ฉันเป็นสุดที่รักของประธานมู่! ?

บทที่370 สามหรือห้าปีต่อจากนี้ คุณจะมีขวดนมเล็กๆ สองสามอันข้างๆ



บทที่370 สามหรือห้าปีต่อจากนี้ คุณจะมีขวดนมเล็กๆ สองสามอันข้างๆ

โบแนร์ไม่สนใจอารมณ์เขา เงยหน้าพูดกับหลินเฉิงจื่ ว่า”Colbertก่อนหน้านี้จะพูดไร? มีอะไรจะบอกพ่อ? ”

หลินเฉิงจี่พูดว่า”ผมอยากได้อำนาจดูแลอเล็กซ์เลียร์”

“ลูกได้ไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอ? “โบแนร์แปลกใจที่ โบสถ์พ่อประกาศต่อเพื่อนๆพวกนั้นแล้วว่าลูกได้มรดก เหมือนพี่ลูก”

จี้เจียจื้อลุกขึ้นแล้วยื่นเอกสารให้โบแนร์”พ่อครับ พ่อ ยุ่งมาก เหมือนจะไม่รู้ว่าColbertทิ้งมรดกอเล็กซ์เลียร์ ไปตั้งนานแล้ว เรื่องนี้ตระกูลฟิเลตัสต่างก็รู้

โบแนร์รีบเอาเอกสารมาดูแล้วพูดกับหลินเฉิงจี้ด้วย ความโกรธว่า“สารเลว! ฉันให้แกอย่างยากลำบาก ให้ แกเติบใหญ่ แล้วแกทิ้งมรดกเนี่ยนะ? ”

หลินเฉิงจี่ไม่พูดอะไรออกมา

เพราะคำพูดของจี้เจียจื้อก่อนหน้านี้ เขาเลยอยากเจอ แม่มากจึงต้องทิ้งมรดกไปและหวังว่าจี้เจียจื้อจะหยิบ เอกสารนี้ออกมาด้วย

ถังซินพูดว่า”คุณโบแนร์อย่าโกรธเลยค่ะ Colbertยัง หนุ่มอยู่ต้องทำเรื่องพลาดเป็นเรื่องธรรมดา ใครไม่เคย ทําพลาดบ้างล่ะคะ? ”
“เขาไม่ใช่เด็กสิบขวบ อีกอย่าง เด็กสิบขวบก็คิดดีๆ ก่อนเซ็นอะไรทั้งนั้น”จี้เจียจื้อรู้ว่าถังซินอยากทำลาย ความโกรธจึงรีบพูด“เอกสารนี้เขาเซ็นเองครับ”

เขารีบมองไปที่โบแนร์แล้วเตือนว่า”พ่อ ครอบครัวมี กฎ ทิ้งของหรือมรดกด้วยความเต็มใจจะเอากลับมาอีก ไม่ได้ พ่อ ผมรู้ว่าพ่อรัก Colbertแต่ว่าปู่ย่าก็มีกฎมาอยู่ แล้ว พ่อเอาคืนให้น้องก็ทำร้ายผมเหมือนกัน ผมเป็นลูก พ่อนะ”

“คุณชายไซเลส์ พูดแบบนี้ก็ไม่ถูกนะ”ถังซินพูดขึ้นไม่ สนใจคำพูดเขาเป็นคนจะทำผิดไม่ได้เหรอ อีกอย่าง กฎไม่มีตัวตนแต่คนเป็นสิ่งที่มีตัวตนนะ”

“บรรพบุรุษพวกคุณตั้งกฎขึ้นมาเพราะว่าตอนนั้น ตระกูลอเล็กซ์เลียร์มีเด็กเยอะ หลีกเลี่ยงเผื่อมีคนมา ละเมิดสิทธิ์ ตอนนี้ทายาทของตระกูลอเล็กซ์เลียร์มีแค่ คุณกับColbert ไม่ควรให้ความผิดครั้งเดียวของเขามา ทำให้เขาหมดโอกาส”

สายตาของจี้เจียจื้อคมชัดและมัวหมองจ้องไปที่ถัง ซิน“คุณถัง นี่เป็นเรื่องของครอบครัวผม”

“ฉันเป็นแฟนของColbert มีปัญหาอะไรพวกเราจะ รับผิดชอบร่วมกัน”ถังซินยิ้ม“ฉันกังวลว่าColbertจะ ไม่มีสิทธิ์ในมรดกอีกและถ้าวันข้างหน้าคุณชายไซเลส์ สูยเสียไปเหมือนกัน อเล็กซ์เลียร์ไม่ใช่ว่าตกไปอยู่ใน มือเขาแล้วเหรอ? ดังนั้นฉันถึงคิดว่ากฎที่เข้มงวดนี้ สามารถเปลี่ยนได้
“หลายพันปีนี้กฎของตระกูลอเล็กซ์เลียร์ไม่เคยมีใคร มาเปลี่ยน”จี้เจียจื้อพูดเรียบๆว่า”ถ้าคุณบังคับให้พ่อผม เปลี่ยนกฎเพื่อColbertคุณอยากให้พ่อผมถูกบรรพบุรุษ ด่าตายเหรอ? ถ้าผมทำผิดไม่มีทางมาขอสิทธิ์มรดกคืน แน่ เพราะผมเป็นแค่คนในตระกูลอเล็กซ์เลียร์”

ถังซินเงยหน้ามองเขาอย่างไม่เกรงกลัว”คุณชายไซ เลส์ ฉันแค่ออกความเห็นไม่ได้อยากให้คุณโบแนร์พู กบรรพบุรุษว่าลับหลัง คุณอย่าเข้าใจฉันผิดค่ะ”

จี้เจียจื้อยกปากบางๆขึ้นแล้วพูดอย่างคมๆว่า“ผมนึก ว่าคุณถังคิดแบบนี้ซะอีก”

“พอแล้ว! กินข้าว มาทะเลาะกันหรือไง? “ที่จริงเรื่อง ที่หลินเฉิงจี่ทิ้งมรดกไป โบแนร์ก็โกรธมากแล้ว ตอนนี้ ตบโต๊ะเข้าไปแรงๆเพื่อหยุดสงครามปะทะกันของทั้ง สอง

หลินเฉิงจี้พูดเสียงทุ้ม“พ่อ ขอโทษครับ เพราะผมเด็ก เกินไป ไม่รู้ความสำคัญของมรดกนี้ ความผิดของผม ผมรับเอง ผมไม่พูดเรื่องนี้อีกแล้ว”

เห็นท่าทางเขาแบบนี้ในใจของโบแนร์ก็คลายความ โกรธไปได้บ้าง

คิ้วของหลินเฉิงจี่เหมือนผู้หญิงคนนั้นทำให้เขาทั้งเจ็บ ทั้งโกรธ แต่กฎเก่าแก่ของตระกูลอเล็กซ์เลียร์เขาจะ ลำเอียงไปทางหลินเฉิงจื่อย่างเปิดเผยไม่ได้
จี้เจียจื้อบังคับขู่เข็ญแบบนี้แสดงให้เห็นชัดเจนว่าไม่ อยากให้หลินเฉิงจี่ได้มรดกอีกครั้ง

ความพยายามของลูกชายคนโตมีมากแค่ไหนเขารู้ดี

โบแนร์เอาเอกสารปาใส่จี้เจียจื้อ ใบหน้าหล่อๆนั่นมี ความมืดมน”ทำผิดอีกก็รับผิดชอบเอง ! กินข้าว ใคร พูดมากอีกก็ไปไกลๆ!

จี้เจียจื้อดวงตาเศร้า

เขาไม่โง่ รู้ว่าโบแนร์ไม่หยุดเรื่องนี้ตรงๆเท่ากับว่าอาจ จะมีโอกาสให้มรดกนั่นอีกรอบกับหลินเฉิงจื่

ถังซินนั่งกลับไปใหม่ มือหล่อนกุมหน้าท้องที่ยังเต้น แรงจนเกือบจะโผล่ออกมาที่หน้าอก

หล่อนไม่อยากเชื่อจริงๆว่าเมื่อกี้คนที่เอาสีหน้าแย่ๆ ของจี้เจียจื้อออกมาคือตัวเอง

ที่จริงใจหล่อนสับสนมาก จี้เจียจื้อก็เหี้ยมโหดยากที่ จะจัดการ หล่อนกลับจำได้ว่ามู่เฉินหย่วนเคยให้อะไร หล่อนไว้ ถึงได้กล้าขนาดนี้

นานมาแล้วที่ยังเคยทำงานที่บริษัทมู่ซื่อ หล่อนไปคุย เรื่องสัญญาแต่เป็นเพราะไม่มีชื่อเสียงอะไรเลยถูกฝ่าย ตรงข้ามเมินใส่ เลยได้แต่หุบปาก

มู่เฉินหย่วนก็สอนหล่อน“คนแบบนี้ ยิ่งคุณอ่อนเขาก็ยิ่งแข็งข้อใส่ คุณต้องรู้ว่าตอนที่คุณไม่มีชื่อก็ใช้ชื่อใคร ก็ได้ที่ใช้ได้ ผมหรือบริษัทมู่ซื่อก็ได้ ตอนที่คุยกับพวก เขาคุณก็ต้องมีอคติ ทำให้เขากดดัน เขาก็จะรู้ว่าคุณ ไม่ใช่คนที่ไม่มีแบ็ค แล้วก็จะไม่กล้าดูถูกคุณเอง”

“เรื่องนี้ไม่ใช่แค่สำหรับธุรกิจ คนก็ด้วย บางคนเป็น แมวในคราบเสือ ที่จริงก็แค่กำลังทำให้คุณกลัว แค่ตี เขาหรือจะม้วนตัวให้เขารังแก ก็แล้วแต่คุณว่าจะทำยัง ไง”

ถังซินใช้เทคนิคที่เขาสอน สุดท้ายทำให้ฝ่ายตรงข้าม กดดันแล้วตกลงทำธุรกิจกับหล่อนอย่างง่ายดาย

หลังจากจัดการเรื่องเสร็จ หล่อนรีบวิ่งไปหามู่เฉิน หย่วนที่บริษัทมู่ซื่อ”งั้นฉันมาเป็นเลขาส่วนตัวคุณ? ฉัน ว่าอยู่กับคุณสามถึงห้าปีฉันก็สามารถไปทำเองได้คน เดียวแล้ว!

มู่เฉินหย่วนดึงหล่อนเข้ามาในอ้อมกอดพูดเสียง ทุ้ม“โอเค สามถึงห้าปีจากนี้ คุณจะไปทำเองได้หรือไม่ ผมไม่รู้ แต่คุณจะมีขวดนมเล็กๆสองสามอันแน่นอน”

แปปนึงถังซินถึงตอบสนองกลับไป กัดฟันค้อนใส่เขา อย่างหน้าแดง“สกปรกจริง! ทำงานยังคิดเรื่องนี้อีก ควรจะให้พนักงานมาดูสีหน้าจริงๆ”

“หรือว่าคุณนายมู่ไม่คิดแบบนี้?

“ไปไกลๆ ! ”
อดีตย้อนคืนมาและผู้ชายคนนั้น ในใจถังซินก็แย่ขึ้น มาฉับพลัน

หล่อนรู้ว่าไม่ปล่อยจี้เจียจื้อ ตอนที่จู่ซือซือกอบกู้ความ ยุติธรรมคืนมา หล่อนไม่มีหน้ากลับไป และผู้ชายคนนั้น ก็ไม่ให้อภัยหล่อน

ถังซินก้มหน้าลงซดซุปเข้าไปทันใดนั้นกระเพาะก็ปั่น

ป่วน

อยากอ้วก

หล่อนไม่กล้าไปที่ห้องน้ำอย่าเปิดเผย เลยเอามือดึง ผ้าปูโต๊ะตั้งใจทำให้ซุปหกบนเสื้อ ทำเป็นตกใจแล้วจึง รีบลุกขึ้น

ถังซินมองกระโปรงที่เลอะเทอะนั่นก็พูดอย่างโกรธๆ ว่า“ขอโทษค่ะ ฉันไปล้างออกก่อนนะคะ”

หลินเฉิงจี้รู้ว่าหล่อนแพ้ท้องอยากอ้วก เขาไม่ได้ตาม ไปเลยเรียกแม้บ้าน”พาคุณถังไปที่ห้อง เตรียมชุดใหม่ ให้หล่อนเปลี่ยน”

แม่บ้านตอบรับแล้วพาถังซินขึ้นไป

รอแม่บ้านไปเตรียมชุดใหม่ถังซินก็รีบวิ่งไปห้องอาบ น้ำแล้วปิดประตู จากนั้นก็อ้วกลงอ่างล้างมือ

อาหารในท้องอ้วกออกมาจนหมด
หล่อนหมดแรงหน่อยๆ ยืนอยู่ตรงนั้นจนดีขึ้นมาหน่อย แล้วจึงเอาน้ำอุ่นล้างหน้า ได้แต่ภาวนาอย่างเงียบๆว่า ครั้งหน้าอย่าแพ้ท้องหนักอย่างนี้ มันไม่ง่ายต่อการ จัดการเลย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ