ฉันเป็นสุดที่รักของประธานมู่! ?

บทที่ 356 คุณหนูไม่สบายหรอคะ



บทที่ 356 คุณหนูไม่สบายหรอคะ

“ลู่เหวินซู ต่อไปนี้คุณอย่าขับรถตามใจชอบอีกนะ!”

“ตอนนี้ก็ไม่ได้ขับอยู่หรอ?”

“…คุณไปอาบน้ำเลยไป!” หลี่ซูเจ๋ถูกเขาโน้มน้าว อย่างไร้ยางอาย พร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงต่ำลง “ชั้นสอง ไม่ได้มีแค่พวกเราที่อยู่นะ คุณไม่อายแต่ฉันอาย”

ลู่เหวินซูกล่าวพร้อมข้อเรียกร้อง “งั้นคุณก็อย่าเรียก ชื่อผม ใช้คําอื่นสิ

“คุณก็ยังเรียกชื่อฉันได้เลยหนิ!”

“นั่นมันนานมาแล้ว” ลู่เหวินซูพูดไปด้วย พร้อมพาล จูบเธอไปด้วย เขาสูดดมจนจะกลายเป็นกลิ่นติดตัว เธอ “คุณเป็นของของผม นางฟ้าตัวน้อย ดวงใจดวง น้อย……เมียของผม”

หลี่ซูเจ๋ถูกเขายั่วเย้าไปยังก้นบึ้งของหัวใจ ใบหูแด งก่ำ “คุณ คุณไปอาบน้ำได้แล้ว”

“งั้นคุณเรียกผมก่อน”

“ลู่เหวินซู”

ลู่เหวินซูมองเธออย่างยิ้มเยาะครู่หนึ่ง “ไร้หัวใจจริงๆ เรียกให้มันจบๆ ไปงั้นหรอ?”
“เหวินซู?”

“เอาคำอื่น” ลู่เหวินซูกุมนิ้วทั้งสิบของเธอลงมาที่รอบ เอว พร้อมมองแก้มของเธอที่ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ ลูกกระเดือกที่เลื่อนไถลไปมา “เปลี่ยนเป็นคำที่น่าฟัง กว่านี้หน่อยสิ”

หลี่ซูเจ่หายใจหอบเล็กน้อย ใบหูที่แดงอ่อนๆ ก็ค่อยๆ แผ่ไปทั่วร่างกาย

“คุณ คุณมันหน้าไม่อาย”

” “อืม?

ภายใต้คำพูดไม่กี่คำที่ดิ้นรน เหงื่อได้ท่วมล้นไปทั่ว ร่างกาย เธอมองเขาด้วยสายตาที่แดงก่ำ เผชิญหน้า กับดวงตาที่เต็มไปด้วยความรักคู่นั้น ท้ายที่สุดเกราะ ต้านทานภายในจิตใจก็ได้พังทลายลง

เธอกล่าวอย่างไม่ชัดเจนด้วยน้ำเสียงที่เบา “คุณสามี”

ลู่เหวินซูได้ยินสองคำนั้นแล้ว ในดวงตาก็ยิ่งร้อนแรง ขึ้น

เขาแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน พร้อมโน้มช่วงตัวท่อนล่าง ลงถามเธอ “ที่รัก คุณพูดอีกครั้งซิ ผมไม่ได้ยิน”

หลี่ซูเจ๋เอาหัวโขกเขาไปหนึ่งที พร้อมกล่าวอย่างอุ่น เคือง “หูหนวกดีนัก สมน้ำหน้า! รีบไปอาบน้ำได้แล้ว!”
ลู่เหวินซูคว้าเธอเข้ามาไว้ในอ้อมกอด “อีกเดี๋ยวค่อย อาบ”

“หน้าไม่อาย!”

“ไปตามหาเมียก็ต้องหน้าด้านหน้าทนหน่อย” ลู่เหวิน ซูกล่าวแบบยิ้มกริ่ม “ถ้าไม่ด้านไม่ทนพอจะได้คุณมา หรอ?”

หลี่ซูเจ่นอนพลิกไปพลิกมา ตัวแดงก่ำไปทั้งร่าง

เธอใช้พละกำลังอย่างเต็มเปี่ยมถีบลู่เหวินซูไปยังอีก ด้านหนึ่งของเตียง พร้อมใช้สายตาข่มเขาไม่ให้ย่าง กรายเข้ามา เธอสูดลมหายใจพร้อมเอ่ยถามลู่เหวินซู “ประธานมู่รู้เรื่องมั้ย?”

“คุณหมายถึงเรื่องอะไร?”

“เรื่องที่ซือซือให้คุณหาเบอร์โทรศัพท์น่ะ”

“พักนี้พี่รองอารมณ์ไม่ค่อยดี ผมไม่อยากจะไปเป็น เป้าล่อหรอกนะ” แต่ลู่เหวินซูก็ยังคงมีจิตวิญญาณที่แร งกล้า “มิหนำซ้ำ นี่ยังเป็นเรื่องระหว่างซือซือกับกวนชิง เฟิง แล้วกวนชิงเฟิงก็เป็นคนนอกใจด้วย ผมยกโทษให้ ไม่ลงจริงๆ”

ระหว่างที่พูด เขาก็หันตัวมา พร้อมยื่นหลังมือไปจับคางของหลี่ซูเจ่แล้วมองเธอ “ที่รัก เรื่องไร้สาระพวกนี้ คุณไม่ต้องไปสนใจมันหรอก คิดว่าจะให้อะไรในวันเกิด ผมพรุ่งนี้ดีกว่า!”

หลี่ซูเจ่กล่าวด้วยเสียงต่ำ “ฉันไม่ได้ให้ดอกทานตะวัน คุณ เไปดอกนึงแล้วหรอ!”

“นั่นมันของขวัญวันคริสต์มาส ผมไม่นับ”

“งั้นคุณอยากได้อะไรล่ะ?”

“ที่รัก ของขวัญที่คุณจะให้ ถ้าผมบอกไปมันก็ไม่เซอร์ ไพรซ์สิ” ลู่เหวินซูงอนิ้วแล้วชี้ไปที่หน้าผากของเธอพลัน เคาะอย่างเบาๆ “แต่ว่า ในช่วงเวลาที่พิเศษแบบนี้ มันก็ ยืดหยุ่นกันได้”

สายตาของเขาเลื่อนต่ำลง

หลี่ซูเจ๋เข้าใจความหมายของเขา จึงรีบดึงผ้านวมมา ปิดบังร่างของตัวเองอย่างมิดชิด พร้อมพูดตัดบทเขา “ไม่ให้มองแล้ว! นอน พรุ่งนี้ฉันต้องเตรียมของขวัญให้ คุณอีก”

“ที่รัก คุณแน่ใจหรอว่าของที่คุณให้น่ะ จะเป็นของที่ ผมอยากได้?”

“จะเอาหรือไม่เอา ตาทึ่ม!”

หลังจากที่ถูกก่อกวนอยู่นาน หลี่ซูเจ๋ทั้งเหนื่อยทั้งง่วงจึงมองค้อนไปยังลู่เหวินซู พร้อมหันหลังกลับไปนอน

ลู่เหวินซูเลื่อนริมฝีปากขึ้นยิ้ม ก้าวเข้ามาเนิบๆ อย่าง ไร้ยางอายพร้อมโอบกอด ไม่ว่าเธอจะต่อสู้ดิ้นรน อย่างไรเขาก็ไม่ปล่อย จนกระทั่งเธอหลับคาอ้อมกอด ของเขา

เขารักผู้หญิงคนนี้จริงๆ รักอย่างมาก

ขณะที่หลี่ซูเจตื่นขึ้นมา ลู่เหวินซูก็ไม่ได้อยู่ข้างเธอ แล้ว คาดว่าน่าจะไปบริษัทตั้งแต่เช้า

เธอเดินไปยังห้องอาบน้ำ ได้เปลี่ยนบัตรโทรศัพท์อีก ใบอย่างรวดเร็ว พร้อมถ่ายหมายเลขที่อยู่บนกระดาษ ออกไป

โทรศัพท์ที่ถังซินเอาไปใช้ที่ต่างประเทศ เธอเป็นคน ซื้อบัตร เธอย่อมรู้เบอร์โทรในบัตรนั้น

ไม่นานโทรศัพท์ก็โทรติด หลี่ซูเจ๋ถามด้วยเสียงต่ำ “ซินซิน?”

“ไง แม่สาวน้อย ทำไมเธอถึงโทรมาได้ล่ะ?” ถังซิน ประหลาดใจอย่างชัดเจน

ถ้าหากเป็นถังซินรับสาย หลี่ซูเจ๋รู้ว่าเธอน่าจะไม่เป็น อะไร เลยสบายใจไปเฮือกหนึ่ง “เธอไม่ได้โทรไปหาจู่ซือซือแล้วหรอ? หล่อนไปหาลู่เหวินซูเพื่อขอที่อยู่ของ เธอ ฉันคิดว่าจะเกิดเรื่องกับเธอแล้วซะอีก”

“อันที่จริงฉันโทรหาชิงเฟิง ไม่นึงเลยว่าหล่อนจะรับ สาย” ถังซินกล่าว “มือที่ยืดยาวของจี้เจียจื้อ แม่แต่บัตร ของฉันก็ถูกอายัดได้ ฉันเกรงว่าเขาจะเป็นลูกมือของ ซือซือ ก็เลยวางสายไป

หลี่ซูเจ๋กล่าวอย่างงุนงง “เขาร้ายขนาดนั้นเลยหรอ?”

ถังซินถอนหายใจ “ใช่ ไม่เพียงแต่บัตรของฉันนะ แต่ ก่อนเขาก็อายัดบัตรของหลินเฉิงจี้ด้วย บนเอกสาร รับรองของหลินเฉิงจี้ได้วางหมากเอาไว้ ตอนนี้พวกเรา ก็ถูกปิดล้อมอยู่ที่ฝรั่งเศส”

“งั้นเดี๋ยวฉันไปหาพวกเธอเอง”

“ฉันไม่ได้มีเรื่องอะไรกับหลินเฉิงเจี๋ย แค่ไม่มีเงินเท่า นั้นแหละ” ถังซินปฏิเสธ “ฉันไม่อยากเป็นภาระเธอ

“ถังซิน เธอเป็นเพื่อนฉันนะ เธอไม่ควรพูดออกมาแบ บนี้” หลี่ซูเจ๋กล่าวแบบขุ่นเคือง “หรือเธอคิดว่าฉันมันไร้ ประโยชน์ ช่วยอะไรเธอไม่ได้สักอย่าง?”

“ไม่ใช่นะ..

“ไม่ใช่ก็แล้วไป” หลี่ซูเจ๋ถามอย่างว่องไว “ในบัตรของ ฉันมีสามแสน พอมั้ย? เธอใช้ตัวตนของคนอื่นมาทำ บัตร เดี๋ยวฉันจะส่งไปให้เธอ พอผ่านไปสักสองสามวันฉันจะส่งเข้าไปให้อีกจำนวนหนึ่ง”

“พอแล้ว” ถังซินไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรดี “แม่สาวน้อย ลำบากเธอเกินไปแล้ว”

หลี่ซูเจ๋กล่าวแบบยิ้มๆ “ได้ยังไงกัน ได้ช่วยเหลือเธอ ฉันก็ดีใจมากแล้ว เธอรีบไปทำบัตรแล้วเอาเลขบัตรมา ให้ฉัน เดี๋ยวรอฉันลงไปจากธนาคารแล้วจะโอนเงินให้

ถังซินเปล่งเสียงตอบรับ ในขณะที่จะวางสายนั้นได้ กำชับว่า “ถ้าชิงเฟิงยังอยู่ ซือซือออกประเทศไม่ได้แน่ นอน กลัวก็แต่หล่อนจะหาโอกาสใช้กลอุบาย เธอช่วย ฉันดูสถานการณ์หล่อนหน่อยแล้วกัน”

“ฉันรู้แล้ว เธอวางใจเถอะ!”

หลังจากที่พูดคุยกันเสร็จ หลี่ซูเจ๋ก็รีบไปล้างหน้าบ้วน ปากแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าลงไปด้านล่าง คุณแม่ลู่ได้ทำ อาหารเช้าด้วยตัวเอง เมื่อเห็นเธอเดินลงมาด้านล่างก็ ยิ้มพร้อมกล่าวทักทาย “ตื่นแล้วหรอซูเจ๋ มาๆ ฉันต้ม โจ๊กลิลลี่เมล็ดบัวเอาไว้ รีบมากินตอนที่ยังร้อนสิ”

“ขอบคุณค่ะคุณแม่”

หลี่ซูเจ๋เห็นคุณแม่ยกโจ๊กมาให้กับตัวเธอ เธอจึงรีบ เข้าไปรับมาพร้อมวางไว้บนโต๊ะ

เธอทั้งกินโจ๊ก ทั้งถามคุณแม่ไปด้วย “คุณแม่คะ จะ ให้หนูแบ่งไว้ให้ลู่เหวินซูด้วยส่วนนึงมั้ย?”
“นี่ฉันตั้งใจต้มไว้ให้เธอโดยเฉพาะ ถ้าเค้าจะกินเดี่ยว ให้คนรับใช้ทำให้” คุณแม่ลูโบกไม้โบกมือ มองเธอด้วย สายตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความอ่อนโยน

สายตาที่ลึกซึ้งนั้นทำให้หลี่ซูเจ๋รู้สึกไม่สบายใจ ภายในใจก็ได้เกิดความทุกข์ขึ้นมา

คุณแม่ลู่ดีเกินไปจริงๆ ทำให้เธอนั้นทนรับความกดดัน

ไม่อยู่

คุณแม่ลู่พูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนนุ่ม “ซูเจ๋จ้ะ เธออยาก เป็นอิสระ มีงานของตัวเองนั้นก็เป็นเรื่องดี แต่ว่าทุกวันนี้ เหวินซูก็ยี่สิบเจ็ดแล้ว เรื่องบางเรื่องพวกหนูก็พิจารณา หน่อยแล้วกัน”

ใบหน้าของหลี่ซูเจ๋เริ่มแดงขึ้นอย่างช้าๆ พร้อมกล่าว ด้วยเสียงเบา “คุณแม่คะ หนู หนูทราบแล้วค่ะ”

“ถ้างั้นก็ลำบากเธอหน่อยนะ” คุณแม่มู่จับมือของเธอ ” ใช่แล้ว พ่อแม่ของหนูว่างกันเมื่อไหร่ล่ะ พาพวกเค้า มาที่นี่สิ เหวินซูก็เหมือนกัน งานแต่งพวกหนูก็ได้หมั้น ได้หมายกันแล้ว ก็พาเค้าไปที่บ้านเธอสักหน่อยสิ เค้าก็ รู้จักบริษัทหมาง บริษัทจะไปสำคัญกว่าการไปหาพ่อตา เชียวหรอ!”

สีหน้าของหลี่ซูเจ๋ผิดแปลกไปจากเดิมเล็กน้อย เธอ รีบปกปิดมันอย่างรวดเร็ว พร้อมพูดอย่างเรียบๆ “พ่อ แม่ของหนูเขาไปต่างประเทศแล้วค่ะ ค่อนข้างยุ่งเลยที เดียว พวกเขาพอใจในตัวเหวินซูนะคะ คุณแม่อย่ากังวลไปเลย”

คณแม่ลู่พยักหน้า “งั้นก็ดีแล้ว”

หลี่ซูเจ๋ทานอาหารเช้าเสร็จสรรพ ก็รีบออกไปอย่าง รวดเร็ว

คุณแม่ม่เห็นผ้าพันคอของเธอยังอยู่บนไม้แขวนเสื้อ จึงคว้าผ้าพันคอแล้วตามเธอออกไป ก็มองไม่เห็นแม้แต่

เงาของหลี่ซูเจ๋

“ยังเช้าอยู่เลย รีบออกไปแม้แต่ผ้าพันคอก็ไม่เอาซะ ละ” คุณแม่มู่เอาผ้าพันคอเก็บกลับไปบนไม้แขวนเสื้อ เช่นเดิม

เวลานี้ คนรับใช้ที่ทำความสะอาดอยู่บนชั้นสองก็ได้

ลงมา

คนรับใช้เดินมาหาคุณแม่มู่พร้อมถามด้วยความสงสัย “คุณนายคะ คุณหนูไม่สบายหรอคะ?”

“ทำไมหรอ?” คุณแม่ลู่ได้ยินคนรับใช้ถามเช่นนี้ ก็ กระวนกระวายอย่างอยู่ไม่สุข “พอเธอพูดมาแบบนี้ ฉัน ก็นึกขึ้นมาได้ว่าหลายวันมานี้สีหน้าของซูเจ๋ก็ดูไม่ค่อยดี จริงๆ ดูเหมือนจะไม่สบาย”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ