ฉันเป็นสุดที่รักของประธานมู่! ?

บทที่ 423 คุณยังจะปกปิดตัวเองอีกหรอ



บทที่ 423 คุณยังจะปกปิดตัวเองอีกหรอ

“คุณถัง” สาวซิวหรงที่อยู่ในเสื้อสีขาวกางเกงดำ ทั้ง ร่างดูดีเป็นอย่างมาก มองไม่ออกเลยว่าเขาจะอายุ สามสิบหกปีแล้ว เขายิ้มมาทางถังซินพร้อมผงกหัวเล็ก น้อย “ไม่ได้เจอกันนานเลย”

ถังซินชำเลืองมองไปข้างกายเขาคล้ายกับมีลูกค้ามา ด้วย จึงกล่าวอย่างว่องไว “คุณกำลังยุ่งอยู่ งั้นเดี๋ยวฉัน ไปก่อนนะ”

“ไม่ใช่ลูกค้า แค่เพื่อนน่ะ” สาวซิวหรงกล่าวอธิบาย พร้อมเอ่ยถาม “ได้ข่าวว่าคุณถังเข้าไปทำงานในบริษัท เหอ งแล้วหรอ?”

“บริษัทเหอซ่งเป็นแค่บริษัทเล็กๆ เอง ไม่นึกเลยว่าคุณ จะรู้จักด้วย”

ส้าวซิวหรงยิ้มอย่างอบอุ่น “บริษัทเหอซ่งเล็ก แต่ชื่อ เสียงของคุณถังนี่กว้างไกลนะ ถ้าคุณไม่ยุ่ง ไปนั่งคุย กับผมสักหน่อยสิ คุณเข้าไปทำงานในบริษัทเหอซ่งแล้ว ต่อไปก็คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะลงทุนให้บริษัทเหอซ่ง แค่ฟังดูเพียงเล็กน้อยก็พอ

ถังซินเลื่อนลอยไปชั่วขณะ พร้อมกล่าว “ประธานส้าว ฉันลาออกจากบริษัทมู่ชื่อนานแล้วค่ะ”

“ผมรู้แล้ว” สาวซิวหรงกล่าว “ผมเชิญคุณเพราะว่าคุณ เป็นรองประธานของบริษัทเหอซ่ง ผมเป็นนักธุรกิจคนหนึ่ง เวลาพบเจอธุรกิจที่สามารถทำเงินได้ จะไม่ให้ผม ทําก็ไม่ได้ อีกทั้งยังอยากคบเพื่อนเยอะๆ อีกด้วย”

ที่เขาพูดออกมาก็สมเหตุสมผล ทำให้ถังซินจับพิรุธ เขาไม่ได้แม้แต่น้อย

นึกขึ้นมาได้ว่าเมื่อไม่นานมานี้บริษัทส้าวซือได้ลงทุน หนังเรื่องหนึ่งไปเป็นจํานวนมหาศาล ถังซินครุ่นคิด อย่างเงียบๆ ว่าอาจจะทำธุรกิจร่วมกันกับบริษัทสาวซือ ได้ หลังจากที่พิจารณาแล้ว จึงยิ้มพร้อมกล่าวกับสาว ซิวหรง “หวังว่าประธานส้าวไม่รู้สึกว่าฉันงุ่มง่ามก็โอ เคแล้ว”

“ที่ไหนกัน คุณถังดูถูกตัวเองเกินไปแล้ว ผมยังหวัง เลยว่าคุณไม่รู้สึกว่าผมล่วงเกินก็ดีแค่ไหนแล้ว”

ทั้งสองคุยกันไปคุยกันมา ก็ได้ไปที่ห้องอาหารด้วย

กัน

หลังจากที่ได้เข้าไปในห้องอาหารที่หรูหราโอ่อ่า ถังซินพบว่าด้านในยังมีผู้ชายนั่งอยู่อีกสองสามคน

แรกเริ่มเดิมทีผู้ชายเหล่านั้นกำลังคุยกันอยู่ แต่ เหมือนเห็นว่าเธอเดินเข้ามากับสาวซิวหรง สายตาของ ทุกคนก็จับจ้องมายังเธอ

หลังจากที่ส้าวซิวหรงกล่าวทักทายทุกคนเป็นราย บุคคลแล้วนั้น จึงแนะนำถังซินที่อยู่ด้านข้าง “เธอคนนี้ ชื่อถังซิน แต่ก่อนเคยทำงานใกล้ชิดกับประธานมู่ แต่ตอนนี้เป็นรองประธานของบริษัทเหอซ่ง”

ต่อมา ส้าวซิวหรงก็ได้แนะนำคนอื่นๆ ให้แก่ถังซิน

ถังซินยิ้มเล็กน้อยต่อหน้าผู้คน พร้อมจับมือพวกเขา ทีละคน และกล่าวคำแสดงความเคารพต่อพวกเขาเล็ก น้อย

เธอสังเกตุเห็นว่า ผู้ชายไม่กี่คนยิ้มและจับมือกับเธอ แต่สายตาของพวกเขากลับมองเหนือขึ้นไป ดูเหมือนว่า พวกเขาจะไม่เห็นเธออยู่ในสายตาเลยแม้แต่น้อย พูด ได้ว่า หากสาวซิวหรงไม่ได้อยู่ที่นี่ พวกเขาก็คงจะไม่เห ลียวแลเธอ

ถังซินยังคงยิ้ม และไม่สนใจสิ่งเหล่านั้น

บนห้างสรรพสินค้านี้ยุ่งวุ่นวาย แถมยังแบ่งออกเป็น ส่วนๆ ล้วนเป็นการพูดคุยกันอย่างสนุกสนานของนัก ธุรกิจชั้นสูง อย่างแรกคือเธอไม่มีบริษัทเป็นของตัวเอง สองคือไม่ได้มีชื่อเสียงในสังคมมากมายขนาดนั้น ก็สม ควรแล้วที่คนพวกนี้จะไม่สนใจเธอ

หลังจากทักทายและกล่าวคำสุภาพกันเสร็จสรรพ ถัง ซินก็อยากที่จะย้ายไปนั่งอีกด้านหนึ่ง เธอจงใจเข้าไป นั่งใกล้ส้าวซิวหรง “คุณถังนั่งตรงนี้นะครับ เวลาพวกเรา พูดคุยกันจะได้ยินชัดเจนกันหน่อย”
ภายใต้ความยืนหยัดของส้าวซิวหรงครั้งแล้วครั้งเล่า ถังซินจึงต้องจำใจนั่งไป

ภายในห้องอาหารส่วนตัวนั้นมีผู้ชายอยู่ประมาณ สิบคน เธอเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียว แถมยังนั่งอยู่ตรง กลางอีกด้วย คล้ายกับถูกนักธุรกิจผู้ทรงอิทธิพลนั่งราย ล้อมอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งลักษณะที่น่าเกรงขามของ นักธุรกิจใหญ่เหล่านั้น ทำให้คนๆ หนึ่งมีแรงกดขี่เป็น อย่างมาก

ฝึกฝนอยู่ที่บริษัทมู่ชื่อนานขนาดนั้น แถมยังเคยเดิน เตร่ออกไปข้างนอกกับมู่เฉินหย่วนอยู่บ่อยๆ จึงทำให้ถัง ซินไม่ตระหนกเวลาจัดการเรื่องต่างๆ

เธอยิ้มเล็กน้อย “ขอบคุณประธานส้าวนะคะที่ให้ โอกาสนี้กับฉัน ทำให้ฉันได้เปิดประสบการณ์เพิ่มมาก ขึ้น”

ภายในดวงตาของส้าวซินหรงมองด้วยความแปลก ใจ เขานับถือนิสัยที่นับวันยิ่งถูกขัดเกลาให้ดีขึ้นของผู้ หญิงคนนี้อย่างเงียบๆ ครั้งแรกที่คุยธุรกิจกับเขาเธอยัง ลนลานอยู่เลย แต่ตอนนี้กลับสงบสุขุม

ถ้าหากอายุอ่อนลงสักหน่อย ไม่แน่ว่าเขาอาจจะคว้าผู้ หญิงคนนี้ก็เป็นได้

ถังซินเทน้ำผลไม้ให้ตัวเองแก้วหนึ่ง พร้อมดื่มอย่างไม่ รีบร้อน เธอนั่งฟังมู่เฉินหย่วนคุยกับชายเหล่านั้นอย่าง ไม่ใส่ใจ ตั้งแต่เรื่องไร้สาระ เรื่อซุปซิบนินทา จนถึงเรื่องของเงินหุ้น

ชายเหล่านั้นพูดคุยกันโดยไม่สนใจถังซิน แถมยังไม่ เห็นถังซินอยู่ในสายตาอีกด้วย พวกเขาพูดเรื่องต่างๆ โดยไม่พะว้าพะวังเลยแม้แต่น้อย

อย่างเช่นผู้ชายบางคนบอกว่าเขาอยู่ที่ต่างประเทศ ในสามเมือง แล้วก็มีคนรักเมืองละคน เทศกาลนี้ไปหา คนรักคนแรก ส่วนอีกเทศกาลก็จะไปหาคนรักคนที่สอง แต่ทุกครั้งต้องตระหนักไว้ว่าห้ามสวมแหวนผิดวง

หรืออย่างเช่นผู้ชายบางคนได้บอกว่าเขาได้พัฒนา ความสัมพันธ์จนเป็นสามีภรรยากันแล้ว แต่เขากลับไม่ ได้รักเธอเลย ช่างเบื่อหน่าย อยากที่จะหาข้อผิดพลาด ของภรรยา เพื่อที่จะได้เป็นอิสระจากกันและกัน ตัวเอง ก็จะได้ไปแต่งงานใหม่

อีกทั้งชายบางคนก็ได้บอกว่าเขาชอบผู้หญิงอายุยี่สิบ สี่ วัยกำลังเบิกบาน พอเบื่อเขาก็แค่โยนเงินให้ก้อนหนึ่ง แล้วก็ไล่ไป แล้วก็หาผู้หญิงอายุยี่สิบสี่คนใหม่ มันทำให้ เขานั้นเหมือนยังไม่แก่

และคำซุบซิบนินทาอื่นๆ ถังซินฟังแล้วก็ได้แต่เลิกคิ้ว ขน

เธอรู้ก่อนแล้วว่าผู้คนที่รายล้อมอยู่บนโต๊ะนั้นช่าง วุ่นวาย หลังจากที่ได้คบค้าสมาคมด้วยแล้ว เธอก็พบ ว่านิสัยของคนเหล่านี้นั้นยิ่งกว่าที่คนอื่นได้พูดเอาไว้ อีก ใครจะไปรู้ว่าใต้ผิวหนังที่สะอาดสะอ้านงดงาม จะสกปรกโสมมได้ถึงขนาดนี้

ผู้คนเหล่านี้ได้เผชิญหน้ากับเธอ โอ้อวดชีวิตของตัว เอง ไม่กลัวว่าเธอจะเอาไปบอกต่อคนอื่นเลย

บางครั้ง สิทธิก็น่ากลัวเช่นนี้แหละ

ใช้อำนาจหลอกลวงปิกหูปิดตาผู้คน

ถังซินคิดฟุ้งซ่าน คล้านได้ยินคนเรียกเธออย่างเลือน ราง

พอเธอเงยหัวขึ้น เธอก็เห็นผู้ชายที่อยู่ด้านข้างซ้าย ของเธอจ้องมองเธออยู่ เขาพูดบางประโยคกับเธอ แต่ เธอฟังมันได้ไม่ชัดเจน

เธอจึงยิ้มอย่างเป็นมารยาทออกไป “ขอโทษนะคะ ฉัน ได้ยินไม่ค่อยชัดน่ะค่ะ”

“ผมพูดว่าคุณถังดื่มน้ำผลไม้มันไม่ค่อยน่าสนใจสัก เท่าไหร่น่ะครับ” ฝ่ายชายกล่าว พร้อมหยิบขวดเหล้าขึ้น มาแล้วเทไปยังแก้วเปล่า หลังจากที่เทจนเต็มปริ่มแล้ว เขาก็ยื่นให้แก่ถังซิน

ถังซินได้กลิ่นหอมนุ่มคู่กับกลิ่นเผ็ดร้อนของเหล้าขาว เธอชำเลืองมองขวดเหล้าที่อยู่บนมือของฝ่ายชาย

เหล้าเหมาไถสี่สิบดีกรี
ถังซินไม่ได้รับ พร้อมยิ้มให้ฝ่ายชายอย่างนุ่มนวล “ขอโทษด้วยนะคะ พอดีฉันแพ้เหล้าขาวน่ะค่ะ เป็นลาฟี ตมั้ยคะ ฉันดื่มเป็นเพื่อนคุณกู้ได้สองสามแก้ว”

เธอไม่สามารถนําของรักของหวงทั้งสามของเธอให้ ไปเผชิญอันตรายได้ ส้าวซิวหรงที่กำลังคุยกับคนอื่นอยู่ก็หันหน้ามา พร้อม

กล่าว “อาการแพ้นี่เป็นปัญหานะ บางครั้งอาจจะทำให้

ตายได้ เอาเหล้าแดงให้คุณถังเถอะ”

“ผมไม่เคยได้ยินว่ามีคนแพ้เหล้าด้วย” คุณกู้ไม่พอใจ เป็นอย่างมาก และยังคงยื่นเหล้าขาวแก้วนั้นอยู่ “คุณ ถัง เหล้าขาวเป็นเหล้าที่ดื่มดีที่สุดของประเทศพวกเรา แล้ว คุณดื่มน้ำผลไม้เยอะขนาดนั้นน่าเบื่อจะตาย”

“ขอโทษนะคะ คือฉัน……”

คุณกู้ตัดบทพูดของถังซิน พร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ จริงจัง “คุณถังจะไม่นับผมเป็นเพื่อนหรอครับ?”

“คุณกู้ แรงเกินไปแล้ว” ส้าวซิวหรงมองไปยังนาฬิกา ข้อมือครู่หนึ่ง พร้อมขยับริมฝีปากอันบอบบาง “คุณถัง ดื่มไม่ได้จริงๆ งั้นเดี๋ยวผมดื่มแทนเธอเอง”

เขาพูด และคิดจะไปหยิบแก้วที่อยู่ในมือของคุณกู้

คุณกู้กลับย้ายแขนไปด้านหลัง พร้อมพูดหยอกล้อ กับส้าวซิวหรง “ประธานส้าวครับ คุณเป็นห่วงคุณถังขนาดนี้ ไม่ใช่ว่าคิดอะไรกับเธอหรอกนะ?”

สาวซิวหรงส่ายหัวยิ้มพร้อมกล่าว “จะคิดได้ยังไงกัน ผมก็แค่ให้ความเคารพเธอแค่นั้น”

เขาคิดกับถังซินเพียงเล็กน้อย แต่ว่าเธอได้มีเจ้าของ แล้ว อีกอย่างแค่ผู้หญิงคนเดียวเขาว่าไม่คุ้ม ที่จะต้อง มาโกรธเคืองกับมู่เฉินหย่วน นั่นก็เท่ากับว่าเขาได้พัง อนาคตข้างหน้าของตัวเอง

“อ๊ะ งั้นก็ดีเลย เพราะผมคิดอะไรกับคุณถัง!” คุณกู้ กล่าว พร้อมเข้าไปใกล้ถังซิน “ถึงอย่างไรคุณถังก็ยังไม่ มีแฟน งั้นผมจีบคุณได้ไหมครับ?”

ถังซินก้าวถอยไปอย่างสุดแรง เธอเริ่มจะเก็บรอยยิ้ม นั้นไว้ไม่อยู่ “ขอบคุณความรักความเมตตาของคุณกู้ เป็นอย่างมากนะคะ แต่ว่าฉันไม่ต้องการ”

“คุณถัง นี่คุณปฏิเสธผมหรอ?” คุณกู้มองตั้งแต่หัว จรดเท้าถังซินครู่หนึ่ง พร้อมเย้ยเยาะเธอเบาๆ “ข้าง นอกได้แพร่ข่าวเรื่องที่คุณไปมาหาสู่กันกับประธานมู่ คุณยังจะปกปิดตัวเองอีกหรอ?”

“ฉันไปทานอาหารกับประทานมู่อยู่เป็นประจำ การ วางตัวของเขาฉันรู้ดี ฉันไม่มองคุณในสภาพนี้หรอ วันนี้ ที่คุณยังนั่งอยู่ตรงนี้ได้ ก็เป็นเพราะหน้าตาที่พวกเรามี ให้ประธานส้าว ไม่อย่างนั้นคุณคิดว่าคุณเป็นใคร?”
ไม่รอให้กังในได้ตอบคำถาม คุณกู้ก็ได้กล่าวด้วย ตนเอง “อย่างนี้ดีกว่า คุณกุ้งหอมผมสักหน่อยผมก็ดี ใจมากแล้ว แล้วผมก็จะดื่มเหล้าขาวนี้แทนคุณ แต่ถ้า คุณไม่ทํา คุณจะต้องดื่มเหล้าขาวแก้วนี้ด้วยตัวของคุณ เอง!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ