ฉันเป็นสุดที่รักของประธานมู่! ?

บทที่ 543 ชีวิตฉิบหายเกินไป



บทที่ 543 ชีวิตฉิบหายเกินไป

มีความลับอย่างอื่น?

แต่หลี่ซูเจ่เป็นคนเอาลูกออกและยังบอกเขาด้วยตัว

เองด้วย จะมีความลับอะไรได้? ลู่เหวินซูคิดไปก็วิเคราะห์คำพูดของจ๋องซึงไปแล้วก็ คิดว่าจ๋องซึงพูดถูก ถ้าหลี่ซูเจ๋ไม่ต้องการลูกจริงๆก็ไป

เอาออกที่ต่างประเทศได้แล้ว

ภาพในความคิดของลู่เหวินซูค่อยๆชัดเจนขึ้นแล้ว ตอบรับไปหนึ่งคำ”เดี๋ยวฉันกลับไปถามหล่อน ไม่ ทะเลาะแน่นอน”

“นายไม่ควรทะเลาะกับหล่อนตั้งนานแล้ว”จ๋องซึงพูด อย่างไร้อารมณ์

เขานึกถึงตอนที่พาหลี่ซูเจ๋ไปโรงพยาบาลและคำพูด ของหมอ จากนั้นก็เหลือบมองลู่เหวินซู

“เหวินซู มีเรื่องที่ฉันต้องคุยกับนาย”

“อะไร? ”

จ๋องซึงมองเขาด้วยสีหน้าจริงจัง : “หล่อนไม่อยากเอา เด็กออก แต่เด็กนี่ หล่อนก็…..เก็บไม่ได้
“นายจำวันที่นายเมาแล้วฉันพาไปที่บ้านฉันได้ไหม วัน ถัดมาฉันไปเรียกหลี่ซูเจ๋แต่หล่อนไม่ตอบรับเลยเข้าไป ดูก็เห็นตัวหล่อนเต็มไปด้วยเหงื่อ เลยรีบพาไปโรง พยาบาล”

จองซึงถอนหายใจอีกที”หมอบอกว่าร่างกายหล่อนแย่ แนะนำให้ดูแลร่างกายดีๆแล้วค่อยมีลูกอีก ฉันก็ไม่รู้นะ ว่าร่างกายของผู้หญิงมันแย่ถึงแค่ไหนเชียว แต่เหมือน ว่าถ้าร้ายแรงก็ไม่สามารถมีลูกได้อีก”

ลู่เหวินซูรู้ว่าร่างกายของหลี่ซูเจ๋แย่ ก่อนหน้านี้หมอก็ เคยบอก พอได้ยินจ่องซึงพูดแบบนี้ในใจก็รู้สึกผิดขึ้น มา โทษแต่ตัวเอง

เขาจับผมตัวเองอย่างทำอะไรไม่ถูกและเจ็บปวด“ฉัน ไม่ได้อยากทำร้ายหล่อน ฉันก็แค่..……..

จ๋องซึงยื่นมือไปตบบ่าเขาและปลอบได้แค่: “พอแล้ว

อย่าโทษตัวเองสิ

“ฉันบอกนายเรื่องนี้เพราะหวังว่า ถ้าเก็บเด็กคนนี้ไม่ ได้นายก็อย่าไปโทษร่างกายของหล่อน ดีกับหล่อน หน่อย พี่สามของนายรู้จักเพื่อนเยอะนี่ ลองถามพี่สาม อาจจะมีอะไรดีๆก็ได้”

“จ๋องซึง”ลู่เหวินซูขยับปากสักพักนึงก็พูด ว่า: “ขอบคุณมากจริงๆ”

ถ้าวันนั้นหลี่ซูเจ่ไม่ได้จอง งช่วยไว้ เขาก็ไม่รู้จริงๆว่าเรื่องจะเปลี่ยนเป็นร้ายแรงได้ขนาดนี้

จ๋องซึงนิ่งไปจากนั้นก็ยิ้ม”พี่น้องกันจะขอบคุณ ทำไม! ถ้านายรู้สึกแย่ ต่อไปมีธุรกิจดีๆก็พาฉันไปด้วย ก็พอ! ”

ลู่เหวินซูตีไปที่อกเขาแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า : “วางใจ เถอะ มีอะไรดีๆให้อีกเยอะ

“แจ่ม! ”

ทั้งสองคุยกันไม่ได้นานมาก จ๋องซึงก็รับโทรศัพท์ต้อง ไปจัดการงานที่บริษัท

ตอนออกไปจ๋องซึงก็หันไปมองลู่เหวินซูอีกที พูดอย่าง ทนไม่ได้ว่า : “เรื่องของหลี่หวินรุ่ยฉันก็รู้มาบ้าง ฉันก็ไม่ อยากถามความสัมพันธ์ระหว่างหล่อนกับหลี่ซูเจ๋อีก ฉัน อยากรู้ว่าเรื่องที่เหล่าประธานของบริษัทเหอเส็งประสบ อุบัติเหตุน่ะเกี่ยวข้องกับนายไหม? ”

“ไม่”สีหน้าของลู่เหวินซูไม่แยแส น้ำเสียงเย็นชา ขึ้น“ฉันไม่เก่งขนาดนั้น เป็นเพราะฟ้าดินอยากจะเอา ชีวิตพวกเขาไปใครก็ห้ามไม่ได้

แค่ประโยคเดียว จ๋องซึงก็เข้าใจทุกอย่าง

“นายพูดถูก สมควรแล้วที่พวกเขาจะโชคร้ายแบบ นั้น”จ๋องซึงยักไหล่แล้วรีบเปิดประตูออกไป
ตอนลงลิฟท์ไป จ่องซึงก็นึกถึงคำพูดของลู่เหวินซู

เขาไม่รู้ว่าลู่เหวินซูรู้สึกยังไงกับหลี่ซูเจ๋ แต่ออกโรง แทนหล่อนเพื่อนต่อกรกับคนพวกนั้นก็ถือว่าแคร์หล่อน มาก คงจะเห็นหล่อนเป็นคนสำคัญอยู่

เรื่องพวกนั้น ให้ทำเขาก็ไม่กล้าทำ

จ๋องซึงถอนหายใจเล็กน้อยพูดอย่างเสียใจ : ไม่ควร เอาตัวเข้าไปเกี่ยวข้องกับอะไรด้วยจริงๆเลย! ”

คิดไม่ถึงว่าผู้หญิงที่เขาช่วยมาระหว่างทาง ที่แท้ก็คือ เมียของเพื่อน

ชีวิตฉิบหายเกินไป!

ลู่เหวินซูอดห่วงหญิงสาวที่บ้านไม่ได้ ตอนบ่ายก็เลย ขับรถกลับไป

คนใช้มาเปิดประตูก็บอกลู่เหวินซูว่า: “สิบนาทีก่อนมี หมอมาค่ะ ยังคุยกับคุณนายอยู่ด้านบน”

“อือ”

ลู่เหวินซูไม่ได้พูดไรต่อ พอเอาเสื้อให้หล่อนเสร็จก็รีบขึ้นไป
ตอนที่ขึ้นไปก็ไปที่ห้องนอน เขาเดินไปเบาๆได้ยิน เสียงผู้ชายพูดเหมือนกำลังถามอะไร ไม่กี่วินาทีถัดมา ก็ได้ยินหลี่ซูเจ๋ตอบ

เปิดประตูแล้วเข้าไป ลู่เหวินซูเห็นหลี่ซูเจ่นั่งข้างเตียง ด้านหน้ามีผู้ชายยืนอยู่ สวมถุงมือที่มือ กำลังตรวจตา ของหลี่ซูเจ๋

ลู่เหวินซูยืนดูอยู่หน้าประตูอยู่พักนึง จากนั้นก็เข้าไป

“ตาหล่อนเป็นไงบ้างครับ? “ลู่เหวินซูเดินไปข้างๆหลี่ซู เจ๋แล้วถามหมอ เสียหายรุนแรงเหรอ?

หมอถอดถุงมือแล้วก็ถามลู่เหวินซูไปด้วย ว่า: “คุณนายท้องอยู่ก็เลยตรวจสมองหล่อนไม่ได้ แต่ ว่าหมอถามแล้วจู่ๆตื่นมาก็มองไม่เห็น ตาก็ปกติดี ปัญหา น่าจะไม่ใหญ่อะไร เดี๋ยวหมอเอายาที่พกมาด้วยให้ คุณนายใช้ไปก่อน ถ้ายังไม่ได้ผลก็ทำได้แค่รอคลอด ลูกออกมาก่อนค่อยว่ากันอีกที”

“ครับ รบกวนคุณหมอด้วย”ลู่เหวินซูเสียใจแต่ต้อง อดทนไว้

ยาที่หมอใช้อยู่ในขวดแก้วเล็กๆเป็นของเหลวไม่มีสี

หมอหยอดใส่ตาของหลี่ซูเจ๋ไปสองทั้งสองข้าง จาก นั้นก็ส่งขวดนั่นให้ลู่เหวินซู“ทุกเช้าและเย็นหยอดใส่ตา หนึ่งครั้ง ถ้าตาของคุณนายไม่ค่อยสบายก็โทรหาหมอ นะครับ”
“ครับ”ลู่เหวินซูแลกเบอร์กับหมอ”ตอนเย็นทำอาหาร ไว้แล้ว หมออยู่ทานข้าวก่อนสิครับค่อยไป

หมอตกใจไปทีนึง

ตอนที่เขามาได้ยินเย่นจิ่งเหนียนบอกว่าเขานิสัยไม่ดี อย่าไปยุ่งด้วย แต่ทำไมดูเกรงใจขนาดนี้?

“ไม่รบกวนแล้วแหละ หมอยังมีเรื่องด่วนต้องไป

จัดการอีก”

เห็นหมอพูดแบบนี้ ลู่เหวินซูก็ไม่บังคับอะไรเลยไปส่ง หมอ แล้วก็พาหลี่ซูเจ๋ลงไปทานข้าวด้วย

หลี่ซูเจ๋ไม่พูดอะไรเลย พอถูกประคองลงมาก็นั่งที่โต๊ะ อาหารข้างๆอย่างเชื่อฟัง

หลังจากลู่เหวินซูไปส่งหมอเสร็จก็ดึงเก้าอี้ข้างๆหล่อน

มานั่ง แล้วก็กวาดตามองอาหารที่คนใช้เตรียมไว้ให้

เยอะแยะไปหมด ส่วนมากเป็นอาหารที่คนท้องต้อง

ทาน

เขาเห็นหลี่ซูเจ๋นั่งเหมือนกับตุ๊กตา ไม่ขยับอะไรเลยก็ ขมวดคิ้วถามอย่างอ่อนโยนว่า : “สาวสวย จะกินหน่อไม้ ฝรั่งไหม? ”

หลี่ซูเจ๋พยักหน้า
ลู่เหวินซูคืบหน่อไม้สองชิ้นใส่ไปในถ้วยหล่อน

เห็นหล่อนลูบโต๊ะไปมา คลำหาตะเกียบแล้วหยิบขึ้น มาอย่างระมัดระวัง แล้วตอนที่เอามืออีกข้างคลําถ้วยก็ รู้สึกปวดใจ

มองไม่เห็นยังทรมานมากกว่านอนอยู่ที่เตียงทั้งชีวิต เสียอีก

“ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมป้อนคุณเอง”ลู่เหวินซูเอาถ้วย หล่อนเข้ามา

หลี่ซูเจ่ลังเลนิดหน่อยเหมือนไม่อยากรบกวนเขา แป ปนึงก็ปล่อยมือออกแล้วอ้าปากอยากเชื่อฟัง

หล่อนแค่อยากนั่งตรงนั้นอย่างเชื่อฟังเพื่อให้ชายหนุ่ม ป้อน

ลู่เหวินซูถามหล่อนว่าอยากกินอะไรไหม หล่อนก็พยัก หน้าเหมือนคนที่ดูแลชีวิตตัวเองไม่ได้ มือบีบเสื้อผ้าไว้ แน่น

หลังจากป้อนไปสักพัก ถ้วยที่ลู่เหวินซูถือไว้ก็เหลือ ข้าวไม่มาก

เห็นหลี่ซูเจ๋อยากอาหารดีขนาดนี้ เขาก็ยิ้มกว้างออก

ดีใจแค่ไม่กี่วินาทีก็เห็นหลี่ซูเจ๋เอามืออุดปากไว้ หน้าขาวซีด

ลู่เหวินซูรีบถาม: “เป็นอะไรไป อยากอ้วกเหรอ?

หลี่ซูเจ่พยักหน้าแรงๆ

ลู่เหวินซูส่งถังขยะไปให้ หลี่ซูเจ๋ก็คว้าไว้แล้วอ้วกออก มาอย่างลำบาก

ลู่เหวินซูเห็นหล่อนทรมานขนาดนี้ใบหน้าก็หม่นลง พูดอย่างอดไม่ได้ว่า: “ถ้าไม่อยากกินก็บอก ไม่ใช่ว่า ผมถามว่ากินอะไรก็เอาแต่พยักหน้า คุณไม่ทรมานเห รอ?

“ขอโทษนะ”บางทีเขาอาจจะพูดแรงไป พอหลี่ซู เจ๋ได้ยินก็ขอโทษไม่หยุด“ฉันทรมานมากเลย ทนไม่ ไหว….ครั้งนี้สัญญาว่าจะไม่อ้วกแล้ว”

ท่าทางอ่อนแอแบบนี้ ลู่เหวินซูที่เห็นก็อยากจะโมโห


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ