ฉันเป็นสุดที่รักของประธานมู่! ?

บทที่ 413 เปลี่ยนที่นั่ง



บทที่ 413 เปลี่ยนที่นั่ง

ท่ามกลางการทะเลาะวิวาทระหว่างถังซินกับมู่เฉิน หย่วน ได้ใช้เวลาในการเตรียมอาหารกลางวันทั้งสิ้น หนึ่งชั่วโมง ในที่สุดอาหารก็เสร็จสมบูรณ์

ขนมปังและคุ้กกี้ที่อยู่บนจาน จู่ซือซือได้ทานหมดตั้ง นานแล้ว ขณะที่มาทานอาหารที่ห้องรับแขก ก็ได้กลิ่น ของโจ๊กปลาแผ่นที่โชยชวนให้น้ำลายสอ เธอจึงออก แรงชมถังซิน

“ฝีมือการทำอาหารของพี่ถังซินนี่สุดยอดไปเลยนะ อาหารที่อยู่บนโต๊ะนี้เดี๋ยวฉันจะจัดการทั้งหมดเอง!”

เธอถือตะเกียบขึ้น ปากก็พูดพร่ำไม่หยุด “ใครได้แต่ งงานกับพี่ถังซินนะ ต้องโชคดีมากแน่ๆ!

มู่เฉินหย่วนมองขวางไปยังจู่ซือซือด้วยสีหน้าที่ได้ อารมณ์

จู่ซือซือคล้ายกับว่ามองไม่เห็น จึงนั่งลงใกล้กับถังซิน เธอทานอย่างสุภาพไปพลาง พูดคุยกับถังซินไปพลาง เธอยังพูดอีกว่าอยากทานคุ้กกี้ จึงอ้อนวอนให้ถังซินทำ ให้เธอทานอีกครั้งในช่วงบ่าย

โจ๊กปลาแผ่นที่มากมายเช่นนี้ ถังซินเกรงว่าจะทานไม่ หมด ไม่นึกเลยว่ามู่เฉินหย่วนกับจู่ซือซือจะอยากทาน มากขนาดนี้
ไม่เพียงแต่โจ๊กเท่านั้น แม้แต่ผักพวกเขาทั้งสองก็ กวาดเรียบจนไม่มีเหลือ

ถังซินมองไปยังฝ่ายชายครู่หนึ่ง พร้อมกล่าวอย่าง ตั้งใจ “ฉันคิดว่าฝีมือการทำอาหารของฉันจะไม่ถูกใจ คุณซะอีกนะ!”

มู่เฉินหย่วนกล่าวอย่างไม่กระโตกกระตาก “โจ๊ก ปลาแผ่นเก็บไว้ตอนเย็นมันจะไม่ร้อนไม่อร่อย ผมกลัว เปลือง ผมก็พยายามกินเท่าที่ผมกินได้ แต่ถึงอย่างไร ซือซือก็ชอบกินของที่สดใหม่”

“ฉันไม่เคยพูด!” จู่ซือซือค้านอย่างไม่พอใจ “ก็เห็นชัด ว่าพี่เฉิน…….

มู่เฉินหย่วนใช้สายตาอันเยือกเย็นมองไป

จู่ซือซือหัวชาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เธอไม่กล้าจะพูด อะไรออกไปแล้ว พร้อมทำเสียงในลำคอ พลันเขย่าแข นของถังซิน “พี่ถังซิน พี่ทำคุ้กกี้ให้น้อยลงดีกว่านะ ให้ ฉันพอทานคนเดียวก็โอเคแล้ว!”

ถังซินลูบหัวเธอ “ได้สิ เธออยากจะกินรสอะไรได้หมด เลย” “หึ!” จู่ซือซือแลบลิ้นใส่มู่เฉินหย่วน “ไม่ให้พี่เฉิ นทานหรอก!”

มู่เฉินหย่วนยิ้มพร้อมส่ายหัว เขาเปิดโทรศัพท์ดูพบว่า เย่นจึงเหนียนได้โทรมาเมื่อหนึ่งชั่วโมงที่แล้ว เนื่องจาก เขาเปิดโหมดเงียบไว้จึงไม่ได้ยิน จึงเดินไปริมหน้าต่างแล้วโทรกลับไปหาเย่นจิ่งเหนียน

“หากวนชิงเฟิงเจอแล้ว เขาไม่ได้เป็นอะไร” หลังจาก โทรติด เย่นจิ่งเหนียนก็ได้รายงานสถานการณ์ให้แก่ เขา “โรงเรียนของเขาส่งตัวไปที่ซีเรีย ชั่วโมงที่แล้วฉัน เพิ่งไปส่งเขาที่สนามบินมา”

“อืม นายกลับมาเถอะ”

เย่นจิ่งเหนียนกล่าว “ยังกลับไม่ได้ชั่วคราวน่ะ ได้ที่ อยู่ใหม่ของห้องทดลองแล้ว ฉันต้องไปดูสักหน่อย ใช่ แล้ว พี่ครับ พี่ไปผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจที่ไหน บอกผมไม่ได้ หรอ?”

“ผมก็อยากลองเปลี่ยนหัวใจอยู่เหมือนกัน ที่นั่นมี เปลี่ยนสมองมั้ย?”

มู่เฉินหย่วนได้ยินคำพูดหยอกล้อของเขา ก็อดไม่ได้ที่ จะยิ้ม “มีสิ ไม่เพียงแต่เปลี่ยนสมองนะ ยังมีสุสานกับ โลกศพฟรีอีกด้วย รอนายกลับมาฉันจะพาไป”

นี่คือการลงโทษ ที่นายกล้ามาแหย่ฉัน!

หลังจากมื้อกลางวัน ถังซินก็รีบเร่งเตรียมวัตถุดิบ ได้ อบคุ้กกี้ไว้หลากหลายรส ในครั้งนี้เธอทำเยอะขึ้นหน่อย ให้จู่ซือซือได้ทานถึงวันพรุ่งนี้ และยังมีห้าชิ้นสำหรับ คุณแม่เสว่เม่ย
เธอถูมือ พลันมองไปเห็นนาฬิกาว่าสายแล้ว อยากที่ จะกลับไป

จู่ซือซือก็วิ่งมาดึงแขนเธอไม่ยอมปล่อย พร้อมมอง เธอด้วยสายตาปริบๆ “พี่ถังซิน พี่เคยพูดว่าจะให้ฉันทำ อาหารเย็น ทำไมตอนนี้พี่จะไปแล้วล่ะ?”

“ฉันกลับไปเก็บกวาดห้องนอนน่ะ ช่วงเย็นจะกลับมา อีกที” ถังซินนั่งลงบนโซฟา ฝ่ายชายที่กำลังนั่งทำงาน

อยู่ก็มองมายังเธอ เธอและมู่เฉินหย่วนใจลอยอยู่สักพัก เธอรู้สึกเก้ๆกังๆ

จู่ซือซือหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาในทันใด “เดี๋ยวฉันจะ เรียกให้คุณป้าคนหนึ่งมาช่วยพี่ทำความสะอาด”

“ไม่ต้อง พี่เรียกมาแล้ว”

“งั้นพี่ถังซินอยู่กับฉันที่นี่ไม่ได้หรอ” จู่ซือซือดึงเขย่า แขนของเธอ พร้อมกล่าวอย่างน้อยใจ “ฉันอยู่คนเดียว ทุกวันเลย ไม่มีใครอยู่เป็นเพื่อนสักวัน”

“ขอเถอะนะพี่ถังซิน แค่วันนี้วันเดียวเองได้มั้ย?”

เผชิญหน้ากับเธอ ถังซินก็ใจอ่อนลง พร้อมพยัก หน้า “ก็ได้ งั้นพวกเราไปเล่นในห้องกันเถอะ ห้องรับแข กมีคนใช้”
จู่ซือซือหันกลับไปมองครู่หนึ่ง “พี่หมายถึงพี่เฉินหรอ? วันนึงเขาก็ยุ่งทุกยี่สิบสี่ชั่วโมงนั่นแหละ ลองตอนสาย ไม่ใช้คอมสิ บริษัทคงจะล้มละลาย”

ระหว่างที่พูด เธอก็เดินไปยึดคอมของมู่เฉินหย่วน “พี่ เฉิน เล่นไพ่นกกระจอกเป็นเพื่อนฉันหน่อยสิ”

“พอได้แล้ว แค่สองคนจะเล่นได้ยังไงกัน”

“พี่ถังซินก็อยู่ วันนี้ช่วงบ่ายเธอจะอยู่กับฉันที่นี่” จู่ซือซื อชี้ไปยังถังซิน “ครั้งที่แล้วที่เล่นกันพี่เฉินชนะฉันไปตั้ง หลายตา วันนี้ฉันต้องชนะกลับให้ได้!”

“แน่หรอ?” มู่เฉินหย่วนมองไปยังถังซิน พร้อมเลิกคิ้ว ขึ้นเล็กน้อย

ถังซินค้อนตากลับมายังเขา กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา ภายในลำคอ “ฉันก็ไม่อยากเห็นคุณ ฉันจะอยู่ที่นี่เป็น เพื่อนซือซือ”

มู่เฉินหย่วนจนปัญญา

เขาไม่ได้พูดอะไร แล้วจะมารังเกียจเขาทำไมกัน?

จู่ซือซือมีไพ่นกกระจอก แต่ไม่มีเครื่องเล่นไพ่ จึงนำ โต๊ะของห้องรับแขกย้ายมาชิดขอบหน้าต่าง ไพ่นก กระจอกได้ถูกวางลงไป จับหน้าไพ่แล้วเปิดออก

ถังซินเล่นไพ่นกกระจอกได้พอใช้ได้ แต่ไม่ค่อยได้เล่นเท่าไหร่ และไม่เคยเล่นกับจู่ซือซือมาก่อน ส่วนมู่ เฉินหย่วนนั้นได้เคยเล่นมาก่อนแล้ว

เธอไม่เคยเห็นมู่เฉินหย่วนเล่นไพ่นกกระจอกมาก่อน คาดเดาว่าฝีมือของผู้ชายคนนี้น่าจะไม่ค่อยเท่าไหร่

ไม่คิดว่ามันจะผิดจากที่เธอคาดไว้ขนาดนี้ มู่เฉิน หย่วนเล่นได้ดีมาก ลงอยากดุเดือด จนถังซินเริ่มโมโห

ถังซินยกเก้าอี้ขึ้นมา พร้อมกล่าวอย่างหงุดหงิด “เปลี่ยนที่นั่ง!”

“คุณถัง ปัญหามันอยู่ที่ฝีมือนะ ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับที่ นั่งเลย” มู่เฉินหย่วนยกมุมปากขึ้นพร้อมกล่าว “ฝีมือของ เธอไม่ดี เปลี่ยนที่นั่งก็ชนะไม่ได้หรอก”

“คุณจะเปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยน?” ถังซินชูกำปั้นไปยัง เขา

“โอเค โอเค เปลี่ยนก็เปลี่ยน” มู่เฉินหย่วนยิ้มอย่างจน ปัญญา ลุกขึ้นยืนเปลี่ยนที่นั่งกับฝ่ายหญิง

หลังจากที่ทั้งสองเปลี่ยนที่นั่งกันแล้วนั้น จู่ซือซือก็เริ่ม เล่นอย่างดุเดือด ลงเงินจนถังซินนั้นกุมขมับ

หลังจากที่เล่นกันอีกรอบหนึ่ง ถังซินเห็นว่าไพ่สำรับนี้ ไม่เลวเลยทีเดียว จึงแอบเก็บไว้เงียบๆ ด้วยความดีใจ หวังว่าเดี๋ยวจับได้ไพ่เยาจีอีกใบก็ชนะแล้ว
หลังจากที่จับได้ไพ่ชีถ่ง เธอก็ได้โยนมันออกไป

“อ๊ะ ฉันชนะแล้ว!” จู่ซือซือนำไพ่มากองไว้อย่างตื่น เต้น “ขอบคุณนะคะพี่ถังซิน พี่เก่งมากๆ เลย”

.” ถังซินบึนปาก “ไม่เป็นไร”

ต่อมาได้มีสายจากบริษัทโทรเข้ามา มู่เฉินหย่วนด้าน หนึ่งก็เล่นไพ่เป็นเพื่อนพวกเขา อีกด้านหนึ่งก็ประชุมกับ พนักงานระดับสูง

มีบางครั้งที่เขาสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ถังซินจึงฉวย โอกาสโจมตีเขา

เล่นจนถึงหกโมงครึ่ง ถังซินก็ได้ชนะ และยังได้เงินมา

หลายพันหยวน

เธอนําเงินเข้าไปเก็บไว้ในกระเป๋า พร้อมกล่าวอย่าง ปลื้มอกปลื้มใจ “ฉันจะไปทำอาหารเย็นนะ จู่ซือซือเธอ อยากทานอะไรมั้ย?”

“อะไรก็ได้ค่ะ!”

หลังจากที่รอให้ถังซินเข้าไปในครัว จู่ซือซือก็รีบวิ่งไป หามู่เฉินหย่วนที่อยู่อีกด้านหนึ่ง พร้อมยื่นมือออกไปหา เขา “พี่เฉินขอเงินด้วย”

มู่เฉินหย่วนทำเป็นทองไม่รู้ร้อน “ฉันยังไม่ได้เงินที่เธอแพ้เลย”

“พี่แจกไพ่ให้พี่ถังซินตลอด คิดว่าฉันไม่รู้หรอ?” จู่ ซือซือหัวเราะในลำคอ “ถ้าพี่เฉินไม่ให้ฉันนะ ฉันจะไป บอกให้พี่ถังซินได้รู้!”

มู่เฉินหย่วนบีบคลึงใบหน้าของเธอ “เธอกินกับฉัน ดื่ม กับฉัน ยังจะมาใช้อ่านาจกับฉันอีกหรอ?”

“พี่เฉิน จะให้หรือไม่ให้?” จู่ซือซือเห็นเขายังไม่ ขยับเขยื้อน จึงทำท่าจะไปยังห้องครัว

มู่เฉินหย่วนจึงรีบคว้าเธอให้หยุดแล้วลากกลับมา เขา ควักกระเป๋าตังก์ออกพร้อมเอ่ยถามอย่างจนปัญญา “ต้องการเท่าไหร่?”

“ห้าพัน!”

มู่เฉินหย่วนควักเงินออกมาให้กับเธอ “มีอยู่แค่นี้”

จู่ซือซือนับแล้วนับอีก ก็ยังไม่พอ “มีแค่สามพันเจ็ดเอง ไม่พอ ที่เหลือ เขียนใบเช็คมาให้ฉันแล้วกัน!”

“เงินคงเหลือในบัตรของเธอตั้งแปดหลัก เธอขาด แคลนหรือไง?”

“ไม่ได้ขาด แต่ว่าเงินที่ชนะพี่เฉินน่ะ ฉันรู้สึกว่ามันเป็น อารมณ์แห่งความสำเร็จ!” จู่ซือซือกล่าวอย่างภาคภูมิใจ พร้อมจับปากกาส่งให้แก่เขา “พี่เขียนเช็ค ไม่งั้นฉันจะบอกความลับนี้กับ ถังซัน

ฝ่ายถังขินที่กำลังเตรียมอาหารเย็นอยู่ในครัวนั้น ไม่ ได้รับรู้บทสนทนาของทั้งสองฝ่ายเลยแม้แต่น้อย

อาหารเย็นเป็นผัดมักกะโรนีเนื้อที่หอมกรุ่น

จีซือซือทานไปสองถ้วยใหญ่ เธอประคองตัวให้อยู่ บนที่นั่งไม่ได้ จึงบอกกับถังซินให้ไปหยิบยาช่วยย่อย อาหารมาให้แก่เธอ กลัวว่ากระเพาะจะระเบิดออกมา


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ