ฉันเป็นสุดที่รักของประธานมู่! ?

บทที่ 109 มีอะไรให้คุณชายมรับมือให้



บทที่ 109 มีอะไรให้คุณชายมรับมือให้

“รับทราบค่ะ/ครับ”

แผนก Regulators ตั้งแต่เริ่มทำงาน ทุกคนยุ่งจนไม่รู้เช้า มืด ตรวจเอกสารทุกอย่าง กลัวว่าถ้าช้าไปนิดหนึ่งเอกสาร หายไปแล้ว บางคนยังนอนที่บริษัทอีกด้วย

แต่ว่าอาหารสามมื้อของแผนก Regulators มีทีมงาน โภชนาการคอยรับผิดชอบตลอดทั้งวัน อยากกินอะไรก็โทร ไปได้เลย สิบถึงสิบห้านาทีมาเสิร์ฟถึงแผนก

ดังนั้นคนในแผนกต่างรู้สึกว่า เหนื่อยก็จริงแต่ว่ามีความสุข เหมือนกันแฮะ

เมื่อเห็นเอกสารบางฉบับแล้วถังซินอึ้งทึ่งอย่างยิ่ง

เธอคิดว่ามู่ชื่อแค่มีปัญหาเรื่องความซับซ้อนทางอำนาจ แต่ว่าจริง ๆ แล้วมู่ซื่อกำลังเริ่มจะเละเทะ โดยเฉพาะการซื้อ ขายที่มีตัวเลขมหาศาลเหล่านั้น

มิน่า มู่เฉินหย่วนไม่ยอมไปนิวยอร์ค เลือกที่จะอยู่เมือง หนานเฉินและจัดตั้งแผนก Regulators

ถ้าพวกนี้ยังไม่ลงมือจัดการหละก็ มู่ซื่อจบลงแน่นอน

ถังซินนําเอกสารทั้งหมดให้มู่เฉินหย่วนดู แต่ว่ามู่เฉิน หย่วนกลับไม่สนใจ พูดแค่ว่า “ผู้จัดการถึง ความหมายของผมน่าจะชัดเจนนะครับ แผนก Regulators สามารถจัดการ ทุกเรื่องเองหมด ไม่ต้องบอกผม”

แม่งเอ้ย!

ฟังดูเหมือนจะดูดี แต่ว่านี่ก็เหมือนทำให้แผนกพวกเขา กลายเป็นที่ทุกคนเล็งเป้ามาหนะสิ

แต่ว่าถังซินก็ไม่ได้มีสิทธิ์ในการต่อล้อต่อเถียง เธอทำได้ เพียงฝืนจัดการไป ภายในหนึ่งอาทิตย์ ตั้งแต่ผู้จัดการระดับ สูงไปจนถึงพนักงานทั่วไป เธอไล่คนออกทั้งหมด 60 กว่า

คน

ทำให้ทุกคนในมู่ซื่อหวาดระแวงอย่างยิ่ง

กว่าจะเข้ามู่ชื่อได้ต้องผ่านการคัดกรองมาไม่รู้กี่ชั้น โดย เฉพาะพวกระดับสูง ไม่รู้ต้องพยายามแค่ไหนถึงจะปีนขึ้นไป ได้ และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่มู่ซื่อไล่คนออกเด็ดขาดขนาดนี้

สําหรับคำนินทาซุบซิบเหล่านั้น รวมไปถึงคำด่าทอ ของคนที่โดนไล่ออก ถังซินไม่ได้พูดอะไร ได้แต่เปิดเผย เอกสารเกี่ยวข้องสู่สาธารณะ ทำให้คนเริ่มจะไม่กล้าพูด อะไรต่อไป

คนที่โดนไล่ออกไม่ใช่โกงก็ขายความลับบริษัทให้คนอื่น ไม่โดนมู่ซื่อประกาศไล่ล่าก็ถือว่าดีแล้ว
เรื่องยากจัดการไปหมด ถังซินเริ่มรู้สึกเบาลง

เธอรู้ว่าช่วงนี้ทุกคนยุ่งกันมาก ทำตามกฎของบริษัท แต่ละ คนสามารถพักได้โดยยังได้รับเงินเดือน ถ้าไปเที่ยวหละ ก็ บริษัทสนับสนุนอีกด้วย แผนกอื่นรู้ข่าวแล้วต่างอิจฉากัน อย่างยิ่ง

หลี่ซูเจ๋ก็อิจฉามาก “ซินซิน แผนกพวกแกดีจริง ๆ เลยนะ ไปเที่ยวยังเบิกได้อีก งี้ถ้าไปพักโรงแรมแบบพวกบลูการีก็ โคตรคุ้มเลยดิ ขาดคนมั้ยหนิ ฉันอยากไปเหมือนกัน”

“ประธาน ให้ฉันจัดการเอาเอง คนในแผนกฉันเหนื่อยมา ตั้งนาน ก็ต้องพักผ่อนดี ๆ สิ” ถังซินพูดขึ้น “แกหนะอยู่ที่ แผนกแพลนนิ่งดี ๆ เถอะ แผนกฉันเหนื่อยเป็นบ้านะ”

“เฮ้อ แต่ว่าน่าอิจฉามากเลยอะ”

ถังซินและหลี่ซูเจ๋กำลังจะเดินออกจากล็อบบี้บริษัท แต่ กลับพบกับพวกรองประธานซุน

“สวัสดีค่ะรองประธานซุน” ถังซินทักทายตามมารยาท

รองประธานซุนชะงัก เขาดูไม่เหมือนคนอายุเกือบจะ 50 เดินหลังตรง ดูสขมอย่างมาก สายตาคมกริบเพ่งมองมาทาง ถังซิน เหมือนเห็นอะไรบางอย่าง

“ผู้จัดการถังนี่เอง” รองประธานซุนเอ่ยขึ้น แล้วสํารวมตัว เอง “ไม่กี่วันที่ผ่านมาผู้จัดการถังไล่คนออกตั้ง 60 กว่าคนดุดันจริง ๆ เลยนะครับ ไม่มีใครในมู่ซือไม่รู้นะเนี่ย”

ถังซินพูดขึ้นด้วยมารยาท “ฉันทำงานให้มู่ซื่อ ฉันแค่ทำ หน้าที่ตัวเองให้ดีเฉย ๆ ค่ะ”

รองประธานซุนหัวเราะแห้ง ๆ “ทำเพื่อคู่ซื่อหรอ ผมว่าจะ ทำงานเพื่อประธานมู่มากกว่านะครับ ก็ไม่แปลกที่คุณไป ไหนมาไหนได้หมด แถมยังเข้ามาค้นเอกสารในออฟฟิศผม อีกด้วย ทำไมครับ ต่อไปจะจัดการผมแล้วใช่มั้ยหละครับ”

“รองประธานซุนก็พูดไปนะคะ ฉันตรวจทุกแผนกของมู่ชื่อ หมดหละค่ะ ไม่ได้เจาะจงเฉพาะออฟฟิศคุณนะคะ ถังซิ นพูดขึ้น “ฉันเป็นแค่พนักงานเล็ก ๆ คนหนึ่ง ถ้าทำตรงไหน ไม่ถูกใจ คุณบอกได้เลยนะคะ และถ้าคุณรู้สึกว่าฉันละเมิด ความเป็นส่วนตัวของคุณ ต่อไปนี้เดี๋ยวจะให้ประธานมู่ไปที่ ออฟฟิศคุณแทนแล้วกันนะคะ”

“เธอข่มขู่ผมหรอ” เสียงของรองประธานซุนสูงขึ้น สีหน้า

ขาวซีด

“ฉันไม่กล้าหรอกค่ะ”

ในเวลานั้น เลขาข้าง ๆ รองประธานซุนพูดขึ้น “รอง ประธานซุนคะ พวกเราขึ้นไปก่อนนะคะ ทุกคนกำลังรออยู่

รองประธานซุนจ้องเขม็งไปทางถังซิน สะบัดมือแล้วเดิน

ก้าวไปยาวๆ
“นี่เหรอรองประธานซุน ดูไม่ธรรมดานะเนีย” รอพวกเขา เดินไปไกล หลี่ซูเจ๋เพิ่งจะกล้าพูดขึ้น “แกเห็นตาเขามั้ย สามเหลี่ยมคว่ำนะนั่น คนแบบนี้หนะมีเล่ห์เหลี่ยม ฉันว่าเขา โมโหจริง ๆ นะ ไม่รู้ว่าจะจัดการแกยังไง ซินซิน ช่วงนี้แก ต้องระวังตัวหน่อยหละ”

ถังซินแสยะยิ้มบาง ๆ

กลัวอะไรไป บอสของเธอคือ เฉินหย่วน มีอะไรก็ให้มู่เฉิน หย่วนรับมือแทน

หลังจากวุ่นวายมาตลอดทั้งอาทิตย์ เจอกับปลายสัปดาห์ พอดี ถังซินก็อยากที่จะพักผ่อนให้เต็มที่ แต่ว่าออฟฟิ

ศหลักของ BC โทรมาตามเธอ ให้เธอรีบไปเอารถที่ โชว์รูมโดยเร็ว ไม่งั้นถือว่าสละสิทธิ์รางวัลไป

เช้าอีกวันเธอเลยรีบพาหลี่ซูเจ๋ไปรับรถที่โชว์รูม BC ใน เมืองหนานเฉิน

ถังซินโชว์ข้อความถูกรางวัลให้พนักงานขายดู แล้วเช็คดู บัตรประชาชนอีกครั้ง ไม่นานพนักงานขายทำทางเธอไปดู รถ รถรุ่นใหม่มีทั้งหมด 4 สี เธอสามารถเลือกได้ตามใจชอบ

ถังซินเลือกเป็นสีดำ รอเดินเอกสารของรถและเติมน้ำมัน ให้เต็มถัง ก็สามารถออกเดินทางได้เลย

ขนาดทะเบียนรถโชว์รูมยังจัดการให้เรียบร้อย ไม่ต้องให้เธอต้องลำบาก

หลี่ซูเจ๋นั่งบนรถอย่างสบาย พูดขึ้น “ดีจัง ต่อไปนี้ไม่ต้อง เบียดบนรถไฟฟ้าแล้วโว้ย”

“ถ้าชั่วโมงเร่งด่วนมันก็รถติดเหมือนกันแหละ” ถังซินอัน ล็อคโทรศัพท์แล้วดูเวลา “ฉันไม่ได้กลับไปนานแล้ว งั้นไป กินข้าวที่บ้านฉันมั้ย

“ดีเลย ฝีมือทำอาหารแม่แกต้องยอดเยี่ยมแน่ ๆ ฉันอยาก ลองชิม” หลี่ซูเจ๋ตื่นเต้นมาก “งั้นจะลองถามน้องชายแกว่า หยุดหรือยัง ฉันจะได้เจอกับเขาด้วย”

ถังซินหัวเราะออกมา “จี้แสดงว่าแกคุยกันได้เรื่องหนิ”

เธอกดโทรหากวนชิงเฟิง

เนื่องจากเสียงคุยค่อนข้างทับซ้อน หลี่ซูเจ๋ได้แต่นั่งฟังอยู่ ข้าง ๆ เธอไม่ได้สังเกตุว่าน้องชายของถังซินคนนี้ เป็นวัยรุ่น หนุ่มที่เธอเจอในลิฟต์เมื่อสองครั้งก่อน

พอดีว่าวันนี้กวนชิงเฟิงหยุด ถังซินให้เขาส่งโลเคชั่นมา ให้ตัวเองแล้วขับรถไปรับเขา

เมื่อเธอวางโทรศัพท์ หลี่ซูเจ๊รีบถาม “วันนี้ฉันแต่งตัวเป็น ไงบ้าง สวยมั้ย”

“สวยมาก เหมือนนางฟ้าที่ส่งตรงลงมาจากฟ้าเลยแหละ”
“บ้าเอ้ย อวยจนฉันเขินเลยเนีย” หลีซูเจ๋จับแก้มตัวเอง ท่าทางขวยเขิน

ถังซินไปตามโลเคชั่นของกวนชิงเฟิง เพิ่งจะผ่านอุโมงค์ ได้ โทรศัพท์หลี่ซูเจ๋ดังขึ้น

หลังคุยเสร็จ หลี่ซูเจ๋พูดขึ้นด้วยท่าทางลำบากใจ “วันนี้ฉัน ไปบ้านแกไม่ได้แล้ว น้าสะใภ้ฉันเรียกฉันไปกินข้าว เขาบอก ว่าน้าฉันเพิ่งกลับมาจากฟินแลนด์หนะ”

“ไม่เป็นไรหรอก ฉันเห็นว่าตั้งแต่แกมาเมืองหนานเฉินก็ ไม่ได้ไปบ้านน้าสะใภ้อีกเลย” ถังซินพอเข้าใจ หลังจากรู้ที่ อยู่แล้ว เธอส่งหลี่ซูเจ๋ไปถึงที่แล้วค่อยขับไปรับกวนชิงเฟิง

ช้าไปกว่า 20 นาที

หลังจากรถมาถึงที่ ถังซินก็เห็นกวนชิงเฟิงที่กำลังพิงป้าย โฆษณาอยู่ แขนสั้นสีเทาและกางเกงช่าง รูปร่างสูงใหญ่ หน้าตาหล่อเหลาสดใส ผู้หญิงที่เดินไปมามองเขาไม่หยุด

ถังซินลดกระจกรถลงแล้วแซวขำ ๆ “หนุ่มน้อยที่พึงป้าย อยู่ จะนั่งรถไปด้วยกันมั้ยจ๊ะ

กวนชิงเฟิงเงยหน้าเหลือบมองมาที่รถริมทาง เม้มปาก แล้วเดินมาดึงประตูรถ ทำให้ผู้หญิงที่กำลังจะเข้ามาจีบเขา ที่เห็นเขาโดนคนอื่นจีบไปก่อนอึ้งจนอ้าปากค้าง

“หน้าตาดีไปได้ก็ได้เปรียบหมดเนอะ” ถังซินมองกระจกหลัง หญิงสาวยังยืนเหม่ออยู่ที่เดิม ทำให้เธอหัวเราะ ฉันว่า ต่อไปนี้ฉันคงไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องชีวิตคู่แกแล้วหละเนอะ”

แต่กวนชิงเฟิงไม่ได้สนใจอะไร ได้แต่ถามขึ้น “พี่ซื้อรถ

หรอ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ