ฉันเป็นสุดที่รักของประธานมู่! ?

บทที่319 คนมีเสมอภาคกันตั้งแต่เกิดมาหรอ



บทที่319 คนมีเสมอภาคกันตั้งแต่เกิดมาหรอ

เรื่องอุบัติเหตุทางรถยนต์ของคุณพ่อลู่ได้ถูกตระกูลลู่ ปิดไว้ จึงไม่มีสื่อมวลชนหรือสำนักพิมพ์ไหนรู้เรื่องนี้ พิธี ฝังศพก็เชิญแต่ญาติและเพื่อนสนิท

ถังซินสวมชุดกระโปรงดำทั้งตัว ไปที่สุสานพร้อมกัน กับมู่เฉินหย่วนและเพื่อนๆ

หลังจากที่ลงรถ ถังซินก็เห็นลู่เหวินซูและคุณแม่ลู่แต่ ไกล สีหน้าของคุณแม่ลู่นั้นซีดเซียว การตายของคุณ พ่อลู่ เหมือนกับทำให้ให้เธอแก่มากขึ้นในทุกคืน

คุณพ่อลู่ได้รับคำสรรเสริญจากคนภายนอกอย่างมาก ว่าเป็นคู่สามีที่รักกันมาก ถังซินได้ยินมู่เฉินหย่วนพูดว่า อุบัติเหตุทางรถยนต์ของคุณพ่อลู่ในวันนั้น คุณแม่ลู่รีบ ไปที่โรงพยาบาลและกอดศพของคุณพ่อลู่ร้องไห้ทั้งคืน

ข้างๆลู่เหวินซูก็มีหลี่ซูเจี่ยืนอยู่ สวมชุดกระโปรงสีดำ ทั้งตัว สวมหมวกตาข่ายผ้าสีดำเพื่อบดบังใบหน้าอัน เรียวเล็ก ริมฝีปากเธอขยับบ้างเป็นบางครั้ง เหมือนกับ กำลังปลอบขวัญคุณแม่ลู่ แต่สีหน้ากลับไม่ทุกข์ไม่สุข

ถังซินละสายตากลับมาและทอดถอนใจเบาๆ

ก็ถือว่าคุณพ่อลู่ทำเรื่องที่รับไม่ได้พวกนั้น ถึงอย่างไร ก็เป็นสามีคุณแม่ลู่มาหลายสิบปี และยังเป็นพ่อของลู่เห วินซู ถ้าคุณแม่ลู่รู้ความจริง จะยอมให้อภัยหลี่ซูเจ๋ได้ยัง ไง
เมื่อเห็นพวกวี่เหวินถิงมาแล้ว ลู่เหวินซูจึงเข้ามา ต้อนรับแขก

พี่ใหญ่ พี่รอง นอกจากแววตาเท่านั้นที่ไร้ซึ่งความ เปล่งประกาย นอกนั้นลู่เหวินซูยังดูมีชีวิตชีวาอยู่มาก เส้นเสียงแหบแห้งเล็กน้อย “ต้องให้พวกพี่เสียเวลามาที่ นี่โดยเฉพาะ”

วี่เหวินถิงตบที่ไหล่ของเขาและเอ่ยขึ้นว่า “ระงับความ โศกเศร้า”

“ฉันไม่ค่อยเศร้าเท่าไหร่แล้ว” ลู่เหวินซูยักไหล่และชำ เรื่องมองไปทางนั้น จากนั้นจึงพูดอย่างเหน็บแนมขึ้นว่า “ลับหลังเขาทำเรื่องพวกนั้น ตายแบบนี้ ไม่แน่ว่าอาจจะ เป็นการชดใช้กรรมจากสวรรค์”

เพราะว่าเรื่องนั้น เขาจึงเย็นชาเช่นนี้กับคุณพ่อลู่ และ ไม่อยากสืบช่วงบริษัทของตระกูล

พิธีฝังศพเริ่มเก้าโมง

ทุกคนยืนนิ่งสงบอยู่ข้างๆ หลังจากที่ฝังศพของคุณ พ่อลู่แล้ว ก็ขึ้นไปร่วมพิธีงานศพตามลำดับ

คนที่มามีไม่มาก พิธีฝังศพจึงใช้เวลาเพียงหนึ่งชั่วโมง ก็เสร็จสิ้น

ก่อนกลับ ถังซินจึงมองไปทางหลี่ซูเจ๋ และปล่อยมือ มู่เฉินหย่วน บอกเขาด้วยเสียงเบาๆว่า “คุณไปกับพวกเพื่อนๆก่อน ฉันจะไปทางโน่นหน่อย”

มู่เฉินหย่วนพยักหน้า

คุณแม่ลู่ควบคุมอารมณ์ตนเองไม่ได้ ยังยืนอยู่ที่ป้าย หน้าหลุมศพของคุณพ่อลู่ น้ำตาไหลอย่างเงียบๆโดยมี หลี่ซูเจยืนปลอบเธอไว้

“คุณป้า ระงับความโศกเศร้าเถอะค่ะ หลี่ซูเจ๊พูด ปลอบเธอ คนนอกไม่รู้ก็ไม่ได้หมายความว่าคนใน บริษัทจะไม่รู้ บริษัทยังต้องการคุณป้ากับเหวินซูนะคะ”

คุณแม่ลู่พยักหน้าและจับกุมมือหลี่ซูเจ๋ไว้แน่น “ซูเจ๋ โชคดีที่มีเธอ…ถ้าไม่มีเธอคอยอยู่เป็นเพื่อนฉัน ฉันไม่รู้ จริงๆว่าจะอดทนต่อไปได้ยังไง

“ไม่เพียงแค่ฉัน เหวินซูก็เป็นห่วงคุณป้ามากนะคะ”

หลังจากที่ถังซินเดินเข้ามาใกล้ จึงได้ยินหลี่ซูเจ๋พูด ปลอบขวัญคุณแม่ลู่เบาๆ เธอจึงยืนอยู่ตรงนั้นไม่เข้าไป รบกวน จนกระทั่งหลี่ เจ่ให้คนมาพาตัวคุณแม่ กลับไป จึงเดินเข้าไปหาเธอ

ถังซินทำเสียงถอนหายใจ “ยังต้องให้เธอมาปลอบ คุณป้าลู่…ในใจคงเจ็บปวดมากสินะ”

“เธอรู้เรื่องทั้งหมดแล้วหรอ?”

“อืม พี่รองบอกฉันหมดแล้ว” ทั้งสองคนจึงเดินห่างออกไปข้างนอก ถังชินพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน “จิตใจเธอดีมากจริงๆ ไม่ได้เอาความแค้นพาลใส่คนทั้ง ตระกูลลู่”

หลี่ซูเจ๋ยิ้มหัวเราะอยู่สักครู่ รอยยิ้มมีความเจ็บปวด เล็กน้อย “ทำไมฉันจะไม่อยากหล่ะ? ฉันอยากมากเลย… แต่คุณแม่ลู่และลู่เหวินซูไม่รู้เรื่องเบื้องหลังแม้แต่นิด เดียว คนที่ฉันจะแก้แค้นก็มีเพียงแค่ลู่ลี่เฉิง”

ใครใช้ให้ตอนแรกลู่เหวินซูมากันกระสุนไว้ ทำให้เธอ ใจอ่อน จึงทำร้ายไม่ลง

เมื่อตอนที่รีบเร่งไปโรงพยาบาลกับลู่เหวินซู และเมื่อ เห็นศพของลู่ลี่เฉิง ในใจของเธอก็ปรากฎความรู้สึกที่มี ความสุข คิดว่าสุดท้ายตนเองก็แก้แค้นให้กับพี่สาวและ พ่อแม่ได้สําเร็จแล้ว

แต่เมื่อเธอได้เห็นคุณแม่ลู่ร้องไห้อย่างเจ็บปวดและ ความเงียบเหงาหงอยไร้ชีวิตชีวาของลู่เหวินซู ความ รู้สึกที่มีความสุขนั้นก็ถูกความรู้สึกทุกข์ใจจากความ ละอายเข้ามาแทนที่ ทำให้เธอไม่ชอบเป็นอย่างมาก

แม้กระทั่งรู้สึกเสียใจภายหลังที่ตนเองได้เข้าไปมีส่วน ร่วมในการแก้แค้นครั้งนี้

ถ้าในตอนแรกเธอว่าจ้างผู้หญิงฉลาดๆสักคน เข้าไป ใกล้ชิดลู่เหวินซูแทนตัวเอง และแก้แค้นได้สำเร็จก็ ดีแล้ว
หลี่ซูเจ๋หยุดเดิน มองมาที่ถังซิน และเอ่ยขอโทษด้วย เสียงเบาๆ “ขอโทษนะซินซิน เรื่องนี้…จริงๆแล้วฉันใกล้ ชิดเธอก็เพราะมีเป้าหมาย และหลอกใช้เธอ”

“ไม่เป็นไร ฉันไม่ได้โกรธเธอ” ถังซินยิ้มออกมาเล็ก น้อย และโอบกอดเธอไว้เบาๆ “เรื่องแบบนั้น ตัวเธอเอง ยังไม่สามารถที่จะรับได้ แล้วจะพูดให้คนอื่นฟังได้ยัง ไง? ฉันเข้าใจเธอหมดทุกอย่าง”

“ซินซิน…”

“ฉันเห็นเธอเป็นเพื่อนฉันมาตลอด นางฟ้าน้อยที่มี ความสุขเหมือนดั่งดวงอาทิตย์คนนั้น” ถังซินเอ่ยขึ้น “ฉันหวังว่าต่อจากนี้ความสัมพันธ์แบบนี้ของพวกเราก็จะ ไม่เปลี่ยนแปลงไป ได้มั้ย?”

ความเข้าใจและคำพูดที่อ่อนโยนของถังซิน ทำให้หลี่ ซูเจ๋น้ำตาคลอเบ้า และสุดท้ายก็กลั้นไว้ไม่ได้จึงร้องไห้ ออกมา

“ฉันทุกข์ใจมากจริงๆ…”หลี่ซูเจ๋ฟุบก้มหน้าลงที่ไหล่ ของเธอและร้องไห้คร่ำครวญ เพียงแค่หนึ่งในพวก เขาซักคนพูดห้ามออกมา พี่สาวฉันก็คงจะไม่เป็นอะไร ทำไม…?”

“ตอนที่เรียนหนังสือ คุณครูบอกว่า คนเราเกิดมา เสมอภาคกัน ไม่มีความแตกต่าง สอนฉันให้เป็นคน จิตใจดี ฉันจดจำคำพูดของคุณครูได้ขึ้นใจ แต่ว่าฉันได้ รับอะไร?”
“เพราะว่าพ่อของเด็กผู้หญิงคนนั้นเป็นผู้อาวุโสSHI ดังนั้นโรงเรียนจึงเปลี่ยนข้อมูลที่เก็บเข้าแฟ้มของฉัน ทําให้ฉันหมดสิทธิ์ที่จะมีโอกาสไปเรียนต่อต่างประเทศ ก็เพราะว่าพี่สาวของฉันหน้าตาสวยมาก ครอบครัวฉัน ไม่มีอำนาจและอิทธิพล ดังนั้นหลังจากที่เธอฆ่าตัวตาย คนพวกนั้นแค่กระดิกปลายนิ้วก็สามารถปิดข่าวได้แล้ว คุกคามจนทำให้พ่อกับแม่ฉันตาย”

“ก็เพราะว่าฉันไม่มีคนรู้จักใคร ไม่มีใครให้พึ่งพิง พวก เขาจึงขู่เข็ญฉันตามอำเภอใจอย่างไม่เกรงกลัวใดๆ บอกว่าอยากฆ่าฉันเหมือนกับบึ้มดให้ตายอย่างง่ายดาย บังคับขู่เข็ญจนลุงฉันต้องรับเงินค่าปิดปาก

หลี่ซูเจ๋ร้องไห้จนน้ำตานองเต็มหน้า เสียงสะอึก สะอื้น “ฉันประสบกับความเคราะห์ร้ายที่ไม่ยุติธรรมมา มากมาย ทำไมถึงยังต้องจิตใจดี ยังจะต้องเชื่อว่าทุกคน เท่าเทียมกันหรอ? คนที่อ่อนแอก็คือคนที่ไม่มีอำนาจ”

ต่อให้เธอจะสามารถแก้แค้นได้ แต่ก็เป็นเพราะว่า หลินเฉิงจี๋เป็นคนแอบช่วยเธอทั้งหมด

ตัวเธอเองไม่มีอะไรซักอย่าง

ถังซินฟังจนแทบจะร้องไห้ ใช้มือตบไปที่หลังของเธอ เพื่อปลอบโยน “ขอโทษ ที่ไม่ได้พบเจอกับเธอเร็วกว่านี้ ทำให้เธอได้รับความไม่เป็นธรรมมากมายขนาดนี้”

หลี่ซูเจ๋ร้องไห้เสียงอู้อี้ น้ำตาหยดลงไปที่บนไหล่ของ ถังซินทำให้เสื้อบริเวณนั้นเปียกชื้น
โลกใบนี้มีความไม่ยุติธรรมอยู่มากมาย

คนที่มีอำนาจและอิทธิพลล้วนกำเริบเสิบสาน เที่ยว ใช้อำนาจบาตรใหญ่ คนไม่มีอำนาจและอิทธิพล ต่อให้ ลูกสาวตายแล้ว และอยากที่ทวงความเป็นธรรมให้กับ ลูกสาวของตนเอง กลับต้องถูกทำให้อับอายขายหน้า จนฆ่าตัวตาย

ครอบครัวที่มีความสุขของเธอ ชีวิตที่เต็มไปด้วย ความชื่นมื่น ได้ถูกทำลายล้างไป ก็เพราะคนหกคนที่มี นํานาจและอิทธิพล

ถังซินอยู่เป็นเพื่อนเธออย่างเงียบๆ ฟังเธอร้องไห้ ทำให้เธอระบายอารมณ์ออกมาอย่างเต็มที่

หลังจากที่หลี่ซูเจ๋ร้องไห้พอแล้ว ดวงตาจึงบวมแดง

เครื่องสำอางก็ได้หลุดออกหมดแล้ว

ถังซินใช้กระดาษเปียกเช็ดที่หน้าเธอเบาๆ “พวกเราดู ออกหมดว่าเหวินซูชอบเธอจริงๆ”

หลี่ซูเจ๋เม้มริมฝีปาก และพูดด้วยเสียงแหบแห้ง “ฉัน

ถังซินทอดถอนหายใจเบาๆ เธอไม่อยากที่จะไปคาด เดาความหมายที่ซ่อนอยู่ในคำพูดของหลี่ซูเจ๋ จึงเอ่ยขึ้น ว่า “ลู่ลี่เฉิงตายแล้ว ยังมีอีกห้าคน ยังต้องแก้แค้นมั้ย?”

“แก้แค้น!” ในแววตาของหลี่ซูเจ่แสดงถึงความเกลียดชัง ต่อให้พวกเขาตายเป็นหมื่นครั้งก็สมน้ำหน้า!

“ให้ฉันช่วยเธอมั้ย?”

หลี่ซูเจ๋ส่ายหน้า “ขอบคุณ แต่ฉันละอายใจต่อเธอ มากพอแล้ว ไม่อยากที่จะลากเธอเข้ามาเกี่ยวข้องอีก”

“ได้” ถังซินก็ไม่ฝืนใจเธอ

ทั้งสองคนคุยกันไปสักครู่ ก็ออกไปด้วยกัน และได้ พบกับลู่เหวินซูที่หน้าประตูทางเข้าสุสาน

ลู่เหวินซูพึ่งส่งพวกเพื่อนๆเสร็จ จึงกลับมารับหลี่ซูเจ๋ เห็นเธอตาแดง จึงทำท่าขมวดคิ้ว

ถังซินบอกว่ารถรออยู่ด้านนอก จึงเดินไปก่อน

“เป็นอะไร?” ลู่เหวินซูก้าวออกมาใช้มือโอบที่หน้าของ เธอและมองดูอย่างละเอียด “ร้องจนตาบวมแดงแล้ว”

เจีจีงพูดโกหก นว่า “คุยกับซินซินเกี่ยวกับเรื่อง ที่คนในครอบครัวฉันตายแล้ว ทนไม่ได้จึงร้องไห้ออก มาแค่นั้นเอง”

ลู่เหวินซูจูบที่แก้มของเธอ และพูดอย่างสงสารว่า “สองวันมานี้ลำบากเธอแล้วหล่ะ เมื่อคืนก็อยู่เป็นเพื่อน แม่ฉันทั้งคืน แม่กลับไปกับคนใช้แล้ว ฉันจะไปส่งเธอ กลับไปนอนให้สบายๆซักตื่น”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ