ฉันเป็นสุดที่รักของประธานมู่! ?

บทที่ 325 เธอรู้มั้ยว่าเขารักเธอมากขนาดไหน



บทที่ 325 เธอรู้มั้ยว่าเขารักเธอมากขนาดไหน

เพล้ง! โทรศัพท์ที่จับไว้ไม่แน่นได้ร่วงลงบนพื้น ถังซินยืนใจลอยอยู่ตรงนั้น

เรื่องที่คาดเดามานานได้กลายเป็นจริง ทำให้ในใจ ของเธอเกิดความรู้สึกที่อยากจะโกรธโมโห และมีความ รู้สึกที่ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร

วินาทีนั้นในสมองของเธอว่างเปล่า ไม่รู้ว่าจะต้องทำ อย่างไรดี

มือและเท้าของถังซินนั้นเย็นเฉียบ ยืนใจลอยอยู่ครู่ หนึ่ง จากนั้นเธอจึงสูดถอนหายใจลึกๆ และเก็บอารมณ์ ที่อยู่ในก้นบึ้งของหัวใจ และเก็บโทรศัพท์ที่ยังไม่ได้วาง สายขึ้นมา

เมื่อเอาโทรศัพท์แนบหู น้ำเสียงสงบนิ่ง “ฉันฟังอยู่ นายพูดต่อเถอะ”

กวนชิงเฟิงพูดต่ออีกว่า “ฉันสืบมาจากคนรับใช้คน เก่าคนแก่ที่เมื่อก่อนเคยทำงานเกี่ยวกับทรัพย์สินส่วน พระมหากษัตริย์ของตระกูลอเล็กซ์เลียร์ เธอบอกว่า ชิ วเสี่ยวอี้กับโบแนร์แต่งงานกันแล้ว แต่ว่าเห็นได้ชัดว่า ไม่มีความสุข และเหมือนกับว่าโบแนร์ได้บีบบังคับและ ผูกมัดเธอให้อยู่ข้างกายเขา”

“ต่อมา ชิวเสี่ยวอี้ได้คลอดลูกออกมาหนึ่งคน…ตอนเธอออกไปข้างนอก รถได้เกิดระเบิดขึ้นมาอย่าง กะทันหัน ดังนั้นคนจึงบอกว่าเธอได้ตายไปแล้ว แต่เธอ วิ่งออกมาจากเพลิงไฟ”

หยุดไปสักครู่ กวนชิงเฟิงจึงพูดต่อว่า “ชิวเสี่ยวอี้ ได้ถูกโมมอยคางผิงช่วยไว้ และพาเธอกลับประเทศ ญี่ปุ่นด้วย ฉันสืบไปถึงสถาบันเสริมความงามเอกชนที่ ประเทศญี่ปุ่น มีบันทึกค่าใช้จ่ายจำนวนมากของโมมอย คางผิง…”

“ในสมองของเธอมีเลือดคั่งและกดทับเส้นประสาทไว้ น่าจะสูญเสียความทรงจำแล้ว” เมื่อฟังมาถึงตรงนี้ ถังซิ นเหมือนกับจะรู้ทุกอย่างแล้ว “โมมอยคางผิงตั้งชื่อให้ เธอใหม่ และแต่งงานกับเธอ”

โมมอยอี้ยังจำได้ว่าสามีได้ให้อัญมณีชุดนั้น ดังนั้น เมื่อเห็นแหวนวงนั้น จึงเกิดความตื่นเต้นขึ้นมาขนาดนั้น

กวนชิงเฟิงเอ่ยขึ้นอีกว่า “เธอมีลูกสาวคนหนึ่งกับโม มอยคางผิง ชื่อ…กาวเหม่ยซี ประธานมู่ถือว่าเป็นพี่น้อง แม่คนเดียวกันแต่ต่างพ่อ และยัง..…..….…..

“เรื่องนี้ตลกมาก ตลกมากจริงๆ” ถังซินพูดขัดคำพูด เขา เหมือนกับหัวเราะและร้องไห้ ร่างกายค่อยๆนั่ง ยองๆลงไปอย่างช้าๆ “ทำไมถึงเป็นแบบนี้?”

เธอเคยคิดถึงความสัมพันธ์ของหลินเฉิงจี่กับมู่เฉิน หย่วน แต่ไม่คิดว่าจะกลายมาเป็นแบบนี้
ถังซินจึงรู้สึกทุกข์ใจขึ้นมาทันที ควบคุมอดกลั้นน้ำตา ไว้ไม่ได้ เส้นเสียงก็แหบแห้งขึ้นมา”ฉันรู้สึกเสียใจทีหลัง ถ้าไม่ให้นายสืบหาเรื่องนี้ก็ดีแล้ว”

ช่างเพ้อเจ้อจริงๆ

กวนชิงเฟิงเอ่ยขึ้นว่า “เรื่องนี้ถูกปิดไว้อย่างดีมาก ผม ต้องพยายามอย่างสาหัสถึงจะสืบออกมาได้ ข้อมูล ทั้งหมดได้อยู่ในมือผม ถ้าผมเอาไปเผาทิ้งเรื่องทุก อย่างก็จบ มีเพียงพี่กับผมที่รู้”

“โมมอยอี้ก็รู้” ถังซินพูดด้วยเสียงเบาๆ “เธอไปหาแม่ ที่ร้านหลายครั้ง เลือดที่คั่งอยู่ในหัวเธอคงจะถูกเอาออก ไปแล้วอย่างแน่นอน ความทรงจำจึงคืนกลับมา”

มิน่าหล่ะ วันนั้นโมมอยอี้ได้เอายันต์เกี่ยวกับความ ร่มเย็นเป็นสุขให้กับเธอด้วยแววตาที่ต่ำต้อยขนาดนั้น

“เธอจะพูดมั้ย?”

ถังซินจึงเอ่ยอย่างหมดกำลังขึ้นว่า “น่าจะไม่พูดนะ”

ความทรงจำของโมมอยอี้คืนกลับมา จึงรู้ว่ามู่เฉิน หย่วนเป็นลูกของเธอ แต่กลับไม่กล้าไปที่บ้านตระกูลมู่ ไม่กล้าไปหามู่เฉินหย่วน ทำได้เพียงมาหาเธอ และแอบ มองจากที่ลับ

“ถ้าอย่างนั้นก็คงไม่มีปัญหาอะไร” กวนชิงเฟิงพูดด้วย น้ำเสียงเคร่งขรึม “ผมจะทำลายข้อมูลทั้งหมดทิ้ง ผมรู้อยู่แล้วว่าพี่จะต้องรับไม่ได้ จึงไม่ควรที่จะบอกเรื่องน กับพี่ ผมขอโทษ

ถังซินมองไปที่แผ่นกระเบื้องตรงด้านล่างเท้า “ฉันเป็น คนบอกให้นายไปสืบมา ถ้าจะผิดก็คงเป็นฉันที่ผิด ถ้า นายทำลายเอกสารแล้วก็จะไม่มีปัญหาอื่นแล้ว”

กวนชิงเฟิงทำเสียง อืม “พี่ รู้ไว้นะว่าเรื่องนี้ไม่สามารถ ที่จะเปลี่ยนแปลงอะไรได้ ประธานมู่ก็คือประธานมู่ ถึง เขาจะมีสายเลือดเดียวกับพวกเขา แต่กลับเป็นเหมือน คนแปลกหน้าซึ่งกันและกัน”

“ฉันรู้แล้ว วางก่อนนะ”

ถังซินกดวางสายโทรศัพท์ด้วยอาการตัวสั่น ต่อม น้ำตาคล้ายกับสูญเสียการควบคุม เธอร้องไห้น้ำตาไหล หยดลงอย่างไร้เสียง ไม่นานบนพื้นกระเบื้องที่บริเวณ เท้าก็เต็มไปด้วยหยดน้ำตา

ในใจเธอเป็นทุกข์มาก คล้ายกับจะหายใจไม่ออก แทบอยากที่จะเอาเรื่องออกจากสมองให้เร็วที่สุด

คนสองคนที่ไม่เคยคลุกคลีกันเลย ทำไมถึงเป็นพี่น้อง กันได้?

“ถังซิน”

ถังซินได้ยินคนเรียกชื่อตนเองอย่างเลือนราง จากนั้น ก็ได้ยินเสียงชัดเจนมากยิ่งขึ้น เธอเงยหน้าขึ้น ก็เห็นคุณแม่ถังและหลี่ซูเจ๋เดินเข้ามาทางตนเอง

เธอรีบเช็ดน้ำตาออกและยืนขึ้น

คุณแม่ถังดูออกว่าเธอพึ่งจะร้องไห้ จึงรีบถามอย่าง ห่วงใย “ลูกรัก ร้องไห้เป็นอะไร?”

“ฉันไม่เป็นไร” ถังซินฝืนยิ้ม มองไปทางหลี่ซูเจ๋ละเอ่ย

ถามขึ้นว่า “เธอมาที่นี่ได้ยังไง?”

หลี่ซูเจ๋เหมือนกับเดินมาด้วยความเร็ว เพราะเธอยังมี อาการหายใจหอบ สีหน้าแสดงออกอย่างเคร่งขรึมเล็ก น้อย “ฉันโทรศัพท์หาเธอแล้วสายไม่ว่าง จึงโทรหาคุณ ป้า และมาหาเธอที่โรงพยาบาล ถังซิน ฉันมีเรื่องจะคุย กับเธอ”

คุณแม่ถังจึงเอ่ยขึ้นว่า “ฉันรับยาแล้ว และไม่ได้ปวด ตรงไหนแล้ว ถ้าอย่างนั้นฉันกลับก่อนนะ พวกเธอคุยกัน ไปเถอะ”

“ฉันไปส่งแม่เรียกรถ

“จากตรงนี้ไปตรงถนนไม่กี่ร้อยเมตรเอง แม่ก็ยังไม่ แก่” คุณแม่ถังตีมือของถังซิน ไม่ให้เธอมีโอกาสได้พูด หิ้วยาและเดินจากไป

ถังซินพาหลี่ซูเจ๋ไปตรงมุมที่มีคนน้อยในห้องโถงใหญ่

เมื่อสักครู่ที่ร้องไห้ ทำให้จมูกของเธอตันเล็กน้อยและเอ่ยถามด้วยเส้นเสียงที่แหบ “ทำไมถึงรีบมาหาฉัน เป็นอะไร?”

หลี่ซูเจ๋มองไปที่เธอ และเงียบไปไม่กี่วินาทีถึงจะพูด ออกมา “เธอเคยแปลกใจบ้างมั้ย ว่าตอนที่ฉันพักอยู่กับ เธอ เธอกับประธานมู่ยังไม่สนิทกัน แม้กระทั่งไม่รู้จักลู่ เหวินซู แล้วทำไมฉันถึงเข้าหาเธอ?”

เมื่อได้เห็นเธอพูด จากนั้นก็หยุดลง ทำให้ใจของถัง ซินสั่นสะท้านและเหงื่อก็ออกที่ฝ่ามือ

“หลินเฉิงจี๋หรอ?”

หลี่ซูเจ๋เปล่งเสียง อืม ออกมา และพูดด้วยเสียงเบาๆ ขึ้นว่า “ในตอนนั้นเพราะการตายของพี่สาวและพ่อแม่ ทำให้ฉันไร้ทางออก เกือบที่จะคิดฆ่าตัวตาย เขามาพบ ฉันเข้า และให้เงินช่วยเหลือ

“เขาให้ข้อมูลและรูปภาพของเธอกับฉัน ให้ฉันอยู่ ด้วยกันกับเธอ และก็ไม่ได้ขออะไรอีก ฉันส่งการ เคลื่อนไหวบางส่วนของเธอให้เขาบ้างเป็นครั้งคราว และก็ไปสืบข่าวเรื่องตระกูลลู่อีกทางหนึ่ง”

“ที่แท้เธอก็เป็นคนของหลินเฉิงจี๋” ถังซินพูดพึมพำ

เธอก็รู้สึกแปลกใจ ว่าทำไมหลี่ซูเจ๋มาอยู่กับเธอใน ขณะที่ตอนนั้นเธอไม่รู้จักลู่เหวินซู ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้

“ถังซิน ฉันขอโทษ” หลี่ซูเจ๋ขอโทษเธอและพูดขึ้นอีกว่า “เธอจะตบตีฉันหรือด่าฉันก็ได้ที่ฉันย่ำยีความเชอ จ ของเธอ แต่ว่าฉันจะพูดกับเธออีกเรื่องหนึ่ง”

ภายในหนึ่งชั่วโมงนี้ข้อมูลข่าวสารที่ได้รับ แทบจะ ทำเอาถังซินรู้สึกพ่ายแพ้

เธอพยายามประคับประคองจิตใจไว้ และเอ่ยถาม อย่างเย็นชา “เธออยากจะพูดอะไร?”

หลี่ซูเจ๋จึงเอ่ยขึ้นว่า “ข้างกายของหลินเฉิงจี่จะมีบอดี้ การ์ดคนหนึ่ง ชื่อจงเซิง ฉันได้รับข่าวหนึ่งจากเขา เกี่ยว กับเรื่องของเธอกับหลินเฉิง..…..……

“เธอรู้มั้ยในปีนั้น ทำไมหลินเฉิงจื่ถึงมีการกระทำที่ รุนแรงขนาดนั้น?” เธอหยุดชั่วคราว “เป็นเพราะว่าพี่ ชายของเขารู้ว่าเขาเอาใจใส่เธออยู่ จึงอยากที่จะฆ่า เธอ”

ถังซินมีท่าทีผ่อนคลายเล็กน้อย

“ของทุกอย่างที่หลินเฉิงจี่ชอบ พี่ชายของเขาก็อยาก ที่จะทำลายทิ้งให้หมด ตอนนั้นหลินเฉิงจี่ยังไม่ได้สิทธิ์ การสืบช่วงมรดกของอเล็กซ์เลียร์ ยังรู้จักคนไม่กว้าง ขวาง ปกป้องเธอไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงเล่นละครฉากหนึ่ง ให้กับคนของพี่ชายเขาดู ทำให้เธอออกมาจากชีวิตเขา ได้สำเร็จ ให้พี่ชายเขาคิดว่าพวกเธอทะเลาะและเลิกกัน ไปแล้ว”

“ทำไมเขาถึงไม่บอกฉัน…”เสียงของถังซินแหบแห้งในตาพร่ามัว “ทำไมถึงแบกรับเรื่องราวทั้งหมดไว้คน เดียว เขากลัวว่าฉันจะทำเสียเรื่องหรอ?”

หลี่ซูเจ๋ส่ายหน้า “ไม่ใช่อย่างนั้น เขาไม่อยากให้เธอ เป็นกังวลและหวาดกลัว อยากที่จะปกป้องเธอ ถังซิน เธอไม่รู้หรอกว่าเขารักเธอมากขนาดไหน เธอไม่เข้าใจ จริงๆ”

“กาวเหม่ยซีคือคนของพี่ชายเขา ถูกสอดแทรกเข้ามา เพื่อใกล้ชิดอยู่ข้างเขา เพื่อสิทธิ์การสืบช่วงมรดกของอ เล็กซ์เลียร์เขาได้ทำทุกอย่างอย่างเงียบๆ ทำแม้กระทั่ง กินยาพิษเรื้อรัง….

“อะไรนะ? “ถังซินร่างกายอ่อนแรง แทบจะยืนไม่ไหว เธอจ้องมองหลี่ซูเจ๋อย่างไม่ละสายตา

“เขามาเมืองหนานเฉิง ไม่เพียงแค่มาดูเธอ แต่ว่าพอ รู้เรื่องยา Ixora ซึ่งเป็นพืชที่ทำให้เซลล์ของคนเกิด ใหม่ได้อีกครั้ง Ixoraสามารถช่วยชีวิตเขาได้ แต่เขาก็ มีความอิจฉาในใจ ดังนั้นเมื่อเห็นเธอช่วยประธานมู่ จึง ทำลายIxora พวกนั้นทิ้งหมด”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ