ฉันเป็นสุดที่รักของประธานมู่! ?

บทที่426 งั้นผมไปแล้ว คุณถังจะกลับยังไง



บทที่426 งั้นผมไปแล้ว คุณถังจะกลับยังไง

มู่เฉินหย่วนมองผู้หญิงตรงหน้าที่ร้องไห้เสียใจจน ตาแดงเหมือนโดนใครรังแก

ทั้งสองยืนนิ่งอยู่สิบกว่าวินาที

สุดท้ายมู่เฉินหย่วนก็หยิบร่มลงบันไดมาแล้วเอาเงิน ให้ผู้ช่วยจางพร้อมกับพูดว่า”ขับรถไปดูข้างนอกที่ไหน มีขายซาลาเปาไส้เต้าหู้ซื้อกลับมาเข่งนึง”

“อ๋? “ผู้ช่วยจางยืนบี้ออยู่ตรงนั้นมองเจ้านายตัวเอง ด้วยความตกใจ ซื้อ ซื้อซาลาเปา?

ใบหน้าเขาหม่นลง“คำพูดของผมเข้าใจยากเหรอ?

ผู้ช่วยจางเหลือบมองถังซินที่หน้าประตูเห็นหล่อน สะอึกสะอื้น ทันใดนั้นก็เข้าใจทันที“ประธานมู่ คุณเปิด ประตูแล้วเอาแมวให้คุณถังซิน ระหว่างทางที่ผมพาคุณ ถังกลับไป เดี๋ยวดูร้านไหนขายซาลาเปา แบบนี้สะดวก กว่า วันฝนตกแบบนี้แล้วก็ดึกมากแล้ว ผมไม่รู้เลยจริงๆ ว่าจะมีร้านไหนขายซาลาเปาไส้เต้าหู้”

“คุณไปหาไม่ได้เหรอ?

“แบบนี้ลำบากครับ รอผมซื้อแล้วเอากลับมาซาลาเปา ก็เย็นหมด”
“ประธาน รีบไปเปิดเถอะครับ ผมจะรอที่นี่”

มู่เฉินหย่วนมองผู้ช่วยจางด้วยสายตาหม่นลงแล้วเอา เงินยัดใส่มือเขา“ไปซื้อซาลาเปาไส้เต้าหู้ ถ้าหาซื้อไม่ได้ คุณก็เตรียมเก็บของแล้วไปอยู่นิวยอร์กหนึ่งปี”

บรรยากาศแบบนี้ทำให้คนหวาดกลัวจริงๆ

“ผมจะไปเดี๋ยวนี้ครับ! “ผู้ช่วยจางรีบหยิบเงินแล้วขับ รถไปซื้อซาลาเปา

เห้อ ผู้ช่วยคนนี้แย่จริง!

พอส่งผู้ช่วยจางขับรถออกไปมู่เฉินหย่วนก็กลับมา

เห็นหล่อนยังสะอื้นอยู่เหมือนว่าตัวเองรังแกอะไร หล่อนไป ก็ปวดหัวขึ้นมา

เขาพูดออกมาอย่างอดไม่ได้ว่า“ให้ผู้ช่วยจางขับรถไป ซื้อแล้ว อย่าร้องไห้สิ ก็แค่ซาลาเปาไส้เต้าหู้เข่งนึง”

รู้จักผู้หญิงคนนี้มานาน นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นหล่อน ร้องไห้ฟูมฟายขนาดนี้

ไม่ได้กินส้มก็ร้อง ไม่ได้กินซาลาเปาไส้เต้าหู้ก็ร้อง เสียน้ำตาง่ายขนาดนี้เชียว?

ได้ยินดังนั้นถังซินก็ลืมตาคู่แดงๆนั่นมองเขาในใจยิ่ง เจ็บปวดมากขึ้น“คุณหมายความว่าไง หาว่าฉันสร้างปัญหาเหรอ? ฉันก็ไม่อยากเลือกกินอย่างนี้ คุณมีสิทธิ์ อะไรมาพูดแบบนี้!

“ผมไม่ได้พูดแบบนั้น——

“คุณพูด! ท่าทางของคุณ คำพูดมันบอกว่ากำลังว่า ฉันว่าชอบก่อเรื่อง! “ถังซินร้องไห้หนักยิ่งขึ้น แค่ส้มกี่ อัน ทำไมคุณไม่ขายให้ฉัน?”

“ผมไม่รู้ว่าคือคุณที่ให้คนโทรไปที่สวน”มู่เฉินหย่วน อธิบายให้หล่อนฟังอย่างใจเย็นแล้วเอามือคลำหาบัตร แล้วสแกนไปที่ประตูเข้าไปก่อน ข้างนอกหนาว”

ถังซินถาม “งั้นทำไมคุณเอาผู้ช่วยฉันออกไปล่ะ?”

มู่เฉินหย่วนโตมาขนาดนี้ ทุกครั้งที่ลำบากใจล้วนแต่ เป็นเพราะโดนผู้หญิงคนนี้บีบบังคับ หมดหนทางจริงๆ

เขาผลักประตู สายตานิ่งๆยังจ้องไปที่ตัวถังซิน“ถ้า คุณยังไม่เข้ามาอีก ผมจะไม่สนคุณแล้ว แล้วผมจะโทร ให้คนไม่ต้องเอาส้มมาให้และจะบอกผู้ช่วยจางไม่ต้อง ซื้อซาลาเปาไส้เต้าหู้มา ให้กลับไปเลย”

ถังซินได้ยินก็ตกใจจึงหมุนตัวเข้าไป

สายตาของมู่เฉินหย่วนแฝงไปด้วยรอยยิ้ม ถ้ารู้ว่าเป็น แบบนี้ก็คงใช้วิธีนี้ไปนานแล้ว
ตอนที่เปลี่ยนรองเท้าตรงทางเข้า สายตาถังซินก็ เหมือนเรดาร์มองไปรอบๆ ในหัวก็มีภาพรองเท้าส้นสูง ของผู้หญิงกับรองเท้า เป็นต้น แล้วในใจก็รู้สึกประหม่า ขึ้นมา

เขาเคยพาผู้หญิงคนอื่นมาไหม?

จากนั้นก็มองรอบๆแล้วถังซินก็เปิดตู้รองเท้าออกมา ดู แต่ไม่เห็นรองเท้าผู้หญิง มีแค่รองเท้าของแขกหนึ่งคู่ เป็นรองเท้าแตะผู้หญิงสีน้ำเงินอ่อนไซส์37

เห็นว่าเป็นรองเท้าแตะที่เมื่อก่อนตัวเองใส่คู่นั้น ถังซิน จึงโล่งใจขึ้นมา

ถังซินเปลี่ยนรองเท้าคู่นั้นพอถึงห้องรับแขกก็เห็นตัว กลมๆขาวๆวิ่งเข้ามา จากนั้นก็ทำเป็นแกล้งเข้ามาชนล้ม ลงไปที่รองเท้าหล่อน

ถังซินใจเย็นแล้วก้มลงมองถึงเห็นว่าเป็นแมวแร็กด อลล์ขนนุ่ม ตอนที่เข้ามาถูไถรองเท้าแตะก็หมุนตัวแล้ว ใช้ตาสีน้ำเงินนั่นจ้องหล่อนแล้วร้องเมี้ยวออกมา

“พระเจ้า แค่ไม่กี่เดือน โตไวขนาดนี้เชียว? “ถังซินก้ มลงไปลูบมัน คิดถึงตอนที่ตัวเองจากมามันยังตัวเล็กๆ กลมๆ ตอนนี้ตัวใหญ่จนคิดไม่ถึง

พอเห็นแมวแรกดอลที่น่ารักขนาดนี้ ถังซินก็ทนไม่ไหว ที่จะอุ้มขึ้นมาลูบแล้วฟัดมันแรงๆ
ยังไม่ทันฟัดไปได้เท่าไหร่ หมาพันธุ์อัลเซเซียนสูง ใหญ่ก็เข้ามาที่ด้านหน้าหล่อน แต่ไม่ได้ร้องออกมา แค่ เห็นหล่อนหางของมันก็ดีใจแล้วก็เอาหัวมาถูไถขาของ หล่อน

“ไง ไม่เจอกันนาน”ถังซินก็ลูบหัวมันแล้วพูดว่า“แค่ไม่ กี่เดือนเอง ท่าทางดุร้ายนี่อีกแปปก็จะสู้พ่อได้แล้ว”

มู่เฉินหย่วนเข้ามาพอดีได้ยินถังซินพูดแบบนี้ก็ยิ้ม มุมปาก“แค่สองอาทิตย์ก็กินอาหารหมาพิเศษหนึ่งถุง สองโลจนหมดและยังมีอาหารกระป๋องที่บำรุงอีกหลาย ประเภท เป็นผมกินพวกนี้ก็โตไว”

พอหมาเห็นมู่เฉินหย่วนก็ดีใจจนเห่าออกมาแล้วก็ เข้าไปกระโดดรอบๆเขา

สีหน้ามู่เฉินหย่วนเปลี่ยนไปนิดๆ

แม้ว่าจะอยู่ด้วยกันไม่กี่เดือนและเลี้ยงหมาจนโต เขา ก็ยังไม่ชินที่จะโดนสัตว์พวกนี้มาคลอเคลีย

เขาโบกมือมองหมาด้วยสายตาเคร่งขรึม

ถังซินเห็นหางมันตกลง ถอยหลังไปสองสามก้าว เงียบลง ยังไงก็เป็นหมาที่คุณเลี้ยง คุณอย่าเอาท่าทาง ที่ทำกับพนักงานมาทำกับมันไหม? คุณดูสิมันกลัวคุณ แล้ว”

หล่อนอุ้มมันไปนั่งที่โซฟาแล้วพูดกับหมาว่า“จาวฉัยมานี่ พี่รักหนูนะ!

มันเหมือนเข้าใจจึงส่ายหางแล้ววิ่งไปที่ถังซิน

ถังซินหยิบบอลของเล่นที่อยู่บนพรมแล้วใช้แรงปาไป ที่สระว่ายน้ำข้างนอก จากนั้นหมาก็รีบวิ่งตามไป พองับ บอลได้ก็วิ่งกลับมาหาถังซิน ถังซินจึงโยนออกไปอีก

มู่เฉินหย่วนไปหยิบน้ำโซดาในตู้เย็น พอกลับมาก็เห็น ถังซินกับหมากำลังเล่นกันอย่างสนุกสนาน ส่วนแมวสี ขาวนั่นไต่ไปบนขาหล่อนอย่างอ่อนโยน ดูสวยงาม

เขายืนอยู่นั่นไม่ได้ไปไหน ดื่มน้ำไปอีกนึง สายตา กลอกไปมามองไปที่ถังซิน

เห็นท่าทางของหล่อน ผมหน้าม้าปลิวไปที่หลังหู ติด ไปบนแก้มนุ่มๆชมพูนั่น มองด้านข้างหล่อน ฟังเสียง หัวเราะเล็กๆของหล่อน ท่าทางที่หล่อนอยู่ในใจเขายิ่ง ชัดเจนมากขึ้น

เขาก็คิดขึ้นมา ถ้ามีลูก หล่อนต้องอยู่เล่นกับลูกอย่าง อ่อนโยนแบบนี้แน่

ตอนที่เด็กๆแย่งของเล่นจนเอะอะเสียงดัง หล่อนก็ จ้องเขา บอกให้เขาอย่ายืนอยู่นั่น รีบมาช่วยกัน

คิดถึงเรื่องที่ยังห่างไกลอยู่นั้น ในใจของเขาก็ร้อนขึ้นมา
ทันใดนั้นเขาก็นิ่งไป ตอนนั้นยืนหยัดอยากหา ประสบการณ์ชีวิต เพราะว่าเขาขาดความรักไปครึ่งนึง

ความรักครึ่งนึงนี้ ตอนนี้ก็สามารถให้คนรักเอาลูกมา เติมเต็ม

มู่เฉินหย่วนคิดเหม่อลอยแล้วก็ได้ยินเสียงถังซินร้อง ออกมา เห็นหล่อนลูบแมวบนขาแล้วพูดอย่างโกรธๆ ว่า“โอ้ย อย่ามาถีบฉัน ไม่งั้นฉันโกรธละนะ!

แมวนี่ไม่ใช่ว่าว่านอนสอนง่ายเหรอ? อยู่กับเขามา นานขนาดนั้นยังไม่เคยเตะเขาเลย

กลัวว่าแมวจะข่วนถังซิน มู่เฉินหย่วนเลยวางแก้วน้ำลง แล้วก้าวเท้ายาวเดินเข้าไปแล้วอุ้มมันขึ้นมา “คุณจากไป นาน มันน่าจะกลัว โดนคุณกอดแน่นมันเลยถีบเข้าให้

ถังซินงงไป จากนั้นหน้าก็แดง

แมวยังไม่ทันทำอะไรหล่อน เป็นลูกในท้องที่ถีบหล่อน ต่างหาก ไม่รู้ว่าเป็นเพราะหล่อนหิวจัดเลยเอะอะขึ้นมา หรือเปล่า คิดไม่ถึงว่าเขาจะเข้าใจผิดว่าแมวถีบหล่อน

“ฉันหิวแล้ว มีขนมให้กินไหม? “ถังซินพูดขึ้นมาอย่าง

ธรรมชาติ

“ผมไปดูให้”

มู่เฉินหย่วนไม่ค่อยกินอยู่ที่บ้าน ปกติก็จะมีแม่บ้านเข้ามาทำความสะอาด แมวกับหมาและก็ของใช้ทั่วไปต่าง ก็เป็นผู้ช่วยจางที่จัดการให้เขา ไม่รู้จริงๆว่ามีขนมอะไร ไหม


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ