ฉันเป็นสุดที่รักของประธานมู่! ?

บทที่ 447 เธอท้องแล้วทำให้คุณตกใจขนาดนี้เลยเหรอ



บทที่ 447 เธอท้องแล้วทำให้คุณตกใจขนาดนี้เลยเหรอ

ชิวเสี่ยวอี้ยิ้มอย่างเย็นชา “ถ้าเธอเป็นเพื่อนของเสี่ยว ซินจริงๆก็คงจะไม่ใส่ร้ายป้ายสีเธอต่อหน้าแม่แท้ๆของ เธอ และพรรณนาเหมือนกับเธอเป็นคนดุร้ายที่เหยียบ เรือสองแคม”

จ้าวอี้ซีนกัดริมฝีปาก “ฉันก็ได้ยินจากคนอื่นมาเหมือน กัน ฉันเคารพในตัวรุ่นพี่ถังมากค่ะ”

“ถ้าเคารพเธอจริงๆ ก็คงจะไม่ฟังคำพูดของอื่นหรอก” ชิวเสี่ยวอี้ไม่หลงกลเธอ “ฉันแก่กว่าเธอยี่สิบกว่าปี ในใจ เธอคิดยังไงฉันรู้หมด”

“ฉันเห็นว่าเธอยังเด็ก ไม่ง่ายที่จะออกมาทำงานได้จึง จะปล่อยเธอไป ถ้าฉันคิดเล็กคิดน้อยกับเธอจริงๆ อย่า ว่าแต่บริษัทมู่ชื่อเลย ถึงไปที่อื่นเธอก็อย่าหวังเลยว่าจะ ได้ร่ำรวยมีเกียรติขึ้นมา”

ชิวเสี่ยวอี้พูดเบาๆแต่กลับมีความน่าเกรงขามเป็น อย่างมาก กดดันจ้าวอี้ซีนให้ทำได้เพียงแค่ก้มหน้า ไม่ กล้าเอ่ยปากพูดออกมา

หลังจากผ่านไปนาน ชิวเสี่ยวอี้ถึงจะกวาดตามองเธอ แวบหนึ่ง “พอแล้ว กินน้ำเสร็จแล้วก็รีบไปเถอะที่นี่จะปิด แล้ว”

จ้าวอี้ซีนหันตัวไปทางคุณแม่ถัง “คุณแม่ถัง ถ้าอย่าง นั้นฉันไปก่อนนะคะ”
คุณแม่ถังทำสีหน้าเย็นชาและไม่สนใจเธอ

ก่อนหน้านี้คุณแม่ถังไม่ได้สังเกตเลย จนกระทั่งหลัง จากที่ชิวเสี่ยวอี้พูดจุดนี้ออกมา เธอถึงรู้สึกว่าเด็กสาว คนนี้เป็นคนร้ายลึก บอกว่าเป็นเพื่อนกับยินยินแต่ก็ยัง ใส่ร้ายยินยินลูกสาวของเธอ

หลังจากที่จ้าวอี้ซีนออกไปแล้ว คุณแม่ถังดึงมือของ ชิวเสี่ยวอี้มาและพูดขึ้น “ขอบคุณที่คุณพูดแทนยินยิน เฮ้ย ฉันไม่ค่อยได้คบค้าสมาคมกับคนเท่าไร ไม่คิดว่า เด็กสมัยนี้จะร้ายขนาดนี้

“เป็นสิ่งที่ฉันควรทำอยู่แล้ว” ชิวเสี่ยวอี้ยิ้มและพูดออก มา “ยินยินเป็นเด็กดีคนหนึ่ง เธอเข้ากันไม่ได้กับเฉิน หย่วนก็ทําอะไรไม่ได้ เธออย่าทำเป็นว่าแม้เราไม่ได้เป็น ครอบครัวเดียวกัน ก็จะไม่เป็นเพื่อนกับฉัน”

คุณแม่ถังจึงวางใจขึ้นมาทันที “ดูคุณพูดสิ ฉันยังกลัว ว่าคุณจะรังเกียจว่าชนชั้นของฉันไม่ดีพอซะอีก”

“จะเป็นไปได้ยังไง เป็นเพื่อนกับเธอฉันมีความสุข มาก”

“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวอีกสักครู่ไปกินข้าวบ้านฉันนะ รอให้ โจ๊กเห็ดหูหนูขาวต้มเสร็จแล้วเธอก็เอาไปให้ประธานมู่ อีกหนึ่งชุด”

“ได้เลย” ชิวเสี่ยวอี้พยักหน้ายิ้ม “เธออย่าเรียก ประธานมู่ประธานมู่เลย เรียกชื่อก็พอแล้ว”
หลังจากที่จ้าวอี้ซีนออกมาจากโอเลมอลล์บนใบหน้า ยังคงมีความโกรธแค้น

เมื่อได้ยินว่าคุณแม่ถังเป็นแม่ของถังซิน เธอจึงจงใจ พูดคำพูดพวกนั้นออกไปอยากที่จะให้แม่ของถังซินรู้สึก รับไม่ได้

คิดไม่ถึงว่าผู้หญิงที่อยู่ข้างๆที่แท้ก็เป็นแม่ของมู่เฉิน หย่วน และยังพูดสั่งสอนเธออีก

เรื่องเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของมู่เฉินหย่วนกับหลิน เฉิงจี๋ คนนอกมักจะไม่รู้อยู่แล้ว คนที่อยู่เบื้องหลังเป็น คนบอกเธอ

เธอกลับมาเมืองหนานเฉิงก็เพราะคนที่อยู่เบื้องหลัง เป็นคนจัดการให้เธอมา

เมื่อนึกถึงคำพูดและสายตาที่เหยียดหยามของชีว เสี่ยวอี้เมื่อสักครู่นี้ ในใจของจ้าวอี้ซีนก็หนาวสั่นสะท้าน และขมวดคิ้วแน่น

“คิดไม่ถึงว่าเธอจะกล้าพูดกับฉันแบบนี้ ตกลงแล้วเธอ มีภูมิหลังยังไง?

เธอรู้เพียงแค่ความสัมพันธ์ของมู่เฉินหย่วนกับหลิน เฉิงจี๋แต่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับแม่แท้ๆของพวกเขาเลย
หลังจากที่โบกรถแท็กซี่และขึ้นไปแล้ว จ้าวอี้ซีนจึงต่อ สายโทรศัพท์สายหนึ่ง

ไม่นานสายทางไกลระหว่างประเทศก็รับสาย

“มีเรื่องอะไร?” เสียงที่พูดไม่ชัดของหญิงสาวดังออก มาแต่พูดภาษาจีนกลางได้อย่างคล่องแคล่ว

จ้าวอี้ซีนรู้ว่าเสียงของคู่สายเคยแก้ไขแล้ว แต่ทุกครั้ง ที่ได้ยินก็เป็นเช่นนี้จึงไม่ได้สนใจอะไรต่อ

จ้าวอี้ซีนพูดขึ้น “วันนี้ฉันเห็นแม่ของมู่เฉินหย่วนแล้ว คุณเอาข้อมูลของเธอให้ฉันหน่อย

คู่สายหัวเราะออกมา “งานที่มอบหมายให้เธอ เธอยัง จัดการจัดการไม่เรียบร้อยเลยนะ รีบร้อนอยากที่จะไป ยุ่งกับตระกูลมู่แล้วเหรอ?”

“ถ้าอย่างนั้นคุณคงประเมินฉันสูงเกินไปแล้วจริงๆ” จ้าวอี้ซีนตอบกลับ เธอหยิบบุหรี่ออกมาจากกระเป๋าและ จุดไฟอย่างชำนาญ เธอลดกระจกหน้าต่างรถลง

“ความสวยงาม ความออดอ้อน ของพวกนี้ใช้กับมู่เฉิน หย่วนไม่ได้ผลหรอก”

“ถ้าอย่างนั้นเธออยากจะได้ข้อมูลของแม่เขาไป ทำไม?” คู่สายเอ่ยถาม

จ้าวอี้ซืนพ่นควันบุหรี่เป็นวงกลมออกไปทางหน้าต่างคล้ายกลับกำลังหัวเราะเยาะสิ่งสมมุติที่ไม่ดีในหัวของ เธอ “อีกากินน้ำไม่ได้ ยังรู้ว่าต้องเติมหินลงไป น้ำถึง จะสูงขึ้นมา ฉันทำอะไรที่เขาไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นก็ต้อง เปลี่ยนวิธีแล้ว”

“เธออย่าลืมว่าเธอมาได้ยังไง” คู่สายถูกเธอพูด เหน็บแนม น้ำเสียงจึงเย็นชาขึ้นมา “ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน ทําลายข้อมูลของเธอก่อน เธอคิดว่าถ้ามู่เฉินหย่วนสืบ เจอแล้วเขาจะปล่อยเธอไปเหรอ?

จ้าวอี้ซีนนึกถึงเรื่องที่ผ่านมา ในตาก็เกิดความชั่วร้าย

แต่ในตอนนี้ สองตาก็เปลี่ยนมาเป็นความอ่อนโยนอีก ครั้ง และพูดจาสำรวมมากขึ้น “ไม่ว่ายังไงก็ตามพวก คุณคือนายทุนของฉัน ในเมื่อให้เงินแล้ว ฉันต้องจัดการ ธุระได้อย่างแน่นอน ทางนี้มีความเคลื่อนไหวอะไร ฉัน จะรายงานให้คุณฟังทุกอย่าง”

“ข้อมูลที่เธออยากได้ อีกสักครู่ฉันจะส่งอีเมลให้เธอ

จ้าวอี้ซีนทำเสียง อืม ออกมา ยื่นแขนออกไปทาง หน้าต่างและดีดขี้บุหรี่ทิ้ง “อ้อ มีเรื่องหนึ่งที่จะต้องบอก คุณ”

คนขับเห็นกิริยาท่าทางแบบนี้ของจ้าวอี้ซีน เดิมที อยากที่จะห้ามปราม

คนขับชำเลืองมองหญิงสาวที่นั่งไขว่ห้างอยู่จาก กระจกมองหลัง กระโปรงถกขึ้นไป ปรากฏให้เห็นขาอ่อนที่ขาวเนียนอย่างเลือนราง มือคีบบุหรี่เรียวเล็ก ไว้ วางท่าอย่างเต็มตัว

คนขับมองเธออย่างชั่วร้าย หลายครั้ง จึงทำให้เกือบ ที่จะชนกับรถคันข้างหน้า

คนขับรีบแสร้งทำเป็นขับรถต่ออย่างสุภาพเรียบร้อย

จ้าวอี้ซีนเงยหน้ามองคนขับแวบหนึ่ง และตอบกลับคู่ สายด้วยเสียงที่เบา “วันนี้ฉันบังเอิญเจอกับถังซิน เห็น กิริยาท่าทางของเธอระมัดระวังมากๆ เหมือนกับจะท้อง แล้ว”

“อะไรนะ” คู่สายตกใจแทบจะร้องเสียงหลงออกมา “เธอไม่ได้ดูผิดไปใช่ไหมว่าถังซินท้องแล้ว?”

“ไม่ผิด” จ้าวอี้ซีนกลับไปคิดภาพเหตุการณ์ที่เจอถัง ซินก่อนหน้านี้ และการแต่งตัวของเธอ “ฉันเคยดูข้อมูล ชีวิตประจำวันของถังซิน รู้ว่าเธอชอบแต่งหน้าแต่งตัว ไปบริษัททุกครั้งต้องดูสวยฉลาด”

ผู้หญิงที่รักการดูแลภาพลักษณ์ภายนอกขนาดนี้ เมื่อ เปลี่ยนบริษัทจะเปลี่ยนไปแต่งตัวสบายๆได้ยังไงกัน? ท้องของเธอเห็นไม่ค่อยชัด เดาว่าคงจะท้องได้ไม่นาน

เมื่อเห็นคู่สายไม่ส่งเสียงอะไรออกมานานแล้ว จ้าวอี้ ซีนจึงพูดขึ้น “เธอท้องแล้วทำให้คุณตกใจขนาดนั้นเลย เหรอ?
“ฉันรู้แล้ว ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันวางสายแล้วนะ”

คู่สายพูดจบก็วางสายใจ เหมือนกับมีเรื่องเร่งด่วน อะไรต้องจัดการ

จากนั้นจ้าวอี้ซีนจึงจ้องมองไปที่คนขับ

เมื่อเธอมาที่เมืองหนานเฉิง คนที่อยู่เบื้องหลังของเธอ พูดแค่เพียงว่าถังซินกับมู่เฉินหย่วนเคยคบกันมาก่อน เธอนึกว่าคนที่อยู่เบื้อหลังไม่สนใจถังซินซะอีก

แต่เมื่อเธอบอกว่าถังซินท้องแล้ว อีกฝ่ายกลับตกใจ อย่างเห็นได้ชัดจนไม่พูดตอบเธออยู่นาน

ทำไมเรื่องที่ถังซินท้องถึงทำให้คนที่อยู่เบื้องหลัง แปลกใจขนาดนี้?

ที่ประเทศY อันห่างไกล กาวเหม่ยซีได้คุยโทรศัพท์ กับจ้าวอี้ซีน หลังจากที่รู้ข่าวเรื่องหนึ่ง จึงรีบเปลี่ยน เสื้อผ้าออกไปนอกบ้าน

เธอพยายามออกแรงตามหาจี้เจียจื้อ สุดท้ายก็ได้มา พบเขากำลังคุยธุรกิจที่คลับเฮ้าส์แห่งหนึ่ง จึงปลอมตัว เป็นคนรับใช้แอบสะกิดข้างๆเขา

หลังจากที่จี้เจียจื้อจำกาวเหม่ยซีได้ แววตาเขาก็ เคร่งขรึมขึ้น

เขารีบหาข้ออ้างออกไปทันที กาวเหม่ยซีเดินตามหลังเขาออกมา

ทั้งสองคนมองหน้าหลังและเข้าไปที่ห้องส่วนตัว

จี้เจียจื้อหันมามองเธอด้วยสีหน้าที่เย็นชา “เธอรู้มั้ยว่า

มีคนตั้งเท่าไหร่ที่คอยจับจ้องเธออยู่ ยังจะมาที่นี่อีก?” “ฉันพึ่งได้ข่าวมาว่าถังซินท้องแล้ว”กาวเหม่ย พูด ด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ท้องของถังซินเห็นไม่ค่อยชัด เดา

ว่าน่าจะท้องได้ไม่นาน

สุดท้ายสีหน้าท่าทางของจี้เจียจื้อก็เปลี่ยนไป “partyคืนนั้น มู่เฉินหย่วนไม่ใช่ว่าไปด้วยเหรอ”

“ตอนนั้นเวลาค่อนข้างสั้น ถ้าไม่สืบให้ละเอียดก็จะ ไม่รู้” กาวเหม่ยซีขมวดคิ้วเอ่ยขึ้น “ถ้าสามารถตรวจ ปัสสาวะได้ ต้องท้องได้เดือนหนึ่งแล้วแน่นอน”

“ไม่ใช่ท้องกับมู่เฉินหย่วน?” จี้เจียจื้อสายตาหนักแน่น ขึ้นมาทันที น้ำเสียงก็มีน้ำหนักขึ้น “ร่างกายเขาอ่อนแอ แบบนั้น รักษาตัวอยู่หนึ่งปี ระบบการให้กำเนิดลูกยังดี อยู่เหรอ?

เกาเหม่ยซีส่ายหัว “ฉันก็ไม่ใจเหมือนกัน”

จี้เจียจื้อถีบโต๊ะน้ำชาที่เป็นกระจกทันทีทันใด

เขาออกแรงเตะอย่างแรง โต๊ะน้ำชาจึงลอยขึ้นไปและ ตกลงมาแตกที่พื้น ทำให้กาวเหม่ยซีตกใจกลัวและเงียบไม่ได้พูดอะไรออกมา


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ