ฉันเป็นสุดที่รักของประธานมู่! ?

บทที่ 105 เธอคงจะบ้าไปแล้ว คิดแบบนี้ได้ยังไง



บทที่ 105 เธอคงจะบ้าไปแล้ว คิดแบบนี้ได้ยังไง

จู่ ๆ ประตูลิฟต์เปิดออกพอดี ถังซินที่กำลังพิงประตูอยู่ ไม่ทันได้ตั้งตัว ล้มตัวไปด้านหลัง

มู่เฉินหย่วนเอื้อมมือไปจับเธอไว้

นิ้วของผู้ชายเย็นเฉียบ จับตัวถังซินยืนให้ตรงแล้วรีบ ปล่อยมือออกอย่างสุภาพ ตั้งแต่เอื้อมมือไปจนถึงจับให้ตั้ง หลักได้ไม่ถึงสิบวินาที

ถังซินยังตั้งสติไม่ได้

มู่เฉินหย่วนกดตัวเลขในลิฟต์แล้วเอ่ยขึ้น “คุณถัง คุณ ถือว่าคุณกำลังช่วยหัวหน้าคุณอยู่แล้วกัน คุณบอกว่าคุณไม่ เชื่อที่หัวหน้าคุณตายเพราะอุบัติเหตุ งั้นก็ทำในสิ่งที่ถูกต้อง เพื่อเขา”

เป็นอย่างที่คิดไม่ผิด!

ถังซินรู้แล้วว่าตัวเองคิดถูก คนอย่างหัวหน้าที่ระมัดระวัง มาตลอด จะเป็นเส้นเลือดหัวใจอุดตันเพราะทำงานโต้รุ่งไม่ กี่ครั้งได้อย่างไร เรื่องราวมันไม่ได้มีง่าย ๆ เท่านี้แน่นอน

“ประธานมู่ คุณรู้เรื่องอะไรมาหรอคะ” ถังซินหันหน้าไป ทางเขา

“ผมรู้เรื่องก็ไม่ได้แปลว่าผมจะสามารถจัดการได้” มู่เฉินหย่วนพูดขึ้นด้วยสายตาเย็นชา “สถานการณ์ของมู่ชื่อ คุณ น่าจะรู้ตั้งแต่คุณไปเจอเรื่องราวที่ตุรกีแล้ว”

ถังซินกำมือไว้แน่น

เนื้อก้อนโตอย่างมู่ชื่อไม่ว่าใครก็อยากเฉือนไป บวกกับภูมิ หลังของมู่เฉินหย่วนที่ไม่ได้ถูกต้องมากนัก ทำให้การเมือง ภายในมู่ชื่อยิ่งดุเดือดมากขึ้น ซึ่งคนที่เหนื่อยที่สุดคือมู่เฉิน หย่วน

เธอเหลือบตามองมู่เฉินหย่วน ในมุมนี้เธอเห็นได้เพียง โครงหน้าของผู้ชาย มีเพียงความเย็นชาที่สามารถบรรยาย เขาได้ จู่ ๆ ความรู้สึกสงสารเอ็นดูไหลเข้ามากลางใจเธอ

ต่อให้คุณชายมู่เก่งขนาดไหนเขาก็เป็นมนุษย์เช่นกัน ไม่ ได้มีสามหัวหกแขนแต่อย่างไร

หลังจากสูบลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้ว ถังซินพูดขึ้นด้วย เสียงเข้ม “ได้ค่ะ ตำแหน่งนี้ฉันขอน้อมรับ แต่ฉันไม่ได้ทำ เพื่อประธานมู่หรือว่ามู่ชื่อนะคะ แต่เมื่อก่อนหัวหน้าดูแลฉัน ดีมาก เขาถือว่าเป็นอาจารย์ฉัน ฉันอยากจะทำในสิ่งที่ถูก ต้องเพื่อเขา

มู่เฉินหย่วนแสยะยิ้ม

ไม่นานลิฟต์มาถึงแผนกล่าม ประตูเปิดออก มู่เฉินหย่วน เอื้อมมือไปทางถังซิน นิ้วทุกนิ้วของเขาดูเรียวยาวแข็งแรง และดูไม่เบื่อ
“คุณถัง หลังจากนี้ก็ฝากคุณจัดการด้วยนะครับ”

“ค่ะ”

หลังจากประตูลิฟต์ปิดลง ถังซินยังคงยืนอยู่หน้าประตู มือ ที่ถูกจับเมื่อสักครู่ยังคงอุ่นอยู่เหมือนเดิม

หลังจากกลับมาจากตุรกี มู่เฉินหย่วนกลายเป็นสุภาพบุรุษ มากขึ้น เหมือนทั้งสองคนไม่สนิทกันมาก่อน เธออยากพบ เจอคุณชายมู่ที่เมาเหล้าในวันนั้นอีกครั้ง

ทั้งอ่อนโยนและใกล้ชิด ใช้น้ำเสียงเซ็กซี่เรียกเธอว่า “คุณ หญิง”

ความคิดนี้ผ่านแว๊บไปในความคิดเธอครู่หนึ่ง แต่ถังซินก ลับรู้สึกหนักหน่วงมาก ไม่เพียงแต่หูแดงก่ำ แถมสีหน้ายังดู เก้อกังอย่างบอกไม่ถูก

ความเย็นชาห่างเหินของคุณชายมู่ก็ไม่แปลกเท่าไหร่ หรอก เพราะทั้งสองก็ไม่ได้สนิทอะไรขนาดนั้น

หลังจากถังซินก้าวเข้ามาที่แผนกล่าม เพื่อนร่วมงาน ทั้งหมดเข้ามาล้อมรอบเธอไว้ ถามนุ่นถามนี่เต็มไปหมด เหมือนทุกคนรู้แล้วว่าเบื้องบนคุยเรื่องอะไรกัน

“ประธานมู่ให้เกียรติฉันครั้งนี้ ทำให้ฉันถูกย้ายไปแผนก Regulators แล้ว” ถังซินยิ้มเบา ๆ “แต่ทุกคนเป็นพนักงาน ของมู่ซื่อหมด แถมยังเป็นเพื่อนร่วมงานที่น่ารัก ทีหลังฉันจะมาหาที่แผนกล่ามบ่อย ๆ นะ”

“ถังซิน ประธานมู่ให้เธอเลือกคนเองจริง ๆ หรอ งั้นเลือก จากแผนกล่ามของเราได้มั้ย”

Regulators เป็นมือขวาของประธานมู่ สามารถเข้าออก ทุกแผนกของมู่จื่อ ขนาดผู้จัดการแผนกงานไม่สามารถ ปฏิเสธได้ เป็นเรื่องที่ดีขนาดไหนหละ

“ใช่ แต่แผนกเลขาเป็นผู้ให้ข้อมูลทั้งหมดกับฉัน” ถังซิ นพูดขึ้น “ดังนั้นยังคงเป็นประธานมู่ที่เป็นคนตัดสินใจ

เห็นเธอพูดเช่นนี้ ทุกคนแลดูผิดหวังเล็กน้อย

ยังดีที่ถังซินไม่ได้ถูกล้อมไว้นานมากเท่าไหร่ เพราะเห้ ออีเฉินมาถึง เขาเป็นหัวหน้าคนใหม่ของแผนกล่าม กำลัง รวบรวมทุกคนเพื่อแนะนำตัวเอง รวมถึงอำลาถังซินด้วย

ตัวถังซินเองไม่มีของอะไรมากมาย เก็บของใส่กล่องแล้ว ก็หอบขึ้นไปที่แผนกล่าม

กาวเหมยซีนําทางให้เธอด้วยตัวเอง

แผนก Regulators อยู่ใต้ออฟฟิศประธานสองชั้น ชั้นนี้ เชื่อมกันได้ทั้งหมด ด้านซ้ายเป็นห้องประชุม ส่วนด้านขวา เป็นออฟฟิศ ห่างกันเพียงประตูกระจกสองบานและทางเดิน เข้าออกที่นี่ต้องใช้คีย์การ์ดหมด
ออฟฟิศใหญ่มาก ด้านในมีห้องกาแฟในตัว ห้องน้ำส่วน ตัว ห้องหมากรุกและห้องทำงานผู้จัดการที่ใช้กระจกเปลี่ยน สี เมื่อมีเรื่องที่ต้องจัดการ แค่กดปุ่มก็ทำให้กระจกเปลี่ยน เป็นโหมดเบลอ ทำให้คนที่อยู่ข้างนอกมองไม่เห็น ประตู ก็แยกเป็นบาน ๆ ต้องใช้คีย์การ์ดถึงจะเข้าออกได้แถมกัน เสียงอีกต่างหาก

จากการแนะนำของกาวเหม่ยซี มุมปากของถังซินกระตุก “แลดูยุ่งยากเหลือเกิน”

และเธอก็รู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในคุกอีกด้วย

“แผนก Regulators หลัก ๆ คือจัดการเรื่องของมู่ซื่อ ทั้งหมด ซึ่งประธานมู่ให้ความสำคัญอย่างยิ่ง” กาวเหม่ยซี พูดขึ้น และยื่นคีย์การ์ดสีน้ำเงินครามให้ถังซิน “ผู้จัดการถัง คะ นี่คือคีย์การ์ดที่คุณสามารถเปิดประตูทุกบานของมู่ซื่อได้ รวมไปถึงแผนกของคุณเองและออฟฟิศส่วนตัวของคุณ”

“คีย์การ์ดที่ให้พนักงานในแผนกคุณแค่สามารถเข้าออก บางแผนกเท่านั้น และไม่สามารถเข้าไปในออฟฟิศส่วนตัว คุณได้ ถ้าต้องการเปลี่ยนแปลงอะไร คุณสามารถบอกฉันได้ เลยนะคะ”

กาวเหม่ย พูดต่ออีก แล้วยื่นนามบัตรขอบทองให้ถังซิน “ต่อไปนี้ สูทของคุณจะสั่งทำกับโหยวจิน ฉันส่งข้อมูลไซส์ ของคุณให้กับคุณโหยวจินแล้ว คุณต้องการสูทแบบไหน บอกเขาได้เลยนะคะ ถ้าคุณต้องการ สตูดิโอของเขาก็ทำชุด ราตรีด้วยค่ะ”
ขอบคุณค่ะ” สมองของถังซินเริ่มจะมึน เธอรับคีย์ การ์ดเอาไว้

การเป็นผู้จัดการระดับสูงกับพนักงานธรรมดานี่ต่างกัน เยอะจริง ๆ

หลังจากถังซินวางของเรียบร้อย พยายามย่อยเรื่องราวที่ เกิดขึ้นในวันนี้ ผ่านไปราวสองชั่วโมงกาวเหม่ยซีมาหาเธอ อีกครั้ง ครั้งนี้เธอเอาเอกสารเพื่อเลือกลูกน้องและเอาขนม มาให้เธอด้วย

“ประธานมู่บอกว่าต่อไปนี้ผู้จัดการถังต้องเหนื่อยมาก แน่นอน เขาให้ฉันเอาขนมมาให้คุณทานค่ะ”

“ขอบคุณประธานมู่แทนฉันนะคะ”

เหนื่อยจนเป็นบ้าเลยแหละ!

เธอรู้สึกว่าถ้าคุณชายมู่ไม่หวังร้ายกับเธอ อะไรก็ดีหมด

เมื่อถึงตอนเย็น ทุกคนในม่ซื่อรู้หมดแล้วว่ามีการจัดตั้ง แผนก Regulators ขึ้น ขึ้นตรงกับประธานมู่ สามารถเข้า ออกเพื่อตรวจสอบได้ทุกแผนก และถังซินแผนกล่ามถูกย้าย ไปอยู่แผนก Regulators

ทุกคนในแต่ละแผนกล้วนซุบซิบเรื่องนี้หันหมด ทั้งตื่นเต้น และสงสัย เรื่องที่ดีขนาดนี้นอกจากแผนกวางแผน คนใน แผนกอื่นอยากจะให้ตัวเองถูกเลือกใจจะขาด
ถ้ามีใครถูกเรื่องไปสัมภาษณ์ข้างบน ก็ทำให้คนที่เหลือ จ้องตาเป็นมัน พยายามอ้อนวอนในใจขอให้คนนั้นไม่ถูก เลือก และขอให้เลือกตัวเองแทนเถิด ทั้งคู่ซื่อดูมีชีวิตชีวา อย่างยิ่ง

วุ่นวายมาทั้งวัน ตอนที่ถังซินกำลังจะเลิกงานรู้สึกว่าตัวเอง หมดเรี่ยวแรง

“ผู้จัดการถังคะ”

“สวัสดีครับผู้จัดการถัง”

เพิ่งจะออกจากลิฟต์ พนักงานของมู่ชื่อทักทายเธอคนต่อ คน ทำให้ถังซินตอบรับไม่ทัน ทำได้แค่ยิ้ม

ไม่นาน หลี่ซูเจ๋ก็ลงมา

“แหม ๆ ๆ เธอไปแผนก Regulators ที่จัดตั้งใหม่จริง ๆ หรอ” หลี่ซูเจ๋วิ่งตามขึ้นมา ท่าทางตื่นเต้นตกใจ “แผนกฉัน คุยกันเรื่องนี้ตลอดทั้งบ่ายเลยหนะ”

ถังซินปวดหัวมาก “แค่นี้ก่อนละกัน กลับไปค่อยคุยกันเนอ

หลังจากกลับบ้าน ถังซินทำกับข้าวไปด้วย เล่าเรื่องที่เกิด ขึ้นในวันนี้ให้หลี่ซูเจ๋ฟัง และหลี่ซูเจ๋เองฟังจนอ้าปากค้างเหมือนกำลังฟังเรื่องนิทานอีสปอยู่

หลี่ซูเจ๋พูดขึ้น “เธอเป็นล่ามแล้วมันเปลืองทรัพยากรยังไง หละ มันดูไม่สมเหตุสมผลเลย ฉันว่านะประธานมู่อยากจะ ย้ายเธอไปเพื่อทำงานให้เขานั่นแหละ”

“ฉันรู้ แต่ปฏิเสธไม่ได้หนะสิ” ถังซินบอกว่า “ฉันอยากจะ ค้นหาความจริงที่หัวหน้าตาย”

ไม่งั้นคงจะไม่ตอบตกลงกับมู่เฉินหย่วนไปหรอก


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ