ฉันเป็นสุดที่รักของประธานมู่! ?

บทที่ 293 ผมต้องความห่วงใยของคุณ



บทที่ 293 ผมต้องความห่วงใยของคุณ

“ดูเหมือนพวกเราจะใจตรงกันอยู่นะ” มู่เฉินหยวน หัวเราะ “ผมกำลังจะไปหาคุณ แต่คุณก็มาก่อน”

ถังซินเอ่ยถามเขา “พี่ใหญ่ไม่เป็นไรใช่ไหม”

“โอเคดีอยู่”

ทั้งสองคนต่างเดินไปยังห้องอาหารที่อยู่ใจกลาง โรงแรม หลังจากหาที่นั่งได้ ถังซินก็บอกกับเขาเรื่องที่ พบกับหลินเฉิงจี๋ที่บอลรูมเรือสำราญเมื่อวาน และเขายัง จูบเธออีกด้วย

เมื่อได้ได้ฟัง สีหน้าของมู่เฉินหย่วนก็มืดครึ้มทันที “ตอนนั้นผมเองก็นึกสงสัย ว่าทำไมไฟถึงดับกัน ที่แท้ เขาก็ขึ้นมาบนเรือสำราญและเตรียมการไว้ก่อนแล้ว”

ไม่มีการกล่าวโทษถังซินแม้แต่นิด

ตั้งแต่ที่ทั้งสองทะเลาะกันจนกลายเป็นสงครามเย็น และดำเนินมาจนถึงตอนนี้ เขาเข้าใจนิสัยของถังซิน ดี หากมีอะไรกับหลินเฉิงจริง ตอนนี้คงไม่มากล่าว เปิดอกกับเขาเช่นนี้เป็นแน่

มู่เฉินหย่วนเอ่ยถาม “เขาพูดอะไรกับคุณ”
ถังซินส่ายหน้า คิ้วขมวดเข้าหากันเล็กน้อย “ไม่ว่า ฉันจะถามอะไร เขาก็เอาแต่เขียนลงบนมือของฉัน ไม่ปริปากแม้แต่คำ พูดไปแล้วท่าทางของเขาก็น่า ประหลาดมากเลยนะคะ ฉันไม่เคยเห็นเขาเป็นแบบนี้มา ก่อน”

จูบที่เย็นชืดนั้นทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจ

มู่เฉินหย่วนกล่าวเสียงเรียบ “ผมลองตรวจสอบข้อมูล ของเขาดูแล้ว จึงรู้ว่าเขามีพี่ชายอยู่คนหนึ่ง ทั้งสองเป็น ลูกคนละแม่แต่พ่อเดียวกัน แม่ของพี่ชายเป็นลูกผู้ดี ของเมืองY สวนแม่ของเขาเป็นคนเอเชีย

“พ่อของเขา โบแนร์ แต่งงานกับอีเว็ตต์เพราะเรื่อง ของธุรกิจ แต่ทั้งสองนั้นไม่ได้มีความรู้สึกใดๆ ต่อกัน และไปเกิดอาการรักแรกพบกับแม่ของเขาที่งานเลี้ยง หนึ่ง จึงพากลับไปที่คฤหาสน์ด้วยกัน”

“เรื่องนี้ฉันรู้ค่ะ เขาเคยเล่าให้ฉันฟัง แต่ไม่เคยพบพี่ ชายของเขาเลย” ถังซินกล่าว “เหมือนว่าหลังจากที่แม่ ของพี่ชายเขาเสียชีวิตด้วยอาการป่วย เขาก็ยิ่งเกลียด หลินเฉิงจี้”

“แม่ของพี่ชายเขาไม่ได้ป่วยตาย แต่เป็นการฆ่าตัว ตาย” มู่เฉินหย่วนเล่าความจริงของเรื่องให้เธอฟัง “อี เว็ตต์รับไม่ได้ที่โบแนร์พาผู้หญิงอื่นเข้าบ้านโดยไม่ สนใจเธอ จนกลายเป็นโรคซึมเศร้าและกรีดข้อมือฆ่าตัวตาย

“ทำไม ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้… ถังซินไม่อยาก เชื่อ “หลินเฉิง โดนหลอกหรือคะ”

มู่เฉินหยวนรับนํา “หลังจากที่อีเว็ตต์ฆ่าตัวตาย พ่อขอ งอีเว็ตต์ก็เดือดดาล โทษว่าเป็นเพราะโบแนร์ไม่ดูแล ลูกสาวของตัวเองให้ดี จึงคิดจะแก้แค้นเขา แต่ตระกูลอ เล็กซ์เลียร์นั้นแข็งแกร่งมาก เขาไม่มีกำลังจะไปสู้ได้ จึง ส่งคนไปลักพาตัวหลินเฉิงจี๋ แต่จัดเรื่องขึ้นว่าเธอประสบ อุบัติเหตุทางรถยนต์จนเสียชีวิต”

“หลังจากนั้นล่ะคะ”

“โบแนร์ไม่เชื่ออยู่แล้วว่าเป็นอุบัติเหตุ แต่เพราะเขา มีลูกชายกับอีเว็ตต์คนหนึ่ง จึงไม่ต้องการหักหน้าบ้าน ของทั้งสอง จึงไม่ได้โวยวายอะไร หลังจากนั้นโบแนร์ ก็ไม่ได้แต่งงานอีก แล้วเอาความใส่ใจทั้งหมดไว้ที่ตัว ของลูกชายทั้งสอง”

“โบแนร์นั้นรักใคร่แม่ของหลินเฉิงจี๋มาก จึงเอ็นดูหลิน เฉิงจี้มากกว่า จึงทำให้พี่ชายของหลินเฉิงจี้ไม่พอใจ และหลังจากที่เขารู้เรื่องที่อีเว็ตต์ฆ่าตัวตาย ก็ยิ่งเกลียด หลินเฉิงจี้มากกว่าเดิม เกลียดจนนึกอยากจะฆ่าเขา

เมื่อได้ฟังจนจบ ในใจของถังซินก็รู้สึกเจ็บปวด “เป็น โบแนร์ที่อยากจะมอบความทรงจำที่ดีในวัยเด็กให้กับลูกชายของตัวเอง จึงแต่งเรื่องราวที่สวยงามขึ้นมา ความจริงทั้งหมดที่คุณพูดมา เขารู้ไหมคะ

“คาดว่าน่าจะรู้นานแล้ว” มู่เฉินหย่วนจิบชาร้อนเล็ก น้อย “พี่ชายของเขานั้นโหดเหี้ยมนัก หลินเฉิงจี๋ที่ไม่รู้ อะไร เขาจึงบอกเล่าให้ฟัง และจะแก้แค้นเขาด้วย พี่ ชายของเขานั้นเกินจะกู่ หากไม่ใช่เพราะกลัวว่าจะถูกโบ แนร์จับได้และถอดสิทธิ์จากผู้สืบทอดตระกูลอเล็กซ์เลีย ร์ เขาฆ่าหลินเฉิงจี้ไปนานแล้ว”

“พี่ชายของเขาชื่ออะไรหรือคะ”

“ไซเลส์ อเล็กซ์เลียร์”

ถังชินรู้สึกคุ้นเคยกับชื่อนี้ขึ้นมานิดหน่อย แต่นึก อย่างไรก็นึกไม่ออก “เขามีชื่อหรือไม่คะ”

“เหมือนว่าจะไม่มีนะครับ

มู่เฉินหย่วนมีท่าทีเคร่งเครียด และเอ่ยเตือนถังซินอ ย่างจริงจัง “ไม่ว่าเขาจะมีเป้าหมายอะไร ไม่ต้องสนใจ และไม่ต้องไปเข้าใกล้เขา นี่คือเรื่องความแค้นภายใน ครอบครัวของเขา ไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวกับคุณเลย

“แต่ว่า… ” ถังซินขยับปากมุบมิบ เรื่องนี้มันติดอยู่ ภายในใจของเธอ จนทำให้ใจของเธอเต็มไปด้วยความ สับสน แต่เพราะไม่มีเรื่องมายืนยัน เธอจึงไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไร

หากเธอเลือกจะไปง้างปากเขา ความจริงที่หลุดออก มานั้น เธอจะรับมันได้หรือ

มู่เฉินหย่วนรับได้อย่างนั้นหรือ

มู่เฉินหย่วนดันเก้าอี้ออก พร้อมเอ่ยเสียงอ่อนโยน “มา มานี่สิ

“ไปทำไมคะ” น้ำเสียงอ่อนโยนของเขาทำให้ถังซิน ไม่คุ้นชินเลยสักนิด แต่เดิมเธอนั้นก็ไม่ใช่ผู้หญิงที่ชอบ ออดอ้อนอะไรนัก แต่สุดท้ายก็ลุกขึ้นยืน และเดินเข้าไป หา

ชายหนุ่มดึงเธอนั่งตัก และกอดเธอเอาไว้อย่างแผ่ว

เบา

ถังซินหน้าแดงก่ำ และด่าเขาเสียงแผ่ว “มารยาทใน ที่สาธารณะมีบ้างไหมคะ นี่มันร้านอาหารนะ ไว้หน้าฉัน บ้างค่ะ”

“มุมที่เรานั่ง ยังมีต้นไม้อยู่ครับ ไม่ทำให้คุณขายหน้า แน่นอน” มู่เฉินหย่วนหัวเราะ “ผมไม่ชอบเห็นคุณนายมู่มี ท่าทีหดหู่ จึงอยากกอดคุณเอาไว้”

“มู่เฉินหย่วน” เธอโอบกอดพร้อมพิงหัวกับไหล่ของเขา

“ครับ”

เธอกระซิบเสียงแผ่วเบา “หลินเฉิงจื่อาจจะไม่มีทางรา มือไป แต่เขาไม่เคยทำร้ายฉันมาก่อน แม้แต่ตอนที่เขา เข้าคุกไปแรกๆ ฉันเองก็รู้สึกแปลกๆ หากเขาเกิดเรื่อง ขึ้นจริงๆ ฉันก็หวังว่าคุณจะดึงเขาออกมาได้

มู่เฉินหย่วนคิ้วขมวด “การให้คู่หมั้นไปช่วยแฟนเก่า คงมีแค่คุณที่ทำนะครับ

“แค่มิตรภาพที่มีต่อกันเท่านั้น ได้ไหมคะ” ถังซินลูบ คอของเขา พร้อมใส่จริตจะก้านของหญิงสาวเต็มที่ “ตอนที่ฉันไปเรียนที่ต่างประเทศ ก็ได้เขานี่แหละค่ะที่ ช่วยเหลือไว้ คนช่วยพัฒนาชีวิตของฉันเลยนะคะ”

“ถ้าคุณนายมู่พูดแบบนี้แล้ว ผมยังจะปฏิเสธได้อีก หรือครับ” มู่เฉินหย่วนหัวเราะเบาๆ แววตานั้นเต็มไปด้วย ความผ่อนคลาย “หากไม่มาแตะต้องคุณ ผมก็จะช่วย เขา”

ถังซินจูบเขา “ขอบคุณค่ะคุณตู่”

“ผมจะรับคำขอบคุณไว้ครับ แต่ผมมีคำถามอยากจะ ถามคุณอยู่ คุณต้องตอบความความจริงด้วย”
คำถามอะไรคะ”

“เด็กที่ชื่อฉางผิง ไม่ใช่ลูกชายของเพื่อนคุณหรือ

“คุณ ทำไมจู่ๆ ถึงถามแบบนี้ขึ้นมาล่ะคะ” ถังซินยิ้ม แห้ง ไม่กล้าแม้แต่จะสบตากับเขา

“คุณเห็นไหม เวลาคุณคิดจะโกหก คุณจะไม่กล้า สบตากับผม” มู่เฉินหย่วนเชิดคางของเธอขึ้นมา “คุณไม่ ต้องตอบ ผมพูดแทนคุณเอง นั่นคือลูกชายของพี่ใหญ่ ผมใช่ไหม”

ถังซินชะงักนิ่ง “คุณก็เดาออกนี่”

เธอรีบปิดปากทันทีที่กล่าวจบ

มู่เฉินหย่วนลูบคางของเธอ ก่อนจะถอนหายใจ “หาก มีลูกในอนาคต คงให้มีไอคิวเท่าคุณไม่ได้จริงๆ”

“ไอคิวของฉันสูงนะคะ ฉันเรียนได้ตั้งหลายภาษา” ถัง ในพึมพำอย่างไม่พอใจ ไม่ต้องตามฉันก็ได้ แค่สวย เหมือนฉันก็พอ”

“คุณรู้สึกว่าคุณสวยหรือครับ”

ถังซินทุบเขาอย่างแรง ใบหน้าบึ้งตึงด้วยความโกรธ “มู่เฉินหย่วน คุณอยากจะเลิกกันไหมฮะ”
“ครับๆ คุณสวยที่สุด สวยอย่างไร้ที่เปรียบ” มู่เฉิน

หย่วนกุมมือของเธอไว้ พร้อมจุมพิตอย่างแผ่วเบา “ผม

ได้เห็นรูปของพี่สะใภ้ใหญ่แล้ว ดวงตาของเธอนั้น

เหมือนกับฉางผิง และยิ่งคุณกับพี่สะใภ้มักจะเดินเล่นกัน

เพื่อหาของขวัญให้กับฉางผิง พอลองคิดดูแล้ว ก็เข้าใจ

ได้ทันที”

“ไม่เหมือนคนเรียนวิทยาศาสตร์เลยค่ะ ความจำดี นิด หน่อยก็ไม่ปล่อยผ่านตาไป” ถังซินรู้สึกหดหู “มันน่า เสียดายนะคะที่คนมีความสามารถแบบคุณไม่ได้เข้าทีม สืบสวนสอบสวน

“หากผมไป ก็คงไม่ได้พบคุณ” มู่เฉินหย่วนหัวเราะ “ผมรู้สึกดีใจที่ตัวเองไม่ได้ไป

ถังซินกลอกตาใส่เขา “อย่าพูดไร้สาระนะ เรื่องของ ฉางผิง คุณได้บอกพี่ใหญ่คุณไปหรือยังคะ

“เปล่าครับ พวกผมพูดไปก็ไม่ได้อะไร ให้พี่สะใภ้บอก กับเขาด้วยปากของตัวเองจะดีกว่า” มู่เฉินหย่วนกล่าว “มีลูกตั้งหนึ่งคน ทั้งที่ยังไม่ได้แต่งงาน ชีวิตนี้น่าตื่นเต้น ดีนะครับ”

“ก็สมควรนะ พี่ใหญ่ก็สามสิบสามแล้ว

“ผมเองก็ไม่น้อยแล้ว” มู่เฉินหย่วนมองเธออย่าง จริงจัง “คุณไม่ควรจะสนใจผมสักหน่อยหรือ”
ถังซิ่นทนไม่ได้กับสายตาของเขา จึงยกมือขึ้นมาปิด ตาของเขา “คุณอย่ามองฉันแบบนี้ มันทำให้ฉันรู้สึกว่า ตัวเองเป็นคนไม่ดีเลย รอก่อนนะคะ ให้ฉันหาเงินได้ มากกว่านี้ก่อน”

มู่เฉินหย่วน .………….

แข้งทองคำของเขายังไม่น่าดึงดูดเท่าเงินเม็ดเล็กๆ ของเธออีกหรือ

น่าสิ้นหวังจริงๆ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ