ฉันเป็นสุดที่รักของประธานมู่! ?

บทที่ 224 คนของฉัน จะพาลเกเรที่ไหนก็ได้



บทที่ 224 คนของฉัน จะพาลเกเรที่ไหนก็ได้

ถังซินที่มองดูพวกเขาทะเลาะกันอยู่ก็ตกตะลึงจนตาค้าง เหมือนกับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่เหมือนกับที่เธอคิดไว้

ถังซินหยิบกระดาษทิชชู่ให้หลี่ซูเจ๋ “พวกเธอทะเลาะอะไร กันรุนแรงถึงขนาดต้องเลิกกัน?”

“เธอไม่รู้หรอกว่าเขาน่าเกลียดขนาดไหน” หลี่ซูเจ๋ร้องไห้ จนแว่นตาปกคลุมไปด้วยหมอก จึงถอดออกมาเช็ด จาก นั้นจึงพูดขึ้นพร้อมทั้งน้ำตาที่ไหลหยด “เขาเอาคลิปวิดิโอ ประเภทนั้นโพสต์ลงบนอินเตอร์เน็ต เขา เขา… ฉันเป็นผู้ หญิง เธอว่าถ้าคนสนิทคุ้นเคยมาเห็นคลิปวิดิโอประเภทนั้น แล้ว ฉันยังจะมีหน้าไปพบคนอื่นหรอ?”

ถังซินรู้ว่าเธอหมายถึงอะไร และไม่น่าหล่ะเธอถึงโกรธข นาดนี้ อันนี้ก็ค่อนข้าง…

เธอคิดและพูดแสดงความคิดเห็นของตัวเองออกมา “ลู่เห วินซูเป็นคนที่ค่อนข้างเจ้าชู้ แต่ถ้าเป็นเรื่องที่สกปรกโสมม เขาไม่ทำแน่นอน ไม่อย่างนั้นเขาไม่มาเพื่ออธิบายให้เธอ ฟัง”

หลี่ซูเจ๋จึงพูดขึ้นว่า “ที่ที่เขาอยู่ นอกจากเขาแล้ว ยังจะมี ใครได้อีก?”

“ตอนนี้พวกคนแอบถ่าย ป้องกันอย่างไรก็ป้องกันไม่หมด” ถังซินเอ่ยขึ้น “อาจจะมีคนติดตั้งกล้องเล็กๆที่บ้านของลู่เหวินซู และเขาก็ไม่เคยเห็น จึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมา”

“อย่างไรฉันก็จะไม่ให้อภัยเขา” หลี่ซูเจ๋พูดอย่างเด็ดเดี่ยว “เขาอยากจะไปหาใครก็ไป!”

ถังซินรู้สึกร้อนเล็กน้อย

เฮ้ย เรื่องทะเลาะของคนรักกัน ถ้าเธอจะเข้าไปยุ่งก็ไม่ดี

ถังซินขับรถไปส่งหลี่ซูเจ๋ที่บริษัทมู่ชื่อก่อน เมื่อถึงบริษัท ผู้ช่วยก็เดินเข้ามา “ประธานถัง คุณฉินเรียกคุณเข้าพบ

“ได้ ฉันเสร็จตรงนี้แล้วฉันจะไป

ถังซินไปพบคุณฉินที่ห้องทำงานผู้บริหาร ทั้งสองคน ทักทายกันไม่กี่ประโยค จากนั้นคุณฉินได้หยิบเอกสาร ฉบับหนึ่งยื่นให้กับเธอ บนใบหน้ามีรอยยิ้มของความคึกคัก “พื้นที่ทางด้านตะวันออกอยากที่จะสร้างเป็นรถไฟความเร็ว สูง กำลังเปิดการประมูล

“นี่เป็นเรื่องที่ดี” หลังจากที่ถังซินลองพลิกเอกสาร ทั้งหมดดู แววตาก็เปล่งประกาย “ถ้าบริษัทของเราเอา โครงการนี้มาอยู่ในมือได้ จะช่วยบริษัทที่กำลังบุกเบิกตลาด ต่างประเทศได้มาก”

“ฉันอยากให้เธอรับผิดชอบงานนี้”

“คุณฉิน ฉันไม่มีประสบการณ์ในด้านนี้” ถังซินตกใจ แต่เมื่อพอได้สติขึ้นมาจึงพูดขึ้นว่า “หรือให้คุณหลานรับผิด ชอบจะดีกว่าค่ะ ถ้ามีเขา เราจะต้องได้การประมูลนี้อย่าง แน่นอน”

คุณหลินหัวเราะและพูดขึ้นว่า “เขาเป็นคนเก่ง แต่เธอก็ไม่ ได้เก่งน้อยไปกว่าเขา เสี่ยวซิน เธอพึ่งมาจากบริษัทมู่ชื่อ ถ้า เธอสามารถรับทำโครงการนี้ได้ เธอก็จะอยู่วงการธุรกิจได้ อย่างมั่นคง”

“มู่เฉินหย่วนได้ส่งคนมาที่นี่ ไม่ใช่ว่าอยากให้นโยบายนี้ เจริญเติบโตหรอกหรอ?”

เมื่อครุ่นคิดอยู่นาน ถังซินก็ตอบรับ และเธอยังพูดขึ้นอีก ว่า “ขอบคุณคุณฉินที่ให้โอกาสนี้กับฉัน ฉันยินยอมที่จะลอง ดูสักครั้ง แต่โครงการนี้ค่อนข้างใหญ่ แต่ถ้าหากว่าสุดท้าย แล้วฉันรู้สึกว่าตนเองไม่มีความสามารถพอที่จะทำงานนี้ได้ ก็จะส่งมอบให้กับทีมของคุณหลานต่อ ถ้าคุณเห็นด้วย ฉันก็ จะรับทำโครงการนี้

“ได้ ฉันจะบอกคุณหลานให้” คุณฉินพึงพอใจมาก “ถ้า อย่างนั้นช่วงนี้ก็ลำบากเธอหน่อยนะ”

ขอบคุณค่ะคุณฉิน”

หลังจากที่กลับห้องทำงาน ถังซินได้รีบจัดตั้งทีม โครงการนี้เป็นโครงการระดับใหญ่มาก เธอค้นหาพนักงาน ทั้งหมดของบริษัท แต่ก็ยังไม่พอ
คุณฉินรู้จักคนเยอะ เย็นวันนั้นเขาได้พาถังซินออกไปกิน ข้าว แนะนำให้เธอได้รู้จักกับเพื่อนหลายคน หลังจากที่พูด คุยกันเรื่อยเปื่อยแล้ว ถังซินก็ได้ยืมคนจากบริษัทนั้นมาอยู่ ในทีมของตนเองหกคน และได้ทำการเซ็นต์สัญญาในการ รักษาความลับ

ถังขินไม่ได้อยากสนใจนักธุรกิจที่ร่ารวยหรือมีอิทธิพล อะไรพวกนี้ เธอจึงดื่มเหล้าไปสองแก้มเต็มๆ สองแก้มนั้น แดงก่ำ แต่เธอก็ได้ส่งข้อความหาหลี่ซูเจ๋ก่อนเธอถึงจะ วางใจแบบนี้

เธอดื่มไปไม่มาก แต่เหล้าขาวนั้นมีความเข้มของ แอลกอฮอล์สูง เธอจึงรู้สึกมึนหัวเล็กน้อย

ผู้จัดการใหญ่ที่นั่งอยู่ทั้งสองข้างของเธอต่างมองมาที่เธอ และพูดหยอกล้อขึ้นว่า “คุณฉิน นี่คงไม่ใช่เด็กที่คุณเลี้ยงไว้ หรอกนะ คุณ ช่างรักและทะนุถนอมคนจริงๆ

“ถ้าไม่รู้จักพูดก็ไม่ต้องพูดมั่วๆดีกว่า” คุณฉินมองบนใส่เขา โชคดีที่ในนี้มีแต่เพื่อนเขาไม่กี่คน “ฉันคงไม่กล้าที่จะเลี้ยง เด็กคนนี้หรอก เธอมาจากเส้นสายที่ใหญ่ใช่ย่อย

คุณจางอีกคนจึงพูดขึ้นว่า “จะสามารถมาจากเส้นสายไหน ไม่ใช่แค่เคยทำงานที่บริษัทมู่ซื่อหรอ?” “ฉันไม่เชื่อหรอกว่า คนอายุน้อยอย่างเธอจะเก่งขนาดนี้ พูดก็พูดเถอะ ใครบ้าง ที่ไม่รู้ว่าทีมทนายความและฝ่ายประชาสัมพันธ์ของบริษัท ชื่อนั้นโด่งดังมากขนาดไหน? มีทีมที่ดีขนาดนี้ มู่เฉินหย่วน จะอยู่ในบริษัทมู่ซื่อหรือไม่อยู่ก็ไม่มีผลกระทบอะไร
“นายพูดให้น้อยลงหน่อยได้มั้ย” คุณฉินเทเหล้าให้เขา หวังที่จะเอาเหล้าอุดปากเขาไม่ให้พูดต่อ “ตอนนี้มีแต่คน หนุ่มสาวที่มีค่าควรแก่การเคารพนับถือ ถังซินจัดการเรื่อง ต่างๆได้อย่างเรียบร้อยและว่องไวจริงๆ เธอฉลาดมาก

คุณจางผึ้งหัวเราะและพูดขึ้นว่า “ผู้หญิงสวยนั้นมีเยอะ แต่ จะฉลาดหรือไม่นั้น ก็ไม่แน่นอน”

คุณฉินกลัวว่าถังซินจะได้ยินคำพูดนี้ เขารู้สึกอกสั่นขวัญ หาย ตอนนี้เขาเป็นแค่ลูกจ้าง แอบหักหลังบริษัทเหอชวนมา อยู่บริษัทมู่ชื่ออย่างลับๆ เพียงแค่เซ็นต์สัญญา คนนอกไม่รู้ ก็เท่านั้น

คุณฉินจึงเอ่ยขึ้นว่า “พวกคุณระวังคำพูดหน่อย เธอเป็น คนของประธานมู่”

“คุณฉินดูคุณพูดสิ พวกเราไม่ได้รังแกเธอ เพียงแค่กลัวว่า ความสามารถเธอไม่พอ แล้วจะมาพัวพันกับพวกเรา มู่เฉิน หย่วนเขาอยากเลี้ยงเด็ก ก็เลี้ยงไว้ข้างกายตนเองไม่ดีกว่า หรอ”

“ใช่ โครงการรถไฟความเร็วสูงของเขตตะวันออกใหญ่ ขนาดนี้ นายวางแผนที่จะให้ผู้หญิงตัวเล็กๆเป็นคนรับผิด ชอบจริงๆหรอ? อย่าให้เธอเอาคนไปทำงานโครงการนี้แล้ว สุดท้ายถูกปฏิเสธอย่างทันทีเลย

คุณฉินโดนพูดโจมตีจนปวดหัว
ถ้าไม่ใช่รับคําสั่งจาก เฉินหย่วน เขาคงไม่เรียกคนพวก นี้ออกมากินข้าว พึ่งพาความสําเร็จของตนเองแล้วไม่ต้อง สนใจคนอื่น สามารถพูดจาตามอำเภอใจ ไม่ต้องสนใจกาล เทสะ

คุณฉินกําลังเรียกพนักงานเสิร์ฟผู้หญิงเข้ามา ทันใดนั้น ประตูห้องอาหารส่วนตัวได้ถูกเปิดออก มีเงาของคนสูงๆ เดินเข้ามา เสื้อเชิ้ตสีไวน์แดงคู่กับกางเกงสูทสีดำ ท่าทางขึ้ เกียจแต่ว่องไวและดุร้าย

“มู่ ประธานมู่”

ไม่มีใครคาดคิดว่าเฉินหย่วนจะมาที่นี่ได้ คนที่อยู่บนโต๊ะ อาหารต่างพากันยืนขึ้น

เดิมทีบริษัทมู่ชื่อเป็นธุรกิจการค้าที่ยิ่งใหญ่ ชื่อเสียงโด่ง ดังเลื่องลือไปทั่ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากผ่านเรื่องเมื่อ สองเดือนก่อนมา วิธีการของมู่เฉินหย่วนทำให้ทุกคนต่าง ยากที่จะดูถูกดูแคลน

มู่เฉินหย่วนยิ้มเบาๆ “ทุกคนไม่ต้องเกรงใจขนาดนี้ พอดี ฉันมาคุยธุรกิจที่โรงแรมนี้ ได้ยินมาว่าคุณฉินมาทานข้าวที่นี่ เหมือนกัน ก็เลยมาดูหน่อย

คุณฉินเหมือนมีรางสังหรณ์บางอย่างที่ไม่ดี

มีคนเทเหล้าให้มู่เฉินหย่วน ยิ้มและสนทนากับเขาด้วย ใบหน้าที่แสดงความเปี่ยมล้นไปด้วยไมตรีจิตร มู่เฉินหย่วนก็ไม่ปฏิเสธ ยกกินเหล้าขาวจนหมดแก้ว

เมื่อกินหมดก็ยังไม่รีบวางแก้ว และใช้นิ้วลูบไปมาบนแก้ว พูดอย่างชะล่าใจขึ้นว่า “บริษัทมู่ชื่อก็ไม่มีอะไรมาก แต่มีเงิน เยอะ ถ้าทุกท่านไม่อยากทำบริษัทการค้าแล้ว ขายให้ผม ก็ได้”

“คุณจาง” เมื่อทำอะไรไม่ถูกต่อหน้าทุกคน สายตาเขาจึง จับจ้องไปที่คุณจาง “ได้ยินมาว่าคุณลงทุนสร้างรีสอร์ทกับ บริษัทเยนจิง และในสองปีนี้ได้กำไรไม่เลวเลย

คุณจางรีบยิ้ม มือที่ถือแก้วเหล้าอยู่เริ่มสั่นเล็กน้อย “รายการเดินบัญชีทำขึ้นเพื่อให้คนนอกได้เห็น กำไรของ รีสอร์ทนั้นของผมกำลังติดลบ ยังคงติดหนี้ธนาคารอยู่”

มู่เฉินหย่วยยิ้มหัวเราะขึ้นมาเช่นกัน

“ในเมื่อขาดทุน งั้นก็ขายให้ผมเถอะ ตัวผมนั้นเงินเยอะ ไม่รู้จะเอาไปทำอะไร

“ประธานมู่ คุณอย่าล้อมเล่นกับผมเลย” คุณจางทำหน้า เงื่อน “รีสอร์ทแบบนั้นคงไม่เข้าตาคุณแน่ คุณไม่มองมัน หรอก”

“อันนี้ก็ไม่แน่”

บรรยากาศภายในห้องอาหารส่วนตัวนั้นตึงเครียด พนักงานหญิงคนหนึ่งจึงเดินเข้ามา “ประธานมู่ คุณมีอะไรจะสั่งมั้ยคะ”

“คุณช่วยผมพาคุณถังกลับไปส่ง” คุณฉินมองมาที่มู่เฉิน หย่วน และพูดกับพนักงานหญิงคนนั้นขึ้นว่า “พวกเราเป็น ผู้ชายไปส่งเธอคงไม่สะดวก

มู่เฉินหย่วนจึงพูดขึ้นว่า “ไม่รบกวนคุณฉินแล้ว”

เขาเดินไปตรงหน้าของถังซิน อยากที่จะโอบกอดเธอขึ้น มา ถังซินยังมีความรู้ตัวอยู่ จึงสะบัดมือไปโดนหน้าของเขา หนึ่งที เสียงนั้นดังจนทำให้ทุกคนชะงักงง

ยอดเยี่ยมมาก!

มู่เฉินหย่วนทำหน้าเคร่งขรึม และพูดขึ้นว่า “ดื่มเมาขนาด นี้ ช้าเร็งคงโดนคนเอาไปขายโดยไม่รู้ตัว

คุณฉิน…

ฉันถูกใส่ร้าย!

มู่เฉินหย่วนออกแรงอุ้มถังซินขึ้นมา ก่อนที่จะเดินไป เขา ได้กวาดตามองมาที่ทุกคน โดยใช้สายตาดุดัน คนของผม จะพาลเกเรที่ไหนก็ได้ มีบริษัทมู่ซื่อให้การหนุนหลังเธออยู่ ทุกท่านอย่าเล่นการแสดงอะไรที่ตลกเช่นนี้เลย เพราะว่าผม เป็นคนอารมณ์ไม่ค่อยดี ไม่แน่ว่าอาจจะมีวันที่ผมไม่อยากที่ จะยิ้มให้กับพวกคุณแล้วg


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ