ฉันเป็นสุดที่รักของประธานมู่! ?

บทที่ 77 ที่รักอันเป็นแก้วตาดวงใจ



บทที่ 77 ที่รักอันเป็นแก้วตาดวงใจ

ทันใดนั้น ประตูห้องก็ได้ถูกเคาะส่งเสียงดังออกมา ทําให้ถัง นตกใจมาก คิดในใจว่าคนข้างหน้าคงไม่ปกติ มีกริ่งประตูให้กดแต่กลับไม่กด

จู่ซือซือที่สวมชุดกระโปรงฟูระย้าสีแดงทั้งตัวได้พุ่ง เข้ามาอย่างเดือดดาล ถังขนคิดว่าถ้าเป็นคนอื่นเคาะคง ผิดปกติแน่ๆ แต่ถ้าเป็นคู่ซือซือเธอสามารถเข้าใจได้

ก่อนหน้านี้ที่จู่ซือซือไปที่คฤหาสน์ของมู่เฉินหยวน ก็ไม่กดกริ่งประตูเหมือนเช่นตอนนี้ พยายามที่จะเคาะ ประตู

เจ้าหญิงน้อยช่างตามใจตนเองจริงๆ

“พี่เฉิน ทําไมถึงให้ฉันไปศึกษาเพิ่มที่ประเทศM?” จู่ ขอขอพูดโดยไม่สนใจใครใดๆ เมื่อเข้ามาก็ลงไปนั่งที่ กของ เฉินหย่วน และพูดด้วยความน้อยใจเป็นอย่าง มาก ฉันไม่อยากไป

เธอมาที่ประเทศตุรกีด้วยความโกรธและเพื่อที่อยาก จะสั่งสอนถังขิน ใครจะไปรู้ว่าจะถูกถังซินเอาคืน เมื่อ ออกแรงเอาเชือกที่มัดอยู่ในมือออก ก็มีชายคนหนึ่งพุ่ง เข้ามาทําให้เธอหมดสติลง

จู่ อ อกลับมามีสติอีกครั้งก็คือเช้าของวันนี้ เธอนอน อยู่ที่ห้องของหมาป่า หมาป่าบอกเธอว่าป้อนยาให้เธอ กินและตอนนี้ร่างกายเธอไม่เป็นอะไรแล้ว ทานอาหาร เช้าเสร็จก็ต้องเดินทางออกไปขึ้นเครื่องบิน

มู่เฉินหย่วนออกค่าสั่งส่งเธอไปศึกษาที่ประเทศMครึ่ง ปี

“ไม่ไปก็ต้องไป” มู่เฉินหยวนไม่ทำให้เธอรู้สึกดีขึ้น น้ำ เสียงยังเย็นชามากขึ้น “ภาพยนตร์และละครโทรทัศน์ที อยู่ในความรับผิดชอบของเธอ ฉันให้คนปลดออกแล้ว รอให้เธอกลับมาฉันจะให้นายหน้าใหม่กับเธออีกครั้ง”

“พี่เฉิน พี่กำลังแกล้งคนอื่นอยู่นะ!” ซือซือเอะอะ โวยวาย แค่เห็นว่าฉันขัดหูขัดตาจึงอยากที่จะส่งตัวฉัน ไปไกลไกล

ถ้ายังวุ่นวายอีก ฉันจะเพิ่มระยะเวลาการไปศึกษาต่อ

“ อ อ พี่เฉิน ไม่รักฉันแล้ว” จู่ซือซือดวงตาแดง เสียงพูดคล้ายกับจะร้องไห้ “มีใครเขาท่ากับ รักอันเป็น แก้วตาดวงใจแบบนี้” “ดอกคอก” แค่คําว่า รักอันเป็นแก้วตาดวงใจ ถังซิน แทบจะทนไม่ได้จริงๆ จึงสําลักแซนวิชออกมา ต้องกิน น้ำส้มอีกใหญ่ถึงจะกลืนลงไปได้

และเมื่อซือซือหันหน้ามามองถังซิน จึงพูดขึ้นว่า “นังหมาจิ้งจอกน่ารังเกียจ”

เป็นเพราะผู้หญิงคนนี้ทำให้เธอดูน่าสมเพช

“ถูกคุณจู่ด่าว่าเป็นหมาจิ้งจอก ดูแล้วหน้าตาของฉัน สะสวยพอใช้ได้เลย” ถังซินไม่โกรธ เธอยิ้มและพูด ขึ้นว่า “แก้ไขให้ถูกต้องนิดนึง หมาจิ้งจอก แต่ไม่น่า รังเกียจ”

ฉันจะพูดอะไรมันก็เรื่องของฉัน “เธอมายุ่งอะไรด้วย!

ซือ อถลึงตาโดด่าเธอ ฉันบอกแล้วเธอมันร้ายลึก แสร้งทำเป็นใสซื่อ แต่ข้างในนั้นชั่วร้าย หรือเธอไม่ใช่?”

“หุบปากซะ” เฉินหยวนพูดออกมา น้ำเสียงแฝงไป ด้วยความบังคับกดดัน

จ่อ อเบะริมฝีปากอันแดงก่า และน้อยใจเป็นอย่าง

มาก น้อยใจจนอยากจะร้องไห้ออกมา

จริงๆต้องโทษผู้หญิงคนนี้ ที่ร้ายกับเธอ ทำร้ายเธอจน เกือบจะกินไม่เลือก แล้วยังต้องถูกส่งไปศึกษาต่ออีก

“พี่เฉิน ฉันไม่อยากไปศึกษาต่อ” จู่ซือซืออัดอั้นอยู่ซัก ครูจึงกล้าที่จะพูดออกมา “พี่เฉิน พี่จะเปลี่ยนผู้ช่วยนาย หน้าหรืออะไรก็ได้หมด ยังไงฉันก็ไม่ไปศึกษาต่อ

เฉินหยวนไม่สนใจเธอ เขาเพียงแค่ตะโกนออกมาว่า “ผู้ป่วยจาง”

“ครับ ประธานมู

ไม่เฉพาะแต่จู่ซือซือที่กลัดกลุ้มใจแต่ถังซินก็เป็น เหมือนกัน มู่เฉินหยวนไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก ผู้ช่วย จางก็รับรู้และเข้าใจคำพูดของเฉินหย่วนได้ด้วยตนเอง

หลังจากนั้นไม่นาน ถังซินก็เห็นผู้ช่วยจางได้ปรากฏ ตัวออกมาอีกครั้ง ในมือถือไม้บรรทัตโปร่งใสหนึ่งอัน ซึ่งมีขนาดยาวมาก จู่ซือซือที่นั่งอยู่บนตักมู่เฉินหยวน เมื่อเห็นไม้บรรทัดอันนี้ใบหน้าอันเรียวเล็กของเธอก็ซีด ลง “พี่เฉิน ฉันผิดเอง ฉันไม่ควรแอบมาที่นี่ แต่ฉันคิดถึง พี่มากนะและก็ไม่ได้ทำให้เสียเวลาทำงาน” จู่ซือซือ พยายามออดอ้อน “ฉันกลับไปจะเขียนหนังสือประเมิน ข้อบกพร่องของตนเอง บฉบับ ไม่ไม่ ห้าสิบฉบับ!”

มู่เฉินหย่วนยกตัวเธอลงจากบนตัก สีหน้าไม่แสดง ความรู้สึกใดๆ

“กฏเกณฑ์เดิม”

“อือฮือ พี่เฉิน ขายขี้หน้ามาก ไม่ต้องแล้ว” จู่ซือซือกัม หัวต่ำลง มือชี้ไปทางถังซิ่น “เป็นเพราะผู้หญิงคนแกล้ง ฉันชัดๆ…ฉัน”

เมื่อเห็นแววตาของมู่เฉินหยวนเย็นชาและเคร่งขรึม อย่างเต็มที่ เธอจึงเบะปาก แล้วเดินไปที่ผู้ช่วยจาง

ผู้ช่วยจางหยิบเบาะนั่งมาวางไว้ที่พื้นหนึ่งผืน

ถังซินยิ้มหัวเราะ เธอคิดว่าเฉินหย่วนจะลงโทษจู่ อ อแค่การเขียนหนังสือประเมินข้อบกพร่องของ ตนเองและการบินทำโทษ แต่ตอนนี้ยังสามารถเห็น อข้อหาเสียงไม่พอใจที่จะต้องถูกนั่งคุกเข่าลงบนเบาะ มู่เฉินหยวนนั่งไขว่ห้าง และพูดออกมาด้วยเสียง ห้วนๆ เขียนด้วยมือห้าสิบฉบับ”

ห้าสิบหรอ” จูซือซือเอามือที่กำลังยกขึ้นวางลงอย่าง ทันทีทันใด ใบน่าซีดอย่างน่าสงสาร “พี่เฉิน มือฉันอ่อน นุ่มขนาดนี้ พี่จะทนเห็นฉันเขียนห้าสิบฉบับหรอ?”

“เมื่อก่อนอย่างมากแค่สืบฉบับ พี่เฉิน ตอนนี้พี่เพิ่มขึ้น มาห้าเท่า

“อือฮือ พี่เฉิน พี่นี่เป็นเจ้านายที่ขูดรีดพนักงานจริงๆ เลย”

มู่เฉินหยวนถูกเธออาละวาดจนคิ้วขมวดเข้าด้วยกัน เขาเอานิ้วจับหน้าผากและหันไปมองทางถังซิน “คุณถัง คุณคิดว่าเท่าไหร่ถึงจะเหมาะสม?”

ถังซีนแทบจะสําลักอาหาร

ลง คุณจะสั่งสอนคนก็สั่งสอนไป จะลากฉันเข้าไปยุ่ง

ขอขอมองถึงขินด้วยแววตาที่อยากจะฆ่าคน เหมือน กับว่าถ้าเธอกล้าพูดไม่ได้ ออกมา ฉันจะฆ่าเธอแน่ “ฉันคิดว่าเขียนด้วยมือห้าสิบฉบับเป็นความคิดที่ดี มาก” ถังซีนไม่สนใจสายตาของเธอ พูดออกไปด้วย เสียงเบาๆ เธอไม่ลืมเรื่องที่ก่อนหน้านี้ที่จู่ซือซือได้เอา ลูกกอล์ฟตีมา บนเข่าของเธอ

ถังซิน” ซีออเดือดเป็นฟืนเป็นไฟจนสามารถถลก หนังถังซินได้ “เธอคอยดูเถอะ!”

มู่เฉินหย่วนพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา “จะไป ศึกษาต่อที่ประเทศM หรือจะเขียนห้าสิบฉบับ เลือก เอง”

ไป กษาตอน่าเบื่อขนาดนั้น เธอไม่ไปหรอก

ซือซือมองมู่เฉินหยวนตาปริบๆ เมื่อเห็นผู้ชายคนนี้ ไม่ปกป้องเธอจริงๆเธอจึงเบะปาก มือทั้งสองข้างยกขึ้น เหนือหัว ไม้บรรทัดที่อยู่ในมือของผู้ช่วยจางได้ ลงไป อย่างแรง

“โอ๊ย เจ็บ!” จู๋ซือซือเป่ามือที่ถูกตีจนเจ็บและแดง

แต่ภายใต้แววตาที่เคร่งขรึมของเฉินหย่วนทำให้เธอ ต้องยกมือขึ้นอีก ห้องรับแขกที่เงียบสงัดได้มีเสียงใสดัง เป๊ะ! ด้งออก มา สองวินาทีดังขึ้นหนึ่งครั้ง ตีไปทั้งหมดยี่สิบสี่ครั้ง มือ ทั้งสองข้างของ ซือซือแดงระเรื่อ แทบจะยกไม่ขึ้นแล้ว

“ประธานมู่ คุณจู่ยังต้องแสดงละคร ตีไม่กี่ครั้งก็ พอแล้ว” ถังซินพูดขึ้น ดังสุภาษิตพูดไว้ว่า ทำอะไรต้อง ให้เกียรติและไมตรีจิตแก่ผู้อื่น วันข้างหน้าจะได้ติดต่อ สัมพันธ์กันอย่างดีอีกครั้ง เธอไม่อยากเป็นศัตรูกับจู่ ชือ อไปตลอด “พอแล้ว!”

ซือซือไม่ค่อยมั่นใจจึงพูดอย่างอึกอักออกไป ใช แล้ว ฉันกลับไปยังต้องไปถ่ายละครอีกนะ ถ้าขืนยังดี อีก สองมือต้องเสียมากแน่เลย แล้วจะถ่ายละครได้ อย่างไร”

มู่เฉินหยวนยิ้มอย่างเย็นชา “เจ็บสีดำ เพื่อที่จะได้ไม่ ลืม”

จ่อขอทําหายักไหล่

“ตอนบ่ายก็กลับไป อยู่ที่กองถ่ายถ่ายละคร ถ่ายเสร็จ ค่อยรับต่อ ไม่อนุญาตให้ไปไหนทั้งนั้น” มู่เฉินหยวนพูด ข้น “ถ้ามีครั้งหน้าอีก ฉันจะทำลายทั้งสองเท้าของเธอ ให้เสีย เข้าใจแล้วใช่มั้ย?” “เข้าใจแล้ว” จูซือซือพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง

“ไสหัวไป!”

ซือซือคุกเข่าอยู่นาน ทําให้เจ็บหัวเข่าจนลุกไม่ขึ้น ผู้ ช่วยจางประคองเธอขึ้นและส่งเธอที่หน้าประตู

“คุณ อ อ นี่คือยา ทาทุกวันวันละสามครั้ง ผู้ช่วย จางเอายายัดเข้าไปในถุง และพูดแนะนำ “คุณถังมี ความสําคัญกับประธานมู่มาก คุณอย่าได้มุ่งเป้าไปที่คุณ ถังเลย ไม่เช่นนั้นจะเป็นการแกว่งเท้าหาเสี้ยน

ไม่ใช่แค่พูดได้หลายภาษาหรือ จะไม่มีใครสู้ได้เลย หรอ” จู่ซือซือพูดอย่างไม่พอใจ “พี่เฉินจะเจรจาธุรกิจถึง กับบอกฉันไม่ได้เลยหรอ ฉันเป็นคนฉลาด เรียนรู้อะไร ได้ไว ทําไมจะต้องเอานังหมาจิ้งจอกน่ารังเกียจนั่น!”

ผู้ช่วยจางชะงักเงียบ

ซือซือเรียนรู้อะไรได้เร็วเขาเห็นด้วย แต่ถ้าบอกว่า เธอฉลาด เขาไม่ค่อยเห็นด้วยสักเท่าไหร่

“ผู้ช่วยจาง” กวนซิงเฟิงได้เดินเข้ามาพอดี ในมือถือ ถุงหนึ่งใบ เขามองไปทีทิศทางเดียว เหมือนกับแสร้ง ทําเป็นมองไม่เห็น ซือซือ “ประธานมู่อยู่ข้างในมั้ย?”

“กําลังกินอาหารเช้า

“งั้นก็ดี ผมมีของจะให้ประธาน

เมื่อเห็นสองคนคุยกัน ทิ้งให้ตนเองไม่มีตัวตน จู่ ซือซือผลักผู้ช่วยจางออก แล้วพูดด้วยความโกรธ “ไอ้ หมาป่าน่ารังเกียจ นายไม่เห็นว่าฉันก็อยู่ตรงนี้หรอ ตั้งใจมองข้ามฉันหรอ?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ