ฉันเป็นสุดที่รักของประธานมู่! ?

บทที่ 157 เห็นถังซินเหนื่อยจนเป็นลม เขาก็ปวดใจ



บทที่ 157 เห็นถังซินเหนื่อยจนเป็นลม เขาก็ปวดใจ

เห็นกาวเหม่ยซีเดินไปห้องประชุม มู่เฉินหย่วนเข็นวีลแชร์ ตามไป แต่กลับไม่เข้าไป เห็นถังซินยืนหน้าโต๊ะผ่านประตู ที่เปิดอยู่ครึ่งหนึ่ง มือชี้ไปที่โปรเจคเตอร์ด้านหลังแล้วพูด อะไรบางอย่าง

เขาลูบ ๆ เงาร่างบางนั้นที่เขาจับจ้องอยู่เงียบ ๆ

วันนี้หญิงสาวใส่เดรทเข้ารูปสีน้ำตาลทอง ผมดัดเป็นลอน งดงามมาก ดูสวยสง่ามาก ทุกการเคลื่อนไหวรวดเร็วและ ดุดัน ดูเป็นคนเก่งมีความสามารถมาก ๆ

เทียบกับในหลายเดือนก่อนที่เธอสงบเสงี่ยมและว่านอน สอนง่าย ตอนนี้ผู้หญิงคนนี้เต็มไปด้วยความมั่นใจและเย่อ หยิ่ง

นี่คือสิ่งที่เขาสอนมา

พอเห็นถังซินคำรามใส่ทุกคน มู่เฉินหย่วนก็รู้พอใจอย่าง ยากที่จะบรรยาย รอยยิ้มปรากฏในตัวตาบาง ๆ ดูไปได้สัก พัก เขาก็เข็นวีลแชร์จากไปอย่างเงียบๆ

ประชุมคราวนี้ยาวมาก ประชุมยาวไปจนถึงทุ่มกว่า ผู้ บริหารระดับสูงทั้งหลายถึงได้ออกจากห้องประชุม แต่ละคน ดูเหนื่อยล้าเล็กน้อย

“พระเจ้า นี่ประชุมทั้งวันเลยเหรอ เหนื่อยชะมัดเลย
“ผมก็ด้วย”

“พวกคุณเห็นหรือเปล่า ประธานถังเปิดประชุมน่ากลัวว่า ประธานมู่อีกนะ แทบไม่มีเวลาคิดเลย

ทุกคนลงบันไดไปคุยไปด้วย คิดไม่ถึงว่า “ประธานมู่” ที่ พวกเขาพูดถึงจะอยู่ที่ห้องรับแขก ทุกคนตกใจจนตัวโยน

ประธานมู่อยู่นี่ได้ไงเนี่ย

หรือว่า ประธานมู่กับประธานถังค่อนข้างสนิทกัน

พอทุกคนเห็นว่ามู่เฉินหย่วนอยู่ที่นี่ เรื่องซุบซิบนินทนก็ผุด ขึ้นมาในใจเรื่อย ๆ เพียงแต่ว่าไม่กล้าพูดออกมา จึงยิ้มทัก ทายประธานมู่จากนั้นก็รีบเผ่นออกจากวิลล่าไปเลย

ประมาณห้านาที ถังซินก็นวด ๆ ไหล่เดินลงมาข้างล่าง

“เป็นประธานเหนื่อยกว่าเป็นพนักงานอีกนะเนี่ย” ถังซิ นพึมนํา พอมองเห็น เฉินหย่วนในห้องรับแขกถึงได้นึกขึ้น มาได้ว่าอยู่ที่วิลล่าของมู่เฉินหย่วน

เธอตบหน้าผากไปหนึ่งที พูดอย่างอารมณ์เสีย “ขอโทษ นะคะ ประธานมู่ ประชุมนานไปหน่อย ฉันจะไปทําอาหารให้ นะคะ”

“ไม่ต้องหรอก สั่งข้าวกล่องเถอะ” เห็นเธอเหนื่อยขนาดนี้ มู่เฉินหย่วนก็ปวดใจนิด ๆ
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันทำอาหารไวมากค่ะ” ขณะที่ถังซินตอบ ตัวก็พุ่งเข้าห้องครัวไปอย่างไว ทิ้งระยะห่างออกไปช่วงหนึ่ง แล้วเล่าเนื้อหาที่ประชุมวันนี้ให้มู่เฉินหย่วนฟัง

มู่เฉินหย่วนเทน้ำร้อนลงในกาน้ำชา อยากจะชงชาให้ เดี๋ยวถังซินดื่มแล้วจะได้หลับสบาย

แต่ก็ตกใจมากเพราะหูได้ยินเสียงกลุ้มใจดังมา

มู่เฉินหย่วนมองไปรอบทิศ พอมองไปที่ห้องครัวก็เห็นคน เป็นลมอยู่ที่พื้น หน้าเปลี่ยนสีไปเลย รีบเข็นวีลแชร์ไปทันที อีกมือก็รีบควักมือถือออกมาโทรหาคุณหมอ

“ถังซิน”

ชายหนุ่มพยายามโค้งตัวไปตบ ๆ หน้าถังซิน ร้อนใจดั่งไฟ

เผา

ถังชินไม่ตอบสนองใด ๆ

มู่เฉินหย่วนเห็นสีหน้าเธอดูปกติเลยลองใช้มือทดสอบ หน้าผากเธอก็ไม่ร้อน ดูเหมือนกำลังหลับอยู่ หายใจคงที่ มาก

ชายหนุ่มจ้องเธอสองสามวิก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

คุณหมอรีบเข้ามาดูถังซิน ร่างกายไม่มีปัญหาเพียงแค่ เหนื่อยมากไป
แต่คุณหมอกำชับว่า “คุณผู้หญิงท่านนี้ความดันสูงมาก อย่าให้เธอนอนดึกเลยนะ พยายามให้นอนเร็ว ถ้าทำงาน หนักมากเกินไปจะส่งผลต่อประจำเดือนของเธอนะครับ”

มู่เฉินหย่วนพยัก ๆ หน้า “ขอบคุณครับ

พอส่งคุณหมอไปแล้ว มู่เฉินหย่วนเปิดขวดยาน้ำ เทลง ช้อนแล้วป้อนถังซิน

ยากลิ่นฉุนมากและขมด้วย พอเข้าปากถังซินไปเธอก็บ้วน ออกมาจึงขมวดคิ้วแน่น ชายหนุ่มก็จนปัญญาเช่นกัน

ไม่กินยาแล้วจะดีขึ้นได้อย่างไรล่ะ

มู่เฉินหย่วนลองดูอีกครั้ง คราวนี้ช้อนเกือบโดนปัดตก เขา จนปัญญา เลยต้องใช้วิธีเดิม เอายาน้ำใส่ปากแล้วบังคับให้ เธอดื่มจนหมด

ในปากของหญิงสาวมีกลิ่นกาแฟจาง ๆ คาดว่าน่าจะดื่ม ตอนประชุมไปไม่น้อย ทั้งขมทั้งหวาน

มู่เฉินหย่วนอดที่จะกวาดล้างช่องปากของเธอไม่ได้ ซัก พักถึงปล่อยออกมา

มู่เฉินหย่วนเอานิ้วหัวแม่มือเช็ดยาน้ำสีน้ำตาลที่ติดอยู่ ที่มุมปากของเธอออกแล้วมองดูเธอหลับปุ๋ย ในใจลึก ๆ มี ความรู้สึกอ่อนยวบ เจ็บปวดนิด ๆ
วันต่อมาถังซินตื่นขึ้นมารู้สึกสดชื่นมาก เห็นตัวเองใส่ชุด นอนอยู่บนเตียงก็งงนิด ๆ เธอจําไม่ได้ว่าตัวเองเป็นอะไรไป ลงมาข้างล่างเจอยู่เฉินหย่วนเข้าจึงถาม

มู่เฉินหย่วนพูด “เป็นลมในห้องครัว ผมอุ้มขึ้นไปเอง”

“เป็นลมในห้องครัวจริง ๆ เหรอคะ” ถังซินงง ๆ มอง ๆเขา ไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรดี “ประ ประธานมู่คุณทิ้งฉันไว้บนเตียง ก็ได้นะคะ ไม่ต้องถึงขนาด…

พอนึกถึงลุงมู่ที่ขยับไปไหนก็ลำบากอุ้มเธอขึ้นข้างบน ภาพนั้นคิดยังไงมันก็ช่างน่าอายเหลือเกิน

“คุณหนักไม่เท่าไหร่หรอก พอ ๆ กับซือซือเลย” มู่เฉิน หย่วนเปิดหนังสือพิมพ์ออก อ่านอย่างสบายใจ “ก็แค่ตอนที่ ลากเธอ หัวกระแทกกับด้ามจับไปสองสามที

“จะกระแทกจนโง่ไหมคะ” ถังซินกลัวจนเอามือลูบ ๆ หัว

มู่เฉินหย่วนมองเธอแว๊บหนึ่งก็เอาหลังมือปิดปาก หัวเราะ เบา ๆ สีหน้าดูมีความสุข

ผู้หญิงคนนี้พูดอะไรก็เชื่อไปหมดจริง ๆ

“ประธานมู่คะ คุณทำเกินไปแล้วนะคะ” ต่อมาถังซินถึงรู้ว่า มู่เฉินหย่วนล้อตัวเองเล่นจึงขมวดคิ้ว เข้าไปง่วนในครัวด้วยความโมโห

ถังซินวางแผนว่าจะไปกินอาหารเช้าที่บริษัท จัดการงาน เสร็จแล้วเที่ยวค่อยกลับมา

มีคนมารบกวนบ่อย ๆ มู่เฉินหย่วนจะพักฟื้นได้ไม่ดี

มู่เฉินหย่วนกลับบอกเธอว่าไม่ต้อง งานที่เหลือกาวเหม่ย จัดการได้ “คุณเป็นประธาน ไม่ต้องทำงานซับซ้อน ถ้าต้อง คุณต้องรับผิดชอบตลอด จะมีแผนกเลขาไว้ทำไมล่ะ

“ตอนนี้สถานการณ์ไม่เหมือนกัน” ถังซินพูด มันเกี่ยวกับ ความเป็นความตายของตระกูลมู่ทั้งหมด ก้าวต่อไปของมู่ เจิ้งเฉิงยังไม่ก้าวออกมา เธอไม่ไว้ใจให้คนอื่นทำงานมาก ขนาดนี้

มู่เฉินหย่วนน้ำเสียงขึงขัง ให้พวกเธอรับผิดชอบไป คุณ ต้องพักผ่อน”

“…ก็ได้ค่ะ”

ถังซินปากก็รับปากไปแต่อยากแอบจัดการเงียบ ๆ สุดท้าย กาวเหม่ยซีไม่รับสายเธอ เมลก็ไม่ตอบ มู่เฉินหย่วนตัดสินใจ ให้เธอพักผ่อนสองสามวัน

ดังนั้น ถังซินที่ยุ่งมาครึ่งเดือนกว่าในที่สุดก็ผ่อนคลายได้ สักที
ชีวิตประจําวันก็คือรดนําดอกไม้ ทำกับข้าว เวลาไม่ร้อน ก็ออกไปตากแดดที่สวนดอกไม้ บางครั้งก็จัดการรวบรวม ข้อมูลสมัยก่อน

เธอรับปากมู่เฉินหย่วนว่าจะเป็นผู้จัดการแผนก R และเพื่อ หาความจริงของการตายของหัวหน้าหลิวด้วย ผ่านไปนาน ขนาดนี้แล้วแต่กลับไม่มีเบาะแสเลยสักนิด

หรือว่าหัวหน้าตายเพราะอุบัติเหตุจริง ๆ

มือถือสั่นสองครั้ง มู่เฉินหย่วนส่งวีแชทมา

(วันนี้ได้กินเกี๊ยวไหม?)

ถังซินอดที่จะยิ้มไม่ได้ ยากที่จะจินตนาการจริง ๆ ลุงมู่ใช้ นําเสียงอ่อนน้อมขนาดนี้แถมยังมีเครื่องหมายคำถามด้วย

ถังซิน : (ได้กินค่ะ ฉันสั่งไส้เอง ! )

แม้ว่าคราวก่อนมู่เฉินหยวนไม่ปฏิเสธโจ๊กหมู แต่เวลากิน ข้าวปกติ กับข้าวที่มีเนื้อหมูก็ยังแตะน้อยมาก เขาบอกว่าเนื้อ หมูไม่มีประโยชน์ กินน้อย ๆ แล้วจะแข็งแรง

น้อยบ้าอะไรล่ะ ไม่รู้ว่าหมูตัวน้อยหล่อเลี้ยงชีวิตประชาชน ประเทศเราไปแล้วเท่าไหร่ คุณยังจะรังเกียจอีกเหรอ

วันนี้ถังซินต้องทำเกี๊ยวผักกาดขาวให้ได้
พอจะใช้แป้ง ถังซินถึงเห็นว่าเหลือไม่มากแล้วจึงใช้มือถือ สั่งซื้อมานิดหน่อย ปรับอุณหภูมิน้ำไปด้วย ตะโกนไปที่ห้อง รับแขกด้วย เอาลําโพงบลูทูธเปิดเพลงปลุก

“ฉันไม่สนว่าเธอจะเป็นใคร ใครคือเธอ ฉันคือฉัน ที่ทำให้ ฉันรู้สึกใจฉันเต้นเต้นเต้นเต้นเต้นเต้น…”

ถังซินลงมาข้างล่างเอง อุ้มกะละมังคนแป้งอยู่ตรงนั้น ตัว เต้นไปตามจังหวะเพลง ท่าทางโอเวอร์มาก ปากก็ตะโกน เสียงเพี้ยน ๆ ร่าเริงมาก

เธอไม่เห็นว่ามู่เฉินหย่วนลงมาข้างล่างแล้วสักนิด

พอตะโกนเสร็จ ถังซินก็รู้สึกคอแห้งนิดหน่อย ขณะที่หัน กลับไปหยิบของ ทันใดนั้นก็เห็นว่ามีคนจึงตกใจจนเกือบจะ โยนกะละมังแป้งออกไป

มู่เฉินหย่วนพูดอย่างสนุก ๆ “ทำไม ผมขัดจังหวะคุณร้อง เพลงเหรอ”

ที่แท้เขาก็ได้ยินหมดแล้วนี่เอง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ