ฉันเป็นสุดที่รักของประธานมู่! ?

บทที่ 255 ไอ้โทรศัพท์บ้าเอ้ย



บทที่ 255 ไอ้โทรศัพท์บ้าเอ้ย

รองประธานจ้าวโมโหจนเกือบจะคุมสติเอาไว้ไม่อยู่ แต่ดัน อยู่ในสถานการณ์แบบนี้เลยยังต้องอดทนอดกลั้นเอาไว้สุด ชีวิต

เขาพุ่งเป้าไปที่ช่วงเวลาที่ถังซินเปลี่ยนบริษัทสั้น ไม่ สอดคล้องกับหลักการทำงานมากดดันเธอ ไม่ให้เธอเข้ามา ในตระกูลมู่ได้ ตราบใดที่มู่เฉินหย่วนกล้าถือหางถังซิน พวก ผู้ถือหุ้นจะต้องรู้แน่นอนและจะไม่พอใจด้วย

คิดไม่ถึงเลยว่ามู่เฉินหย่วนจะใช้ลูกไม้นี้ ถึงกับแอบซื้อเห อชวนเงียบ ๆ เหอชวนกลายเป็ ารของตระกูลมู่ไปแล้ว ถังซินกลับตระกูลมู่ได้อย่างง่ายดาย คนอื่นจะพูดอะไรได้ล่ะ

รองประธานจ้าวมองมู่เฉินหย่วนอย่างหมองหม่น แววตา ฉายความหวาดกลัวออกมา

เขาดูถูกผู้ชายคนนี้มากเกินไป

ไพ่ใบนี้ของมู่เฉินหย่วน ชนะมาตรการปฏิบัติของทุกคน เลยไม่มีใครพูดอะไรอีก

การประชุมสิ้นสุดลง ทุกคนก็ทยอยออกจากห้องประชุม

พอคนแยกย้าย ถังซินก็พุ่งไปหาชายหนุ่มด้วยความโมโห “คุณซื้อเหอชวนเอาไว้นานแล้วใช่ไหมคะ ก่อนหน้านี้ที่ฉัน เข้าเหอชวนง่ายดายก็เป็นฝีมือคุณคอยชักใยอยู่เบื้องหลังด้วยใช่ไหมคะ”

“คุณฉินขอให้ผมซื้อเองนะ”

“คถ มัน… ” ถังชินกลืนคําหยาบลงไป กัดฟันจ้องเขา “มูลค่าทางตลาดของเหอชวนสูงไม่ใช่น้อยเลย คุณฉินคง โดนถีบหัวถึงขายเหอชวนให้หรอก

มู่เฉินหย่วนเนิบ ๆ “แม้ว่าตระกูลมู่ถือหุ้นเหอชวนร้อย เปอร์เซ็นต์ แต่อนุญาตให้ประกอบกิจการเองได้ ดังนั้นเหอช วนก็ยังเป็นของคุณฉินอยู่ จะถือว่าขายได้ไงล่ะ”

“คุณ คุณนี่มัน ! ” ถังซินโมโหจนไม่รู้จะพูดอะไร แต่กลับ รู้สึกอบอุ่นใจ “คุณชอบหาคนมาช่วย ฉันจะไปได้เรียนรู้อะไร ล่ะ”

“ผมช่วยคุณแก้ปัญหาที่ไม่จำเป็น เรื่องอื่นคุณก็แก้ปัญหา เองไง” มู่เฉินหยวนพูด “ถ้าคุณไม่มีความสามารถ ต่อให้ไป เหอชวนก็ไม่โอเคหรอก คุณลองคิดดูสิ เพราะว่าคุณมีความ สามารถมาก คนของเหอชวน ไหนจะคุณฉินอีกถึงเคารพ คุณใช่ไหมล่ะ”

ถังซินคิดว่าเขาพูดมีเหตุผล

เธอเข้าเหอชวนง่ายดาย แต่ก็อยู่ไม่ง่ายเลย มีหลายเรื่อง ที่จัดการด้วยตัวเอง พึ่งพาตัวเองทั้งนั้น

“ถ้างั้นการประมูลรถไฟความเร็วสูงล่ะคะ” ถังซินเอามือสองข้างเท้าเก้าอี้ที่ชายหนุ่มนุ่งอยู่แล้วมองอย่างใกล้ชิด “การประมูลนี้มีหลายบริษัทมากมายขนาดนั้น ทำไมถึงต้น ตกไปเป็นของเหอชวนได้ล่ะคะ”

มาคิด ๆ ดูตอนนี้แล้วอะไร ๆ ก็ดูแปลกไปหมด

มู่เฉินหย่วนหัวเราะเบา ๆ “คุณไม่แปลกใจเหรอว่าทำไมผม ถึงรับปากสั่งจิ้งเหอ

ถังซินอึ้ง จากนั้นก็เข้าใจขึ้นมาฉับพลันแล้วพูดขึ้นมาว่า “สั่งจิ้งเหอบอกว่ายอมยกการประมูลให้เหอชวนแต่คุณต้อง แต่งงานหลอก ๆ หับเขาเพื่อคว้าหุ้นตระกูลส้งใช่ไหมคะ”

“คุณนี่นับวันยิ่งฉลาดขึ้นนะเนี่ย

“มู่เฉินหย่วน คุณนี่มัน….จริง ๆ เลยนะ” ถังซินไม่รู้ว่าจะ พูดอะไรดีเลยว่าเขา “ปกติคุณก็หึงมากเกินไปจนทำให้มัน ยุ่งเหยิงขนาดนี้ คุณรู้ไหมว่าเพราะเรื่องการแต่งงานปลอม ๆ ของพวกคุณ ทำเอาคุณวี่เขา….

มู่เฉินหย่วนส่งเสียง “หึม” ออกมาแล้วมองเธอด้วยความ สงสัย “พี่ชายผมทำไมเหรอ”

“ไม่ ไม่มีอะไรค่ะ”

เธอไม่สามารถพูดได้อยู่แล้ว เธอเองก็เข้าใจผิดเรื่องนี้ เหมือนกันเลยเซ็นสัญญาประเภทนั้นไป ขึ้นพูดออกมาขาย หน้าแย่ เลยได้แต่เปลี่ยนเรื่อง “ฉันนึกว่าจะได้เห็นพี่น้องพวกคุณฆ่ากันเองแล้วเสียอีก”

“สมองคุณคิดอะไรอยู่นะ” เฉินหย่วนลงโทษด้วยการ หยิกแก้มเธอแรง ๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจ “คุณเคย เห็นผมจับมือกับสั่งจิ้งเหอเสียเมื่อไหร่ล่ะ

เขาไม่ได้สนใจสั่งจิ้งเหอแต่แรกอยู่แล้ว

ถ้าไม่ใช่เพราะมีข้อตกลงความร่วมมือกัน หลังจากที่รู้เรื่อง ของสังจิ้งเหอกับวี่เหวินถึงแล้วคงอยู่ห่าง ๆ นานแล้ว

“คุณอย่าหยิกสิ” ถังซินปัดมือของเขาแต่กลับถูกชายหนุ่ม คว้ามือเอาไว้แล้วดึงเข้ามาใกล้จนทั้งสองคนอยู่ใกล้ชิดกัน

มู่เฉินหย่วนพูด “ถังซิน ผมช่วยคุณแค่เรื่องเล็กน้อย ผล ของเรื่องเหล่านั้นเกิดจากคุณเป็นคนทำเองนะ เป็นเพราะว่า คุณเก่งมากพอถึงได้ความเคารพจากคนรอบข้างไง

“การประมูลรถไฟความเร็วสูงนั้น เป็นเพราะสังจิ้งเหอรับ ปากว่าจะถอนตัวไม่เสนอราคาให้กับตระกูลมู่ ที่เหอชวนชนะ การประมูลได้ก็เพราะความพยายามของคุณกับทีมงานของ คุณ ไม่ได้เกี่ยวกับฉันนะคะ”

ถังซินบ่นพึมพำ ๆ “คนในทีมก็ยืมมาจากตระกูลมู่ ยังบอก ว่าไม่ได้ช่วยฉันอีกเหรอ”

“ทำไมคุณถึงชอบเอาแต่คิดถึงเรื่องไร้สาระนะ” เฉินหยว หัวเราะอย่างจนปัญญา “ถ้าคุณไม่มีความสามารถ ผมจะให้ยืมคนจากตระกูลมู่ไปจะไปมีประโยชน์เหรอ คุณนี่ไม่มั่นใจ ในตัวเองเอาเสียเลยนะ”

“เพราะฉันเพิ่งเข้ามาเกี่ยวข้องงานชิ้นนี้…

“ยังไม่สายเกินไปที่จะเข้ามา อีกอย่างคุณมีพรสวรรค์ด้าน นี้มากจริง ๆ นะ ถังซิน คุณอยากทำอะไรก็ลองทำดูเลย ด้าน หลังคุณไม่ใช่หน้าผานะ

ชายหนุ่มชี้แนะเธอ ในดวงตาอันดำขลับของเขาแฝงไป ด้วยกำลังใจและความเชื่อมั่นในตัวของเธอ

มันช่างลึกซึ้งและมีเสน่ห์น่าหลงใหลมาก

ถังซินมองตาของเขาจนเกือบจะตกอยู่ในภวังค์ โชคดี โชคดีที่มือถือดังขึ้น เธอเลยรีบผลักเขาออก

มู่เฉินหย่วนมองมืออันว่างเปล่า ถอนหายใจออกทางริม ฝีปาก

ไอ้โทรศัพท์บ้าเอ้ย !

หลังจากที่ประชุมเสร็จแล้ว ผู้บริหารที่ชอบซุบซิบนินทา ก็เอาเนื้อหาที่ประชุมไปเม้ามอยต่อ คนปากสว่างเม้าต่อ ๆ กันไป ไม่ถึงวันคนในตระกูลมู่ทั้งน้อยใหญ่ก็รู้ว่าแผนกฝ่าย บุคคลมีผู้จัดการแล้ว
เพียงแต่ว่าเป็นผู้จัดการคนเดิมที่ออกไปแล้วก็กลับเข้ามา ใหม่

พนักงานของแผนกฝ่ายบุคคลว่างมานานมาก พอรู้ว่าถังซิ นกลับมาแล้วแต่ละคนก็ตื่นเต้นกันยกใหญ่ ต้อนรับกันอย่าง ฮือฮา

ถังซินหัวเราะ “นี่มันจะโอเวอร์เกินไปแล้วนะ”

“ไม่โอเวอร์เลยสักนิดนะคะ” เสี่ยวหนานจับมือของเธอ แล้วพูดอย่างตื่นเต้น “ผู้จัดการคะ ถ้าคุณไม่กลับมาอีก เกรง ว่าพวกเราคงโดนเด้งออกจากตระกูลมู่จริง ๆ นะคะ

“เอาน่า ไปทำงานไป

ถังซินใช้เวลาห้านาทีประชุมกับทุกคนเพื่อแบ่งงานกัน

แม้ว่าพวกเขาจะเข้าไปตรวจสอบแผนกใดก็ได้ เพียงแต่ ว่าหลังจากที่ตระกูลมู่ปฏิรูปใหม่แล้ว ทำให้อำนาจและคอน เนคชั่นของบางคนขาดหายไป คนอื่นก็ปฏิบัติตามกฎหมาย ไม่มีเรื่องอะไรให้ต้องตรวจสอบ

ถังซินให้พวกเขาตรวจสอบสถานการณ์ของส่วนอื่น โดย เฉพาะการเงินส่วนนั้นตัวเองเป็นคนตรวจสอบรองประธาน จ้าวเอง

กลับมาตระกูลมู่ครั้งนี้ เธอจะต้องฉุดคนคนนี้ลงมาให้ได้
ถัง มจดจ่ออยู่กับเรื่องนี้ ไม่มีเวลาดยเล่น เห็นข้อความ ของมู่เฉินหย่วนก็ไม่ค่อยตอบ กลับเป็นหลี่ซูเจ๋ที่มักวิ่งจะเอา อาหารมาส่งให้เธอเสมอ

พอเธอมา ลู่เหวิน ก็ตามมาด้วย

หลังจากนั้นขณะที่ถังซินกำลังตรวจสอบเอกสาร คู่รักหน้า ไม่อายก็ผลัดกันป้อนอาหารกัน เธอป้อนฉัน ฉันป้อนเธอ จน สุดท้ายถึงชินทนไม่ไหวเลยห้ามไม่ให้พวกเขาขึ้นมาอีก

ตกเย็นหลังจากที่กลับไปแล้ว หลี่ซูเจ๋ก็ร้องไห้เสียงดัง “ประธานมู่ทําเกินไปแล้วนะ ฉันทำงานเสร็จถึงไปหาเธอ คิด ไม่ถึงเลยว่าเขาจะว่าว่าฉันเอาแต่ลอยไปลอยมาไม่ทำงาน ทำการ หักโบนัสฉันสองไตรมาส

ถังซินพูดอย่างไร้เยื่อใย “ใครใช้ให้เธอกับลู่เหวินซูว่าง ขนาดนั้นล่ะ”

หลี่ซูเจ๋คิดว่าลู่เหวินซูทำให้ตัวเองไม่ได้โบนัสเลยโทรไป ต่อว่าลู่เหวินซูฉาดหนึ่ง แถมยังห้ามไม่ให้เขาส่งข้อความมา ให้ตัวเองตอนทํางาน ถ้าส่งมาก็จะบล็อกเลย

วันต่อมาไปทำงาน ถังซินเปิดอีเมลก็พบว่าลู่เหวินซูโดน แจ้งข้อกล่าวหา “อนาจารผู้หญิง” โดนหักเงินเดือน ไม่ได้ เงินปันผล ด้านล่างอีเมลเป็นลายเซ็นของมู่เฉินหยวน

เธอหัวเราะจนตัวงอ
เจ๋งส์….อ่ะ !

พอทำงานเสร็จแล้วถังซินก็หาเวลาส่งข้อความหามู่เฉิน หย่วน : ลู่เหวินซูไปหาคุณหรือเปล่าคะ

มู่เฉินหย่วน : เขาไม่กล้ามาหาผมหรอก

ถังซิน : เขาเป็นน้องคุณนะ คุณหักเงินเดือนแถมยังไม่ให้ เงินปันผลอีก ใจร้ายไปหรือเปล่าคะ”

มู่เฉินหย่วน : เขามีเงิน เงินตรงนี้หายไปก็ไม่เดือดร้อน หรอก

ถังซิน : ประธานมู่พูดถูกค่ะ หักเงินได้ดีนี่คะ ทำให้เขาไม่มี อะไรทำก็มาอวดความรักทำให้คนอื่นเขาเหม็นความรักไป หมด น่ารำคาญจริง ๆ

มู่เฉินหย่วน : คุณถัง ผมก็อยากโดนหักเงินเดือนมาก เหมือนกันนะ

ถังซินเห็นข้อความแล้วแก้มร้อนผ่าวขึ้นมา

เธอเอานิ้วเคาะ ๆ หน้าจอ ไม่รู้ว่าจะตอบอะไรดี เลยทิ้ง มือถือไว้บนโต๊ะ พอลุกขึ้นจะออกไป คิดไม่ถึงเลยว่ามู่เฉิน หย่วนก็อยู่ที่ประตู


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ