ฉันเป็นสุดที่รักของประธานมู่! ?

ตอนที่ 234 การรุมโจมตีของพวกนักข่าว



ตอนที่ 234 การรุมโจมตีของพวกนักข่าว

“พี่รอง…”

“ยังบอกอีกว่านายอยากจะอยู่ที่นั่นหนึ่งเดือน” มู่เฉินหยวน ขัดจังหวะ และยังพูดช้าๆขึ้นว่า “ฉันจะต่อสายภายในไปยัง แผนกเลขาเพื่อให้ทำสัญญาส่งคนไปร่วมทำงาน

เมื่อกำลังพูดอยู่ก็ยกหูโทรศัพท์โทรออก

ลู่เหวินซูรีบโผเข้ามาปิดโทรศัพท์ภายใน “ถ้าเซ็นสัญญา ส่งคนไปร่วมทํางานจริงก็จะกลับมาไม่ได้แล้ว พี่รอง ช่วงนี้ ฉันไม่เคยมาหาพี่ ฉันทำอะไรให้พี่ไม่พอใจหล่ะ?”

มู่เฉินหย่วนจึงเอ่ยขึ้นว่า “ฉันไม่อยากเห็นนายแกว่งไปมา ต่อหน้าฉัน”

จบชีวิตลู่เหวินซู

ถางซินได้รับข้อความจากฉางผิง ถามว่าเธอมีเวลาว่าง หรือไม่ เดิมทีเขาก็คิดว่าการโมโหส้งจิ้งเหอนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ ถูกต้อง จึงอยากจะใช้เงินตัวเองซื้อของขวัญให้กับสังจิ้ง เหอ

พอดีที่ช่วงบ่ายถังซินมีเวลา จึงขับรถไปรับฉางผิง
วันนี้เจ้าเด็กน้อยใส่ชุดสีดำเทา ดูแล้วเท่มาก ขึ้นรถมาก็ ทักทายถังซินอย่างปากหวาน และยังซื้อชาดำมาให้เธออีก ด้วย

ถังซินบีบหน้าของเขา และพูดอย่างหยอกล้อขึ้นว่า “หน้าตาดีขนาดนี้ ต่อไปคงจะมีแต่สาวตามกัน!”

“เป็นไปไม่ได้” ฉางผิงพูดอย่างจริงจัง “ต่อไปผมจะต้อง ไปกองทัพ ไม่เจอผู้หญิงหรอก”

“แม่ของเธอสอนเธอมาดีมาก” ถังซินซาบซึ้งใจ

เด็กอายุเท่านี้ ส่วนใหญ่จะเข้าโรงเรียน ใช้ช่วงเวลาวัยเด็ก อย่างมีความสุข แต่เขากลับมีแผนในการดำเนินชีวิตแล้ว

ฉางผิงเอ่ยขึ้นว่า “พี่สาว ยังไงต่อไปพี่ก็ต้องแต่งงานมี ลูก ฉันจะหมั้นหมายลูกพี่ไว้ก่อน พอโตแล้วฉันจะไปขอเธอ แต่งงาน แบบสกว่าเยอะ”

อายุน้อยกลับคิดอะไรเยอะมาก

ถังซินหัวเราะไม่หยุด จนน้ำตาไหล “ถ้าเป็นลูกผู้ชาย หล่ะ?”

“เป็นไปไม่ได้” ฉางผิงพูดอย่างจริงจัง “พี่สาวรูปโฉมหน้า ตาสวยงามขนาดนี้ ไม่มีคนสืบทอดต่อน่าเสียดายแย่เลย”

ถังซินรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจ จึงเอามือลูบไปที่ผมสั้นๆของเขา
“นายน่ารักมากจริงๆ

ทั้งสองคนไปที่ศูนย์การค้า

ถังซินเคยเจอส้งจิ้งเหอหลายครั้ง พอจะรู้ว่าเธอแต่งตัว แต่งหน้ายังไง จึงพาฉางผิงไปเลือกของในร้านร้านหนึ่ง

สุดท้ายฉางผิงชอบรองเท้าส้นสูงยี่ห้อดังคู่หนึ่ง ซึ่งเป็น หนังลูกวัวแบบคลาสสิค

เมื่อเห็นสินค้ารุ่นใหม่ในร้าน ถังซินก็อดใจไม่ได้ เธอซื้อ เสื้อผ้ามาหลายชุดและยังมีรองเท้าอีกสองคู่ เธอและฉางผิง เดินเล่นไปสามชั่วโมงอย่างไม่รู้ตัว

ถังซินพาฉางผิงออกมาจากศูนย์การค้าและเอ่ยถามเขาว่า “อยากกลับบ้านหรืออยากให้พี่พาไปกินข้าวเย็น?”

ฉางผิงปฏิเสธ และทำหน้าเหมือนเฝ้าคอยที่จะพูด “ขอบคุณพี่มากครับ แต่ผมอยากกลับบ้านไปกินข้าวกับแม่ เอาของขวัญให้แม่

ถังซินยิ้ม “แม่เธอต้องชอบอย่างแน่นอน”

ทั้งสองพึ่งออกมาจากศูนย์การค้า มีคนกลุ่มหนึ่งพุ่งเข้ามา ห้อมล้อมพวกเขาไว้อย่างแน่นหนา ไมโครโฟนที่อยู่ในมือ แทบจะโดนหน้าถังซิน

“คุณถัง ได้ยินมาว่าคุณแต่งงานและมีลูกมาแล้ว เป็นความจริงหรอ?”

“นี่เป็นลูกของคุณใช่มั้ย?”

“พวกคุณนัดกันมาเดินเล่นหรอ? คุณถัง ขอถามหน่อยว่า ฝ่ายชายเป็นใคร?”

พวกนักข่าวเอ่ยถามติดๆกัน มีเสียงมากมายเต็มไปหมด กระทบมาที่ตัวถังซิน เธอสับสนมึนงงไปหมดแล้ว คิดว่า ตนเองก็ไม่ใช่ดารา แฟนคลับซักนิดก็ไม่มี ทำไมถึงโดนนัก ข่าวจับตามอง

เมื่อเห็นคนอยากจะดึงหมวกและผ้าปิดปากของฉางผิง ถังซินรีบเอาตัวเขามาอยู่ในอ้อมอกเพื่อที่จะปกป้องเขา ใช้ เสื้อกันลมปิดกั้นไว้ ต่อว่านักข่าวพวกนั้นอย่างโกรธเคือง “พอแล้ว! อย่าให้มากเกินไปเลย!

“ถ้าฉันแต่งงานมีลูกแล้ว นี่ก็เป็นเรื่องส่วนตัวของฉัน พวก คุณไม่มีสิทธิที่จะมาก้าวก่าย ถ้าพวกคุณยังห้อมล้อมต่อไป ฉันจะฟ้องร้องการรุกรานสิทธิส่วนบุคคลกับพวกคุณ”

พวกนักข่าวเห็นถังซินกังวลขนาดนี้ จึงรู้ว่าข้อมูลข่าวนั้น น่าจะเป็นจริง

ก่อนหน้านี้ผู้หญิงคนนี้มีข่าวไม่ดีกับประธานมู่ของบริ ษัทมู่ชื่อ กับคุณชายตระกูลวี่ก็ยังไม่ชัดเจน ที่สำคัญคือรองประธานของบริษัทเหอชวน ถ้าแต่งงานมีลูกแล้วจริงๆ นี่ก็ เป็นข่าวใหญ่!

เมื่อคิดถึงจุดนี้ พวกนักข่าวก็ตื่นเต้นยิ่งขึ้น ถามคำถามกัน อย่างสนุกสนาน

พวกเขามาจากหลายสำนักข่าว ถ้าเหอชวนจะฟ้องร้อง คง ต้องเหนื่อยมากแน่นอน ไม่มีแรงที่จะฟ้องร้องแล้ว!

“คุณถัง ถ้าอย่างนั้นคุณจะอธิบายความสัมพันธ์กับคุณวี่ยัง

ไง?

คุณถัง ตอบด้วยค่ะ

คุณถัง

ไม่ว่านักข่าวจะบังคับถามอย่างไร ถังซินก็ปิดปากเงียบ ไม่ตอบคำถาม ปกป้องฉางผิงและอยากที่จะแหวกวงล้อมนี้ ไปให้ได้ แต่นักข่าวพวกนั้นเกาะติดอย่างแน่นหนา เธอถูก เบียดเสียดอยู่นานไม่สามารถที่จะออกไปได้

ฉางผิงที่แอบอยู่ในเสื้อกันลมของเธอเอ่ยถามขึ้นว่า “พี่ สาว ให้ผมช่วยมั้ย ผมสามารถสู้หนึ่งต่อสิบคนได้

“เธอแอบไว้อย่าขยับ” ถังซินพูดกำชับ

ถ้าเกิดคนอื่นเห็นฉางผิงเข้าจริงๆ คำค้นหาในอินเตอเน็ต มากที่สุดในวันพรุ่งนี้จะต้องเป็นเรื่องพวกเขาสองคนอย่างแน่นอน และอาจจะเห็นคำเกี่ยวกับวี่เหวินถึง

เธอเคยรับปากส้งจิ้งเหอแล้วว่าเรื่องนี้จะเก็บเป็นความลับ

เมื่อตกอยู่ในสถานการณ์ที่ถูกนักข่าวบังคับกดดันทำให้ เกิดความยากลําบากเป็นอย่างมาก ก็มีคู่รักวัยรุ่นชายหญิง แหวกวงนักข่าวและออกแรงเบียดเข้ามา

“ทำอะไร! เพื่อทำข่าวนิดๆหน่อยๆจำเป็นต้องคุกคามเพื่อน ฉันขนาดนี้เลยหรอ? “วัยรุ่นชายตะโกนด้วยความโมโห แต่ ก็ได้ผล ทําให้พวกนักข่าวตกใจกลัวและถอยหลังออกไป

วัยรุ่นหญิงก็เข้ามาใกล้ถังซินและรีบพูดกับเธอขึ้นว่า “คุณ ถัง พวกเราคือคนที่บริษัทมู่ซื่อส่งมา”

เป็นคนที่บุ่มบ่ามเข้ามาอย่างกระทันหัน ถังซินไม่เชื่ออย่าง แน่นอน

วัยรุ่นสาวจึงพูดขึ้นว่า “ประธานมู่บอกว่าบนไหล่ขวาของ คุณมีใฝ

ด้านในเสื้อกันลมเป็นเสื้อเชิ้ต ถูกห่อหุ้มไว้แน่น วัยรุ่นสาว ที่พึ่งมาจะต้องไม่รู้แน่นอน หน้าของเธอจึงแดงก่ำขึ้นมา ใน ใจแอบด่ามู่เฉินหย่วนว่าพูดอย่างอื่นไม่ได้หรอ? ต้องมาพูด ถึงตรงนั้น!

ถังซินจึงพูดขึ้นว่า “ถ้าอย่างนั้นฝากพวกเธอด้วย”
ในเวลานี้ มีนักข่าวจำผู้ชายที่ดำรงตำแหน่งในระดับสูงขอ งบริษัทมู่ชื่อคนนี้ได้ และบางคนก็จำได้ว่าผู้หญิงคนนี้เป็น นักแสดง จึงพุ่งจุดสนใจไปยังเขาสองคน

หญิงสาวดึงตัวฉางผิงเข้าไปในอ้อมอก และพูดกับนัก ข่าวพวกนั้นว่า “ต้องขอโทษจริงๆนะคะ ที่ปิดบังทุกคนเรื่อง แต่งงานและก็มีลูก ฉันเพียงแค่อยากรักษาครอบครัวให้ดี ที่สุด”

“อย่าถ่ายเลยครับ” ชายคนนั้นเอ่ยขึ้น “ผมเป็นเพื่อนกับ คุณถัง เธอรู้จักกับภรรยาผมเป็นอย่างดี เธอแค่อยากพาลูก ผมมาเดินเล่นก็เท่านั้น ทำไมถึงเป็นเรื่องใหญ่ในสายตา พวกคุณ?”

“หวังว่าทุกคนจะหยุดนะคะ” หญิงสาวโค้งคำนับให้กับนัก ข่าว และพูดด้วยน้ำเสียงสุภาพ “ถ้าหากเป็นเพราะเรื่องนี้ได้ ทำลายชื่อเสียงของคุณถัง ฉันขอเป็นคนรับโทษเอง ยังไง ก็ฝากให้ทุกคนติดตามหนังใหม่ของฉันด้วยนะคะ ขอบคุณ ค่ะ”

นักข่าวทุกคนคิดว่าจะได้ข่าวใหญ่ใหม่ คิดไม่ถึงว่าเรื่อง ราวจะกลับตาลปัตรอย่างรวดเร็ว

ถังซินฉวยโอกาสนี้หลบออกไป

ในเมื่อเป็นคนที่มู่เฉินหย่วนหามา ก็น่าจะส่งฉางผิงกลับ บ้านอย่างปลอดภัย
เมื่อเธอลงไปถึงที่จอดรถชั้นใต้ดิน ก็เห็นมู่เฉินหย่วนเข้า มาใกล้ข้างรถของเธอ ฝ่ามือที่เรียวยาวจับโทรศัพท์ไว้ ไม่รู้ ว่าคุยอะไรกับคู่สาย

เมื่อเห็นถังซินเดินมา ก็คุยโทรศัพท์ไม่กี่คำแล้วก็วางสาย จากนั้นจึงเอ่ยถามเธอขึ้นว่า “พวกเขาหล่ะ?”

“ยังถูกนักข่าวถามโน่นนี่อยู่ ตอนนี้ออกมาไม่ได้” ถังซิน ตอบคำถาม และถามเขากลับว่า “คุณรู้ได้ยังไงว่าฉันอยู่ที่นี่ และยังถูกนักข่าวล้อมไว้? คุณมู่ คุณสะกดรอยตามฉันหรอ?”

มู่เฉินหย่วนพูดด้วยเสียงเคร่งขรึม “ฉันไม่ได้ว่างขนาด นั้น ที่จะค้นหาว่าเธออยู่ไหน คนของฉันที่ทำงานสอดแนม อยู่ในสํานักหนังสือพิมพ์ได้ส่งข้อความให้ฉัน บอกว่าสำนัก หนังสือพิมพ์หลายแห่งได้รับข่าวการแต่งงานมีลูกของเธอ วันนี้จะพาลูกชายไปซื้อของที่ไหน ฉันโทรศัพท์หาเธอตั้ง หลายครั้งแต่เธอไม่รับ คาดเดาว่าเธอคงจะออกทางประตู หน้าแน่นอน เลยให้ผู้ช่วยจางหาคนมา

“โทรศัพท์แบตหมด ที่ชาตแบตสำรองอยู่ในรถ” ถังซิน เอ่ยขึ้น คาดว่าในตอนนั้นแหละที่มู่หย่วนโทรศัพท์หาเธอ “ขอบคุณ คุณหาคนมาได้ยอดเยี่ยมมากเลย แต่งเรื่องโกหก ออกมาได้อย่างไม่ต้องคิด”

“ต้องยอดเยี่ยมแน่นอน” มู่เฉินหย่วนยิ้มออกมา “หนึ่ง ชั่วโมง ห้าแสนหยวนต่อคน เธอคิดว่าไง?”

ถังซินอยากที่จะตบตัวเองหนึ่งที
ถ้าไม่ดูอีเมลบ่อยๆ แบตเตอรี่โทรศัพท์ก็คงไม่หมดเร็ว ขนาดนี้ ก็คงไม่ถึงกับว่ารับโทรศัพท์เขาไม่ได้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ