ฉันเป็นสุดที่รักของประธานมู่! ?

บทที่ 470 พ่อของเด็กๆเป็นใคร



บทที่ 470 พ่อของเด็กๆเป็นใคร

ฉางผิงไม่เห็นรถของถังซินอยู่หน้าบ้าน ก็ถามอย่าง แปลกใจว่า “ คุณป้า วันนี้ไม่ได้ขับรถมาเหรอครับ ” ”

” ใช่ ผู้ช่วยจางขับมาส่ง ”

“ ป้ารอตรงนี้ก่อนนะ ผมไปเอากุญแจรถก่อน ” ฉาง ผิงทิ้งคำพูดไว้ แล้วกลับเข้าบ้านไป

สองนาทีต่อมา ฉางผิงก็เดินออกมาจากบ้านยื่นกุญแจ

รถให้ถังซิน ใบหน้าเล็กๆนั่นเต็มไปด้วยความตื่นเต้น “ครั้งนั้นที่ผม

ไปโรงรถเห็นรถสปอร์ตเท่ๆของลุงสองอยู่ เราไปขับคน

นั้นกันเถอะ”

ถังซินมองกุญแจรถที่อยู่ในมือ มองไปที่เจ้าเด็กน้อย อย่างเหนื่อยหน่าย “ หลานมาแอบใช้สิ่งของของเขา ไม่ กลัวเขาตีหลานเหรอ”

“ ไม่หรอกครับ ผมคิดว่าลุงสองรักผมมาก

ถังซินกลืนไม่เข้าคายไม่ออก สุดท้ายก็หยิบ กุญแจรถเดินไปที่โรงรถ

ก็พบว่าคันนั้นเป็นรถยี่ห้อปากานี ถังซินก็นึกขึ้นได้ว่าก่อนหน้านี้ดื่มจนเมา แล้วทำเรื่องน่าอายด้วยการ อาเจียนบนรถของมู่เฉินหย่วน

เพราะทำเบาะรถสกปรก จึงต้องชดใช้เงินก้อนหนึ่งให้ ผู้ชายไป

ผ่านมาก็นานแล้ว เธอก็ยังได้กลับมานั่งรถคนนี้อีก ครั้ง และยังเป็นคนขับเองอีก

ความทรงจำในอดีตทำให้ถังซินรู้สึกอึดอัด

หลังจากที่เธอนั่งในรถ ถึงคิดขึ้นได้ว่ากำลังพาสุนัข หนึ่งตัวมาด้วย

จึงเงยหน้าอยากจะให้ฉางผิงส่งเจ้าสุนัขพันธุ์เยอ รมันเชเพิร์ดกลับไป เห็นเจ้าสนัขพันธุ์เยอรมันเชเพิร์ ดกำลังนั่งใต้เบาะรถ ครึ่งตัวก็นอนอยู่บนตัวของฉางผิง

ถังซินกระตุกมุมปาก “มันเข้ามาอัดแน่นแล้ว คงเอา ออกไม่ได้แล้ว”

“ป้าครับ รีบขับรถไปกันเถอะครับ” ฉางผิงเร่ง

เขาเห็นถังซินคาดเข็มขัดนิรภัย ท้องก็นูนออกมาเล็ก น้อย ถามอย่างแปลกใจว่า “ป้าครับ ท้องของป้านูน เหมือนกับคนท้องเลย”

ถังซินมองที่ท้อง
ก่อนหน้านี้มัวแต่จัดการเรื่องของบริษัทตระกูลส้ง เธอ เกือบลืมไปเลยว่าถูกลู่เหวินซูผลักไปหนึ่งที จนชนกับ ขอบโต๊ะ

“ใช่จ๊ะ ป้าท้อง” ถังซินสตาร์ทรถ และตอบหลานไป ด้วย “ป้าไม่ค่อยสบาย เราไปโรงพยาบาลกันก่อนเถอะ จากนั้นค่อยไปซื้อผักที่ห้างสรรพสินค้า”

ฉางผิงตกใจ และเปลี่ยนเป็นความตื่นเต้นดีใจ “จริงเห รอครับ ป้าท้องกี่คนครับ”

“ท้องแฝดสามจ๊ะ”

“ว้าว” ฉางผิงเบิกตากว้างจนอึ้ง “แล้ว มันคงลำบาก มากใช่ไหมครับ”

ถังซินยิ้ม “ไม่ลำบากหรอกจ๊ะ หลานมีสะใภ้แล้ว ดีใจ

ไหม”

ฉางผิงพยักหน้า นึกอะไรขึ้นได้จึงถามเธออย่างระวัง ว่า “ป้าครับ เด็กเป็นลูกของลุงสองใช่ไหมครับ”

“มันสำคัญมากด้วยเหรอ” ถังซินใช้สายตาเหลือบ มองเจ้าเด็กน้อย “หลานลืมคำที่หลานพูดก่อนหน้านี้เห รอ ว่าถ้าไม่ใช่ลูกของลุงสอง หลานก็ไม่ต้องการแล้วใช่ ไหม”

ฉางผิงส่ายหน้าเล็กนั่นจนสั่น “ไม่ ไม่ใช่ครับ การขอ สะใภ้ในปีนี้มันไม่ง่ายเลยน่ะสิครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขอสะใภ้ที่หน้าตาดีเหมือนป่าขนาดนี้ เรารีบไปโรง พยาบาลกันเถอะครับ”

ถังซินยิ้มออกมา

หลังจากถึงโรงพยาบาล ถังซินขอนัดแพทย์ผู้ เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน

รอครึ่งชั่วโมงกว่าก็ถึงคิวแล้ว

เธออธิบายเรื่องเด็กในท้องให้หมอฟัง รวมถึงเรื่องวัน นี้ที่ท้องไปชนกับขอบโต๊ะด้วย

และฉางผิงหักนิ้วมือเพื่อนับเลขอยู่ตรงนั้น

สุดท้ายก็คิดอย่างท้อใจ ว่าแท้ที่จริงแล้วป้าท้องมา นานแล้ว ดูแล้วพวกเด็กๆไม่ใช่ลูกของลุงสองจริงๆ

งั้นพ่อของพวกเด็กๆเป็นใครล่ะ

ใช้เวลาทำการตรวจหนึ่งชั่วโมง เด็กๆนั้นเจริญเติบโต ดีมาก ไม่เป็นอะไร

ในที่สุดถังซินก็วางใจ

ตอนที่ถังซินจะเดินไป สูตินรีแพทย์คนนั้นก็เรียกเธอ ไว้ “ผมจะจ่ายยาให้คุณเอากลับไปกิน เพื่อป้องกันสัก เล็กน้อย”
“ได้ค่ะ ขอบคุณคุณหมอมากนะคะ”

ตอนที่ถังซินเห็นหมอจับเมาส์ มือสั่นเล็กน้อย ถาม อย่างเป็นห่วงว่า “คุณหมอคะ มือคุณสั่นอยู่ เป็นเพราะ ทำงานหนักเกินไปหรือเปล่าคะ ให้ฉันเรียกพยาบาลมา ให้ไหมคะ”

“ไม่เป็นไรครับ ดูคนไข้อีกคนหนึ่งผมก็ออกเวรแล้ว ครับ คุณไปที่ชั้นหนึ่งเพื่อจ่ายเงินและรับยาได้เลยนะ ครับ”

ถังซินก็ไม่พูดอะไรอีก ออกจากห้องตรวจไป

“ป้าครับ เป็นอย่างไรบ้างครับ” ฉางผิงเข้ามาถาม สายตาจ้องไปที่ท้องของเธอ “พวกเด็กๆแข็งแรงใช่ไหม ครับ”

“แข็งแรงดี เราไปรับยาที่ชั้นหนึ่งกัน”

“ป้าครับ ผมพกบัตร ATM มาด้วย เดี๋ยวผมไปเอง วัน นี้ป้าเหนื่อยมาพอแล้ว” ฉางผิงหยิบบัตรประกันสุขภาพ มาจากมือถังซิน แล้ววิ่งไปอย่างรวดเร็ว

หลังจากถังซินสติกลับมา ก็ไม่เห็นเงาของเจ้าเด็ก น้อยแล้ว

หลังจากฉางผิงจ่ายเงินตรงช่องจ่ายเงิน ก็ไปต่อแถวรับยา
เข้าแถวไปสักพัก ไม่นานก็ถึงตาเขา เขาเขย่งปลาย เท้ายื่นบัตรประสุขภาพส่งให้

พยาบาลที่อยู่ตรงช่องจ่ายยายังคงมองไปรอบๆ

“เอ๋ คนไข้ล่ะ”

ฉางผิงเขย่งปลายเท้าให้สูงขึ้นกว่าเดิม มีหัวโผล่มา ครึ่งหัว “อยู่นี่ครับ”

พยาบาลมองมาที่เขา ก็เปิดบัตรประกันสุขภาพของ ถังซินดู แล้วเข้าไปหยิบยา

ฉางผิงรออยู่ที่เดิม คิดอย่างกลัดกลุ้มว่าหลังจากนี้ ต้องกินอาหารและออกกำลังกายดีๆ เพื่อที่จะสูงขึ้นกว่า นี้ ไม่งั้นในอนาคตโอกาสที่จะช่วยพ่อแม่ทำธุรกิจก็จะ ไม่มีเลย

หลังจากได้รับยาแล้ว ฉางผิงก็หยิบออกมาดู

ในถุงยามีระบุแค่ไม่กี่คำ เขาก็อ่านไม่เข้าใจ จึงหยิบ กล้องขึ้นมาถ่ายมันแล้ววางแผนจะกลับไปศึกษา

ขณะนั้นถังซินก็เดินมา “รับยาหรือยัง”

“รับมาแล้วครับ” ฉางผิงเก็บโทรศัพท์มือถือ แล้วยื่น ถุงยาส่งให้เธอ “อยู่นี่ครับ”

ถังซินลูบหัวเล็กๆของเขา “ลำบากหลานแล้ว เราไปห้างสรรพสินค้ากัน เย็นนี้อยากกินอะไรเป็นพิเศษไหม”

“อยากกินขาหมูน้ำแดงครับ”

“ได้จ๊ะ ซื้อแล้วจะกลับไปทําให้หลานกินนะ”

ทั้งสองคนไปซื้อวัตถุดิบที่ห้างสรรพสินค้า และพวก ของใช้ด้วย

ห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ค่อนข้างมีความเป็นมนุษย์ คือ เพียงแค่มีสายจูงก็อนุญาตให้นำสุนัขเข้าไปได้

บนทางเดินเจ้าสุนัขพันธุ์เยอรมันเชเพิร์ดก็เดินตามทั้ง

สองคน เหมือนเป็นผู้คุ้มกันที่ยิ่งใหญ่

หลังจากซื้อของเสร็จ ถังซินก็พาฉางผิงลงบันไดเลื่อน

เธอถือถุงสองใบ ก่อนจะเดินลงบันไดเลื่อน ยังไม่ขึ้น ไปยืน ก็ถูกคนข้างหลังชนเข้าอย่างแรง

ร่างกายของถังซินพุ่งไปข้างหน้าแล้วล้มลงบนบันได เลื่อน

เจ้าสุนัขพันธุ์เยอรมันเชเพิร์ดตอบสนองอย่างรวดเร็ว ขณะที่ถังซินเกือบจะพุ่งออกไป มันก็พุ่งมากัดเสื้อของ ถังซินไว้แน่น แล้วดึงคนให้ถอยหลัง

ถังซินกลัวมาก ด้านนอกใส่เสื้อคลุมกันลมไว้
หลังจากที่เสื้อกันลมถูกเจ้าสุนัขพันธุ์เยอรมันเชเพิร์ ดกัดเอาไว้ ร่างกายของถังซินนั้นหนักและพุ่งไปข้าง หน้า ขาของเธอไม่ได้ยืนบนบันไดเลื่อน เสื้อกันลมก็ เกือบจะถูกถอดออกไปร่างกายของเธอ

ตอนที่ฉางผิงเห็นเจ้าสุนัขพันธุ์เยอรมันเชเพิร์ดพุ่งไป หาถังซิน ไม่เพียงแค่ตกใจ แต่ก็พุ่งไปด้วย

เขาที่ลากจูงสุนัขอยู่ก็พันมือของเขา ดึงมาข้างหลัง

สุดชีวิต

ถังซินถูกดึงกลับไปข้างหลัง

ยังดีที่เจ้าสุนัขพันธุ์เยอรมันเชเพิร์ดกัดไว้ที่เอวด้าน หลังของเธอ ไม่งั้นเธอคงล้มลงบนพื้นแล้ว

ฉางผิงปล่อยเชือกลากจูงสุนัข มาช่วยถังซิน “ป้าครับ

เป็นอะไรไหมครับ”

“ ไม่ ป้าไม่เป็นอะไร

ร่างกายของถังซินจนถึงตอนนี้ยังรู้สึกตัวแข็งอยู่ เธอ มองไปที่บันไดเลื่อนสูง ในใจรู้สึกกลัวมาก

ถ้าเธอล้มกลิ้งลงบนบันไดเลื่อน ไม่ตายก็พิการ

“คุณคะ ขอโทษด้วยนะคะ” คนด้านข้างก็มีสติกลับมา วิ่งมาช่วยถังซิน
“ฉันมัวแต่คุยกับสามี เลยไม่ทันสังเกตว่าพวกคุณยัง ไม่ได้ขึ้นบันไดเลื่อนไป ขอโทษด้วยจริงๆค่ะ

“เอามือคุณออกไป” ฉางผิงตีไปที่มือของผู้หญิงอย่าง แรง ใบหน้าเล็กเต็มไปด้วยความโกรธ “หลังจากคุณ เดินไม่ระวังจนชนกับป้าของผม ทำไมคุณไม่ดึงเธอไว้

“ฉัน ฉัน….ขอโทษค่ะ” ผู้หญิงคนนั้นร้องไห้ “ฉันไม่ได้ ช่วยเอาไว้

สามีของผู้หญิงก็กล่าวขอโทษถังซินไม่หยุด “บนพื้นนี้ มันลื่นนิดหน่อย ภรรยาของผมก็เกือบจะล้มเหมือนกัน ผมไม่ได้ดึงคุณไว้ตั้งแต่แรก ต้องขอโทษจริงๆครับ”

ฉางผิงพูดด้วยความโกรธจัดว่า “ฉันเห็นว่าพวกคุณ ตั้งใจ”

ใบหน้าของถังซินยังคงซีดมาก

เธอมองไปที่ผู้หญิง เห็นหน้าท้องผู้หญิงนูนออกมา มาก มือจับเอวเอาไว้เหมือนกับว่าไม่ค่อยคล่องตัว

“พอแล้วฉางผิง” ถังซินพูดห้าม “ไปดูที่ห้องกล้อง วงจรปิดกันเถอะ”

วันนี้ถ้าไม่มีเจ้าสุนัขพันธุ์เยอรมันเชเพิร์ดกับฉางผิง ช่วยไว้ ถูกชนขนาดนี้เธอกับพวกลูกๆคงจบเห่แน่ๆ
เดินทางไปห้องกล้องวงจรปิดของห้างสรรพสินค้า

หลังจากผู้รับผิดชอบรู้เรื่องราวทั้งหมด ก็มีสีหน้า ลำบากใจ “ขอโทษจริงๆครับ กล้องวงจรปิดตัวนั้นเพิ่ง เสียไปเมื่อสองอาทิตย์ก่อน พวกคุณอยากจะเช็คอะไรก็ คงเช็คไม่ได้”

ถังซินหรี่ตามอง “อะไรจะโชคร้ายขนาดนี้ ฉันอยาก จะเช็คกล้องวงจรปิดก็เสียอย่างงั้นเหรอ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ