ฉันเป็นสุดที่รักของประธานมู่! ?

บทที่ 221 หมาน้อยเยอรมันเชฟเฟิร์ดหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะ ทำหน้าที่โดยไม่สมัครใจ



บทที่ 221 หมาน้อยเยอรมันเชฟเฟิร์ดหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะ ทำหน้าที่โดยไม่สมัครใจ

ลู่เหวินซูไม่รู้ว่าในกระเป๋าของเธอนั้นใส่อะไรไว้ เขาถูกตี จนหน้าตาบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด หลังจากที่เห็นโอกาส เหมาะเจาะจึงกุมจับไปที่กระเป๋าของเธอและโยนทิ้งไปใน ทันทีทันใด

จากนั้นจึงพูดหยอกล้อเธอขึ้นว่า “นางฟ้าน้อย ฉันจะไม่ เลิกกับเธอแน่นอน”

เขายังพูดไม่ทันจบก็ถูกหลี่ซูเจ๊ตบไปหนึ่งที

ตั้งแต่เล็กจนโตลู่เหวินซูยังไม่เคยโดนใครตบหน้ามาก่อน จึงสับสนมึนงง

วี่เหวินถึงลุกขึ้นมาก่อน และจับไปที่ข้อมือของหลี่ซูเจ๋อ ย่างแรง ทำสีหน้าอึมครึม “เธอมีอะไรก็ถามออกมา

“อะไรวะเนี่ย! เธอตบหน้าฉันทำไม” ลู่เหวินซู เลียไปที่มุม ปากที่ชา ในเวลานั้นเขาก็มีความโกรธเคืองขึ้นมา “แม่ฉันยัง ไม่เคยตีฉันเลย”

หลี่ซูเจ๋ด่าเข้าใส่เขาว่า “นายไม่ต้องทำมาเป็นพูดดี ฉัน อยากที่จะฆ่านายเต็มทนแล้ว นายมันโรคจิต”

“ฉันทำอะไร?”
“นายทำอะไรหน่ะหรอ?” หลี่ซูเจ๋สะบัดข้อมือออกจากมือ ของวี่เหวินถึงอย่างแรง หยิบโทรศัพท์มือถือที่อยู่ในกระเป๋า ขึ้นมาและทุบไปที่บนตัวเขา “เรื่องที่นายทำเอง นายไม่รู้ หรอ!”

ลู่เหวินซูรับโทรศัพท์ของเธอไป เมื่อเห็นคลิปวิดิโอที่อยู่ บนมือถือก็นึกออก เห็นภาพการปรากฏตัวของชายหญิง อย่างคมชัด และยังมีเสียงร้องไห้ของผู้หญิงอย่างกระชั้น

เมื่อดูยังไม่ถึงสองวินาที เขาจึงรีบปิดคลิปวิดิโอทันที

“ตอนแรกคือนายตามตื้อจีบฉัน ฉันเลยตกลงคบหา คิดไม่ ถึงว่านายจะโรคจิตขนาดนี้” หลี่ซูเจ๋ร้องไห้อย่างเจ็บปวด สีหน้าเต็มไปด้วยความผิดหวัง “ฉันเป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง ต่อไปนี้ฉันจะทำยังไง?”

“ฉันสาบาน ฉันไม่ได้ถ่ายคลิปพวกนี้จริงๆ ” ลู่เหวินซูมี ความลุกลี้ลุกลนเล็กน้อย และไปดึงมือของหลี่ซูเจ๋ แต่กลับ ถูกหลี่ซูเจ๊ตบที่หน้าอีกครั้ง

และเธอจึงด่าขึ้นอีกว่า “ไม่ใช่นาย ก็คงจะเป็นฉันสินะที่ ถ่าย? คลิปวิดิโอถูกเผยแพร่บนอินเตอร์เน็ตแล้ว ฉันขายขี้ หน้ามาก ถ้าครอบครัวและเพื่อนฉันเห็นเข้าจะทำยังไง? ฉัน จะพูดกับพ่อแม่ฉันยังไง?”

ลู่เหวินซูถูกตบหน้าครั้งนี้ก็ไม่กล้าที่จะโกรธเคืองอีก และ พูดปลอบหลี่ซูเจ๋ “เธออย่าร้องเลยนะ อย่าร้อง ฉันกำลังจะ ไปจัดการคลิปวิดิโอพวกนี้ ไม่เป็นไรนะ
“นายคิดว่าจัดการแล้วก็ไม่เป็นไรอย่างนั้นหรอ? ยังไม่รู้ว่า จะมีคนโหลดเก็บไว้แล้วหรือไม่” หลี่ซูเจ๋ร้องไห้และทั้งตีทั้ง เตะไปที่ตัวเขา “ลู่เหวินซู นายทำเกินไปแล้ว!

หากแม้ลู่เหวินซูจะกระโดดแม่น้ำฮวงโหก็ไม่สามารถชำระ ความผิดได้ “ฉันไม่ได้เป็นคนถ่ายจริงๆนะ!”

“ครั้งนี้ฉันยอมรับความพ่ายแพ้ ใครใช้ให้ฉันมาชอบคน อย่างนาย” หลี่ซูเจ๋เช็ดน้ำตาที่ไหลหยด ก้มเก็บกระเป๋าที่อยู่ บนพื้น “จากนี้ไปอย่าให้ฉันเห็นหน้านายอีก!”

เธอเอามือกุมปากและรีบวิ่งจากไป

“นางฟ้าน้อย เธอฟังฉันอธิบายก่อน” ลู่เหวินซูกลัวว่าเธอ คิดจะทำอะไรโง่ๆจึงรีบวิ่งตามไป

ในห้องอาหารส่วนตัวจึงเหลือทิ้งไว้เพียงผู้ชายอีกสามคน

“ดูท่าแล้ว นั่นคงไม่ใช่คลิปวิดิโอที่ดีแน่ๆ” เย่นจิ่งเหนื ยนพูดด้วยน้ำเสียงที่มีความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่น “สามารถเห็นไอ้สี่ล้มลงต่อหน้าผู้หญิง ก็รู้สึกสนุกดี”

สีหน้าของวี่เห กุ้งเต็มไปด้วยความไม่สบายใจ “คาด ไม่ถึงว่าไอ้สี่จะโดนผู้หญิงคนหนึ่งตบหน้าถึงสองครั้ง ซึ่ง เป็นการไม่ให้เกียรติกัน”

ถูกตบแล้วยังไปพูดเกลี้ยกล่อมเธออีก ช่างต่ำต้อยเหลือ เกิน!
ในเวลานั้นพนักงานเสิร์ฟได้จูงหมาน้อยเยอรมันเชฟเฟิร์ด เข้ามา และพูดกับมู่เฉินหย่วนขึ้นว่า “ประธานมู่ หมาได้อาบ นําแล้ว คุณจะเอากลับไปตอนนี้เลยมั้ย?”

เย่นจิ่งเหนียนตะลึงจนตาค้าง “ฉันคิดว่าไอ้สี่ล้อเล่น พี่รอง เลี้ยงหมาแล้วจริงๆหรอ?”

“เลี้ยงหมาเพื่อเอาไว้ปกป้องตนเอง” มู่เฉินหย่วนเอ่ยขึ้น

เมื่อหมาน้อยเยอรมันเชฟเฟิร์ดเห็นฟูเฉินหย่วนก็สะบัด หางดีใจ แต่มู่เฉินหย่วนกลับแสดงออกแบบบอกเป็นนัยๆว่า ไม่อนุญาตให้นําขากางเกงเลอะ

“มีเรื่องอะไรก็โทรศัพท์มา ฉันกลับก่อนละ

หลังจากรอให้ เฉินหย่วนจูงมาออกไปแล้ว เย่นจิ้งเหนียน จึงเอ่ยขึ้นว่า “หมาตัวนั้นดูแล้วน่าจะพึ่งอายุประมาณเดือน นึง และดูแล้วพี่รองก็ไม่ได้ให้เกียรติอะไร ทำให้หมาน้อยห ลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะทำหน้าที่โดยไม่สมัครใจ

วี่เหวินถิง……

หลี่ซูเจ๋วิ่งออกมาจากคลับเฮ้าส์โดยไม่หยุด เมื่อเห็นรถ แท็กซี่ที่จอดอยู่ข้างทางจึงรีบเปิดประตูและขึ้นไปบนรถ

ขณะที่รถได้ออกตัวเคลื่อนที่ไป เธอได้หันกลับไปมองจาก ทางหน้าต่างด้านหลัง
ลู่เหวินซูวิ่งตามเธอออกมาจากคลับเฮาส์แต่เหมือนจะมอง ไม่เห็นเธอ จึงล้วงโทรศัพท์ออกมาโทรหา

สีหน้าของเขาวิตกกังวลและเสียใจ

หลังจากที่มองดูไม่กี่วินาที หลี่ซูเจ๋ก็หันหน้ากลับมา นิ้ว มือเช็ดไปที่แก้มทั้งสอง และการแสดงออกที่ร้องไห้อย่าง สะอึกสะอื้นก็หมดไป จากนั้นก็เปลี่ยนไปเป็นความเย็นชา เล็กน้อย

และในเวลานั้นโทรศัพท์ก็ดังขึ้น

หลี่ซูเจ๋เห็นว่าเป็นลู่เหวินซูโทรเข้ามา จึงยิ้มมุมปาก เล็กน้อย และไม่ได้รับสายของเขา จากนั้นก็มีเบอร์แปลก โทรศัพท์เข้ามาอีกสาย เธอจึงรับอย่างไม่ลังเลใจ

คู่สายพูดด้วยเสียงที่เย็นชาขึ้นว่า “violet จับตามองถังซิน ไว้”

“ เกิดเรื่องอะไรขึ้น ทำไมนายถึงโทรศัพท์มาหาฉันด้วย ตนเอง” หลี่ซูเจ๋เอ่ยถามขึ้น

“ เมื่อสองเดือนก่อน จี้เจียจื้อไปประเทศ

ทำไมเขาถึงกลับมา? “ ที่ไหน?” ” หลี่ซูเจ๋รู้สึกแปลกใจ “นายอยู่

“ฉันอยู่ประเทศตุรกี
“คุณหลินล้มป่วยอีกแล้วหรอ?”

“เวลานับวันนับยิ่งน้อยลงแล้ว คุณหมอบอกว่ายื้อไว้ได้ไม่ นาน” จงเชิงพูดด่าออกมา “ฉันมาประเทศตุรกีได้สองเดือน แล้ว หาอะไรไม่เจอซักอย่าง!”

หลี่ซูเจ๋จึงพูดขึ้นว่า “ทำยังไงได้ ใครใช้ให้ถังซินไปอยู่ข้า งมู่เฉินหย่วน นายลองหาดูอีกครั้ง คนของหมู่บ้านนั้นไม่มี พาสปอร์ต ออกจากประเทศตุรกีไม่ได้แต่ไหนแต่ไรมา

“ตอนแรกที่ถังซินกลับมา เห็นได้ชัดว่าดูผ่อนคลายสบายๆ แสดงให้เห็นว่าได้เก็บพืชชนิดนั้นไว้แล้ว นายรู้มั้ยว่าน้องคน ที่สามของมู่เฉินหย่วนเป็นคนของสถาบันวิจัย MORI”

“ฉันจะหาให้ได้” จงเชิงกล่าวขึ้น “เธอจับตามองถังซินไว้ ฉันกลัวว่าจี้เจียจื้อจะทำอะไรเธอ”

“ถ้าหากเธอตายแล้ว คุณชายก็มีชีวิตอยู่ไม่ได้เหมือนกัน”

หลี่ซูเจ๋ทอดถอนหายใจ “ฉันได้รับงานใหญ่อะไรขนาด นี้ เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นบอดี้การ์ดที่ซื่อสัตย์อย่างนาย และ หลินเฉินจี้ผู้ชายที่ลุ่มหลงในรักแบบนั้น เพื่อผู้หญิงคนเดียว แม้แต่ชีวิตตัวเองก็ไม่ต้องการ”

“ถังซิน เธอไม่คู่ควรที่คุณชายของฉันจะไปรักชอบ” จง เซิงน้ำเสียงเต็มไปด้วยความโกรธ “ถ้าไม่กลัวคุณชาย เสียใจ ฉันฆ่าเธอไปนานแล้ว”
ผู้หญิงไร้น้ำใจแบบนั้นจะไปคู่ควรกับคุณชายของเขาได้ ยังไง

หลี่ซูเจ๋จึงพูดขึ้นว่า “วางใจเถอะ ฉันจะคอยดูถังซินให้ดี หวังว่านายกลับมาคงจะมีข่าวดี

ทั้งสองคนคุยกันได้สักครู่จึงวางสายโทรศัพท์

หลี่ซูเจ๋ลบบันทึกการพูดคุยสนทนาทิ้ง จากนั้นจึงลบคลิป วิดิโอและเว็บไซต์ที่ให้ลู่เหวินซูดูทิ้งไปจนหมด

และกดเข้าไปในอัลบั้มภาพถ่ายเพื่อเปิดดูรูปภาพรูปหนึ่ง เป็นภาพของผู้หญิงสาววัยรุ่น ผู้หญิงคนอื่นและหลี่ซูเจ๋ถ่าย ด้วยกันทั้งหมดแปดคน พวกเธอยิ้มเบาเบาดูแล้วสุภาพ อ่อนโยนกินใจ หลี่ซูเจ๋ลูบไปยังผู้หญิงที่อยู่บนรูปภาพ ด้วย สายตาที่เต็มไปด้วยความอาฆาตแค้น

เธอฉีกยิ้มริมฝีปากอันแดงก่ำของเธอ “ไม่รีบร้อน เกมส์ สนุกๆพึ่งจะเริ่มต้นขึ้น

ถังซินยุ่งอยู่กับงานตลอดทั้งบ่าย เมื่อกลับถึงบ้านมาใน เวลาค่ำก็แทบจะเหนื่อยหมดแรง และเมื่อกำลังเดินเข้าไป ในคอนโด ก็ได้เห็นเงาของคนยืนอยู่นั้น ภาพที่เห็นจากข้าง หลังดูคุ้นเคย

กวนลี่หลั่งที่ได้ยินเสียงของรองเท้าส้นสูงก็หันกลับมา เมื่อเห็นถังซินกลับมาแล้วจึงรีบพูดทักทายต้อนรับออกมา
“รั่วยิน”

“กวนลี่หลั่งนายไม่อายบ้างหรอ?” เมื่อถังซินเห็นว่าเป็น เขา สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนเป็นความเย็นชาออกมา “ที่แม่ ฉันอยู่หาฉันไม่เจอ นายจึงสืบหาที่อยู่ฉันอย่างนั้นหรอ?”

“กวนลี่หลั่งจึงพูดขึ้นว่า ฉันไม่มีวิธีอื่นจริงๆ น้องชายของ เธอ…”

“เขาเป็นลูกของนาย ไม่ใช่น้องชายฉัน” ถังซินพูดขัดออก มาอย่างเด็ดขาด

กวนลี่หลั่งสีหน้าทุกข์ใจเล็กน้อย เขาโกรธเคืองแต่กลับ จําเป็นที่จะต้องอดกลั้นไว้ ในสองเดือนนี้ผิงหยินได้ใช้ยา เคมีรักษาโรคมะเร็งไปหลายครั้ง เจ็บปวดทรมานเป็นอย่าง ยิ่ง “รั่วยินเธอช่วยเขาหน่อยนะ”

“เพียงแค่เธอบริจาคไขกระดูกให้กับผิงหยิน เธออยากได้ อะไร ฉันจะให้เธอทั้งหมด”

ถังซินยิ้มอย่างเย็นชา “กวนลี่หลั่ง นายรู้จักคำว่ากรรมตาม สนองมั้ย? ตัวนายเองช่างจิตใจเหี้ยมเกรียม กรรมเลยตกอยู่ ที่ลูกของนาย สมน้ำหน้านาย!

คุณแม่ถังมีความผิด ทั้งโง่ทั้งอ่อนแอ แต่เธอเกลียดชัง ผู้ชายคนนี้มากกว่า เมื่อพบเจอกับความยากลำบาก กลับ ทอดทิ้งภรรยาและลูก ตอนนี้ตนเองพบเจอกับความลำบาก ยากแค้นจึงนึกได้ว่ายังมีลูกสาวของตนเองอีกหนึ่งคน
“กวนลี่หลั่ง หัวใจนายมันตายไปแล้วสินะ” ถังซินพูดด้วย ความท้อแท้ “ฉันจะไม่บริจาคไขกระดูก ฉันอยากให้นายลิ้ม รสความเจ็บปวดดูบ้างว่ามันเป็นยังไง”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ