ฉันเป็นสุดที่รักของประธานมู่! ?

บทที่ 292 ทัศนคติของพี่ใหญ่มีปัญหา



บทที่ 292 ทัศนคติของพี่ใหญ่มีปัญหา

วี่เหวินถึงมองเขาด้วยสายตาอันตราย “นายอยากว่าย น้ำหรือ ฉันส่งนายไปได้นะ”

ลู่เหวินซูกล่าว “พี่ใหญ่ พี่แค่มองก็…

“พอได้แล้ว หุบปากทีค่ะ” หลี่ซูเจรีบหยิบขนมปังขึ้น มายัดปากของเขา และกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ “คุณ อยากถูกโยนให้ฉลามกิน แล้วให้ฉันไปหาแฟนใหม่ใช่ ไหม”

ลู่เหวินซูรีบหยุดทันที “ไม่มีทาง ที่รัก ผู้ชายของคุณมี เพียงผมคนเดียว”

ในตอนที่ทานอาหาร ใบหน้าของสังจิ้งเหอเต็มไปด้วย รอยยิ้ม พูดคุยอย่างอารมณ์ดี แต่ไม่ได้เหลือบสายตา ไปทางวี่เหวินถิงเลย

จนทำให้ถังซินไม่กล้าคุยกับวี่เหวินถึง

สิบโมงเช้า เรือสำราญก็ได้มาถึงท่าเรือโตเกียว ทุก คนต่างเก็บของและลงเรือไป

ถังซินนึกถึงเรื่องในบอลรูมเมื่อคืนวาน ในความมืด จูบ ที่เย็นชืดของหลินเฉิงจี้ เขาไม่กล่าวแม้แต่คำ ไม่ได้โผล่ ตัวออกมาให้เห็นเลยแม้แต่น้อย และไม่รู้ว่าเขามาทำอะไรกันแน่

ตามเธอมาอย่างนั้นหรือ

ยามที่เรียกรถเพื่อเข้าเมือง วี่เหวินถึงรีบเปิดประตูรถ แต่สั่งจิ้งเหอแสร้งทำเป็นไม่เห็น และเลี่ยงขึ้นอีกทาง แทน

“ขอบคุณค่ะพี่ใหญ่” ถังซินที่ไม่มีทางเลือก จึงทำได้ เพียงลูบผมและเดินขึ้นรถไป

มองใบหน้าเย็นชาของวี่เหวินถึงหลังจากที่ขึ้นด้าน หลังรถมา ถังซินหันกลับไปถามส้งจิ้งเหอ “เมื่อวาน ไม่ใช่ว่าคืนดีกันแล้วหรือ พวกเธอทะเลาะกันใช่ไหม”

หลี่ซูเจ๋เองก็มองตามอย่างสงสัย

ส้งจิ้งเหอแค่นเสียงในลำคอ “เมื่อวานฉันอารมณ์ดี จึง จะคุยกับเขาเรื่องฉางผิงสักหน่อย แต่พอนึกได้ว่าเรื่องผู้ หญิงบอร์ดบริหารของเขายังไม่ได้อธิบาย จึงถามดู แต่ พวกเธอรู้ไหมว่าเขาตอบมาว่าอย่างไร เขาบอกว่าคืนวัน คริสต์มาสนั้น แฟนของเธอมารับเธอ แต่ผ้าพันคอของ แฟนของเธอกับเขานั้นเหมือนกัน”

“เหอะ ผ้าพันคอเหมือนกัน แต่รูปร่างกับแผ่นหลัง อย่างไรก็ไม่มีทางเหมือนนี่ เขาบอกว่าคนที่บริษัทมอง ผิดไป คนในบริษัทตั้งกี่ร้อยคนกัน จะไม่มีใครจำแผ่นหลังประธานบริษัทของตัวเองได้เลยหรือไร

“ฉันจึงถามต่อ แต่เขากลับบอกว่าฉันหาเรื่อง” สั่งจิ้ง เหอขบกรามแน่น ยิ่งเห็นท่าทีของวี่เหวินถิงก็ยิ่งเกลียด “เห็นได้ชัดเลยว่าเขามีความเกี่ยวข้องกับผู้หญิงคนนั้น

ถังชิ้นลูบคางพร้อมครุ่นคิด “ฉันว่าพี่ใหญ่ไม่ใช่คน แบบนั้นนะ ไม่แน่คนในบริษัทอาจจะมองผิดไปจริงๆ ก็ได้ ลู่เหวินซูอาจจะก้อร่อก้อติกกับผู้หญิงได้ แต่พี่ใหญ่ ไม่น่าจะเป็นแบบนั้น

“ใช่ ฉันเห็นด้วยกับซินซิน” หลี่ซูเจ๋ปากยื่น ก่อนจะ กล่าวอย่างหดหู่ “มือถือของเขาเมื่อก่อนนะมีแต่รูปขา รูปหน้าอกของนางแบบ ทั้งยังให้นามบัตรไว้อีกด้วย หน้าหม้อที่สุด”

ถังชินพูดไม่ออกบอกไม่ถูก “ได้พูดกับแฟนเธอแบบนี้ บ้างไหม

“เขารับอย่างหน้าชื่นด้วยซ้ำ” หลี่ซูเจ๋เอ่ยอย่าง หงุดหงิด ก่อนจะมองส้งจิ้งเหออย่างอิจฉา “ถึงแม้พี่ ใหญ่จะเย็นชา ราวกับทั้งโลกทำร้ายเขาอยู่ แต่ความ รู้สึกของเขา เธอดูนะสี่ปีแล้ว ทั้งยังลืมเธอไม่ได้ หาก เปลี่ยนเป็นชายชั่วลู่เหวินซู ฉันเลิกกับเขาได้เพียงวัน เขาก็คงหาคนใหม่ได้ในทันที”

เมื่อได้ยินพวกเธอพูดเช่นนั้น ส้งจิ้งเหอก็เริ่มรู้สึกว่าเหวินถึงจะไม่มีทางทำเรื่องแบบนั้น “ฉันเชื่อใจเขา แต่ ท่าทางของเขามันน่าหงุดหงิด เงียบไปก่อนแล้วค่อย คยกัน”

“เงียบมาสี่ปีแล้วนะ ยังไม่พออีกหรือ” ถังซินยิ้มอย่าง จนใจ “เธอรีบคุยเรื่องฉางผิงกับเขาจะดีกว่า ให้เวลาเขา ได้ปรับตัวบ้าง

สั่งจิ้งเหอเสยผม กล่าวอย่างเกียจคร้าน “เขามีอะไร ให้ต้องปรับตัวกัน ฉันเรื่องลูกของเขาจนอยู่ดีมีสุข คน เหนื่อยก็ฉัน เขาทำเพียงบริจาคน้ำเชื้อเท่านั้นแหละ”

“เธอ พวกเธอ…” หลี่ซูเจ๋อ้าปากกว้างและตกใจอย่าง ถึงที่สุด “มีลูกกันหมดแล้วหรือ”

สั่งจิ้งเหอพยักหน้า

ตลอดทางไปโรงแรม ถังซินเล่าเรื่องทั้งหมดให้หลี่ซู เจ๋ฟัง ทั้งเรื่องที่เธอแยกออกว่าฉางผิงคือลูกชายของ ส้งจิ้งเหอและวี่เหวินถิง ทั้งเรื่องที่ปิดบังวี่เหวินถึงกันได้ อย่างไร

หลี่ซูเจ๋ราวกับกำลังฟังละครก็ไม่ปาน ปากไม่สามารถ หบได้

นี่มันน่าตื่นเต้นมากจริงๆ
ตั๋วที่ใช้เช็คอินเข้าโรงแรมใช้กับNatto Hotelที่มีชื่อ เสียงและตั้งอยู่ ณ ใจกลางกรุงโตเกียว แต่เป็นเพียง ห้องธรรมดาเท่านั้น

เมื่อมาถึงที่พัก ถังซินก็เห็นว่าทางโรงแรมนั้นมี กิจกรรมอยู่ จึงใช้ภาษาญี่ปุ่นในการสื่อสารกับพนักงาน ประสัมพันธ์ จนเปลี่ยนห้องธรรมดาให้กลายเป็นห้องชั้น บนสุดได้

สามสาวลากกระเป๋าเดินทางขึ้นลิฟต์ไป โดยไม่สนใจ เหล่าชายหนุ่มที่อยู่เบื้องหลังแม้แต่น้อย

“เรื่องบางเรื่อง ผู้หญิงก็พร้อมจะเป็นศัตรูในเวลา เดียวกัน” ลู่เหวินซูถอนหายใจ และมองไปทางวี่เหวิน ถิง “คนที่ได้ภาษาญี่ปุ่นคนเดียวไปแล้ว พวกเราจะเข้า พักอย่างไรก่อน”

วี่เหวินถึงดึงสีหน้าเย็นชา “นายถามฉันทำไม”

“หากไม่ใช่เพราะพี่ใหญ่ทะเลาะกับพี่สะใภ้ พวกเรา คงไม่ตกต่ำขนาดนี้” ลู่เหวินซูถอนหายใจ “แต่พวกพี่ ทะเลาะกันเรื่องอะไร

ดวงตาของวี่เหวินถึงมุ่งร้าย ก่อนจะฟาดแขนลู่เหวินซู อย่างแรง จนเขาล้มลงไปกับพื้น

ลู่เหวินซูร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวด
“พี่ใหญ่ ผมเป็นน้องชายพี่นะ พี่จะใจร้ายเกินไปแล้ว”

“ฉันเป็นลูกคนเดียว”

“พวกเราไหว้ฟ้าดินสาบานกันแล้วนี่ ว่าจะเป็นพี่น้อง กัน” ลู่เหวินซูยืดอกพูด

วี่เหวินถิงยิ้มเย็น “ฉันไม่คิดว่าตัวเองจะโง่ในตอนแรก จนทำเรื่องโง่ๆ ด้วยการรับนายเป็นน้องชาย

“พี่ใหญ่ จะทำร้ายกันมาก…

มู่เฉินหย่วนไม่อยากจะเป็นจุดสนใจ ปลีกตัวจากพวก เขามายังเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ ใช้ภาษาอังกฤษไถ่ ถามว่าพวกถังซินนั้นจองห้องไว้ที่ชั้นไหน

และในไม่ช้าพวกเขาก็จองห้องที่ชั้นเดียวกัน และได้ อยู่ห้องข้างๆ กันกับถังซิน

ลู่เหวินซูปรี่ไปหามู่เฉินหย่วน เมื่อเห็นบัตรห้องพักใน มือของเขา ก็ยิ้มเผล่ “ห้องชั้นบนสุดด้วย พวกถังซินพัก อยู่ที่ห้องข้างๆ ใช่หรือไม่ ใจของพี่รองช่างละเอียด อ่อนจริง”

มู่เฉินหย่วนเหลือบมองเขาอย่างเย็นชา “มือ”

ลู่เหวินซูรีบผละออกทันที
ห้องสไตล์ยุโรปที่อยู่ชั้นบนสุด มีห้องนอนสี่ห้าห้อง มี ทั้งห้องหมากรุก มีทั้งแก้วไวน์และเหล้าอีกมากมาย ทั้ง ห้องนั้นให้อารมณ์ แพงมากๆ ออกมา ในทุกๆ ที่ที่ผ่าน ตา

ลู่เหวินซูวางของเสร็จแล้ว ก็วิ่งเข้าไปหาหลี่ซูเจ๋อย่าง หน้าไม่อาย จนในห้องเหลือเพียงมู่เฉินหย่วนกับวี่เหวิน

มู่เฉินหย่วนเอ่ยถามเขา “ทะเลาะกัน

“ใครจะไปรู้กับเธอกัน” วี่เหวินถึงคิ้วขมวด กล่าวด้วย สีหน้าที่เย็นชา “เมื่อวานไม่รู้ว่าเธอจะพูดถึงเรื่องอะไร เหมือนกัน แต่จู่ๆ ก็ถามถึงเรื่องสาวโปแลนด์คนนั้นขึ้น มา”

“ฉันอธิบายกับเธอแล้ว บอกว่าผ้าพันคอของฉันกับ แฟนของผู้หญิงคนนั้นเหมือนกัน จนถูกคนในบริษัท เข้าใจผิดไป แต่เธอไม่เชื่อ และยังบอกว่าฉันโกหกอีก ฉันบอกว่าเธอไม่เชื่อก็ช่างมัน สุดท้ายเธอก็เดินหนีเข้า ห้องไป”

มู่เฉินหย่วนส่ายหน้าและกล่าวอย่างอดไม่ได้ “พี่ให้ คนทางนิวยอร์กตรวจสอบไม่ได้ เอาเบอร์โทรของผู้ หญิงคนนั้นมาโทรหา ก็สามารถอธิบายได้อย่างชัดเจน แล้วไม่ใช่”
วี่เหวินถึงหมดคำจะพูด “แค่ปัญหาผ้าพันคอเหมือน กันเท่านั้น ทำไมจะต้องทำให้วุ่นวายด้วย”

“เพราะเธอจะคิดว่า ผ้าพันคอเหมือนกัน แต่คนใน บริษัทมีตั้งมากมายขนาดนั้น ทุกคนจะจำแผ่นหลังของ ประธานบริษัทของตัวเองไม่ได้เลยหรือ” มู่เฉินหย่วน อธิบายให้เขาฟัง “และพี่ไม่ควรพูด ไม่เชื่อก็ช่างมัน นี่ แหละที่ทำให้ปัญหามันเกิดขึ้น

“.….…….” วี่เหวินถึงคลานคิ้วลงเล็กน้อย “ผู้หญิงนี่ยุ่งยาก จริงๆ”

มู่เฉินหย่วนหัวเราะ “พี่สะใภ้โกรธเพียงใบหน้าเท่านั้น หากโกรธขึ้นมาจริงๆ เธอกลับไปนานแล้ว ที่มาครั้งนี้ก็ เพื่อให้โอกาสกับพี่อีกครั้ง พี่ใหญ่ ฉันแนะนำว่าพวกพี่ รีบคือดีกันเถอะ”

“อะไร”

มู่เฉินหย่วนนึกคิด แต่ก็ไม่ได้บอกกับเขาไป บอก เพียงว่า “เธอเพียงอยากให้เรื่องเซอร์ไพรส์ เมื่อวาน เธออาจจะอยากให้แล้ว แต่เพราะโกรธพี่ใหญ่เสียก่อน”

วี่เหวินถึงรับคำ ก่อนจะรู้สึกว่าไม่เลว “แต่ฉันไม่มี ประสบการณ์เลย นายมีอะไรจะแนะนำไหม

“ฉันเองก็ไม่มีประสบการณ์
“แต่ที่นายพูดมาทั้งหมด มันเหมือนกับว่านายเข้าใจผู้ หญิงมากเลยนะ”

“เพราะฉันเคยทำผู้หญิงโกรธมาเช่นกันเลยเข้าใจดี” มู่เฉินหย่วนใบหน้าดูสิ้นหวัง ท่าทีของถังซินที่เคยเงียบ ใส่เขา มันทำให้เขาจดจำได้เป็นอย่างดี จนตอนนี้ต้อง คอยระวังอยู่เสมอ

ผู้หญิงนั้นแตะต้องไม่ได้จริงๆ

“เดี๋ยวฉันเรียกเหวินซูกลับมา ลองถามเขาดู น่าจะ ประสบการณ์มากมายอยู่

มู่เฉินหย่วนกล่าว เก็บของเพื่อไปหาถังซินที่อยู่ห้อง ข้างๆ แต่เพียงเปิดประตู ก็พบว่าถังซินอยู่ที่นอกประตู และกำลังยกมือขึ้นกดกริ่ง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ