ฉันเป็นสุดที่รักของประธานมู่! ?

บทที่ 404 ไม่ใช่ฉันที่หิว พวกเขาต่างหากที่หิว



บทที่ 404 ไม่ใช่ฉันที่หิว พวกเขาต่างหากที่หิว

หลินเฉิงจี่ยื่นมือไปจับแก้มเธอด้วยสายตาที่อ่อนโยน “ไม่ว่าเธอจะทำอะไร ฉันก็เคารพในการตัดสินใจของ เธอ เธออยู่ในนามสะไภ้รองของวิลล่าอเล็กซ์เลียร์ ยัง จะให้ฉันเอาเงินเดือนให้เธออีกหรอ?”

ถังซินๆคิดดูก็เห็นด้วย “ถือว่าการที่ฉันกำลังช่วยนาย ทำงานอยู่นั้นไม่เปล่าประโยชน์! ถ้าต่อไปพ่อนายให้ พวกอัญมณีฉันมา ฉันจะไม่เอาคืนกลับไปแล้ว จะเก็บไว้ ไปขาย

หลินเฉิงจี่ยิ้มหัวเราะเล็กน้อย “ได้”

หลังจากที่กินข้าวเสร็จ ถังซินก็เดินไปรอบๆโรง พยาบาล โดยมีหลินเฉิงจี้คอยเดินเป็นเพื่อน จากนั้น พวกเขาก็ไปห้างสรรพสินค้า ถังซินเลือกซื้อเสื้อผ้าที่ใส่ สบายไม่อึดอัด

เมื่อทั้งสองคนเดินซื้อของและกลับไปถึงที่วิลล่า ก็เป็น เวลาห้าโมงเย็นกว่าแล้ว

หลังจากที่เข้าไปในบ้าน หลินเฉิงจี่ไม่เห็นรองเท้าที่โบ แนร์สวมเป็นประจำ จึงเอ่ยถามคนรับใช้ว่า “คุณท่านอยู่ ที่ห้องหนังสือหรอ?”

“ตอนบ่ายคุณท่านโทรศัพท์มาบอกว่า วันนี้จะไม่กลับ มาแล้ว” คนรับใช้ก้มหน้าและเอ่ยตอบ “ท่านบอกว่าช่วง นี้จะอยู่เป็นเพื่อนคุณชายใหญ่ที่โรงพยาบาล จึงสั่งให้คุณกับสะไภ้รองดูแลวิลล่า”

หลินเฉิงจี่ขานรับ “ฉันเข้าใจแล้ว”

“คุณกับสะไภ้รองต้องการรับประทานอาหารหรือไม่? เย็นนี้ในครัวทำอาหารสไตล์จีน มีกระดูกหมูผัดซอส”

ก่อนกลับมาถึงซินได้กินรองท้องไปแล้วเล็กน้อย เมื่อ ได้ยินคนรับใช้พูดเช่นนี้ ก็หิวขึ้นมาอีกครั้ง “พวกเราจะ รับประทานอาหาร ให้ในครัวทำอาหารที่คุณท่านและ คุณชายใหญ่ชอบและเอาไปส่งที่โรงพยาบาลด้วย

“ได้ค่ะ”

หลังจากที่คนรับใช้ลงไป หลินเฉิงจี๋จึงมองไปที่ท้อง ของเธอ “เมื่อสองชั่วโมงก่อนเธอพึ่งกินแฮมเบอร์เกอร์ ไปสองอัน น่องไก่สี่อัน ซุปเห็ดอีกหนึ่งถ้วย เธอหิวอีก แล้วหรอ?”

“ฉันไม่ได้เป็นคนหิว แต่พวกเขาต่างหากที่หิว” ถังซิน ยิ้มอย่างลำบากใจเล็กน้อย และเอ่ยขึ้นด้วยเสียงเบาๆ “ตั้งสามปากนะ!”

หลินเฉิง……

ขณะที่กำลังรออาหารเย็น หลินเฉิงจี๋และถังซินก็ไป นั่งที่ห้องรับแขก

ถังซินปอกองุ่นที่สดใหม่และยัดเข้าไปในปาก และพูดกับหลินเฉิงจี่ที่อยู่ข้างๆด้วยเสียงเบาๆว่า “จี้เจียจื้อไม่มี แขนขวาแล้ว แต่กลับได้รับความได้เปรียบ

“นายดูพ่อนายเป็นสิ ไปอยู่โรงพยาบาลทุกคืนไม่ยอม กลับมาบ้าน ถ้าจี้เจียจื้อตื่นขึ้นมา คงจะแสร้งทำเป็นน่า สงสารต่อหน้าท่านไม่น้อย คาดว่าคงเอาประโยชน์จาก ท่านที่นั่นไม่น้อย”

หลินเฉิงจี๋ยิ้มหัวเราะ “ไม่เป็นไร ฉันก็พูดไปแล้ว พ่อ ฉันรักฉันมากที่สุด ของที่จี้เจียจื้อมี แต่ฉันไม่มี วันหลัง ท่านก็จะแอบเอามาให้ฉัน พูดก็พูดเถอะแสร้งทำเป็นน่า สงสาร ใครๆเขาก็ดูออก

ถังซินทอดถอนหายใจ “ตอนนี้ฉันเป็นห่วงชิงเฟิง”

“คงจะไม่เพียงแต่คนของจี้เจียจื้อ โบแนร์เห็นลูกบาด เจ็บถึงขนาดนี้ ก็คงจะให้คนตามล่าให้ถึงที่สุดเช่นกัน”

“น้องของเธอเก่งขนาดไหน เธอไม่รู้หรอ?” หลินเฉิงจื่ ปลอบให้เธอคลายกังวล “ฉันก็สามารถให้จงเชิงไปตาม หาเขาต่อ”

“ใช่แล้ว” ถังซินพยักหน้า คล้ายกับกำลังปลอบตัวเอง “เขาคงจะวางแผนไว้อย่างดีแล้วทั้งหมด ไม่แน่ว่าอีกไม่ กี่วันก็จะขึ้นเครื่องบินกลับประเทศไปอย่างราบรื่นแล้ว”

เธอหยิบส้มออกมาจากในจานหนึ่งลูกและส่งให้กับ หลินเฉิงจี๋ “ฉันเล็บสั้น นายช่วยฉันปอกหน่อยนะ
“…เธอกินองุ่นไปแล้วหนึ่งจาน” หลินเฉิงจี่จำเป็นต้อง เตือนสติเธอ “ยังจะกินส้มอีกหรอ? แล้วอาหารเย็นเธอ จะกินได้อีกหรอ?”

“ กินได้สิ ในท้องฉันยังมีที่ว่าง”

หลังจากที่รู้ว่าท้องแฝดสาม ถังซินจึงระมัดระวังมาก ขึ้น ในขณะเดียวกันก็ต้องกันคนใช้ไว้ กลัวว่าพวกเขา จะรู้เรื่องที่เธอท้อง

ไม่กี่วันมานี้โบแนร์ได้ดูแลจี้เจียจื้ออยู่ที่โรงพยาบาล คนรับใช้ที่วิลล่าก็ลาพักร้อน เธอจึงฉวยโอกาสนี้ไป อาบแดดที่สวนดอกไม้กับหลินเฉิงจี่ เพื่อเดินออกกำลัง กายเล็กน้อย

ขณะที่ไปสวนดอกไม้ ถังซินได้สังเกตเห็นแปลงหนึ่งที่ กิ่งไม้และใบไม้เจริญงอกงามออกมา แต่กลับไม่มีดอก

เธอจึงเอ่ยถามหลินเฉิงจี้ด้วยความแปลกประหลาดใจ “ตรงนี้ปลูกอะไร ทำไมถึงยังไม่ออกดอก?”

หลินเฉิงจื่มองเธออย่างลึกซึ้ง “เธอเป็นคนปลูก จำไม่ ได้แล้วหรือ?”

“หลังจากที่ฉันมาที่นี่ ยังไม่เคยขุดดินที่สวนดอกไม้ เลย…”ทันใดนั้นเธอก็คิดอะไรขึ้นมาได้ จึงเบิกตากว้าง จ้องมองเขา หลินเฉิงจี่พยักหน้า
“ย้ายเมล็ดพันธุ์กุหลาบเขียวของประเทศมาที่นี่ เหนื่อยมากเลยนะ” ถังซินทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ ออก “ถ้านายชอบ ก็เอามาปลูกที่นี่ใหม่ก็ได้แล้ว”

แต่หลินเฉิงจี่กลับส่ายหัว และพูดอย่างเคร่งขรึม “ไม่ เหมือนกัน อันนั้นเป็นต้นที่พวกเราปลูกด้วยสองมือของ ตัวเอง มองดูมันแตกกิ่งงอกขึ้นมา เป็นความทรงจำ อย่างหนึ่ง ถ้าปลูกใหม่ที่นี่ ความทรงจำก็จะไม่เหมือน เดิมแล้ว”

ในตอนนั้นถังซินไม่รู้ว่าจะโต้แย้งอะไร “ก็ได้ ยังไง นายก็ย้ายมาแล้ว”

“เธอชอบดอกยิปโซฟิล่ามั้ย” หลินเฉียงจี่ถามขึ้นอีก ครั้ง และชี้นิ้วไปทางด้านนั้น “ตรงนั้นเป็นพื้นดินที่พรวน แล้ว ซื้อเมล็ดพันธุ์หว่านลงไปก็ได้แล้ว รอให้อากาศอุ่น กว่านี้ คงจะโตขึ้นอย่างเร็ว”

“อย่าเอาไปปลูกดอกไม้หมด ถ้าอย่างนั้นเอามาปลูก ต้นส้มเถอะ!” ถังซินพูดอย่างสนใจใคร่รู้เป็นอย่างยิ่ง “สามารถไล่ยุงได้ ถ้าออกผลก็สามารถกินได้ ดีมากเลย นะ!”

“ได้” หลินเฉิงจี๋จ้องมองไปที่สีหน้าของเธอ และยิ้มมุม ปาก “พรุ่งนี้ให้คนใช้ไปซื้อเมล็ดพันธุ์”

“ขอเพียงแค่เธอชอบ ฉันจะทำให้เธออย่างดีทุก อย่าง”
ทั้งสองเอื่อยเฉื่อยอาบแดดอยู่ในสวนดอกไม้และดื่ม ชายามบ่าย

ถังซินรู้สึกสนใจผลส้มเป็นอย่างมาก กินจนไม่หยุด ปาก

หลินเฉิง กลัวว่าเธอจะกินจนอิ่มมากเกินไป จึงให้คน รับใช้เอาส้มที่เหลือในบ้านไปซ่อนไว้ และพูดโกหกเธอ ว่ากินหมดแล้ว

เมื่อขับรถกอล์ฟเที่ยวชมมาจนจะถึงตัวบ้าน พวกเขา ได้พบเจอกับรถคันหนึ่งขับผ่านพวกเขาไป เมื่อขับไป ถึงลานจอดรถกลางแจ้ง

ถังซินหรี่ตามมองป้ายทะเบียนรถและเอ่ยถามหลิน เฉิงจี๋ “รถคันนั้นใช่คันที่พ่อนายนั่งเป็นประจำมั้ย?”

หลินเฉิงจี่พยักหน้า สีหน้าไร้อารมณ์ เดาว่าเขาน่าจะ ไปรับจี้เจียจื้อกลับมาแล้ว?

“ในเมื่อเห็นแล้ว ก็เข้าไปทักทายสักหน่อย” ถังซินให้ เขาขับรถกอล์ฟไปทางลานจอดรถ

หลังจากที่พวกเขามาถึง โบแนร์และจี้เจียจื้อก็ลงมา จากรถพอดิบพอดี

“พวกเธอมาได้ยังไง” เมื่อโบแนร์เห็นถังซินและหลิน เฉิงจี่เข้ามาจึงเอ่ยถามขึ้นอย่างแปลกประหลาดใจ
ฉันกับฌ็องพึ่งไปอาบแดดที่สวนดอกไม้มา” ถังซิน ยิ้มเล็กน้อย “ขณะกำลังกลับ ฌ็องเห็นรถคุณกลับมา แล้ว จึงบอกว่าจะมารอรับคุณ”

สายตาเธอมองไปที่ข้างหลัง ก็เห็นจี้เจียจื้อที่สวมเสื้อ แขนเสื้อด้านขวาของเขา เชิ้ตสีครีมอ่อนกับกางเกงสูท แขนเสื นั้นว่างเปล่า แต่เขายังคงมีสีหน้าที่ยิ้มเล็กน้อย ท่าทาง ดัดจริตสมกับเป็นคุณชายที่มีฐานะสูงส่ง

ถังซินแอบพูดในใจ เป็นไปอย่างที่คิดไว้แหละ ช่วง เวลาที่ผ่านมาโบแนร์ไม่เพียงดูแลจี้เจียจื้อที่โรง พยาบาล แถมยังแอบเอาของให้เขาไปไม่น้อย

หลินเฉิงจี่ขมวดคิ้วแน่น และไปข้างหน้าเพื่อทักทาย พวกเขา

“พ่อ พี่ใหญ่”

โบแนร์พยักหน้า “กลับเข้าไปด้วยกันเถอะ”

ทั้งสี่คนนั่งรถกอล์ฟคันเดียวกัน ซึ่งมีหลินเฉิงจี่เป็นคน ขับรถ ถังซินและคนอื่นๆนั่งอยู่ข้างหลัง

เธอนั่งอยู่คนเดียวอีกฝั่งหนึ่ง บังเอิญคนที่นั่งตรงข้าม คือจี้เจียจื้อ

จี้เจียจื้อนั่งพิงเบาะข้างใน เมื่อมองมาที่ถังซิน สายตา จึงมีความอึมครึม
“คุณชายใหญ่” ถังซินสบสายตาเขาอย่างสง่าผ่าเผย และพูดเอ่ยขึ้นด้วยความเป็นห่วง “เรื่องในงานปาร์ตี้ฌ็ องได้บอกกับฉันแล้ว ช่วงเวลาที่ผ่านมาฉันอยากจะไป เยี่ยมคุณ แต่ก็กลัวว่าจะรบกวนคุณ ฉันกับฌ็องเลยไม่ ได้ไป คุณสบายดีมั้ย?”

“ฉันสบายดีแน่นอน” จี้เจียจื้อจ้องมองเธอและแสยะ ยิ้ม “เพียงเสียแขนไปข้างเดียวเท่านั้น ไม่มีผลกระทบ อะไรกับฉันหรอก ยังไงคนใช้ในวิลล่าก็มีเยอะแยะ งาน อะไรก็ไม่ต้องให้ฉันทำเอง”

“ในเมื่อพูดเช่นนี้ แล้วบริษัทที่คุณชายใหญ่มีอยู่หล่ะ ถึงอย่างไรก็ต้องไปบริษัท” หยุดไปสักครู่ ถังซินก็พูด ออกมาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนอีกครั้ง “ฉันมีเพื่อนคน หนึ่งขายแขนเทียมโดยเฉพาะ ได้ยินมาว่าเรียนเทคนิค ลับสุดยอดมาจากประเทศD ทำแขนเทียมเหมือนกับ ของจริงได้อย่างไม่มีอะไรแตกต่างกันแม้แต่นิดเดียว ถ้าคุณชายใหญ่ต้องการ ฉันสามารถโทรไปหาเขาให้ ได้”

ทันใดนั้นสีหน้าของจี้เจียจื้อก็เคร่งขรึมขึ้นอย่างมาก

ผู้หญิงคนนี้ช่างกล้านัก กล้าที่จะเยาะเย้ยเขา ท่ามกลางสายตาทุกคน

“ขอบคุณคุณถัง ทำให้ผมได้มาโดยไม่ได้คาดหวัง มาก่อน!” จี้เจียจื้อกัดฟันยิ้ม แววตาคล้ายกับจะกลืนกิน “วันหน้าผมจะต้องตอบแทนคุณถังอย่างแน่นอน”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ