ฉันเป็นสุดที่รักของประธานมู่! ?

บทที่ 485 หากเกิดเรื่องจริงๆ ฉันแบกรับเอาไว้เอง



บทที่ 485 หากเกิดเรื่องจริงๆ ฉันแบกรับเอาไว้เอง

พอถังซินได้ฟังก็รู้เลยว่ามีคนคอยขัดขา แอบใช้กล อุบายไม่ให้เสิ่นสวีนกลับมาจริงๆ

ไม่ให้เสิ่นสวีนเบิกความให้กับเธอจริงๆ

คิดเชื่อมโยงไปถึงเรื่องที่เกิดขึ้นที่ห้องคุมตัวในก่อน หน้านี้ ถังซินก็สามารถเดาออกได้ถึงตัวคนร้ายที่อยู่ หลังม่าน “อื้มฉันรู้แล้ว คุณโทรกลับหาคุณเสิ่น ขอบคุณ เธอที่รีบกลับมาเพื่อฉัน ให้เธอกลับไปได้เลย ฉันทางนี้ ไม่เป็นอะไร”

ผู้ช่วยพยักหน้าเล็กน้อย “ผู้รับผิดชอบของบริษัทไป๋ ลู่ แล้วก็สื่ออีกสิบกว่าค่ายติดต่อเรียบร้อยแล้วค่ะ บ่าย สองโมงตรงเปิดงานแถลงข่าวที่ห้องประชุม ประธานถัง ไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหมคะ?”

“ไม่มีปัญหา บ่ายสองโมงฉันจะไปให้ตรงเวลา”

รอจนกระทั่งหลังจากที่ผู้ช่วยออกไปแล้ว ถังซินก็ แกะกล่องอาหารเดลิเวอรี่ออก ทานบะหมี่เนื้อวัวที่กำลัง ร้อนๆ ในกระเพาะรู้สึกสบายขึ้นกว่าเดิมเป็นอย่างมาก

เพียงแค่ทานบะหมี่เนื้อวัวที่อร่อย เธอกลับคิดถึงวัน นั้นขึ้นมาอย่างประหลาด วันที่มู่เฉินหย่วนทำบะหมี่เนื้อ วัวด้วยตัวของเขาเอง

แม้ว่าหน้าตาของบะหมี่จะไม่สวย อีกทั้งยังเค็มเป็นอย่างมาก แต่เธอก็รู้สึกว่าอร่อยมาก

เพราะว่านั่นเป็นครั้งแรกที่ชายหนุ่มเข้าครัว สามารถ ทําบะหมี่เนื้อวัวอย่างนั้นออกมาได้หนึ่งชาม ก็ถือว่าไม่ เลวมากแล้ว

และก็ยังคงเป็นการทำให้เธอทานโดยเฉพาะอีกด้วย

พอคิดถึงเรื่องเมื่อก่อนนี้ ในใจของถังซินก็รู้สึกอัดอั้น จนกลัดกลุ้มขึ้นมา

เธอฝืนบังคับให้ตนเองไปคิดเรื่องอื่น ล้วงเอา โทรศัพท์มือถือออกมา หาเบอร์ของนักสืบเอกชนเจอ จากนั้นกดโทรออกไป

ประมาณหลังจากนั้นสิบวินาที โทรศัพท์ฝั่งนั้นก็รับ สาย

“คุณถัง” นักสืบเอกชนทักทายกับถังซิน เอ่ยถามขึ้น อย่างล้อเล่นว่า “ผมได้ยินมาว่าเหอซ่งของพวกคุณ ถูกบริษัทเล็กๆแห่งนึงฟ้อง หรือว่าจะให้ผมตรวจสอบ บริษัทเล็กๆแห่งนั้นให้กับคุณครับ?”

หลังจากที่ถังซินกลืนอาหารที่อยู่ในปากลงไปแล้ว ถึง ได้เอ่ยขึ้นกับเขาว่า “เรื่องนี้วันนี้ฉันก็จะสามารถจัดการ ได้แล้วค่ะ โทรหาคุณ เพราะว่าอยากให้คุณช่วยฉัน สืบหาด้านมืดของคนๆหนึ่ง”

“ใครครับ? คู่แข่งของพวกคุณหรอ?”
“ตระกูลวี่”

คราวนี้นักสืบเอกชนไม่ได้ตอบกลับอย่างรวดเร็วนัก

หลังจากนิ่งเงียบไปหนึ่งนาทีเต็มๆ นักสืบเอกชนถึงได้ เอ่ยขึ้นอย่างขอไปทีว่า “คุณถังครับ ผมทําธุรกิจเล็กๆ ไม่อยากเป็นเพราะความเสี่ยง ถึงขั้นยังต้องเอาตัวเอง ชดใช้เข้าไป

“ฉันรู้ ไม่ให้คุณได้รับอันตรายหรอกค่ะ”

ตลอดทางที่มาบริษัท ถังซินได้กำหนดแผนการเอา ไว้อย่างดีแล้ว “คุณสนใจเพียงแค่ไปสืบ เรื่องอื่นฉัน จัดการเอง นอกจากเงินค่าตอบแทนแล้ว ฉันยังจะช่วย คุณเปลี่ยนสัญชาติอังกฤษ”

“จริงหรอครับ?” นักสืบเอกชนไม่กล้าที่จะเชื่อ “สัญชาติอังกฤษยื่นเรื่องยากมาก คุณถึงจะสามารถ ช่วยผมยื่นได้หรอครับ?”

ถังซินเอ่ยขึ้นอย่างมั่นใจ “ได้ค่ะ คุณนำข้อมูลส่งอีเมล มาให้ฉัน อย่างช้าที่สุดหนึ่งเดือน ฉันจะช่วยคุณทำให้ เสร็จ ระหว่างที่คุณทำการตรวจสอบหากเกิดเรื่องขึ้นมา จริงๆแล้วล่ะก็ ฉันแบกรับเอาไว้เอง พวกเขาก็จะไม่กล้า มาอะไรกับคุณ”

นักสืบเอกชนคิดใคร่ครวญอยู่นาน จากนั้นกัดฟันตอบรับ “ได้ครับ ขอเพียงแค่คุณถังช่วยผมเปลี่ยนสัญชาติ ได้ ผมจะช่วยคุณตรวจสอบตระกูลวี่ สืบหาอะไรพบจะ บอกคุณทันที”

หัวคิ้วของถังซินคลายออกจากกัน “งั้นก็ลำบากคุณ แล้วค่ะ เงินก็ยังคงโอนไปที่บัญชีนั้นของคุณ

“ได้ครับ!”

วางโทรศัพท์ลงไปได้ไม่นาน อีเมลส่วนตัวของถังซินก็ ได้รับข้อมูลส่วนตัวที่นักสืบเอกชนส่งมา

หลังจากที่เธอกดเข้าไปดู ก็ส่งข้อมูลชุดนั้นให้กับจง เซิง ให้เขาช่วยในทันที

คุณนายวี่กล้าหาคนลงมือกับเธอและลูกอย่างไม่มี ความละอายใจในห้องคุมขังที่สถานีตำรวจ เธอไม่อาจ จะกลั้นกลืนความเจ็บช้ำน้ำใจได้

จงเซิงตอบกลับข้อความถามถังซินว่ารีบไหม

รอจนกระทั่งหลังจากที่ถังซินบอกว่ารีบมาก จงเซิง บอกเธอว่าจะหาคนในช่วยให้ หากเร็วล่ะก็ครึ่งเดือนก็ พอแล้ว

ถังซินกล่าวขอบคุณเขาจากใจจริง

จงเซิงตอบเธอว่า : (คุณถัง คุณต้องขอบคุณ คุณชายของเรา คุณร้องขอผมจำเป็นจะต้องรับปากนั้นก็เพราะคุณชายให้ความสำคัญกับคุณ

ถังซิน : โจงอี้บอกว่าเขากลับมาที่เมืองหนานเฉิงแล้ว ใช่ไหม?

ตอนที่อยู่ในห้องคุมขังนั้น จงอี้ก็บอกกับถังซินว่าตอน ที่เธอเข้ามาก็บอกเรื่องนี้กับหลินเฉินจี่แล้ว หลินเฉินจี่คง กำลังอยู่ระหว่างทางมาที่เมืองหนานเฉิง แต่เธอออกมา แล้ว ก็ยังไม่เห็นหลินเฉินจี่

ถังซินกลัวว่าจี้เจียจื้อจะแอบลอบลงมือกับหลินเฉินจี่ ไม่หวังที่จะให้เขากลับมาเพื่อตนเอง

สุดท้ายหลังจากที่ไม่กี่ประโยคนี้ของเธอพูดออกไป จงเซิงไม่ได้ตอบอยู่นาน

ถังซินดูต้นฉบับประชาสัมพันธ์ที่อีกสักครู่จะต้องใช้

ในงานแถลงข่าวไปด้วย รอคำตอบจากจงเซิงไปด้วย

ยังคิดว่าที่ญี่ปุ่นคงจะยุ่งมากใช่หรือเปล่า ดังนั้นเขาจึง ไม่มีเวลามาตอบตนเอง

หลังจากนั้นนานมาก โทรศัพท์ที่อยู่บนโต๊ะก็ดังขึ้น

เป็นโทรศัพท์ที่ผู้ช่วยโทรมา “ประธานถังคะ ผู้สื่อข่าว ทั้งหลายได้มาถึงแล้ว คุณเตรียมตัวพร้อมแล้วหรือยัง คะ?”

“อืม ฉันจะไปเดี๋ยวนี้”
ถังซินน้ำโทรศัพท์มือถือวางเข้าไปข้างในลิ้นชัก จาก นั้นหยิบเสื้อสูทที่อยู่บนเก้าอี้ขึ้นมา

ก่อนหน้านี้เธอได้หาห้องเสื้อสั่งตัดชุดสูทที่หลวม สบายมาสองชุด เพื่อที่จะสามารถไปรับมือกับ สถานการณ์ที่เป็นทางการได้สักหน่อย

สถานการณ์ในวันนี้ ชุดลำลองก็ใส่ไม่ได้ด้วย

เธอไปดูที่ห้องอาบน้ำ พบว่าเสื้อคลุมสูทบดบังท้องได้ เป็นอย่างดี ถึงได้วางใจออกไป

ผู้ช่วยได้รออยู่ที่ข้างลิฟต์มาตั้งนานแล้ว

รอจนกระทั่งหลังจากที่ถังซินมาถึง ก็กดไปที่ปุ่มลง ลิฟต์

มองดูถังซินเล็กน้อย จากนั้นผู้ช่วยก็เอ่ยปากออกมา ว่า “ประธานถัง ดิฉันรู้สึกว่าคุณไม่เหมือนกับเมื่อก่อน แล้ว”

ถังซินนึกว่าเธอดูออกว่าเธอกำลังตั้งครรภ์ ตรงกลาง ระหว่างคิ้วกระตุกขึ้นมาเล็กน้อย “เป็นเพราะชุดสูทนี้ ของฉันไม่สวย?”

“ไม่ใช่ปัญหาของชุดสูทค่ะ” ผู้ช่วยคิดเล็กน้อยจาก นั้นเอ่ยขึ้นว่า “ประธานถังบุคลิกของคุณในก่อนหน้านี้ อ่อนแอมาก ระหว่างคิ้วมักจะแฝงไปด้วยความทุกข์เป็น อย่างมาก ตอนนี้ดูเหมือนอะไรก็ไม่กลัว”
ที่แท้เป็นแบบนี้นี่เอง

ถังซินเดินเข้าไปในลิฟต์พร้อมกับผู้ช่วย

ยกมุมริมฝีปากขึ้นเอ่ยตอบอย่างราบเรียบว่า “เป็น เพราะค้นพบว่าความกลัวไม่เป็นประโยชน์อะไรแล้ว สู้ แสดงท่าทีว่าตัวเองมายั่วยุไม่ได้ง่ายๆยังจะดีกว่า”

เธอยิ่งถอยหลัง คนเหล่านั้นก็ยิ่งจะคิดหาวิธีมาจัดการ กับเธอ

สู้รับหน้าและเอาชนะกับความยากลำบากยังจะดีกว่า

ผู้ช่วยพาถังซินไปที่ห้องประชุม

พอห้องประชุมถูกเปิดออก ถังซินก็เห็นว่าด้านในถูก นั่งเต็มไปด้วยผู้สื่อข่าว

มีผู้ชายสองคนนั่งอยู่บนเวที หนึ่งในนั้นตอบคำถาม ของนักข่าว บุคลิกมั่นใจเกินร้อย

ผู้ช่วยมองดูไปบนเวทีแวบหนึ่ง แล้วรีบเอ่ยขึ้นกับถัง ซินในทันทีว่า “ขออภัยด้วยค่ะประธานถัง ฉันเป็นคน เชิญพวกเขาให้ขึ้นไปนั่งบนเวทีก่อน คิดไม่ถึงว่าเวลายัง ไม่ถึง พวกเขาก็…

“ไม่เป็นไร พวกนักข่าวนั่งนิ่งๆไม่ได้ แล้วก็ปากว่างไม่ ได้ด้วยเช่นกัน” ถังซินกลับไม่ได้แคร์ “ของเอามาหรือ ยัง?”
ผู้ช่วยนำกระเป๋าเอกสารให้เธอดู “เอามาแล้วค่ะ อยู่ ข้างในทั้งหมด

“โอเค” จากนั้นถังซินก็ก้าวเข้าไปในห้องประชุมอย่าง ไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย บนใบหน้าแสดงรอยยิ้มอ่อนๆ และมีมารยาทออกมา

“ขอโทษด้วยจริงๆค่ะ ให้ทุกท่านมาที่เหอซ่งในเวลานี้”

พอเธอเอ่ยปาก สายตาของสื่อทั้งหลายต่างก็หันเข้า มา เลนส์กล้องก็มาหยุดอยู่บนตัวของเธอ

ถังซินอ่อนน้อมมาโดยตลอด หลังจากที่เข้ามาใน เหอซ่งก็เป็นเช่นนั้น

คนในสายอาชีพจำนวนมากต่างก็ไม่รู้ว่าเหอซ่งเปลี่ยน ผู้บริหารระดับสูงแล้ว และก็เป็นก่อนหน้านี้เพียงแค่สิบ กว่าวัน ที่บริษัทไป๋ลู่โพสต์ประกาศออกไปว่าเหอซ่ง ละเมิดลิขสิทธิ์ผลิตภัณฑ์ของตนเอง

พอกลุ่มคนร่ำลือกันออกไป ถึงได้รู้ว่ารองประธานที่ เข้ามารับหน้าที่ใหม่คือผู้หญิงคนหนึ่ง

ต่อมาก็แพร่กระจายออกไปอีกว่ารองประธานหญิงคน นี้เป็นผู้ต้องสงสัยลอบฆ่าหญิงตั้งครรภ์ ดันเรื่องทั้งเรื่อง ขึ้นไปจนถึงจุดสูงสุด

ผู้สื่อข่าวทั้งหลายต่างก็อยากจะเห็นรองประธานหญิง ของเหอซ่งท่านนี้ พอได้รู้ว่าเหอซ่งจะเปิดงานแถลงข่าวก็พกเครื่องมือและอุปกรณ์มาอย่างไม่ลังเลเลยแม้แต่ น้อย

แสงแฟลชต่างก็ถ่ายมาที่ถังซินอยู่ตลอดเวลาไม่ยอม หยุด

มีนักข่าวเห็นหน้าของถังซินชัด จำเธอได้ ก็เอ่ยขึ้น อย่างประหลาดใจว่า “ฉันคิดออกแล้ว ประธานถังคน นี้ก่อนหน้านี้เคยเป็นรักษาการแทนท่านประธานที่มู่ซื่อ ความสามารถแกร่งกล้ามาก ทำไมถึงได้มาที่เหอซ่ง แล้วล่ะ?”

“ฉันก็รู้สึกว่าเธอหน้าคุ้นๆ คือถังซินคนเดียวกับที่มีข่าว กับประธานมู่หรอ?”

“คือเธอน่ะสิ! ”

หลังจากที่สื่อทั้งหลายได้รู้ว่าก่อนหน้านี้ถังซินเคย ทำงานที่มู่ชื่อมาก่อน ทั้งยังเคยมีข่าวกับมู่เฉินหย่วนก็ ราวกับได้กลิ่นโอกาสในการทำธุรกิจก็ไม่ปาน รวมตัว กับเข้ามา ล้อมรอบถังซินถามนั่นถามนี่กับเธอ

คำถามที่แหลมคมของนักข่าวทั้งหลายดังกึกก้องอยู่ที่ ข้างหูของถังซิน ค่อนข้างที่จะเอะอะโวยวาย

ถังซินส่งสายตาให้กับผู้จัดการและพนักงานรักษา ความปลอดภัย
รอจนกระทั่งหลังจากที่นักข่าวเหล่านั้นถูกบังคับให้ เว้นระยะห่างจากตนเองเสร็จแล้ว ถังซินถึงได้เอ่ยปาก ขึ้นอย่างราบเรียบว่า “ทุกท่านคะ ที่เหอซ่งเปิดงาน แถลงข่าวในคราวนี้นั้น ก็เพื่อที่จะชี้แจงเกี่ยวกับเรื่อง การเป็นผู้ต้องสงสัยในการละเมิดลิขสิทธิ์ผลิตภัณฑ์ ของบริษัทไปลู่”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ