ฉันเป็นสุดที่รักของประธานมู่! ?

บทที่ 349 ทั้งรักทั้งเกลียดเธอ



บทที่ 349 ทั้งรักทั้งเกลียดเธอ

ถังซินกล่าวเหมือนเด็กๆ “แม่ ฉันรู้ว่าแม่ดีที่สุด รักฉัน มากที่สุด”

“อย่าเยอะ แม่ไม่ได้รักลูกจ้ะ” คุณแม่ถังกล่าว “กลัว จะไม่มีใครเอาแม่หม้ายแบบลูก แถมแม่ก็โดนนินทาจน เหนื่อยแล้ว ดังนั้นแม่ถึงทำตามความต้องการของลูก แม่คงไม่มีแรงทำให้หลิงเอ๋อแล้วล่ะ”

“แม่ ไม่เอาเรื่องแม่หม้ายมาพูดได้ไหม…”

“ก็เรื่องจริงนี่”

ถังซินราวกับเถียงคุณแม่ถังไม่ได้ จึงเงียบไป ช่วย คุณแม่ถังทำงานบ้านอยู่ครู่ใหญ่ หลังจากนั้นมู่เฉิน หย่วนจึงได้เห็นเธอโผล่ขึ้นมาอีกครั้ง

เมื่อถังซินเห็นว่ากล้องยังคงเปิดบันทึกอยู่ ก็ร้องอ่า ด้วยใบหน้าแดงก่ำ “พระเจ้า ลืมไปเลยว่าบันทึกวิดีโอ อยู่ ที่คุยกับแม่เมื่อครู่คงไม่ได้ถูกอัดไปด้วยหรอกนะ”

“ไม่ได้ๆ ลบทิ้งดีกว่า อย่าให้คุณดู่ได้เห็นเลย” เธอบ่น พึมพำ ประจวบเหมาะกับคุณแม่ถังเรียกเธอไปทานข้าว เธอตอบกลับรับคำไป วิดีโอจึงหยุดอยู่แค่ตรงนี้

มู่เฉินหย่วนนั่งพิงโซฟา และดูวิดีโอที่อยู่กล้อง และ เงียบไปอยู่เนิ่นนาน
วิดีโอ46นาทียังคงวนเวียนอยู่ในหัวซ้ำไปซ้ำมา ทั้ง ใบหน้าที่สวยงามทั้งคำพูดของเธอ มันทำให้เขารู้สึก ร้อนรุ่มในอก มันทั้งโกรธทั้งทรมานใจ

ถ้าหากขนาดนั้น เหตุใดเวลาเกิดเรื่องถึงได้เข้าข้าง หลินเฉิงจี๋กัน เพราะหลินเฉิงจี๋ไม่เหลืออะไรและเป็นคน อ่อนแอหรือ

แล้วเขามีอะไรกัน

นึกถึงวันที่คุยโทรศัพท์วันนั้น เธอร้องไห้เพื่อหลิน เฉิงจี๋ และตัดสินใจไปประเทศFอย่างแน่วแน่ โดยไม่ ต้องการตัวเขา มู่เฉินหย่วนนึกชัง แววตาแปรเปลี่ยน เป็นเย็นขาอย่างช้าๆ

เขาโยนกล้องตัวนั้นลงบนโต๊ะ ก่อนจะลุกขึ้นเพื่อขึ้น ห้องไป

เชพเพิร์ดตัวน้อยเมื่อเห็นชายหนุ่มลุกขึ้นมา ก็ลุกขึ้น อย่างร้อนรนด้วยท่าทางหางสะบัดไปมาอยู่ข้างหลัง ของเขา มู่เฉินหย่วนเพียงเหลือบมองราวกับเป็นสิ่ง เล็กๆ และเดินต่อ

หนึ่งคนหนึ่งสุนัขเดินตามกันขึ้นชั้นสองไป

มู่เฉินหย่วนหยิบชุดคลุมอาบน้ำและเดินเข้าไปอาบน้ำ ตอนที่เดินออกมานั้น ก็เห็นเชพเพิร์ดน้อยนอนหมอบอยู่ ที่พรมอย่างแสนรู้ เขาขมวดคิ้ว อยากจะไล่มันไปไกลๆ ลังเลอยู่ครู่ใหญ่ สุดท้ายก็เลือกเดินข้ามมัน
อย่างไรก็จะส่งตัวไปอยู่แล้ว อยากอยู่ตรงไหนก็อยู่ไป เถอะ ถึงตอนนั้นค่อยทำความสะอาดครั้งใหญ่ไปเลยที เดียว

เขาใช้ผ้าขนหนูเช็ดผม ในตอนที่จะกลับไปที่เตียง ก็ เห็นผ้าพันคอสีเทาอ่อนวางอยู่บนผ้าห่ม ถังซินให้เขา ตอนไปเที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก เขานิ่งงันไปทันที

เขาใส่ไว้ในตู้เสื้อผ้ามิใช่หรือ ทำไมถึงมาอยู่บนเตียง ได้กัน

มู่เฉินหย่วนจ้องผ้าพันคอผืนนั้น สายตาเผยแววสับสน หยิบขึ้นมา แต่เมื่อหยิบขึ้นมาแล้วมันคือผ้าพันคอ สีนํ้าเงินเข้มของเฮอร์เมส——มันคือของถังซิน

เขาหันไปมองเชพเพิร์ดน้อยที่นอนอยู่บนพรม เชพ เพิร์ดน้อยจ้องเขาด้วยสายตาไร้เดียงสา ทั้งที่หางยังคง กวัดแกว่ง ริมฝีปากเขากระตุก “กำลังยั่วโมโหกันอยู่ใช่ ไหม”

เชพเพิร์ดตัวน้อยเห่าเสียงเบา ราวกับไม่กลัว

มู่เฉินหย่วนไม่สนใจมัน โยนผ้าพันคอผืนนั้นไปตู้ที่อยู่ ข้างๆ จัดการงานต่อ ผ่านไปหนึ่งชั่วโมงกว่าๆ ถึงได้เงย หน้าขึ้นมาจากโทรศัพท์

เขาเหลือบมองเวลา ตอนนี้ก็ห้าทุ่มกว่าๆแล้ว อีกไม่กี่สิบนาทีก็จะเป็นช่วงเวลาเริ่มต้นปีใหม่

แต่ปีใหม่นี้ก็คงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงอยู่ดี

มู่เฉินหย่วนเตรียมตัวเข้านอน เอื้อมมือไปปิดไฟแต่ กลับไปจับโดนผ้าพันคอสีน้ำเงินเข้มอย่างไม่ตั้งใจ ชะงักไปเพียงอึดใจ แต่สุดท้ายก็คว้าผ้าพันคอนั้นเอาไว้

ของของถังซินนั้นอยู่ที่เขาเยอะมาก หลังจากเลิกกัน ก็เอาของไปจนหมดนอกจากเขา ตอนนี้ก็ไม่รู้เหมือนกัน ว่าเชพเพิร์ดน้อยนั้นไม่ลากจากที่ไหนมา

ตอนที่ผู้หญิงคนนั้นสวมชุดเปิดไหล่ หรือชุดคอต่ำ ก็ จะพันผ้าพันคอผืนนี้ไว้ ผิวของเธอขาว ผ้าพันคอสีเข้ม นั้นไม่ได้ทำให้เธอดูแก่แม้แต่น้อย ทั้งยังทำให้เธอดูสง่า งามยิ่งขึ้น

หลายครั้งในบริษัท ที่เขาต้องเดินผ่านแผนก R หรือ บางครั้งยามที่มีประชุม ก็จะเห็นภาพเธอที่พันผ้าพันคอ และเจื้อยแจ้วด้วยท่าทีสง่างาม

บางครั้งผ้าพันคอผืนนี้ก็เป็นผ้าปิดตาของขา แม้จะ มองไม่เห็น แต่นิ้วมือของเขาก็รับรู้ได้ถึงความอบอุ่น ของร่างกายของเธอ ทั้งยังได้กลิ่น Wild Bluebelอ่อนๆ ที่ลอยตามมา

น้ำหอมยี่ห้ออะไรกัน BVLGARI หรือMIUMIU

มู่เฉินหย่วนยกผ้าพันคอขึ้นมาดม จมูกของเขายังคงได้กลิ่นเป็นWild Bluebel ในใจนึกคิดอย่างเกลียดชัง เขาอยากรู้ว่ากลิ่นนี้มาจากยี่ห้ออะไร เขาจะซื้อแล้วสั่ง ให้หยุดผลิตไปซะ เพื่อให้ผู้หญิงคนนั้นหาซื้อไม่ได้อีก และเพื่อให้เขาไม่ได้กลิ่นนี้จนคิดถึงเธออีก

คิดถึงจนจุกอก เขาทั้งรักทั้งเกลียด

เพียงหลับตาลง เขาก็นึกถึงตอนที่เธออิงแอบอยู่ใน อ้อมกอดของเขา ไม่รู้ว่าติดนิสัยเสียนี้จากที่ไหนมา ชอบเล่นกับคอของเขา ทั้งยังมองมาด้วยแววตาไร้เดียง สา

แม้จะรู้ว่าเกลียดขนาดไหน แต่เมื่อนึกภาพเธอตัวเอง คนเดียวที่อยู่ในประเทศFที่หนาวเหน็บ มู่เฉินหย่วนก็อด ที่จะปวดใจไม่ได้ อดกลั้นไปได้เพียงครู่ สุดท้ายก็หยิบ โทรศัพท์ขึ้นมา

โทรศัพท์ถูกรับอย่างรวดเร็ว เสียงของเย่นจิ่งเหนียน ดังขึ้นมา “พี่รอง ได้ยินจากผู้ช่วยจาง ว่าคืนนี้พี่ไม่ได้ กลับไปทานข้าวที่บ้านมู่หรือ ให้ผมกับเหวินซูไปอยู่ด้วย ดีหรือไม่”

มู่เฉินหย่วนตอบคือ “ไม่ต้อง ฉันทานข้าวแล้ว จะคุย กับนายเรื่องอื่น”

“เกี่ยวกับคุณถังหรือ”

“ทำไมถึงคิดเช่นนี้” เมื่อเห็นเขาเดาทางออก มู่เฉิน หย่วนก็เลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัย “ช่วงนี้นายไม่ได้เจอฉันด้วยซ้ำ ทำไมถึงรู้ว่าฉันกำลังคิดอะไรอยู่”

เย่นจิ่งเหนียนกล่าว “พี่รอง ทุกครั้งที่พี่โกรธพี่มักจะ นิ่งเฉย ชอบที่จะให้ตัวเองอยู่อย่างเหม่อลอย รอจนปรับ อารมณ์ได้แล้วถึงจะกลับมาคุยกับพวกผม ผมถามผู้ ช่วยจางแล้ว เขาบอกช่วงนี้พี่งานยุ่ง ผมรู้ว่าพี่ใช้เรื่อง งานมาทำให้ตัวเองไม่ต้องคิดถึงเรื่องบ้านมู่และเรื่อง ของคุณถัง”

“และพี่รอง พี่คงจะมองไม่เห็นหรอก ว่าคุณถังนั้น สำคัญกับใจพี่ และส่งผลต่อพี่ขนาดไหน ทุกครั้งที่พี่ อารมณ์แปรปรวน ก็เพราะเธอทั้งนั้น”

การวิเคราะห์ของเขา ทำให้มู่เฉินหย่วนนิ่งเงียบไป

มู่เฉินหย่วนลองถามตัวเองกลับภายในใจ ถังซิน สำคัญกับใจเขามากขนาดนั้นเลยหรือ แต่เมื่อนึกคิดไป แล้ว ก็พบว่าใช่ เพราะหากไม่เป็นเช่นนั้น หลังจากเลิก กันไปแล้ว เขาคงไม่เอาแต่คิดถึงเธออยู่แบบนี้

ชายหนุ่มยกมือขึ้นมานวดระหว่างคิ้ว เงียบไปอึดใจ ก่อนจะเอ่ยเสียงเรียบ “หลินเฉิงจี้ป่วย อาการร้ายแรง มาก ปัญหาก็คือจะอยู่ต่อไปได้อีกปีหรือไม่ ถังซินถึงได้ พาเขาไปยังประเทศ”

เย่นจิ่งเหนียนกล่าวอย่างสงสัย “เพราะเรื่องนี้ เธอเลย ขอเลิกกับพี่”

“อือ”
“ผมเดาว่าคุณถังต้องรู้อะไรมา ดังนั้นจึงใจอ่อนให้กับ หลินเฉิงจี๋” เย่นจิ่งเหนียนวิเคราะห์ “คุณถังชอบพี่รอง ขนาดไหน ผมก็เห็นมันด้วยตาของตัวเองมาแล้ว”

“พวกเราเคยตกลงกันแล้วว่าหากเกิดเรื่องขึ้นจะรับ ผิดชอบด้วยกัน”

เย่นจิ่งเหนียนถามกลับ “พี่รอง แล้วพี่ได้นึกถึงใจของ เธอบ้างไหม เธอรู้ความสัมพันธ์ของพี่กับหลินเฉิงจี่ ใน ใจต้องทุกข์ทนเป็นแน่ คนหนึ่งก็แฟนเก่า อีกคนก็คู่หมั้น เธอไม่ใช่สัตว์เลือดเย็น เธอทนมองพี่ลงมือกับหลินเฉิงจื่ ไม่ได้หรอก และใช่ ผมเลยสงสัย ว่าคุณป้าหาบ้านตระ กูลมู่เจอได้อย่างไร”

“ผมถามท่าน ท่านบอกมีจดหมายไม่มีจ่าหน้าซองมา ส่ง จึงได้หนทางโทรหาโมมอยอี้” เรื่องที่โมมอยอี้มายัง บ้านมู่ เขาได้ถามท่านมู่นานแล้ว

“ให้ไอ้สี่ตรวจสอบยัง

มู่เฉินหย่วนหรี่ตา เอ่ยเสียงเย็น “ไม่ต้องตรวจ เป็นจี้ เจียจื้อที่ส่งมา เขาต้องการให้ฉันรู้ความจริง เพื่อให้ฉัน ลงมือฆ่าหลินเฉิงจี๋”

“คนคนนี้โหดร้ายจริงๆ” เย่นจิ่งเหนียนกล่าว “เขา อยากฆ่าหลินเฉิงจี๋ก็มีตั้งหลายวิธีที่จะทำได้ ทำไมจะ ต้องลากพี่รองเข้าไปเกี่ยวด้วยกัน เขาคิดว่าเอเชียเป็นก ระดานหมากของเขาหรือไร


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ