ฉันเป็นสุดที่รักของประธานมู่! ?

ตอนที่ 235 ประธานมู่โมโหแล้ว



ตอนที่ 235 ประธานมู่โมโหแล้ว

ถังซินไอออกมา “สร้างความลำบากให้คุณมู่แล้ว เดี๋ยวฉัน จะคืนเงินให้คณ

มู่เฉินหย่วนเพ่งตามองเธอ

“คุณมู่ คุณไปไหน บริษัทหรอ?” ยังไงเขาก็ช่วยไว้เยอะ ขนาดนี้ และยังรอตนเองอยู่ที่นี่ ถังซินไม่กล้าไล่เขากลับ จึง กระตือรือร้นในการเปิดประตูข้างคนขับให้

“บริษัท”

“ได้ค่ะ” ถังซินจึงขึ้นรถเช่นกัน และไปส่งเขาที่บริษัทมู่ซื่อ

ระหว่างทาง มู่เฉินหย่วนได้รับสายโทรศัพท์สายหนึ่ง คือ ดาราสาวคนนั้นที่โทรเข้ามา บอกว่าหลังจากที่พวกเขาหลุด จากพวกนักข่าว อยากที่จะส่งเด็กคนนั้นกลับไปบ้าน แค่หัน หลังไปครู่เดียว ก็ไม่เห็นเด็กแล้ว

หลังจากที่ถังซินได้ยิน จึงยิ้มเม้มปาก “ไม่เป็นไร ฉางผิง เป็นเด็กฉลาดมาก เขากลับคนเดียวได้

มู่เฉินหย่วนเอ่ยถามขึ้น “คุณดูเหมือนให้ท้ายเขามากเลย นะ?”

ก่อนที่จะมา เขาก็ได้ขึ้นไปดูสถานการณ์แล้ว ในตอนนั้น ถังซินก็ได้ถูกนักข่าวล้อมไว้แล้ว แต่กลับกอดปกป้องเด็กคนนั้นไว้แน่น เหมือนกับกลัวเขาจะถูกคนอื่นเห็น

“อืม” ถังซินมองไปที่ไฟแดง แล้วหมุนพวงมาลัย “ลูกของ เพื่อน”

“เพื่อนคนไหน?”

“เพื่อนที่อยู่ที่บ้านแม่ ไม่ใช่บอกแล้วหรอ… “ในขณะที่ พูด ถังซินรู้สึกผิดปกติ จึงชำเลืองมองเขา “คุณมู่ คุณกำลัง สำรวจสำมะโนครัวหรอ”

ฉันเพียงแค่คิดว่าเธอดีกับคนอื่นมากเกินไป” มู่เฉินหย่วน เอ่ยขึ้น “ทกวันนี้คนจิตใจดีมีค่าน้อย ไม่แน่ว่าอาจจะมีคน กลับย้อนเล่นงานฝ่ายตรงข้าม

ถังซินหัวเราะออกมา “ใครก็เป็นได้ แต่พ่อเขาไม่สามารถ เป็นได้ ฉันยังอยากจะรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับฉางผิง ให้ พ่อของเขารู้สึกเป็นหนี้บุญคุณ

ผู้ชายอย่างวี่เหวินถึงรักษาคำพูด ทำให้เขารู้สึกเป็นหนี้ บุญคุณ ก็เหมือนกับมีเงินขึ้นมากะทันหัน

มู่เฉินหย่วนแววตาเคร่งขรึมมาก

นอกจากเขาแล้ว ไม่ว่าผู้หญิงคนนี้พูดถึงผู้ชายคนไหน ต่างก็มีท่าทางยิ้มแย้มอย่างสวยสดงดงาม ไม่ว่าจะเป็นผู้ ช่วยจาง หรือพ่อของเด็กคนนั้น
ทําให้เขารู้สึกไม่สบายใจ

มู่เฉินหย่วนพูดออกมาอย่างเย็นชา “คุณถัง ลูกของคนอื่น โตขนาดนี้แล้ว คุณระวังคำพูดหน่อย

“ลูกของเขาโตหรือไม่โต มันเกี่ยวอะไรกับฉัน” ถังซินรู้สึก ถึงความแปลกประหลาด “คุณมีอะไรก็พูดมาตรงๆ อย่าพูด ชักแม่น้ำทั้งห้า ฉันก็ไม่ชอบเดาเหมือนกัน!”

“คุณเอาวีแชทเขามาให้ผม

เขาอยากจะคุยกับคนนั้นดีๆว่า ลูกของตัวเองก็เลี้ยงเอง “ไม่มี” ถังซินไม่มีวีแชทของส้งจิ้งเหอจริงๆ ถึงมีก็ไม่ให้

เธอเคยรับปากสั่งจิ้งเหอ ไม่พูดเรื่องนี้กับคนอื่น “ต่อไปคุณ

ก็จะรู้เอง”

มู่เฉินหย่วนเอียงหัวมองเธอ “คุณถัง แค่นี้ก็ต้องปิดบัง หรอ?”

“ฉันไม่ได้คิดจะปิดบัง แต่ว่า… “เรื่องนี้ไม่สมควรที่จะเป็น เธอที่ต้องพูด หัวหมุนไปหมด เธอจึงหลุดปากออกมาว่า “คุณ ใช้สมองขบคิดให้ดีจะดีกว่า”

เมื่อเธอหลุดปากออกมา ถังซินก็รู้ตัวว่าตนเองพูดผิดไป แล้ว

เขาสีหน้าไม่เปลี่ยน มีเพียงแค่บรรยากาศภายในรถที่อยู่ๆก็เปลี่ยนเป็นแข็งทื่อ มีความรู้สึกถึงความกดดัน

เฉินหยวนเอ่ยขึ้นว่า “จอดรถ”

“ยังไม่ถึงบริษัทมู่ซื่อ” ถังซินพูดติดอ่าง กลืนน้ำลาย “รอ ให้ถึงบริษัท ชื่อ…

“จอดรถ!”

ชายหนุ่มนํ้าเสียงเย็นชาเป็นอย่างมาก แฝงไว้ด้วยความ โกรธเคืองเล็กน้อย น่ากลัวจนถึงซินเสียวสันหลัง จึงเหยียบ เบรกรถ

รถยังจอดไม่สนิท ประตูก็ได้ถูกเปิดออกแล้ว

เมื่อถังซินมองไป เบาะนั่งข้างๆคนขับก็ไม่มีเขาแล้ว เธอ จึงเสียใจขึ้นมาทันที

เธอไม่ได้เจตนาจริงๆ

ถังซินขับรถกลับบริษัท และเรื่องที่มู่เฉินหย่วนพึ่งเปิด ประตูรถลงไปก็ยังร้อนรุ่มสุมอยู่ในใจตลอดเวลา เปิดวีแชท ขึ้นมาหลายครั้งเพื่อที่จะส่งข้อความไปขอโทษ

แต่ก็กลัวเสียหน้า

ท้องฟ้าค่อยๆมืดลง พนักงานก็ค่อยๆทยอยกลับทีละคน
หลี่ซูเจ๋ส่งวีแชทหาถังซิน บอกว่าตอนเย็นจะไปกินข้าวที่ บ้านลู่เหวินซู ไม่ต้องเตรียมอาหารเย็นให้เธอ ถังซินมองดู ท้องฟ้ายามค่ำคืน เก็บข้าวของและไปบ้านคุณแม่มู่เพื่อขอ ข้าวกิน

หลังจากที่ลู่เหวินซูจัดการธุระเสร็จ ขับรถอย่างจิตใจ ร้อนรนเหมือนถูกไฟจี้เพื่อไปคลับเฮ้าส์เสริมสวย

พอเข้าประตูไป เขาก็เห็นหญิงสาวที่ดูสุกใสเป็นประกาย ชุดกระโปรงสีขมิ้นขับให้ผิวดูขาวผ่อง แก้มที่ใหญ่เท่าฝ่ามือ ไม่มีจุดด่างพร้อยแม้แต่นิดเดียว ในตาแสดงออกถึงความ ตื่นเต้นและเขินอาย

“ว้าว นางฟ้าน้อย เธอสวยมากเลย!” ลู่เหวินซูขึ้นไปกอด และจูบหลี่ซูเจ๋อย่างแรงหนึ่งที “เธอไม่ใส่แว่นแล้วดูสวย จริงๆ เหมือนเทพธิดาที่ลงมาเกิดเป็นมนุษย์

“รำคาญ” หลี่ซูเจ๋อยู่ในอ้อมอกเขาและทุบตีไปหนึ่งที เธอ เอ่ยถามเขาขึ้นว่า “ไม่มีปัญหาอะไรจริงๆใช่มั้ย? ฉันได้ยินมา ว่าประธานมู่จะส่งตัวนายไปช่วยเย่นจึงจัดการงาน พวกเรา กลับไปกินข้าวตอนนี้จะ……

ลู่เหวินซูพูดอย่างยิ้มหัวเราะว่า “ไม่เป็นไรหรอก ฉันจัดการ หมดแล้ว! พ่อกับแม่ฉันไม่ได้กลับมาง่ายๆ ยากลำบากกว่านี้ ฉันก็จะพาเธอกลับไปกินข้าวที่บ้าน

หลี่ซูเจ๋เอ่ยถาม “ฉันเป็นคนแรกมั้ย? น้ำเสียงมีความหมาย ว่าถ้าไม่พูดความจริงจะต้องถูกบีบคอตาย
สายตาที่คมกริบจับจ้องไปที่ลู่เหวินซู

“คนแรก! ฉันสาบาน!” ลู่เหวินซูพูดสาบานอย่างหนักแน่น จริงใจ

“เขาไม่เคยพาผู้หญิงกลับไปบ้านจริงๆ “หลี่ซูเจ๋เป็นคน แรกที่ทำให้เขาคิดจะทำแบบนี้

หลี่ซูเจ๋คนนี้ถึงจะหยุด

ลู่เหวินซูขับรถด้วยตัวเอง ไม่นานก็ถึงบ้านตระกูลลู่

เขาจูงมือหลี่ซูเจ๋เข้าไปในบ้าน พูดตลอดทางว่าพ่อแม่ เขาเป็นคนร่าเริง ให้หลี่ซูเจ๋ไม่ต้องเขินมาก คิดซะว่าเป็น ครอบครัวของตนเอง

“คุณชาย” คนรับใช้ที่แก่แล้วคนหนึ่งเปิดประตู เมื่อเห็น ลู่เหวินซูจูงผู้หญิงวัยรุ่นคนหนึ่งอยู่ จึงพูดอย่างแปลก ประหลาดใจขึ้นว่า “นี่คือเพื่อนของคุณหรอ?”

” แฟนสาว” ลู่เหวินซูแก้ไขคำพูดของคนรับใช้ หลี่ซูเจรีบเอ่ยคำทักทาย “สวัสดีค่ะ”

“คุณเกรงใจไปแล้ว” พบกับภรรยาของคุณชายในอนาคต คนรับใช้ก็ไม่กล้าเฉยเมย จึงรีบแสดงความเคารพตอบ นําทางพวกเขาเข้าไปในบ้านและบอกให้คุณแม่ลู่ทราบ
ห้องรับแขกโอ่อ่าตระการตา บนผนังแขวนภาพที่มีชื่อ เสียงราคาสิบล้านขึ้นไปอยู่ ดูมีความสุรุ่ยสุร่ายออกมาทุกที่

หลี่ซูเจ๋สังเกตไปทุกๆด้านอย่างละเอียด สีหน้ามีความตื่น เต้น ลู่เหวินซูก็ตบที่ไหล่เธออย่างกระทันหัน เธอเห็นผู้หญิง มีระดับคนหนึ่งออกมาจากห้องครัว ผิวขาวมาก ดูงดงามมี สง่าในเวลาที่เดิน

“แม่”ลู่เหวินซูกอดผู้หญิงที่มีระดับคนนั้นแน่น และพูดด้วย สีหน้าที่ยิ้มหัวเราะ “ครั้งนี้แม่ไม่ต้องบ่นแล้ว ผมไม่ได้กลับ มาคนเดียว”

เธอดึงหลี่ซูเจ๋มาตรงหน้าของคุณแม่ลู่ “นี่คือหลี่ซูเจ๋ แฟน ของผม”

“อืม ดูแล้วเป็นเด็กดี” คุณแม่ลู่ยิ้มออกมา แววตาที่อ่อน โยนของเธอสังเกตหลี่ซูเจ๋อย่างละเอียด “พ่อของเธออยู่ใน ห้องหนังสือ ขึ้นไปเรียกเขาลงมากินข้าวเถอะ”

“ได้ครับ ถ้าอย่างนั้นพวกแม่ก็คุยกันไปก่อน”

ลู่เหวินซูขึ้นไปอย่างรวดเร็ว ในห้องรับแขกจึงเหลือแค่หลี่ ซูเจ๋และคุณแม่ลู่สองคน

หลี่ซูเจ๋ไม่รู้ว่าจะวางมือไว้ตรงไหน ดูไม่เป็นธรรมชาติเอา มากๆ แต่คุณแม่ลูกลับเข้ามาจูงเธอไปนั่งที่ห้องอาหาร บน โต๊ะได้จัดวางอาหารเย็นที่หลากหลายและหรูไว้เต็มโต๊ะ
“ซูเจ๋ใช่มั้ย? ไม่ต้องตื่นเต้น ทำเหมือนกับอยู่บ้านตัวเอง” คุณแม่ลู่พูดด้วยเสียงที่อ่อนโยน “ฉันกับพ่อของเหวินซู จัดการทำธุรกิจที่ยุโรปเป็นเวลานานแล้ว ไม่ค่อยได้กลับมา รบกวนเธอดูแลเหวินซูของเราด้วย”

หลี่ซูเจ๋จึงเอ่ยขึ้นว่า “คุณป้าอย่าพูดแบบนี้เลยค่ะ เป็นเขา ดูแลฉันอยู่”

คุณแม่ลู่ยิ้มเบาๆ “เหวินซูเป็นคนซุกซนหน่อย ไม่ว่าทำ เรื่องอะไรล้วนแล้วแต่ไม่สามารถที่จะวางใจได้ เธอสวยและ เป็นเด็กดีมาก เป็นผู้หญิงคนแรกที่เขาพากลับมาบ้าน

“ค่ะ เขาพูดกับฉันแล้ว คุณป้าและคุณลุงเข้าหาได้ง่าย มาก” หลี่ซูเจ๋รู้สึกเกรงใจเล็กน้อย “พวกท่านยากที่จะกลับมา ในแต่ละครั้ง ฉันยังจะมารบกวนพวกท่านอีก”

“รบกวนที่ไหนกัน เธอมาที่นี่ได้ฉันดีใจมาก” คุณแม่ลู่จับ มือเธอไว้แน่น “ซูเจ๋ ฉันถามได้มั้ยว่าพ่อแม่เธอทำงานอะไร? เธอไม่พูดก็ไม่เป็นไร

หลี่ซูเจ๋จึงบอกตามความจริง

คุณแม่ลู่ฟังอย่างตั้งใจ สีหน้าเธอไม่เปลี่ยนแต่ในแววตามี ความไม่พอใจเล็กน้อย

ตระกูลลู่มีทั้งเงินและอำนาจ ในครอบครัวก็มีลู่เหวินซูเป็น ลูกคนเดียว ยังไงก็ต้องคาดหวังไว้มาก ตระกูลของลี่ซูเจ๊ไม่ ค่อยดีนัก จึงไม่สามารถเข้ากับตระกูลลู่ของพวกเขาได้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ