ฉันเป็นสุดที่รักของประธานมู่! ?

บทที่460เธอไม่กลัวเหรอ



บทที่460เธอไม่กลัวเหรอ

“ฉันยังไม่เคยเห็นมะม่วงที่กินกับพริกมาก่อนไม่ใช่ คลุกแล้วเป็นสีดำใช่ไหมคะ”

เว่ยเว่ยกรอกตามองบน”นี่เป็นของทานเล่นที่เป็น เอกลักษณ์ของพวกเราที่นี่มีอีกกี่คนที่ไม่ได้กินมัน”

ถังซินเอาส้อมจิ้มมะม่วงดิบชื้นหนึ่งจุ่มกับพริกมาลอง ทานดู

รสชาติอร่อยมากจริงๆ

ตอนแรกเว่ยเว่ยอยากจะมาคุยเล่นกับถังซินยังไม่ทัน ได้นั่งสามีเธอก็โทรมา

หลังจากรับสายเว่ยเว่ยบอกว่าต้องไปขนสินค้ากับ สามีแล้วรีบเดินไป

ถังซินเอนกายอย่างขี้เกียจบนชิงช้ารังนกเพื่อ อาบแดดผ่านไปสักพักก็เอาส้อมจิ้มมะม่วงดิบจุ่มน้ำ พริกมาทาน

จานมะม่วงดิบที่ยังใหญ่กว่าหน้าก็ถูกเธอกินจนหมด โดยไม่รู้ตัว

“ประธานถังคะกำลังอาบแดดอยู่เหรอคะ”สไตล์ ลิสมาพร้อมกับถือหม้อเก็บความร้อนอยู่น้ำเสียงไม่ ชัดเจน“ประธานมู่เห็นว่าตอนเที่ยงคุณไม่ได้ทานข้าวที่ห้องอาหารจึงให้ฉันต้มซุปเป็ดมาให้ค่ะ”

ถังซินมีสีหน้าที่ไม่สบายใจพูดว่า”ตอนเช้าฉันยังไม่ตื่น จึงให้คนเอาอาหารกลางวันมาส่งให้ที่ห้องแล้ว”

จริงๆแล้วทนสายตาและเสียงซุบซิบของพวกเขาไม่ ไหวถึงไม่ยอมลงไปข้างล่าง

เสียงของสไตล์ลิสดังขึ้น“ประธานมู่เป็นห่วงคุณและ ยังถามพวกเราอีกว่าทำไมคุณไม่มา”

ถังซินยิ่งรู้สึกอึดอัดมากขึ้น”คุณวางไว้ตรงนี้แหละอีก สักพักฉันค่อยทาน

“งั้นฉันวางไว้ตรงนี้นะคะขอตัวก่อนค่ะ”

หลังจากสไตล์ลิสเดินไปความรู้สึกอึดอัดที่อยู่ในใจก็ หายไป

เธอมองหม้อเก็บความร้อนที่วางอยู่บนโต๊ะอยากเปิด เอามาทานมาก

แต่กลางวันเธอกินไปเยอะแล้วตอนนี้ก็กินมะม่วงดิบ จานใหญ่ไปอีกอะไรก็กินไม่ไหวแล้วจริงๆ

เห็นแม่สามีของเว่ยเว่ยเดินผ่านมาทางนี้ถังซินจึง ทักทายกับเธอ

“ป้าเจียงคุณเพิ่งกลับมาเหรอคะ”
“ใช่ค่ะเว่ยเว่ยเขาอยากกินมะม่วงที่ห้องอาหารก็หมด แล้วฉันจึงออกไปซื้อมาสองลัง”ป้าเจียงตอบและยังเปิด ลังหยิบให้ถังซินกึนเยอะมาก

“ขอบคุณค่ะเกรงใจคุณจังเลยค่ะ”ถังซินยิ้มและพูด ขอบคุณ

เธออยากตอบแทนก็นึกถึงซุปเป็ดจึงหยิบหม้อเก็บ ความร้อนให้ป้าเจียง”นี่เป็นซุปเป็ดค่ะคุณเอากลับไปให้ เว่ยเว่ยกินนะคะ”

“คุณกินเถอะค่ะพรุ่งนี้ฉันจะต้มให้เธอกิน”

“ฉันกินจนอิ่มมากแล้วค่ะคุณเอาไปให้เธอกินเถอะ ค่ะ”ถังซินจึงผลักหม้อเก็บความร้อนไปอีกครั้ง“ฉันอ้วน มากแล้วค่ะกลัวว่าจะดูไม่ดีตอนถ่ายทำผู้กำกับก็จะมา นําหนิฉันอีก”

พอปฏิเสธไม่ได้ป้าเจียงจำเป็นต้องรับมา“งั้นเย็นนี้ คุณกับคุณมู่ก็มากินข้าวด้วยกันกับเราสิคะ

“ไม่เป็นไรค่ะคุณไม่ต้องใจดีขนาดนี้หรอกค่ะ”

หลังจากพูดคุยกันสักพักถังซินที่เพิ่งปฏิเสธความคิด ของป้าเจียงที่เชิญพวกเขาไปกินอาหารเย็นในใจรู้สึก ว่าเว่ยเว่ยช่างโชคดีจริงๆสามีและแม่สามีของเธอช่างดี อะไรขนาดนี้
ทันใดนั้นเธอก็นึกถึงวันนั้นที่ได้คุยกับชิวเสี่ยวอี้ผู้หญิง ที่ดูโดดเดี่ยวคนนั้น

ชิวเสี่ยวอี้บอกว่าหลังจากที่มู่เฉินหย่วนรู้ความจริงก็มี ท่าทางเย็นชากับเธอเธอย้ายไปอยู่บ้านตระกูลมู่เขาก็ ไม่กลับไปบ้านอีกเลยยกเว้นตอนที่ท่านมู่มีธุระกับเขา เขาถึงจะกลับมาอย่างไม่เต็มใจ

ถังซินคิดว่าไม่ใช่ความผิดชิวเสี่ยวอี้ก็หวังว่ามู่เฉิน หย่วนจะสามารถกลับมาคุยดีกับชิวเสี่ยวอี้ได้

ก็ได้แต่คิดอยู่ในใจ

เธออยู่ในฐานะอะไรที่จะไปพูดสอนเขาได้งั้นเหรอ

ถังซินพักผ่อนอยู่ในสวนดอกไม้สักพักก็รู้สึกว่าอากาศ ร้อนเมฆมาปกคลุมเหมือนกับว่าฝนจะตกจึงเดินกลับ ห้อง

ตอนขึ้นข้างบนก็เดินชนเข้ากับมู่เฉินหย่วนพอดี

มู่เฉินหย่วนจึงเดินขึ้นข้างบนกับเธอถือโอกาสถามเธอ ว่า“ซุปเป็ดอร่อยไหม”

เขากลัวว่าเธอไม่ได้กินอาหารกลางวันไปข้างหลังครัว ให้คนต้มมาให้คงจะไม่ดีถ้าเอามาให้ด้วยตัวเองจำเป็น ต้องขอให้คนอื่นเอามาให้

ถังซินไม่พูดว่าเอาให้คนอื่นไปแล้วดีกว่าจึงตอบอย่างคลุมเครือ

ถึงหน้าประตูเธอคิดแล้วจึงหยิบมะม่วงสองสามลูก จากในถุงยัดใส่อ้อมแขนผู้ชาย แม่สามีของเว่ยเว่ยให้ มาเยอะขนาดนี้ฉันกินคนเดียวไม่หมดหรอกค่ะ”

จากนั้นก็เปิดประตูเดินเข้าไป

มู่เฉินหย่วนมองมะม่วงในมืออดกลั้นไม่ไหวจนต้องยิ้ม ออกมา

ดูแล้วช่วงนี้เธอกินเยอะจริงๆไม่งั้นของพวกนี้คงกินคน เดียวหมดไปนานแล้วยังมีเหลือให้เขาอีกเหรอ

เวลาห้าโมงกว่าฝนตกหนักมาก

แม้ว่าหน้าต่างจะติดแผ่นกันเสียงแล้วแต่ถังซินก็ยัง ได้ยินเสียงเม็ดฝนกระทบกับหน้าต่างจนสะท้านฟ้า สะเทือนดิน

เธอเปิดผ้าม่านมองออกไปข้างนอกตอนนี้ข้างนอกมืด มากมองเห็นแค่แสงไฟในห้องอาหาร

ฝนตกหนักมากขนาดนี้ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะหยุดตก

วันนี้ถังซินกินไปเยอะมากถึงตอนเย็นก็ไม่หิวอะไร ตอนที่ห้องอาหารโทรมาถามเธอว่าจะกินอะไรไหมเธอ บอกว่าไม่เอาแล้วส่งข้อความหาฉางผิงถามเขาว่าอยู่ บ้านเป็นอย่างไรบ้าง
ฉางผิงบอกว่าป้าทำอาหารอร่อยมากแต่เขายังชอบ อาหารที่ถังซินกับแม่ทำอยู่ดีจากนั้นไม่นานเขาก็พูดอีก ว่าตราบใดที่ไม่ใช่อาหารที่คุณลุงสองทำเขาก็กินได้ หมด

ถังซินที่มองดูก็ไม่รู้จะร้องไห้หรือหัวเราะดี

เธอคิดว่ามู่เฉินหย่วนทำอาหารได้ไม่เลวทำไมถึงทิ้ง จุดดำใหญ่ขนาดนี้ไว้ให้ฉางผิงล่ะ

ฉางผิงส่งข้อความมาอีกว่า: ป้าครับแม่ผมไปต่าง ประเทศนานมากแล้วไม่โทรติดต่อมาหาผมเลย

ถังซินถาม : ไม่ได้ยินข่าวคราวเลยเหรอ

ฉางผิง: ใช่ครับทุกครั้งที่ผมโทรไปก็สายไม่ว่างหรือ ว่าเธอจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น

ถังซินจะตอบกลับข้อความเขาทันใดนั้นก็มีเสียงดัง สะเทือนลั่นด้านนอกเธอตกใจข้างหน้าก็เกิดเงาสีดำจน โทรศัพท์มือถือตกหล่น

โทรศัพท์มือถือตกลงบนพื้นหน้าจอก็ดับไป

ผ้าม่านในห้องที่ปิดอยู่หลังจากที่โทรศัพท์มือถือดับ ไปทำให้ถังซินตกอยู่ในความมืดจนมองไม่เห็นอะไรเลย

เธอรู้สึกกลัวตั้งแต่ปลายเท้าขึ้นมากลัวว่าจู่ๆจะมีสัตว์ ประหลาดจากที่ไหนไม่รู้วิ่งออกมาหาเธอจึงนั่งลงคลํหาโทรศัพท์มือถืออย่างกล้าๆกลัวๆเนิ่นนานแล้วก็หาไม่ เจอ

ด้านนอกก็มีเสียงพายุฝนฟ้าคะนองดังขึ้นฟ้าร้องมีรูป ร่างเหมือนปีศาจที่มีฟันและกรงเล็บเกาะอยู่บนหน้าต่าง

ถังซินตกใจจนไม่กล้าคลำหาโทรศัพท์มือถือเปลี่ยน ใจคลําหาเตียง

หลังจากที่น่องไปกระแทกกับเตียงก็รีบปีนขึ้นไปบน ทันทีหยิบผ้าห่มมาคลุมตัวเอง

มู่เฉินหย่วนที่พักอยู่ตรงห้องตรงข้ามกับถังซินกำลัง ประชุมผ่านวิดีโอกับคนอื่นอยู่

ประชุมได้ไม่กี่นาทีนอกหน้าต่างก็เกิดเสียงฟ้าร้อง ขึ้นมาทันใดนั้นไฟก็ดับทั้งห้องเหลือแค่แสงจากหน้า จอโน้ตบุ๊กส่องบนใบหน้าผู้ชายคนในวิดีโอทางไกลก็ ตกใจ“ประธานมู่ครับทางนั้นไฟดับเหรอครับ”

“ไม่เป็นไรแบตเตอรี่โน้ตบุ๊กยังเต็มอยู่เน็ตก็ไม่ได้ ตัด”มู่เฉินหย่วนเปิดไฟในโทรศัพท์มือถือมาส่อง เอกสารถึงไฟจะดับก็ไม่เป็นผลกระทบกับงานเลยสัก นิด”ประชุมต่อเลย”

ฟ้าร้องยังดังสนั่นก้องหูของผู้ชายดังรบกวน บรรยากาศเงียบสงบของเขาทันใดนั้นเขาก็นึกถึงถังซิน

ไฟดับแล้วฟ้าร้องก็ดังไม่หยุดเธอจะเป็นอะไรไหม
มู่เฉินหย่วนเพียงแค่คิดในใจรู้สึกเป็นห่วงขึ้นมาเขา วางเอกสารลงพูดกับคนทางนั้นในวิดีโอว่าดึกแล้วพรุ่งนี้ ค่อยมาประชุมใหม่แล้วหยิบโทรศัพท์มือถือออกไป

นอกห้องนอนก็มืดสนิทนอกจากแสงโทรศัพท์มือถือก็ ไม่มีแสงอะไรอีกเลยราวกับว่าไฟดับทั้งหมด

มู่เฉินหย่วนเดินไปถึงหน้าประตูห้องที่ถังซินพักอยู่

แล้วเคาะประตู

“ถังซินคุณเป็นอย่างไรบ้าง

หลังจากรออยู่หลายวินาทียังไม่มีคนตอบอารมณ์ใน ใจเขาก็กังวลระหว่างที่กดโทรหาเธอก็เคาะประตูไป ด้วย

ผลคือโทรศัพท์ปิดเครื่อง

ภาพนับไม่ถ้วนไหลเข้ามาในหัวของมู่เฉินหย่วนเช่น เธอกำลังอาบน้ำแล้วไฟก็ดับจนลื่นล้มลงบนพื้นสมอง กระแทกกับอ่างอาบน้ำหัวแตกมีเลือดไหลออกมา

ในใจเขายิ่งรู้สึกกังวลมากขึ้นอยากจะยืนยันถึงความ ปลอดภัยของเธออย่างเร่งด่วน

มู่เฉินหย่วนถอยหลังไปสองสามก้าวเอาแสงจากมือ ถือส่องไปที่ประตูแล้วเตะอย่างแรง

ประตูเปิดออกเขารีบวิ่งเข้าไปผ่านห้องนั่งเล่นไปเปิดประตูห้องนอนเรียกชื่อเธอเสียงดัง”ถังซินคุณอยู่ ที่ไหน”

ตอนที่เปิดประตูห้องที่สองในที่สุดเขาก็ได้ยินเสียงถัง ซินเสียงดูสั่นๆและไม่ชัด

“ฉันฉันอยู่………………….

มู่เฉินหย่วนเอาแสงจากโทรศัพท์มือถือส่องเข้าไปใน ห้องจนไปถึงเตียง

เขาก็เห็นข้างล่างเป็นก้อนนูนและสั่นอยู่รู้เลยว่าคน ข้างในรู้สึกหวาดกลัวมาก


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ