ฉันเป็นสุดที่รักของประธานมู่! ?

บทที่ 254 ช่างรวยเหลือเกิน



บทที่ 254 ช่างรวยเหลือเกิน

เซ็นสัญญาจ้างเสร็จ ถังซินก็โล่งอกไปเปลาะหนึ่ง เธอก็ ไม่อยากอยู่ในห้องทำงานของประธานนานเหมือนกันเลย พูดว่า “ผู้ช่วยจางคุณยุ่งมากพอแล้ว เดี๋ยวฉันเอาสัญญาไป ส่งดีกว่าค่ะ”

ผู้ช่วยจางทุกข์ระทมเหลือระอา

มองสีหน้าบึ้งตึงของเจ้านายของตัวเองแว๊บหนึ่งแล้วก็ พูดตะกุกตะกัก “ประธานมู่ครับ คุณก็เห็นแล้วนะครับ คุณถัง เอ้ย ผู้จัดการถังเธอแย่งสัญญาไปจากมือของผม…

“งานที่สาขานิวยอร์กเยอะมาก นายไปอยู่ที่นั่นเพิ่มไปอีก สักสองสามเดือนนะ

“ประธานมู่ครับ…”

“ครึ่งปี”

“เอลิซาเบธของผมจะทำยังไง…

“แปดเดือน ! ”

ผู้ช่วยจางฝืนกลืนคำพูดตอนท้ายลงไปแล้วฝืนยิ้มออกมา “ผมจะรีบเลือกงานแล้วกลับไปเก็บของนะครับ”

“ออกไป”
โอ๊ย จะมีใครเข้าใจความเจ็บปวดใจของมนุษย์เงินเดือน บ้าง

ถังซินเอาสัญญาไปส่งที่ฝ่ายบุคคลแล้วหยิบเอาคีย์การ์ด ลิฟต์ที่ใช้ขึ้นชั้นสูงกับบัตรพนักงานมาใหม่

ขณะที่ขึ้นลิฟต์มาก็เจอรองประธานจ้าวเข้าพอดี

เมื่อรองประธานจ้าวเห็นเธอ ใบหน้าอันอ่อนโยนก็บึ้งตึง สายตาก็แข็งกร้าว

“รองประธานจ้าว” ถังซินยิ้มเล็กน้อย

พอทักทายเสร็จ เธอก็เข้าลิฟต์ไปอย่างใจเย็น กดปุ่มปิด ลิฟต์ก็ค่อยๆขึ้นไปด้านบน

บรรยากาศในลิฟต์ไม่ค่อนข้างน่าอึดอัด

รองประธานจ้าวเหลือบมองถังซินแว๊บหนึ่งจากนั้นก็เอ่ย ปากพูด “ถังซิน คุณเก่งมากนะ หันไปเหอชวนมารอบหนึ่ง แล้วกลับมาตระกูลมู่อีก เพียงแต่ว่าคุณต้องเข้าใจนะ การ เป็นศัตรูกับผมมันไม่ใช่ผลดี”

“ก็เพราะว่าเข้าใจดี ฉันถึงกลับมาไงค่ะ” ถังซินหัวเราะ อย่างเย็นชา “รองประธานจ้าว คุณอย่าคิดว่าไม่มีใครรู้เรื่อง สกปรกโสมมเหล่านั้นของคุณนะ เดี๋ยวความลับก็จะต้องรั่วไหล”

นัยน์ตาของรองประธานจ้าวเผยให้เห็นแววตาอันหลัก แหลม “ไม่อยากได้ชีวิตแม่ของคุณแล้วเหรอ”

“แกมีปัญญาก็ลองแตะต้องแม่ของฉันอีกสิ” ถังซินไม่ หวาดกลัวเลยสักนิด “น้องชายของฉันก็ไม่เบาเหมือนกัน ได้จัดการได้ง่าย ๆ ฉันกลับมาที่ตระกูลมู่ก็เพื่อหาหลักฐาน การฟอกเงินของแก ส่งแกเข้าคุก”

เมื่อลิฟต์มาถึงชั้นแล้วถังซินก็ก้าวออกไป ส่วนรองประธาน จ้าวที่อยู่ด้านหลังเธอนั้นในหัวมีไฟลุกเดือดดาลเต็มหัวไป หมด

ผู้หญิงคนนี้ช่างกล้าหาญชาญชัยมากขนาดนี้เชียวหรือ กล้ากวนตีนเขาด้วย !

ถังซินไม่ได้ไปห้องทำงานท่านประธานอีก เปิดเอกสารที่ หยิบออกจากแผนกเลขาดู บางครั้งเห็นผู้ช่วยจางเดินผ่าน ตรงนี้ไปก็อยากคุยกับเขาสักสองประโยค แต่ผู้ช่วยจางเผ่น หนีอย่างไวอย่างกับหลบงูพิษ

พอถึงเวลาห้าโมงเย็นถังซินก็ไปเข้าประชุมผู้บริหารระดับ

การปรากฏตัวของเธอทำให้ชั้นบนของตระกูลมู่เกิดความ อยากรู้อยากเห็นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เป็นเพราะทำงาน ก็เลยไม่ได้สุมหัว เม้าท์มอยกัน รองประธานจ้าวสีหน้าเย็นชาราวกับสายน้ำเหมือนกับเกลียดเธออย่างไรอย่างนั้น

ไม่นานมู่เฉินหยวนก็มา

ทำงานมาทั้งวัน ดูเหมือนว่าเขาจะเหนื่อยล้าอยู่บ้าง ใส่ เสื้อเชิ้ตตัวเดียวไม่ได้ใส่เน็คไท ดูสบาย ๆ ชายหนุ่มลาก เก้าอี้นั่งลงไม่ได้สังเกตถังซินที่นั่งประชุมอยู่ปลายโต๊ะ

เขายกมือขึ้นแล้วพูดเสียงทุ้มต่ำ “เริ่มประชุมเถอะ”

ตั้งแต่แต่ละแผนกรายงานการทำงานไปจนถึงคุยเรื่องงาน บางเรื่อง ประชุมกันต่อเนื่องไปหนึ่งชั่วโมงบรรยากาศจริงจัง มาก

พอเลขาปิดโปรเจคเตอร์ก็จบประชุม

มู่เฉินหย่วนรวบเอกสารแล้วพูดขึ้น “ใกล้เลิกประชุมแล้ว ยังมีเรื่องที่จะแจ้งกับทุกคนด้วย ตระกูลมู่เชิญถังซินมาดำรง ตำแหน่งผู้จัดการแผนกวิจัยอย่างเป็นทางการ มีผลตาม สัญญาตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

ทุกคนอึ้งกันไปหมดแต่ไม่นานสีหน้าก็กลับมาสงบ เหมือนเดิม

แม้ว่าจะเป็นผู้บริหารใหม่ก็รู้ว่าถังซินเป็นอดีตผู้จัดการ แผนกวิจัยพอได้ยินตอนนี้ก็ยิ่งไม่แปลกอะไร

ท่ามกลางกลุ่มคน รองประธานจ้าวไม่พอใจสุดขีด ทำหน้าบึ้งติงตลอด หลังจากที่มู่เฉินหย่วนพูดจบแล้วก็แสดงความ ไม่เห็นด้วยของตัวเอง

รองประธานจ้าวพูด “ประธานมู่ ทุกคนต่างก็รู้เจตนาของ การตั้งแผนกวิจัยในตอนแรก แผนกวิจัยกําจัดพวกแกะก๋า ของตระกูลทั้งสูงต่ำไปแล้ว ผมคิดว่าตอนนี้ไม่ต้องการมัน แล้วละ ถ้าคนของแผนกวิจัยเดินเตร่ไปทุกแผนก ตรวจดู คอมพิวเตอร์ไปทั่วจะทําให้พวกผู้บริหารไม่พอใจเอาได้นะ”

รองประธานจ้าวขยิบตาไปทางคนของตัวเอง

ผู้บริหารคนหนึ่งรีบพูดต่อ “ผมคิดว่ารองประธานจ้าวพูด ถูกนะ อีกอย่า คุณถังดูเหมือนว่าเพิ่งเข้าไปทำงานในเหอช วนไม่กี่เดือน แถมยังเป็นรองประธานของเหอชวนด้วยใช่ ไหมล่ะ”

“พอถังซินออกจากเหอชวนมาก็รีบมาเข้าทำงานที่ตระกู ลมู่เลย นี่มันไม่สอดคล้องกับหลักการทำงานนะ ตระกูล มีธุรกิจบางอย่างที่ทำร่วมกับเหอชวน ถ้าโครงการของตระ กูลมู่มีปัญหาขึ้นมา ก็คงจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะไม่สงสัยตัว คุณถัง”

ผู้บริหารอีกคนก็พูด “เมื่อก่อนคุณถังเป็นล่ามให้กับตระกู ลมู่ทําหน้าที่ได้ยอดเยี่ยมมาก การที่เธอกลับมาตระกูลมู่อีก พวกเรายินดีต้อนรับกันอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าเธอช่วงเวลาที่ เธอเข้าสองบริษัทมันสั้นเกินไป มันดู…ไปหน่อย”

มู่เฉียหย่วนเอานิ้วเคาะโต๊ะ ดวงตาสีดำไร้อารมณ์ใด ๆ
พอผู้บริหารพวกนี้ผลัดกันพูด คนนี้พูดทีคนนั้นพูดต่อจบ เขาถึงได้หันมองทางถังซินแล้วถาม “คุณถัง คุณมีอะไร อยากจะพูดเกี่ยวกับปัญหาพวกนี้ไหม”

ถังซินลุกขึ้นยืน เม้มปากนิดหน่อยแล้วถึงเปิดปากพูด อย่างช้า ๆ ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วงฉันนะคะ เพียงแต่ว่า ขณะที่เข้ามาทำงาน ฉันเซ็นสัญญารักษาความลับแล้ว ถ้า ภายหลังมีโครงการของตระกูลรั่วไหลออกไปแล้วตรวจ สอบได้ว่าฉันเป็นคนทำ ฉันต้องชดใช้ให้ตระกูลมู่หนึ่งพัน ล้าน โทษปรับสูงมาก ฉันไม่มีปัญญาชดใช้หรอกค่ะ”

“คุณถัง โครงการใหญ่บางโครงการทำเงินได้ไม่ใช่แค่ หนึ่งพันล้านนะ” รองประธานจ้าวพูด “คุณสามารถรับรองว่า คุณจะไม่ถูกจูงใจเวลาอยู่ต่อหน้าเงินทองได้ไหมล่ะ

ถังขินถามเขา “รองประธานจ้าวหมายความว่าไงคะ”

“ผมแนะนำคุณถังอยู่บ้านสักหกเดือน ตระกูลมู่จะจ่าย เงินชดเชยรอการบรรจงานให้คุณ หกเดือนไปแล้วค่อยมา รายงานตัวที่ตระกูลมู่ แบบนี้จะดีกับทั้งคุณและตระกูลมู่ด้วย

“รองประธานจ้าวแนะนำได้ไม่เลว แต่ไม่เหมาะกับฉัน หรอกค่ะ” ถังซินยิ้ม “ก่อนหน้านี้ฉันเป็นผู้รักษาการประธาน ของตระกูลมู่ ถ้าฉันโลภมากจริง ๆ ตอนนั้นคงโกยเงินหนีไป หลายพันล้านแล้ว

เธอวางมือบนโต๊ะใช้สายตาอันคมกริบมองรองประธาน จ้าว “รองประธานจ้าวซีเรียสขนาดนี้ ดูท่าทางมีคนประเภทโลภมากอยู่ข้างตัวใช่ไหมละ ถ้างั้นรองประธานจ้าวต้อง ระวังตัวด้วยนะ ระวังลูกน้องเอาไว้ให้ดี พอไม่ทันระวังเมื่อ ไหร่เขาอาจจะทําชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือของรอง ประธานจ้าวย่อยยับไปก็ได้นะ” รองประธานจ้าวมุมปาก กระตุก หน้านําคร่ำเครียด

ถังซินสบายใจมาก เธอพูดกับทุกคนด้วยน้ำเสียงอบอุ่น และมีมารยาท “ทุกท่านได้นั่งอยู่ตรงนี้ต่างก็ทำเพื่อตระกูลมู่ แผนกฝ่ายบุคคลก็เช่นกัน พวกเราจะไม่ใช้อำนาจไปตรวจ สอบเรื่องส่วนตัวของคนอื่น และแน่นอนว่าหวังว่าทุกท่านจะ ให้ความร่วมมือในการตรวจสอบด้วยนะคะ

คนที่นั่งอยู่เงียบสนิททั้งหมด

ท่านประธานกับ CEO มู่เฉินหย่วนเป็นผู้ก่อตั้งแผนกฝ่าย บุคคลขึ้นมา เขาจะให้ใครรับผิดชอบก็เป็นสิทธิของเขา พวกเขาทํางานให้กับตระกูลมู่ทุกคน ไม่มีสิทธิ์ก้าวก่ายว่า เฉินหย่วนจะทําอย่างไร

ผู้บริหารที่รับสัญญาณส่งซิกของรองประธานจ้าวมาก่อน หน้านี้รวบรวมความกล้าแล้วพูดขึ้นมาว่า “พวกเราสนับสนุน การตัดสินใจของประธานมู่ ยอมให้ความร่วมมือกับแผนก ฝ่ายบุคคล ใครจะเข้ามาดำรงตำแหน่งก็ได้ แต่คุณถังเกรง ว่าจะไม่ได้ คุณถังออกมาจากเรือชวนแล้วเข้ามาในตระกูลมู่ อีก ระยะห่างของช่วงเวลาสั้นเกินไป ง่ายต่อ…

“ช่วงนี้ผมยุ่งมาก ดูเหมือนว่าจะลืมบอกพวกคุณบางเรื่อง” มู่เฉินหย่วนที่เงียบมาตลอดเปิดปากพูดขึ้น ตัดบทคำพูดของผู้บริหารคนนั้น

มู่เฉินหย่วนบอกให้เลขาเปิดโปรเจคเตอร์

หลังจากนั้นไม่นานแผนภูมิวงกลมหลากสีขนาดใหญ่ก็ ปรากฏตัวขึ้นต่อสายตาทุกคน ในแผนภูมิมีชื่อเรียกที่เป็น รหัสลับนับไม่ถ้วนที่ล้วนแล้วแต่เป็นบริษัททุกประเภทที่อยู่ ในเครือของตระกูล

ผู้บริหารที่เห็นเหอชวนเข้าก็อึ้งไปเลย “เหอ เหอชวน ! ” ถังซินก็อึ้งเช่นกัน

ห้องประชุมมีเสียงฮือฮาเกิดขึ้นในชั่วพริบตา

บริษัทหนึ่งที่มีมูลค่าการตลาดสูงขนาดนั้น คิดไม่ถึงเลยว่า จะโดนตระกูลมู่ซื้อไปอย่างไร้สัญญาณใด ๆ

ประธานมู่เหลือบมองถังซินแว๊บหนึ่ง แววตาฉายความเจ้า เล่ห์ซุกซ่อนความขี้เล่นเอาไวแล้วพูดอย่างเรียบ ๆ “เหอช วนเป็นของตระกูลมู่ ดังนั้นจะไม่เรื่องความลับทางการค้ารั่ว ไหลหรอก”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ