ฉันเป็นสุดที่รักของประธานมู่! ?

บทที่ 328 เห็นได้ชัดว่าฉันเป็นคนพบเธอก่อน



บทที่ 328 เห็นได้ชัดว่าฉันเป็นคนพบเธอก่อน

” ฉันมีชีวิตอยู่เพื่อตัวฉันเอง…”เขาพูดพึมพำเบาๆด้วย น้ำเสียงที่ทุกข์ทรมานและอ้างว้าง “แต่ว่าฉัน ฉันไม่มี อะไรเลย ของพวกนั้นล้วนแต่เป็นภาพลวงตา”

“คำพูดของพ่อก็จอมปลอม จดหมายพวกนั้นก็จอม ปลอม ความอ่อนโยนของแม่ก็จอมปลอมเช่นกัน”

ภาพลวงตาพวกนั้นได้อยู่เป็นเพื่อนเขามายี่สิบกว่า ปี เป็นดวงไฟเล็กๆที่คอยผลักดันให้เขาเดินต่อไป เป็น ความกล้าของเขา แต่ตอนนี้ไม่เหลืออะไรอีกแล้ว มัน เหมือนกับเขายืนโดดเดี่ยวเดียวดายอยู่ในที่มืดเพียง ลำพัง

ใครก็ไม่ต้องการเขาแล้ว

“มีสิ นายยังมีฉัน” น้ำเสียงของเขาทำให้ถังซินรู้สึก เสียใจ “ฉันไม่ใช่ภาพลวงตา ฉันอยู่เคียงข้างนายตลอด ไม่เชื่อนายก็ลองคลำดูสิ” เธอดึงมือของเขามาวางไว้ ที่บนใบหน้า ความเย็นของมือเขา ทำให้ถังซินเกือบจะ ร้องไห้ออกมา

สุดท้ายไหล่ของหลินเฉิงจี๋ก็ผ่อนคลายลง และหันตัว กลับมา

ถังซินใช้แสงไฟอ่อนๆที่อยู่ในห้อง มองดูในตาสีฟ้า ของเขาที่ไม่เหลือความฮึกเหิมและกล้าหาญอีก เหมือน คนที่ไร้ซึ่งชีวิตชีวา
เธอจับมือที่กำลังสั่นเครือของหลินเฉิงจี๋ ริมฝีปากเปิด ออกหลายครั้งและจึงพูดอย่างอึกอักออกมาว่า “หลิน เฉิงจี่ นายอย่าเป็นแบบนี้…พูดอะไรก็ได้ อย่าเป็นแบบ

ถังซินหวาดกลัวลักษณะแบบนี้ของเขา

เขาอายุยังน้อย ควรที่จะมีชีวิตชีวาให้มาก มองทุก อย่างอย่างหยิ่งยโส ในตัวไม่ควรจะมีความหมดอะไร ตายอยากเช่นนี้

ด้านนอกฝนยังตกหนัก เม็ดฝนได้ตกกระทบมาที่บน หน้าต่าง ก่อให้เกิดเป็นจังหวะดังออกมา อากาศที่เย็น ชื้นได้เล็ดลอดเข้ามาในห้องชั้นลอยตามช่องประตูที่ เปิดไว้ครึ่งหนึ่ง

ในตาของหลินเฉิงจี่สะท้อนภาพที่ทุกข์ทรมานและ ใบหน้าเต็มไปด้วยน้ำตาของถังซินออกมา เขามองดู เช่นนี้อยู่ครู่หนึ่ง

ความเงียบสงบในห้องชั้นลอยแทบจะทำให้รู้สึกสะกด อารมณ์

หลังจากผ่านไปนาน ฝ่ามือของชายหนุ่มก็ทาบลงไป ที่หน้าของถังซิน และลูบไปมาเบาๆ และพูดออกมาด้วย เส้นเสียงที่เบามาก “เห็นได้ชัดว่าคนที่เจอเธอก่อนคือ ฉัน คนที่ชอบเธอก็คือฉัน”

“ทำไมเธอถึงชอบคนอื่นแล้วหล่ะ?”
“ฉันขอโทษ ขอโทษ” ถังซินไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไร เธอจึงพูดได้แค่เพียงคำว่าขอโทษ ซ้ำไปซ้ำมา และจับ มือเขาไว้แน่น “ฉันจะอยู่ตรงนี้ จะไม่ไปไหนแล้ว”

ถังซินดูออกว่าผ้าพันแผลบนตัวเขาไม่ได้เปลี่ยนมา นานแล้ว สีหน้าของเขาดูแล้วก็ผิดปกติ ถ้ายังไม่เปลี่ยน ยาและผ้าพันแผลอีกล่ะก็ ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง?

บางที หลังจากที่เขามาที่นี่ก็อาจจะไม่ได้คิดถึงอะไร ต่อจากนี้อีกแล้ว และไม่คิดที่จะไปจากที่นี่

ในขณะที่ถังซินกำลังคิดเช่นนี้ ก็รู้สึกเสียใจจนน้ำตา ไหล

เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาปลดล็อก พลางพูดเสียงเบาๆ ขึ้นว่า “ฉันจะเรียกหมอมาช่วยทำแผลให้นาย ไม่ใช่ว่า นายยังมีของขวัญที่จะมอบให้ฉันหรอ? ฉันเฝ้ารอของ ขวัญชิ้นนั้นมากๆ”

“เธอยังต้องการอีกหรอ? ”

“ต้องการ” ถังซินเอ่ยขึ้น “ฉันชอบของขวัญทุกชิ้นที่ นายมอบให้ ฉันเก็บมันไว้อย่างดี และฉันก็ยังชอบดอก คาเมลล่า จากนี้ไปนายส่งให้ฉันอีกได้มั้ย?”

แม้ว่าสิ่งที่เธอพูดนั้นอาจจะเป็นคำโกหก แต่กลับน่า ฟังขนาดนี้ เขาถูกทําให้เกิดความรู้สีกอีกแล้ว

“ได้”
ถังซินติดต่อคุณหมอที่ดีที่สุดของโรงพยาบาลเมือง หางซี โดยโทรศัพท์ไปบอกอาการของผู้ป่วยและที่อยู่ ให้เขามาภายในหนึ่งชั่วโมง จะคิดค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ ก็ได้ทั้งนั้น

หลังจากที่คุยโทรศัพท์เสร็จแล้ว เธอจึงไปพูดโน้ม น้าวหลินเฉิงจี๋ บอกว่าในห้องชั้นลอยค่อนข้างเย็นและ ชื้น จากนั้นจึงเอาเสื้อโค้ทคลุมทั้งสองคนและพาเขา เข้าไปในบ้าน เปิดไฟและเครื่องทำความอุ่น

หลินเฉิงจี่ทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา โดยไม่ปริปากพูด อะไรแม้แต่คําเดียวตลอดเวลา

หลังจากผ่านไปสี่สิบนาที คุณหมอก็มาด้วยท่าทีที่ยุ่ง จนงานล้นมือ และยังพาพยาบาลมาด้วยอีกหนึ่งคน

หลังจากที่คุณหมอเข้ามาในบ้านก็ได้ตรวจร่างกาย ให้กับหลินเฉิงจี๋ จากนั้นสีหน้าก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม “บาดแผลได้มีเลือดออกมาสองครั้งและแนบติดไปกับ ผ้าพันแผล ถ้าจะฉีกออกมาคาดว่าคงจะลำบาก”

เมื่อถังซินได้ยิน จึงแสดงความกังวลออกมา “สาหัส มากหรอคะ?”

“ก็ไม่ถึงกับมาก” คุณหมอเอ่ยขึ้น และสวมถุงมืออย่าง รวดเร็ว และให้พยาบาลใส่ยาให้ “เพียงแค่เขาจะเจ็บ ต้องทนเจ็บสักครู่”

ถังซินเข้าไปจับมือหลินเฉิงจี้ไว้ และพูดด้วยเสียงเบาๆขึ้นว่า “ค่อนข้างเจ็บ ทนเจ็บหน่อยได้มั้ย? ฉันจะ คอยอยู่ตรงนี้ ถ้านายทนไม่ไหวก็กัดแขนของฉันไว้”

หลินเฉิง ส่ายหน้า “ทําไม่ลง”

คุณหมอใช้กรรไกรที่ผ่านการฆ่าเชื้อแล้ว ค่อยๆตัดผ้า พันแผลที่พันบนตัวของหลินเฉิงจื่ออกอย่างทีละนิด ผ้า พันแผลได้หลุดออกทีละวงๆ ถังซินเห็นผ้าพันแผลที่อยู่ ด้านในสุดได้แนบไปกับบาดแผลเรียบร้อยแล้ว เปลี่ยน เป็นสีแดงคล้ำและสกปรกมาก ทำให้เธอตะลึงต่อภาพที่ เห็น

วินาทีต่อมา ฝ่ามือที่เย็นเฉียบก็ได้มาปิดไว้ที่ตาของ เธอ เพื่อไม่ให้มองภาพเหล่านั้น

“ไม่ต้องดูแล้ว”

ใจของถังซินรู้สึกเจ็บปวด แต่เธอก็ได้อดทนไว้ และ ส่งเสียง อืม ออกมา

เธอมองไม่เห็น แต่สามารถสัมผัสได้ว่าขณะเอาผ้าพัน แผลออกมาจากบาดแผลจะต้องมีความรู้สึกเจ็บแสบ มาก เพราะว่าแขนของหลินเฉิงจี่กำลังสั่นเครือเล็กน้อย เสียงร้องเพื่ออดกลั้นอย่างหนักจากความเจ็บปวดได้ เข้ามาในหูของเธอเบาๆ

ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่แล้ว และมือที่ปิดตา ของถังซินไว้ก็คลายออก เธอเห็นบนตัวของหลินเฉิงจื่ ได้พันผ้าพันแผลใหม่ไว้แล้ว และคุณหมอกำลังจัดเก็บสิ่งของ

หลังจากที่เขียนใบอาการคนไข้แล้ว คุณหมอก็ยื่นให้ กับถังซิน

“ฉันจัดยาบางส่วนมาตามอาการที่คุณได้บอกไว้ แต่ ว่าอาการของเขาสาหัสกว่าที่คุณบอก พรุ่งนี้คุณก็ไป ที่ร้านขายยาและซื้อยาเหล่านี้ตามใบสั่งที่ผมเขียน ไว้ อย่าลืมเปลี่ยนผ้าพันแผลให้เขาทุกวันเพื่อสังเกต บาดแผล และก็ควรกินยาให้ตรงเวลา ภายในเดือนนี้ให้ ทานอาหารเหลว งดอาหารที่มีรสชาติเผ็ด งดบุหรี่และ แอลกอฮอล์”

“ขอบคุณค่ะคุณหมอ”

คุณหมอได้กำชับอย่างละเอียด และถังซินก็ไม่มีอะไร จะถามอีก หลังจากที่ชำระเงินเรียบร้อยแล้ว จึงไปส่ง คุณหมอและพยาบาลที่หน้าประตู

เธอรินน้ำอุ่นและยื่นให้กับหลินเฉิงจี้พร้อมกับยา “กิน ยาแล้วก็นอนพักผ่อนซะ”

หลินเฉิงจี่กินยาเข้าไปโดยที่ไม่เอ่ยปากพูดอะไรออก

มา

ถังซินประคองเขาไปที่ห้องนอน เมื่อกำลังจะเปิดไฟ หลินเฉิงจี่กลับกดมือเธอไว้ “ฉันไม่ชอบแสง

“ได้ ถ้าอย่างนั้นก็ไม่เปิด
ด้านนอกหน้าต่างมีแสงไฟส่องเข้ามา สามารถเห็น การจัดวางสิ่งของในห้องนอนได้อย่างชัดเจน ถังซิน ตามเข้าไปส่งเขาขึ้นเตียง และห่มผ้าให้เขา หลินเฉิงจื่ แทบจะซ่อนอยู่ในเขามืด เหลือทิ้งไว้แต่ดวงตาสีฟ้าสอง คู่ที่กำลังจ้องมองเธออยู่

เส้นเสียงเขาแหบแห้ง “เธอก็จะอยู่ที่นี่ใช่มั้ย?”

ถังซินอยากบอกว่าจะไปพักที่ห้องรับแขก แต่เมื่อ สัมผัสได้ถึงแววตาของเขา ในใจก็รู้สึกเจ็บปวด จึง ขึ้นไปนอนที่ข้างๆเขา ทั้งสองคนก็ได้นอนอยู่บนเตียง เดียวกัน “อืม ฉันจะอยู่ตรงนี้ ไม่ไปไหน”

เมื่อได้ยินดังนั้นหลินเฉิงจี๋จึงยอมหลับตาลง

ถังซินแสร้งทำเป็นหลับตา แต่กลับนอนไม่หลับตลอด

เวลา

หลังจากที่ได้ยินเสียงลมหายใจที่สงบนิ่งของเขา เธอ จึงลืมตาขึ้นมา ภายใต้แสงที่มืดสลัว เธอมองไปที่ข้าง ใบหน้าของหลินเฉิงจี๋ ในใจช่างเจ็บปวดเหลือเกิน

ถ้าในตอนนั้น เขาบอกเรื่องราวเหล่านี้ทั้งหมดกับ ตนเอง ทุกอย่างก็จะดีแล้ว พวกเขาคงจะไม่พลาด โอกาส

แต่เสียดาย ที่ไม่มีคำว่า ถ้า
ถังซินนอนไม่ค่อยหลับทั้งคืน เธอตื่นขึ้นมาตอนฟ้า สาง

เมื่อสองวันที่ผ่านมานี้หลินเฉิงจี่เหมือนกับเหนื่อยล้า มาก เขายังคงนอนหลับสนิท เธอมองไปที่เขาและขยับ มือเท้าเบาๆเพื่อที่จะเดินออกไปจากห้องนอน เธอสั่ง ซื้อวัตถุดิบการทำอาหารและพวกของใช้เพื่อให้ความ อบอุ่นจากทางออนไลน์

หลังจากที่เธอจัดของระเกะระกะในห้องรับแขกเสร็จ แล้ว วัตถุดิบการทำอาหารที่เธอสั่งออนไลน์ก็มาส่งพอ ดิบพอดี

ในขณะถังซินกำลังต้มโจ๊ก ก็ได้ต่อสายโทรศัพท์หา จงเซิง

เธอรู้สึกสงสารหลินเฉิงจี่ แต่ก็ทำได้เพียงแค่สงสาร เท่านั้น สิ่งที่เธอสามารถทำได้เมื่อคืนเธอก็ได้ทำไปหมด แล้ว ที่เหลือก็ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคนที่อยู่ใกล้ ตัวเขา

ในครั้งนี้ต่อสายเพียงแค่ครั้งเดียวก็มีคนรับสายแล้ว

ถังซินพูดเอ่ยออกมาก่อน “ฉันตามหาหลินเฉิงจี้พบ แล้ว เขาอยู่ที่วิลล่าที่ซื้อไว้ที่เมืองหางซี นายรู้ที่อยู่มั้ย? เขาไม่เป็นไรแล้ว นายมาที่นี่เถอะ”

“ขอบคุณ” เสียงของจงเซิงแสดงความเหนื่อยล้าออก มา เหมือนกับตามหาหลินเฉิงจื่มานานแล้ว เมื่อได้ยินคำพูดของเธอ จิตใจก็ดูเหมือนกับสงบลง แต่จงเชิงกลับ บอกว่าไม่สามารถที่จะมาได้ “คุณถัง ตอนนี้คุณชาย ต้องการอะไร คุณน่าจะรู้ดีกว่าผม”

ถังซินบีบโทรศัพท์ไว้แน่น

เป็นเพราะว่าเธอรู้ เธอจึงโทรศัพท์หาจงเซิง

ถ้าเธอคอยดูแลหลินเฉิงจี๋ตลอดเวลา ถ้าอย่างนั้นจะ เอามู่เฉินหย่วนวางไว้ในฐานะอะไร?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ