ฉันเป็นสุดที่รักของประธานมู่! ?

บทที128 พีรองร้ายจริงๆ แม้แต่คนของตนเองยังเล่นได้



บทที128 พีรองร้ายจริงๆ แม้แต่คนของตนเองยังเล่นได้

มู่เจิ้งหย่ายิ้มแล้วพูดว่า “พี่สาม อย่าคิดจะกลืนกินคนเดียว แบ่งให้กับทุกคนด้วย

“ฮาฮา ฉันจะลืมน้องแท้ๆของฉันคนนี้ได้ยังไง?”

หลังจากที่พนักงานทั้งบริษัทมู่ซื่อได้รับไฟล์เอกสารเกี่ยว กับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งแทนประธานในอีเมล แทบ จะแตกกระเจิง ระดับความคึกคักเสียงดังเอะอะโวยวายนั้น ไม่แพ้การประชุมที่ห้องประชุมผู้ดำรงตำแหน่งสูงที่ผ่านมา

ผู้จัดการตัวเล็กๆได้กลายมาเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่แทน ประธาน จึงทำให้แต่ละคนคิดแผนการร้าย บางคนที่คิด อยากจะก่อเรื่องได้ถ่ายภาพเอกสารแล้วโพสต์ลงบน อินเตอร์เนต ยิ่งทำให้หุ้นของบริษัทมู่ซื่อจมดิ่งลงมาอีก

ประจวบเหมาะพอดีกับบรรยากาศที่ถังซินต้องการ

แทนที่จะทำให้ผู้ซื้อหุ้นพวกนั้นและทุกคนไปโฟกัสใน เรื่องที่ว่าสุดท้ายแล้วมู่เฉินหย่วนจะฟื้นขึ้นมาหรือไม่ ไม่สู้กับ การดึงดูดให้คนแสดงวิพากษ์ วิจารณ์ถึงการที่เธอได้ปฏิบัติ หน้าที่แทนประธาน ซึ่งความคิดของเธอเป็นไปได้ดี

กลุ่มนักกฎหมายของบริษัทมู่ชื่อกำลังจัดการเรื่อง อุบัติเหตุทางรถยนต์ของมู่เฉินหย่วน โดยใช้ช่องโหว่ทาง กฎหมายเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจบางส่วน และถังซินได้ จัดงานแถลงข่าวเพื่อประกาศกับสื่อมวลชนว่าตนเองได้เข้ามารับช่วงต่อดูแลบริษัทมู่ซือ จากนั้นที่เหลือก็ให้ทีม ประชาสัมพันธ์เป็นฝ่ายรับผิดชอบ เธอเอาเรื่องปัญหาเกี่ยว กับผลิตภัณฑ์อาหารก่อนหน้านี้มาเป็นประเด็นสำคัญ ใน ช่วงระยะเวลาอันสั้นนี้ถังซินก็ได้วิ่งเต้นไปทั่วสารทิศเพื่อ แก้ไขเรื่องราวและข่าวทางด้านลบของบริษัทมู่ชื่อ แม้แต่ นอนก็ยังไม่ค่อยได้นอน หลี่ซูเจ๋ก็มักจะอยู่ที่บริษัทเพื่อช่วย เธอค้นหาเอกสารต่างๆ ค้นดูจนตาแทบจะบอดแล้ว

“ชินซิน ได้แล้วได้แล้ว!”

หลี่ซูเจ๋พึ่งจะต้มกาแฟแก้วที่สี่ของคืนนี้เสร็จ ทันใดนั้นก็ได้ รับข่าวสาร เธอจึงรีบส่งให้ถังซินดู และพูดด้วยน้ำเสียงที่ แสดงออกถึงความตื่นเต้นดีใจ เกิดปัญหาใหญ่กับประธาน ขนาดนี้ ถ้าเปิดเผยออกมาคงจะต้องเป็นประเด็นที่คุยกัน อย่างยอดนิยมแน่ๆเลย

ให้ฉันดูหน่อย ถังซินหยิบมือถือเธอมา นิ้วมือเลื่อนไปมา บนหน้าจอไม่หยุด และพูดอย่างแปลกใจขึ้นว่า “คิดไม่ถึงว่า ทั้งครอบครัวเขาจะเปลี่ยนสัญชาติ แม้แต่เงินของรัฐบาลยัง คอรัปชั่น สามพันล้าน…

ข้อมูลนี้ค่อนข้างน่ากลัว ทำให้ถังซินพูดไม่ออก

ถังซินหันไปมองหลี่ซูเจ๋ แล้วถามว่า “เรื่องที่เป็นความลับ ขนาดนี้ ทำไมเธอถึงรู้

“ยังจะเป็นใครไปได้อีกหล่ะ ก็น้องเธอไง!” หลี่ซูเจ๋ยิ้ม หัวเราะและพูดขึ้นว่า “ก่อนหน้านี้เขาโทรหาเธอแต่เธอไม่รับ ก็เลยถามฉันว่าเธอยุ่งมากใช่มั้ยช่วงนี้ เขาบอกว่าเห็น เธอจากช่องทีวี”

“ฉันเลยบอกเขาไปว่าบริษัทมู่ซื่อมีเรื่องให้ทำเยอะ กำลัง หาเรื่องที่เบี่ยงเบนความสนใจ เขาบอกว่าเดี๋ยวเค้าคิดหา วิธี ว้าว น้องเธอนี่ยอดเยี่ยมจริงๆ ฉันชักร้อนใจอยากที่จะเจอ เขาแล้วสิ!”

“ใช่ เขายอดเยี่ยมมากจริงๆ” หลังจากที่งงงวยไป ถังซินก็ ยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย

มีน้องชายเก่งขนาดนี้ ก้นบึ้งของหัวใจเธอก็รู้สึกภูมิใจ

ถังซินติดต่อนักข่าวที่เชื่อถือได้ไม่กี่คน ให้พวกเขาเอา ข่าวสารเผยแพร่ออกไป คอรัปชั่นเงินของคนที่ไม่ใช่คน ธรรมดา เบื้องบนคงจะลงโทษอย่างแรง ไม่มีการผ่อนปรน อย่างแน่นอน มีบริษัทมู่ซื่อและเบื้องบนคอยปกป้องอยู่ นัก ข่าวคงวางใจและทำอย่างกล้าหาญ

และเธอยังส่งข้อความไปหากวนชิงเฟิง ชื่นชมเขาว่าโต มาแล้วเก่งมีความสามารถมาก แต่ทว่าเวลาค้นหาอะไรก็ ต้องทำการสืบสวน หลังจากรอให้เสร็จธุระยุ่งเวลาก็ล่วงเลย ไปถึงเช้ามืด

นานแล้วที่ถังซินไม่ได้ไปโรงพยาบาล ไม่รู้ว่าคุณอามู่เป็น อย่างไรบ้าง หลังจากที่ขับรถไปส่งหลี่ซูเจ๋ที่คอนโดแล้ว ก็ ไปที่โรงพยาบาล
วีเหวินถึงและอีกไม่กี่คนก็อยู่ที่ห้องผู้ป่วยของ เฉินหย่วน

ประตูของห้องคนไข้ที่เป็นกระจกถูกผ้าสีดำปิดแน่นสนิท แม้ว่าจะปิดกันเสียงได้ดีแล้ว แต่กรอบของประตูด้านในยัง ถูกปิดด้วยแผ่นกันเสียงที่ทำมาเป็นพิเศษ ระมัดระวังไม่ให้ เสียงเล็กๆน้อยลอดออกมา

ในห้องคนไข้ เย่นจิ้งเหนียนกำลังตรวจร่างกายให้กับ มู่เฉินหย่วนที่นอนสลบอยู่ วี่เหวินถึงและลู่เหวินซูเพียง แค่ยืนมองอยู่ข้างๆ ไม่กล้าที่จะหายใจ สีหน้าเต็มไปด้วย ความเครียด

หลังจากที่รอให้เย่นจิ้งเหนียนเก็บเครื่องตรวจโรคแล้ว ลู่ เหวินซูจึงรีบถามขึ้นมาว่า “เป็นยังไงบ้าง?

“ขา รองใช้งานไม่ได้แล้วจริงๆ”

เชี่ย!” เขาแทบจะพูดคำพูดไม่ดีออกมา ลู่หวินซูกระโดด เต้นอยู่ที่เดิม คว้าจับไปที่เสื้อของเย่นจึงเหนียนและกำหมัด แน่นแกว่งไปทางเขา “ไหนนายรับรองว่าพี่รองจะไม่เป็น อะไรไงหล่ะ?”

ลู่เหวินซูที่เหมือนกับกำลังฉุนเฉียวอยู่ เย่นจิ่งเหนียนมอง ไปที่หมัดของเขาที่กำลังจะตกลงตรงหน้าของตนเองอย่าง สงบอารมณ์

สุดท้ายหมัดนั้นก็ไม่ได้ลงมาที่ใบหน้าของเย่นจิ่งเหนียน เพราะถูกวี่เหวินถึงสกัดออก
วี่เหวินถึงบีบไว้อย่างแรง ทั้งมือของลู่เหวินซูแทบจะแตก ร้องโอ๊ยโอ๊ย และเอาตัวของเขาสลัดทิ้งไปอีกด้าน กวาด สายตาที่แสดงออกอย่างเย็นชาไปทางเย่นจิ้งเหนียน

“พูดมา!”

“พี่ใหญ่ยังใจเย็นเหมือนเดิม ไอ้สี่เป็นพวกที่ทำการใหญ่ ไม่ได้” เย่นจิ่งเหนียนมองไปที่ลู่เหวินซูอย่างรังเกียจ และ พูดด้วยความโกรธว่า “พวกนายเก่งการใช้ยุทธวิธี แต่ความ ทํานาญในการแพทย์พวกนายไม่รู้ดีเท่าฉันหรอก”

“ฉันทดลองกับพี่รองแล้วครั้งแล้วครั้งเล่าประมาณยี่สิบ ครั้ง คิดคำนวณแรงกระแทกที่รถทั้งสองชนกันอย่างดีแล้ว จะก่อให้เกิดองศาของรถที่พลิกคว่ำ รวมทั้งน้ำหนักของวัตถุ ที่เป็นรูปธรรม ฉันจะให้พี่รองเกิดเรื่องขึ้นได้ยังไง?”

เหตุผลที่บอกว่าขาของพี่รองใช้การไม่ได้นั้น คือการ ประมาณการเวลาของการฟื้นคืนสภาพเดิมของร่างกายล่วง หน้าประมาณหนึ่งถึงสองเดือน และเพื่อป้องกันไม่ให้โรง พยาบาลขอให้ผู้เชี่ยวชาญที่มีอำนาจมาตรวจพี่รอง กลัวว่า พวกเขาจะระแคะระคาย

ลู่เหวินซูถอนหายใจคำโต และพูดด่าขึ้นมาว่า “นายจะพูด คําเดียวจบไม่ได้หรอ?”

“คำพูดยาวขนาดนี้ ไหนนายลองพูดคำเดียวจบให้ฉันดู หน่อย”
ลู่เหวินซูจึงพูดตอกกลับออกมาว่า “แล้วทำไมพี่รองถึงยัง ไม่ฟื้น

เย่นจิ้งเหนียนพูดอย่างหมดความอดทนขึ้นว่า “ฉันให้พี่ รองกินยาที่ออกฤทธิ์สี่วัน แต่ว่าเขากินยาที่ออกฤทธิ์ครึ่ง เดือนไปเอง ฉันก็ไม่รู้ว่าทำไมพี่รองถึงเป็นแบบนี้ ดังนั้นจึง ไม่ได้เอายาตื่นกลับมาด้วย

“อะไรกันเนี่ย พี่รองช่างใจร้าย แม้แต่คนของตัวเองก็ยัง เล่นกันได้” ลู่เหวินซูหน้าดำค่ำเครียด “นี่ก็ตั้งหลายวันแล้ว ที่ฉันเป็นห่วงพี่รอง กินไม่ได้นอนไม่หลับ ใกล้จะเป็นโรคซึม เศร้าอยู่แล้ว”

เย่นจิ้งเหนียนพูดอย่างยิ้มแย้มขึ้นว่า “ฉันไม่เคยเห็นคนที่ กินไม่ได้ไปแช่น้ำที่คลับเฮ้าส์กับสาวๆ ตื่นเช้ามานาฬิกาข้อ มือ patek philippeได้ถูกขโมยไป นาฬิกาข้อมือราคาสิบ ล้านใช่มั้ย ถ้าเป็นฉันฉันก็คับแค้นใจ

แววตาที่เย็นชาของวี่เหวินถึงจับจ้องไปยังลู่เหวินซู เหมือนกับเอามือไปบีบที่คอของเขา

“นายไปที่คลับเฮ้าส์หรอ?”

“ใช่…จริงๆแล้วมันเป็นเหตุสุดวิสัย” ลู่เหวินถึงดึงดัน อธิบาย “ฉันไม่ใช่กลับประเทศมาแล้วหรอ ก่อนหน้านี้พวก เพื่อนทั้งหลายนัดให้ฉันไปกินเหล้า ดังนั้นจึง…แต่นาฬิกา ยังอยู่ ฉันไปเอากลับมาแล้ว”
“ไอ้สี เรืองนี้ยังไม่จบ ทางทีดีนายระวังขานายไว้เถอะ” วี เหวินถึงสีหน้าไร้ความรู้สึก “ถ้าพี่รองเกิดเรื่องเพราะนาย ฉันจะทำลายมือเท้าของนายซะ ให้กลายเป็นหมู

เย่นจิ่งเหนียนแสดงออกว่าเห็นด้วย รอยยิ้มดูอบอุ่น เหมือนฤดูใบไม้ผลิ “ถึงเวลานั้นฉันจะเอายาให้นายกินล่วง หน้า จะได้ไม่เจ็บ

“ทุกคนคือพี่น้องกัน นี่โหดร้ายเกินไปมั้ย” ลู่เหวินซูเหลือบ มอง และชูนิ้วสาบาน “ฉันรับรองว่าต่อจากนี้จะอยู่ในกฎ เกณฑ์ ใครเรียกฉันไปกินเหล้าก็จะไม่ไป

กลัวว่าวี่เหวินถึงจะทำร้ายตนเองลู่เหวินซูจึงรีบเปลี่ยน เรื่องคุย “พูดตามจริงนะ เรื่องใหญ่ขนาดนี้แต่ให้ถังซินคน นั้นรับผิดชอบ ทําได้แน่นะ? พวกเราไม่เข้าไปช่วยจริงๆ หรอ?”

เย่นจิ้งเหนียนจึงพูดขึ้นว่า “สามารถเป็นคนที่ทำให้พี่รอง เลือกได้ น่าจะไม่ธรรมดา นายอย่าเป็นห่วงเลย”

“ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ หน้าอกใหญ่ แถมยังสวยอีกด้วย” ลู่ เหวินซูหัวเราะอย่างสนุกสนานและโอบไหล่เขา “เห็นครั้งที่ แล้วที่พี่รองกินเหล้าเมามั้ย หลังจากนั้นทั้งสองคนก็อยู่ด้วย กันแล้ว!”

“โหย ไม่ถูก ตอนนี้พี่รองมีคู่หมั้นแล้ว อีกไม่กี่เดือนก็จะ แต่งงานแล้ว ถ้าอย่างนั้นถังซินก็ไม่มีความหวังแล้ว ก่อน หน้านี้ฉันสืบมาแล้ว วงศ์ตระกูลของส้งจิ้งเหอคนนั้นไม่ค่อยดี นายว่าทำไมพี่รองถึงเลือกเธอ? รักจริงๆอย่างงั้นหรอ?”

“ฮาฮา ไอ้สี่ ถ้าไม่อย่างนั้นนายก็ตามจีบถังซินสิ ของดีไม่ สามารถให้คนอื่นได้!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ