่างแล้ว ตอนนี้พวกเราแค่รอให้ ถังซินจัดการหลอกเอาหุ้นเดิมในมือของมู่เจิ้งเฉิงกลับมาก็ สําเร็จแล้ว”

“ใจเย็น ๆ ถ้าทำโจ่งแจ้งมากเกินไป พวกเขาก็รู้ตัวสิ” มู่เฉินหย่วนเคาะนิ้วที่หลังเก้าอี้ “ไอ้สี่ นายไปนัดประธานสาวของ บริษัทหลงเถิงหน่อยนะ บอกว่าฉันมีเรื่องขอให้เขาช่วย

“ทําไมต้องนัดเขาด้วยล่ะ” ลู่เหวินซูไม่เข้าใจ “เขาเป็นคน ที่ยากที่จะตอบแทนบุญคุณ ถ้าเกิดเรื่องอะไรแล้วผมแก้ไข ไม่ได้ขึ้นมาล่ะ”

เย่นจิ่งเหนียนก็แสดงความสงสัยออกมาเช่นกัน “ใช่ พี่รอง พี่มีเรื่องกับพวกเราไม่เป็นไร แต่คุยกับประธานสาว ยังไม่รู้ เลยว่าต่อไปเขาจะขายแบบขาดทุนตัดหน้าพี่กลับไปเท่า ไหร่”

ในขณะนั้นเอง มือถือของลู่เหวินซูก็มีเสียงติ๊ดติ๊ด

เขาแอบหยิบมือถือออกมาดู แป๊บนึงก็เงยหน้าขึ้นทำหน้า แบบเข้าใจขึ้นมาทันทีแล้วแอบไปสะกิดไหล่มู่เฉินหย่วน หัวเราะอย่างมีเลศนัย “อิอิ ผมรู้แล้วว่าพี่รองหาประธานส้าว ทําไม”

มู่เฉินหย่วนปัดมือของเขาออก “บอกแล้วไงว่าให้นายอยู่ ห่าง ๆ หน่อยไม่ใช่เหรอ กลิ่นเหงื่อเต็มตัวเลย”

วี่เหวินถึงถาม “ทำไมเหรอ”

ลู่เหวินซูทำหน้าทะเล้นแล้วพูดว่า “คนที่มาเที่ยวคลับนี้คือ พี่ใหญ่ พี่ว่าไงล่ะ พี่ใหญ่ลองเดาสิว่าเกิดอะไรขึ้น ผมเพิ่งส่ง ข้อความไปให้พี่รองว่าอยากจะไปรับเขา หึ คิดไม่ถึงว่าเขา จะอยู่ที่คลับด้วย”
“ผมคิดว่าพี่ใหญ่มีเซ็นส์รู้ล่วงหน้าได้นะ เลยมาที่คลับก่อน แล้ว ผลสุดท้าย รองรู้ว่าคุณถังมาที่นี่ก็เลยให้คนพาตัวเอง มาเพื่อมาช่วยหนุนหลังให้คุณถัง”

มุมปากของ เฉินหย่วนหักลงนิด ๆ “นายเสียงดังเกินไป แล้ว หุบปากได้ไหม”

เย่นจิ้งเหนียนหัวเราะ “ไม่เป็นไร พี่รอง พวกเราไม่รู้สึกว่า เสียงดังหรอก ไอ้สี่นายพูดต่อสิ

วี่เหวินถิงก็ทำท่าตั้งใจฟังเต็มที่

“ในเมื่อพวกพี่อยากฟังขนาดนี้ ถ้างั้นผมพูดต่อนะ” พอลู่ เหวินซูได้ยินข่าวซุบซิบข่าวใหญ่ขนาดนี้ก็ รู้สึกตื่นเต้นมาก เล่าเรื่องคุณหานน้อยที่เกิดขึ้นในห้องทั้งหมดไปหกนาที

ในตอนนี้ห้องเงียบมาก

มู่เฉินหย่วนเอามือลูบ ๆ คิ้ว ไม่อยากพูดจา

“นอกจากซือซือ ผมก็เพิ่งเห็นพี่รองหนุนหลังให้ผู้หญิงอีก คนอื่นเป็นครั้งแรก” เย่นจิ้งเหนียนพูดแซว “ดูท่าทางคุณถัง จะเก่มากจริง ๆ พี่รองถึงได้ชื่นชมเธอ”

“ไม่ ! ไม่ ! ” ลู่เหวินซูส่ายหัวแล้วพูดตรง ๆ “ซือซือไม่ได้ อยู่ในสถานะแบบนั้นโอเคไหม พี่เคยเห็นพี่รองสั่งสอนถังตื้ ด้วยตัวเองเหรอ ไม่เคยใช่ไหมล่ะ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ