ฉันเป็นสุดที่รักของประธานมู่! ?

บทที่ 324 สิ่งที่คาดเดาไว้ได้กลายเป็นจริงแล้ว



บทที่ 324 สิ่งที่คาดเดาไว้ได้กลายเป็นจริงแล้ว

ประมาณสิบเอ็ดโมงถังซินก็ได้มาถึงร้านคุณแม่ม่

เหล้าที่กลั่นเองและผักดองขายจนเกือบหมดแล้ว ตอนนั้นไม่มีลูกค้า ป้าที่มาช่วยกำลังทำความสะอาดชั้น แก้วอยู่

ถังซินเข้าไปและเรียกเธอ “ป้าจู แม่ฉันหล่ะ?”

“เสี่ยวซินมาแล้วหรอ” ป้าจูลุกตัวขึ้น และชี้ไปด้านใน ด้วยสีหน้าที่จำใจ “หลังจากที่ป้ามาเมื่อเช้า ร่างกายของ แม่เธอไม่ค่อยดีนัก ฉันบอกว่าจะพาเธอไปโรงพยาบาล เพื่อตรวจดู แต่เธอไม่ไป บอกว่าพักผ่อนสักหน่อยก็ดี ขึ้น เธอเข้าไปดูเถอะ ถ้านานไปแล้วเกิดปัญหาจะไม่ดี”

“ขอบคุณค่ะ”

ถังซินรีบก้าวเดินเข้าไปในห้องเก็บของ เห็นคุณแม่ถัง กำลังนั่งพิงกำแพง เธอจึงรีบเข้าไปประคอง “แม่ ทำไม หน้าแม่ซีดขนาดนี้ ทำไมถึงไม่ไปโรงพยาบาล?”

คุณแม่ถังโบกมือปฏิเสธ “ก็แค่ปวดหัวนิดหน่อย พัก หน่อยก็ดีแล้ว”

เมื่อถังซินลูบที่แขนของเธอ ก็รู้สึกเย็นๆ สีหน้าจึง เคร่งขรึม และบังคับเอาตัวคุณแม่ถังออกไปด้านนอก “ปวดหัวอะไรกัน มือเท้าแม่เย็นเฉียบ ไป! ฉันพาแม่ไป โรงพยาบาล!”
“ไม่ต้องไปหรอก ไม่ได้เป็นอะไรมาก…

“ถ้ารอให้เป็นมากๆก็จะสายเกินไปแล้ว! แม่อย่าพูดอีก เลย ฉันกลัวว่าฉันจะด่าแม่เอา” ก่อนออกไป ถังซินขอ ให้ป้าจูช่วยปิดร้านให้ และเธอก็พาตัวคุณแม่ถังไปที่ โรงพยาบาล

ในขณะที่ยังอยู่บนรถ ถังซินก็ได้ทำการขอบัตรคิวพบ แพทย์ หลังจากนั้นใช้เวลาสิบกว่านาทีก็ถึงโรงพยาบาล ซึ่งสามารถตรวจโรคได้พอดี

แพทย์ได้ทำการตรวจโรคให้กับคุณแม่ถัง ผลคือนอน หลับพักผ่อนไม่เพียงพอบวกกับร่างกายอ่อนแอ รับยาก ลับบ้านก็พอแล้ว

ถังซินทอดถอนหายใจอย่างสบายใจ

เมื่อประคองคุณแม่ถังออกมาจากห้องตรวจแล้ว ถัง ซินทำสีหน้าเคร่งขรึมและเอ่ยขึ้นว่า “ฉันทำร้านค้านี้ให้ แม่เพื่อให้แม่ได้ใช้เวลาว่างทำ แม่อย่าทำจนทุ่มเทชีวิต ขนาดนี้ พวกเราทั้งสามคนไม่ต้องให้แม่มาคอยเป็นห่วง แล้ว”

คุณแม่ถังคิดว่าถังซินยังพูดไม่มีเหตุผลพอ จึงเอ่ย เบาๆขึ้นว่า “แม่แค่อยากช่วยพวกลูกเก็บเงินนิดหน่อย”

“กวนหลิงเอ๋อมีมือมีเท้า ไม่ต้องให้แม่มาช่วย ฉันก็ กำลังหาเงินด้วยตัวเอง” ถังซินเอ่ยขึ้น “ถ้าแม่ไม่ดูแล สุขภาพอีก ฉันจะปิดร้านค้านั้นซะ!”
“ได้ได้ ต่อไปนี้ฉันจะดูแลตัวเอ”ง คุณแม่ถังชอบร้าน ค้านี้มากที่สุด เมื่อได้ยินว่าถังซินจะปิด จึงไม่กล้าพูด อะไรอีก “ต่อไปนี้แม่จะทำผักดองให้น้อยลงหน่อย ตอน บ่ายจะได้พักผ่อนอยู่ที่บ้าน พอใจหรือยัง?”

เมื่อได้ยินดังนี้สีหน้าของถังซินจึงดีขึ้น

ทั้งสองคนไปกดรอลิฟต์เพื่อที่จะลง ประตูลิฟต์จึงเปิด ออกมาพอดิบพอดี คุณหมอและพยาบาลไม่กี่คนจึง ออกมาจากลิฟต์

หมอคนนั้นกับถังซินเกือบที่จะชนกันในขณะที่กำลัง จะก้าวไป เขาจึงหยุดลงในทันที และหันกลับมามองถัง ซิน “เอ๋ เธอใช่คนที่ครั้งที่แล้วมาส่งคนไข้ผู้หญิงที่เป็น ลมหรือป่าว?”

ถังซินมองที่รูปร่างหน้าตาเขาก็รู้สึกคุ้นหน้า ผ่านไป สักครู่จึงนึกออก “ฉันจำได้แล้ว คุณคือคุณหมอหวาง ตอนนั้นฉันมาส่งคนป่วยเป็นลม”

คุณหมอแสดงท่าทางที่เป็นจริงอย่างคิดไว้ออกมา “ใช่เธอจริงๆด้วย”

ถังซินจึงเอ่ยถามขึ้นว่า “คุณมีธุระอะไรหรอ?”

“มี คุณรอสักครู่นะ”

คุณหมอให้ถังซินรออยู่ตรงนั้นสักพัก และก้าวเท้าเดิน ไปที่ห้องทำงานของตนเองอย่างว่องไว
ถังซินกลัวคุณแม่ถังจะเหนื่อย จึงให้เธอลงไปข้างล่าง เพื่อหาที่นั่งรอตนเองก่อน

ขณะที่คุณแม่ถังกำลังจะเดินไปก็ได้หยุดลงกะทันหัน เดินเข้ามาใกล้ที่หูของถังซินและกระซิบพูดเบาๆขึ้น ว่า “ลูกรัก คุณหมอวางคนนี้ดูแล้วไม่เลวเลย แต่ดูแล้ว น่าจะอายุสามสิบกว่าแล้วมั้ง? แก่กว่าว่าที่ลูกเขยของ ฉันอีก ลูกอย่าไปรับปากอะไรเขานะ และอาชีพหมอนั้น ค่อนข้างอันตราย ยังไงว่าที่ลูกเขยก็เหมาะสมกับลูก มากกว่า”

ถังซินแสดงออกอย่างกลัดกลุ้ม “แม่อย่าคิดอะไรมั่ว ชั่ว คุณหมอเขาไม่ได้คิดอะไรแบบนั้น”

“ถ้าอย่างนั้นคุณหมอเขามีความจำดีมากอย่างนั้น หรอ? ทุกวันรักษาคนไข้เยอะขนาดนี้ แต่ยังจำลูกได้”

เอาเถอะ แม่ไปนั่งที่ห้องโถงชั้นหนึ่งรอเถอะ”

หลังจากที่ไล่คุณแม่ถังไปแล้ว ถังซินรออยู่ตรงนั้นไม่ กี่นาที จากนั้นก็เห็นคุณหมอรีบเร่งวิ่งเข้ามาโดยที่มือ กำลังถือกล่องหนึ่งไว้

“นี่เป็นของที่คนไข้คนนั้นทำตกไว้” คุณหมอหวางเอา กล่องนั้นยื่นให้ถังซิน “ตอนนั้นในเอกสารคนไข้ไม่มี เบอร์โทรศัพท์ติดต่อเลย ฉันอยากที่จะติดต่อพวกคุณ แต่ก็ติดต่อไม่ได้ ของนี่ก็เลยอยู่ที่ผมตลอด”

ถังซินพูดอย่างลำบากใจ “ฉันไม่รู้เบอร์โทรศัพท์เธอและก็ไม่สนิทกับเธอด้วย”

“คุณไม่รู้จักหรอ?” คุณหมอหวางรู้สึกมึนงง มองดู กล่องที่อยู่ในมือ “ถ้าอย่างนั้นจะทำอย่างไรดี? ของนี่มี ค่ามากเลย ถ้าขืนเอาไว้กับฉันต่อ ถ้าหายฉันรับผิดชอบ ไม่ไหวหรอก”

“ เธอทําอะไรตกไว้หรอ?”

คุณหมอหวางพาเธอไปอีกมุม เมื่อมองแล้วว่าบริเวณ นั้นไม่มีคน จึงเปิดกล่องออก “เป็นสร้อยเส้นหนึ่ง ตอน นั้นเมื่อผมเห็นอัญมณีนี้ก็รู้เลยว่ามีราคาแพงมาก จึง ขอกล่องจากพยาบาลเพื่อใส่เอาไว้”

ในกล่องเป็นสร้อยไพลินสีน้ำเงิน ฝีมือละเอียด สวยงาม อัญมณีเมื่ออยู่ใต้แสงไฟก็เปล่งแสงระยิบ ระยับ

ถังซินจ้องมองสร้อยเส้นนั้นอย่างใจลอย

แบบของสร้อยเส้นนี้ เม็ดไพลินมีความใสสะอาด แวววาวเป็นอย่างมาก เธอเหมือนกับเคยเห็นที่ไหน

เคยเห็นที่ไหนนะ?

ถังซินรู้สึกตัวกลับมาอย่างรวดเร็ว และนึกถึงแหวน ไพลินวงนั้นอย่างทันทีทันใด จึงรีบเปิดกระเป๋าออกและ หยิบแหวนไพลินวงนั้นออกมาจากกระเป๋าชั้นด้านใน และเปรียบเทียบกับสร้อย
แบบเดียวกันเลย เป็นชุดเดียวกัน!

“สร้อยนี้ของเธอ ที่แท้ก็เป็นชุดเดียวกับสร้อยนี้ สีหน้าของคุณหมอหวางแสดงความไม่พอใจ “ฉันดูแล้ว พวกเธอเป็นเพื่อนกัน นี่เธอตั้งใจจะล้อฉันเล่นใช่มั้ย”

สร้อย สร้อยเส้นนี้ ถังซินมองไปที่อัญมณีสองอย่างนี้ ในมือสั่นเครือ ในใจมีบางอย่างที่รู้สึกเหมือนความจริง มาก แต่เธอก็ไม่อยากที่จะเชื่อ

คงเป็นความบังเอิญแหละ!

ไม่แน่ว่าสามีของผู้หญิงคนนั้นอาจจะได้สร้อยเส้นนี้มา จากงานประมูล และมอบให้กับเธอ ใช่! โมมอยคางผิง สามีของเธอ อยู่ในเครือข่ายกลุ่มประเทศญี่ปุ่นที่มีชื่อ เสียงโด่งดัง

แต่ว่า……

ถังซินนึกถึงครั้งนั้นที่โมมอยอี้มาคุยกับตนเอง ตนเอง ค้นกระเป๋าโดยไม่ระวังจึงติดแหวนวงนั้นออกมาด้วย เมื่อเธอเห็นแหวนไพลินวงนั้นก็ตื่นเต้นอย่างผิดปกติ

ตอนนั้นทำไมเธอถึงตื่นเต้นขนาดนั้น?

คุณหมอหวางไม่ได้สนใจว่าถังซินมีการแสดงออกที่ เปลี่ยนไป เขาจะรีบกลับไปทำงานต่อ จึงเอาสร้อยเส้น นั้นยัดให้กับถังซิน “ในเมื่อพวกคุณเป็นเพื่อนกัน สร้อย เส้นนี้คุณก็เอาไปให้เธอด้วย!
ในขณะที่กำลังเดินไป คุณหมอหวางก็นึกอะไรขึ้น ได้ จึงพูดเสริมขึ้นมาว่า “เออใช่แล้ว ครั้งที่แล้วผมให้ พยาบาลเอ็กซเรย์ให้เธอ พบว่าในสมองของเธอมีเลือด คั่งและกดทับเส้นประสาท

ถังซินจึงมีปฏิกริยาออกมาเล็กน้อย เธอหรี่เบ้าตาเล็ก น้อย “มีเลือดคั่งหรอ?”

“ใช่แล้ว เป็นก้อนเล็กๆก้อนหนึ่ง แต่กดทับเส้น ประสาทไว้ ก็เป็นอันตรายมาก ก่อให้เกิดการสูญเสีย ความทรงจำของเธอ ถ้าร้ายแรงก็อาจจะเป็นอันตราย ถึงกับชีวิตเธอ คุณรีบให้เธอมาผ่าตัดให้เร็วที่สุด!

คุณหมอหวางพูดจบก็รีบเดินจากไป

ถังซินยืนอยู่ตรงนี้นานมาก คำพูดของคุณหมอดังอยู่ ในหูเธอซ้ำไปซ้ำมา หลังจากที่ตั้งสติได้ เธอจึงรีบเร่ง กดลิฟต์ อยากที่จะไปถามคุณแม่ถัง

โมมอย ไปหาคุณแม่ถึงที่ร้านหลายครั้ง ต้องมีทิ้ง เบอร์ไว้แน่นอน

ถังขิมมองสร้อยคอที่อยู่ในมือ รู้สีกวุ่นวายใจเล็กน้อย เมื่อประตูลิฟต์เปิดออก เธอก็กระวีกระวาดร้อนใจออก ไป แต่เดินไปยังไม่ถึง คุณแม่ถึงอยู่ โทรศัพท์ก็ดังขึ้น

เธอเดินอย่างรวดเร็ว พลางรับสายโทรศัพท์ “ชิงเฟิง มีธุระอะไร?”
“พี่ ฉันสืบอะไรได้อย่างหนึ่ง”

ถังซินหยุดเดินทันที และเอ่ยถามเขาด้วยเสียงเบา “สืบอะไรได้?”

“ถ้าอย่างนั้นฉันไปหาพี่ คุยในโทรศัพท์ไม่สะดวก” กวนชิงเฟิงพูดอึกอัก น้ำเสียงอึดอัดใจเล็กน้อย “ผมพึ่ง กลับมาเมืองหนานเฉิง พี่อยู่บริษัทมั้ย?”

“ไม่ได้อยู่” ถังซินเม้มปากแน่น รู้สึกไม่สบายใจเล็ก น้อย มีความรู้สึกบางอย่างที่ทำให้เธอไม่ควรที่จะไป ถามหาว่ามันคืออะไร แต่เธอก็อดไม่ได้ “นายพูดมา ฉัน จะคอยฟัง”

“พี่ ถ้าอย่างนั้นพี่ต้องทำอารมณ์ให้สงบนะ”

“อืม”

กวนชิงเฟิงที่อยู่ในสายเงียบไปไม่กี่วินาที จากนั้น จึงเอ่ยขึ้นว่า “ฉันพึ่งได้ข้อมูลมา พบว่าชิวเสี่ยวอี้เคย แต่งงานกับโบแนร์-อเล็กซ์เลียร์ของตระกูลอเล็กซ์เลียร์ ประเทศY!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ