ฉันเป็นสุดที่รักของประธานมู่! ?

บทที่ 405 ข้อตกลงในการเดิมพัน



บทที่ 405 ข้อตกลงในการเดิมพัน

ถังซินจึงยิ้มหัวเราะ “ทุกคนต่างก็เป็นคนในครอบครัว เดียวกัน คุณชายใหญ่ไม่ต้องเกรงใจขนาดนั้น”

จี้เจียจื้อยิ้มเยาะโดยที่ไม่ได้พูดอะไรออกมา

“winona พูดถูก ต่างก็เป็นครอบครัวเดียวกัน”

winona เป็นชื่อภาษาอังกฤษของถังซินที่ใช้ในขณะ ที่อยู่ที่นี่ เมื่อเธอเห็นโบแนร์กำลังพูดอยู่ เธอจึงนิ่งเฉย จี้ เจียจื้อที่นั่งอยู่ตรงข้ามเธอก็มีสีหน้าที่เคร่งขรึมขึ้น

ถังซิน……

จิตใต้สำนึกของเธอเพียงแค่อยากให้จี้เจียจื้อรู้สึก เคืองก็เท่านั้น คิดไม่ถึงว่าโบแบร์จะปกป้องตนเอง

ตอนนี้แววตาของโบแนร์ที่มองถังซินนั้นไม่เหมือนกับ แต่ก่อน แววตานั้นแฝงไปด้วยความเย็นชา “ฉันได้ยิน มาว่าเดิมทีแมกซี่ไม่อยากที่จะเซ็นต์ชื่อลงในเอกสาร สุดท้ายภายในไม่กี่โมง เธอก็สามารถพูดเกลี้ยกล่อมให้ เขายอมเซ็นต์ได้อย่างคาดไม่ถึง พอที่จะมองเห็นได้ว่า เธอฉลาดแค่ไหน เธอเหมาะสมกับลูกชายฉัน”

..ขอบคุณคุณลุงที่กล่าวชม

โบแนร์พยักหน้า และหันไปพูดกับหลินเฉิงจี้ “ฌ็อง อีกสักครู่โทรศัพท์ไปถามบาทหลวงว่าเมื่อไหร่มีเวลาว่าง ให้ท่านหาเวลากำหนดวันแต่งงานให้กับwinona

คุณ คุณลุง เรื่องนี้ไม่ต้องรีบร้อนค่ะ!” ถังซินตกใจ และรีบเอ่ยขึ้นว่า ตอนนี้ฉันเพียงแค่อยากจะให้ธุรกิจ ของฌ็องพัฒนาขึ้นมาให้ดี เรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลัง

“ฟังจากน้ำเสียงของเธอ เธอรังเกียจฌ็องหรือ?” โบ แนร์แสดงออกอย่างไม่พอใจเล็กน้อย

ถังซินพยายามยิ้มอย่างอ่อนโยน” ฌ็องพึ่งจะมีสิทธิ การสืบช่วงมรดกของอเล็กซ์เลียร์ใหม่ๆ ยังจะต้องมีงาน ให้ยุ่งวุ่นวายอีกมาก ฉันไม่อยากให้เรื่องอื่นมาทำให้เขา กลัดกลุ้มใจ”

เธออยู่กับหลินเฉิงจี่ก็เพราะว่ากำลังร่วมมือกัน จึง สร้างความสัมพันธ์แบบคู่รักจอมปลอม รอให้ปลดจี้ เจียจื้อออกจากตำแหน่ง และหลังจากที่ร่างกายเขาดี ขึ้นมาหน่อย เธอก็ยังคงที่จะต้องจากไป

“พ่อ ในเมื่อwinona พูดเช่นนี้ พ่อก็อย่าบังคับเธออีก เลย” จี้เจียจื้อช่วยถังซินพูดแก้ตัว “กว่าที่พวกเขาจะอยู่ ด้วยกันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ถ้าหากพ่อหัวรุนแรงมากไป และทำให้เธอกลัวจนหนีไปจะทำยังไง?”

ถังซินรู้ว่าเขากำลังมีความคิดชั่วร้ายอะไร เขาอยากที่ จะใส่ร้ายป้ายสีเธอ

ถังซินแอบมองบนใส่เขาและเอ่ยขึ้นว่า “คุณลุง หลัง จากที่ฉันและฌ็องกลับมาอยู่ด้วยกันใหม่ รู้ว่าความรู้สึกนี้ได้มาไม่ใช่ง่ายๆ พวกเราต่างเห็นคุณค่ามัน ฉันชอบฌ็ องและก็เคารพในตัวท่าน อยากที่จะเข้ามาเป็นสมาชิก ในครอบครัวนี้มาก

“ แต่ฉันรู้ว่าฉันยังมีคุณสมบัติไม่เพียงพอ ที่ฉันทำ ทุกอย่างในตอนนี้ ก็เพื่อฌ็องและเพื่อตัวฉันเอง รอให้ ฉันคิดว่าตนเองมีคุณสมบัติเพียงพอแล้ว ฉันจะแต่งงา นกับฌ็องอย่างองอาจถูกต้อง”

เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ของหญิงสาว โบแนร์ก็รู้สึกใจ สั่นเล็กน้อย

เขานึกถึงขณะที่เขานอนในทุกๆคืนมักจะฝันถึงผู้หญิง คนหนึ่ง ในดวงตาของเธอเหมือนกับซ่อนความสว่างไสว ไว้ แม้พื้นที่นั้นจะมืดขนาดไหน ก็ไม่สามารถดับแสง สว่างซึ่งเป็นความหวังของเธอได้

แต่ว่าเธอตายไปแล้ว ในขณะเดียวกันก็เอาความรัก และความหวังของเขาไปด้วย

สีหน้าของโบแนร์เปลี่ยนเป็นเศร้าโศกเล็กน้อย และ พูดพึมพำขึ้นว่า “พวกเธอเหมือนกันมาก ฉลาดเหมือน กันขนาดนี้ เหมือนกัน ในสายตามีแสงสว่าง…

ถังซินขมวดคิ้ว รู้ว่าที่เขาพูดไปเรื่อยเปื่อยนั้นหมายถึง โมมอยอี้

และบรรยากาศก็เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน มีความ อึดอัดใจและกดดันเล็กน้อย
หลินเฉิงจี่ก็ได้ยินเช่นเดียวกัน จึงบีบจับพวงมาลัยไว้ แน่น ผ่านไปไม่กี่วินาทีก็คลายแรงที่มือออก และขับรถ กอล์ฟไปจอดที่หน้าบ้าน

จี้เจียจื้อลงรถไป และพูดเรียกโบแนร์ “พ่อ ลงรถ เถอะ”

“ได้”

โบแนร์เอามือตบที่ไหล่ของหลินเฉิงจี่ และพูดด้วยน้ำ เสียงที่รักและเมตตา “ไป เข้าไปด้วยกัน คืนนี้ฉันมีเรื่อง ใหญ่เรื่องหนึ่งจะพูดกับพวกเธอ”

หลินเฉิงจี่ตัวแข็งไปชั่วขณะ

หลังจากที่สบสายตากับถังซิน “ตัวของเขาก็ผ่อน คลายลงและพยักหน้า

เมื่อในครัวเห็นโบแนร์และจี้เจียจื้อกลับมาแล้ว จึงรีบ ทำงานกันอย่างยุ่งเหยิงและรวดเร็ว ทำอาหารเย็นเพิ่ม จากสองคนเป็นสี่คน

โบแนร์และคนอื่นๆไปนั่งที่ห้องรับแขก

โบแนร์เรียกพ่อบ้านเข้ามา และก้มเข้าไปพูดใกล้ๆ ข้างหูไม่กี่ประโยค ไม่นานพ่อบ้านก็เดินออกไป และเขา ก็ยกจิบกาแฟที่คนรับใช้พึ่งนำมาเสิร์ฟและนั่งไหว้ข้าง อยู่ตรงนั้น
เขาไม่เอ่ยอะไรออกมา ถังซินและคนอื่นๆก็ไม่กล้าที่ จะพูดอะไรออกมา นั่งเรียบร้อยตัวตรงอยู่ตรงนั้น

เป็นเพราะว่าถังซินท้อง หลังจากที่นั่งไปเจ็ดแปดนาที เธอก็ปวดหลัง จึงแอบเอาหมอนนิ่มๆวางไว้ข้างหลังเอว อย่างเงียบๆ

เธอเข้ามาใกล้หลินเฉิงจี่และพูดด้วยเสียงเบาๆว่า “เดาออกมั้ยว่าพ่อนายคิดอยากจะทำอะไร?

“คาดว่าน่าจะเป็นเรื่องของบริษัท” หลินเฉิงจี่ตอบด้วย เสียงเบาๆ “ครั้งที่แล้วที่เขานัดให้ฉันและจี้เจียจื้อมาคุย เขาได้แบ่งบริษัทให้พวกเราสองบริษัทและเงินทุนจด ทะเบียนเพื่อเริ่มทำบริษัท”

ถังซินรีบแสดงท่าทางรังเกียจออกมาทันที “ไม่รู้ว่าพ่อ นายแอบให้ผลประโยชน์เขามากมายเท่าไหร่แล้ว ยังจะ ให้อีกหรอ? ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าเขาเข้าข้างจี้เจียจื้อมา กกว่า

“ รอดูก่อนเถอะ” หลินเฉิงจี่ยิ้มอย่างอ่อนโยน และเอา องุ่นที่ปอกเสร็จแล้วยื่นให้เธอ

ถังซินรับมาได้ก็ยัดเข้าปากไป

องุ่นอันหวานฉ่ำ กินแล้วอร่อยถูกปาก

จากนั้นจึงเอ่ยถามด้วยความกระวนกระวายใจเล็ก น้อย “ตอนเย็นมีส้มมั้ย? ฉันยังอยากกินส้ม?”
หลินเฉิง..……..

เขากลัวว่าเธอจะกินส้มมากเกินไป แล้ววันหน้าเด็ก พวกนี้จะหน้าตาเหมือนกับส้ม

พวกเขานั่งอยู่ในห้องรับแขกประมาณเกือบครึ่ง ชั่วโมง จากนั้นกริ่งประตูบ้านก็ดังขึ้น และมีแขกใส่ ชุดสูทเข้ามาสองคน ในแขนหนีบกระเป๋าเอกสารไว้ มี ลักษณะท่าทางที่อัจฉริยะ

“คุณโบแนร์” ทนายความทั้งสองท่านเดินเข้ามาทัก ทายโบแนร์

หลังจากที่จับมือกันแล้ว โบแนร์จึงเชิญให้พวกเขานั่ง และแนะนำทั้งถังซินและคนอื่นๆให้ทนายสองท่านนี้รู้จัก “สิ่งที่ฉันอยากจะพูดในคืนนี้นั้นสำคัญมาก จำเป็นที่ต้อง ให้พวกเขามาเป็นพยาน

ถังซินเคยได้ยินชื่อของทนายสองท่านนี้ พบว่าเป็น บุคคลที่มีชื่อเสียงโด่งดังในวงการทนายของประเทศY เธอคิดว่าการพูดคุยในครั้งนี้คงไม่ธรรมดาแล้ว จึงนั่ง ตัวตรง และยกหูขึ้นตั้งใจฟัง

โบแนร์จิบกาแฟก่อนหนึ่งคำและจึงพูดออกมาอย่าง ช้าๆและผ่อนคลาย “ทำงานยุ่งมาหลายสิบปี ฉันก็รู้สึก เหนื่อยแล้ว อยากที่จะพักผ่อนให้สบาย อีกสามปีฉัน อยากจะเกษียณ”

แววตาของจี้เจียจื้อและหลินเฉิงจี๋เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง แต่กลับไม่เปิดเผยหรือแสดงสีหน้าใดๆออกมา แม้แต่นิดเดียว

“ไซเลส์ ฌ็อง ฉันอยากเซ็นต์ข้อตกลงในการเดิมพัน กับพวกนายหนึ่งฉบับ” โบแนร์กางมือและวางไว้บนขา และเอ่ยพูดอย่างช้าๆว่า “ฉันจะแบ่งพื้นที่ไหนก็ได้บน โลกใบนี้ให้กับนายสองคน ทั้งสองบริษัทมีมูลค่าการ ตลาดในระดับต่ำและกลาง และยังมีทุนจดทะเบียนอีก หนึ่งพันล้าน”

“หลังจากสามปี ถ้าบริษัทของใครมีมูลค่าการตลาด รวมเพิ่มขึ้นได้เท่ากับครึ่งหนึ่งของอเล็กซ์เลียร์หรือ ได้มากว่าอเล็กซ์เลียร์ คนนั้นก็จะได้อเล็กซ์เลียร์ไป ทั้งหมด ทรัพย์สมบัติที่อยู่ในมือของอีกคนก็ไม่ต้องให้

หยุดลงครู่หนึ่ง โบแนร์จึงพูดขึ้นมาอีกว่า “ถ้าพวกนาย สองคนทำไม่ได้เป้าหมาย ฉันจะเอาชื่อพวกนายออก จากทุกบริษัทและยึดทรัพย์สมบัติที่มีทั้งหมด แล้วค่อย ทำการทดสอบพวกนายใหม่”

“ข้อตกลงในการเดิมพันนี้ พวกนายมีความมั่นใจว่าจะ ชนะมั้ย กล้าเซ็นต์มั้ย”

จี้เจียจื้อยิ้มหัวเราะ และพูดขึ้นก่อนว่า “พ่อ ทุกสิ่งทุก อย่างที่พวกเรามี ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่พ่อให้ ตอนนี้มี โอกาสฝึกฝนที่ดีขนาดนี้ ต่อให้สุดท้ายจะพ่ายแพ้อย่าง ยับเยิน ฉันก็อยากลองดู

“ดีมาก” โบแนร์มองมาทางหลินเฉิงจี๋ และเอ่ยถามเขา“ฌ็อง แล้วนายหล่ะ?”

“ผมก็คิดเหมือนพี่ใหญ่” หลินเฉิงจี๋จับไปที่กรอบแว่น สีทอง และมีสีหน้าที่อ่อนโยน แต่ในตากลับซ่อนความ ดุร้ายที่คนอื่นมองไม่เห็น อยากที่จะวางมือ แต่ก็ไม่ อยากทำให้ตัวเองหลงเหลือความเสียดาย

“สมกับที่เป็นลูกชายฉัน กล้าหาญ และมีความกล้าที่ จะท้าทาย” โบแนร์พยักหน้ากล่าวชมเชย เขากวักมือให้ ทนายความเอาเอกสารที่เตรียมไว้แล้ว ยื่นให้กับทั้งสอง คน

“พวกนายดู ถ้าไม่มีข้อคัดค้านก็ใช้มือกดประทับตรา และเอาบริษัทที่เป็นของตัวเองกับเงินทุนจดทะเบียน

ภายใต้การเป็นสักขีพยานของถังซินและทนายความ ทั้งสองท่าน จี้เจียจื้อและหลินเฉิงจี๋ก็ได้นำมือประทับ ตราลงบนเอกสารข้อตกลงในการเดิมพัน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ