ฉันเป็นสุดที่รักของประธานมู่! ?

บทที่ 161 ถ้าคุณกล้าไปหาเธอล่ะก็ ฉันจะฆ่าคุณซะ



บทที่ 161 ถ้าคุณกล้าไปหาเธอล่ะก็ ฉันจะฆ่าคุณซะ

คราวนี้จ่ซือซือจูบไปที่ริมฝีปากของเขา ท่าทางของเธอดู เก้งก้างแต่ก็ดูรีบร้อนราวกับว่าชอบเขามากอย่างไงอย่างนั้น

มือที่แข็งทื่อของกวนชิงเฟิงเปลี่ยนเป็นไปโอบอยู่ที่เอว ของเธอ มีเพียงวัสดุบางๆกั้นไว้ ความรู้สึกที่สัมผัสเอวอัน อ่อนนุ่มของเธอช่างดีอย่างบอกไม่ถูก เขาหายใจเข้าลึกๆ แล้วดึงเธอเข้ามาในอ้อมกอด

เธอคนนี้ทำให้คนเสพติดได้จริงๆ

ทั้งสองคนจูบกันอยู่ในห้องครัวที่มืดมิด มือเล็กๆของจู่ ซือซือปลดเสื้อเชิ้ตของเขาออก เธอจูบลงไปบนคอและไล่ ไปที่กระดูกไหปลาร้าของเขา ทุกการกระทำของเธอทำเอา เขาตัวแข็งและร้อนรุ่มเหมือนถูกไฟเผา

ทันใดนั้นก็มีเสียงเรียกเข้าดังขึ้นมา

กวนชิงเฟิงมีสติกลับมานิดหน่อย พอเห็นว่าเสื้อเชิ้ตถูกดึง ออกไปแล้ว หน้าเขาแดงขึ้นมา แล้วใส่เสื้อเข้าด้วยกัน

เขาอยากจะวางจูซือซือลงก่อน “ผมไปรับโทรศัพท์

“นั่นมันสายเรียกเข้าปลอม ไม่ต้องรับ ! ” จู่ซือซือไม่อยาก ลงจากตัวของเขา เธอล้วงมือเข้าไปในเสื้อเชิ้ตของเขา “ขอ จับท้องหน่อย อย่ามาบังนะ ขอจับทีเดียวก็ได้”
กวนชิงเฟิงต้องใช้แรงอย่างมากที่จะนําเธอลงมาจาก ร่างกายแล้วไปหาโทรศัพท์ในห้องรับแขก

จ่ซือซือไม่พอใจอย่างมาก

ฮีม กล้ามหน้าท้องของหมาป่าตัวนี้ฉันยังไม่ทันได้จับเขาก็ ช่อนมันแล้ว

น่ารำคาญจริงๆ!

จ่ซือซือที่พึ่งออกจากห้องครัวมา ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ เห็นกวนชิงเฟิงที่คุยโทรศัพท์อยู่มีสีหน้าอึมครึม รอบตัวเขา เต็มไปด้วยพลังงานบางอย่างซึงน่ากลัวมาก

นําเสียงของกวนชิงเฟิงเย็นชาและเต็มไปด้วยจิตสังหาร “ถ้าแกกล้าไปหาเธอ ฉันฆ่าแกตายแน่!”

จ่ซือซือตกใจจนยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น

หลังจากที่กวนชิงเฟิงวางสาย เขาก็เห็นว่าเธอตกใจจน แทบจะไม่มีแรง ใบหน้าของเขายังคงเย็นชา “คุณหนูมู่ เก็บ ของก่อนเถอะ เดี๋ยวผมส่งคุณไปหาผู้จัดการส่วนตัวของ คณ”

“โอเค” จ่ซือซือพยักหน้า ถามอย่างทนไม่ไหวว่า “เกิด อะไรขึ้นหรอ?”
“ไม่เกี่ยวกับคุณ”

จู่ซือซือชะงักไป เธออารมณ์เสียแล้วหยิบแจกันขว้างใส่ เขา พร้อมกับด่าเขาว่า

“ไม่ทราบว่าเมื่อกี้ไอ้บ้าตัวไหนมันจูบฉัน แถมยังจูบทั้งสอง

กวนชิงเฟิงตอบว่า “รอบหลังเธอเป็นคนจูบฉัน”

“ไม่ไปถ่ายหนังแล้ว ฉันอารมณ์เสีย คืนเงินก็คืนเงิน!” จู่ ซือซืออารมณ์เสียจนกลับห้องไปและกระแทกปิดประตู

กวนชิงเฟิงขมวดคิ้ว

ที่แท้ อารมณ์ของผู้หญิงก็เหมือนกับการพลิกหนังสือ นี่เอง อยากเปลี่ยนก็เปลี่ยน

หลังจากที่ถังซินพักผ่อนไปนาน เรี่ยวแรงก็เริ่มกลับมา เธอกังวลเกี่ยวกับกิจการของคุณมู่และติดต่อเลขาฯเกาให้ ดำเนินการในบริษัทต่อ

ตอนที่เธอใช้คอมพิวเตอร์ พบว่ามีอีเมลที่เปิดยังไงก็เปิด ไม่ออกราวกับปลั๊กอินบางอย่างมีปัญหา

หลังจากที่ไปถามมู่เฉินหย่วนแล้วเธอก็ไปใช้คอมพิวเตอร์ในห้องหนังสือ

โรงงานหลายแห่งที่อยู่ภายใต้การดูแลของบริษัทมู่ชื่อปิด กิจการลงและหุ้นก็ตกอีกด้วย ทำให้กลายเป็นข่าวประเด็น ร้อนที่ทุกคนสนใจ หลังจากที่ถังซินทำงานเสร็จ เธอก็เข้าไป ดูในอินเตอเน็ตเช่นกัน

เธอยังเห็นข่าวอีกข่าวหนึ่งด้วย

มู่เฉินหย่วนและซ่งจิ้งเหอประกาศแต่งงานกันแต่เนิ่นๆ แต่ อย่างไรก็ตามปัญหาของบริษัทมู่ชื่อนั้นไม่ได้มีผลกระทบ อะไรต่อบริษัทซ่ง แล้วในวันนี้บริษัทซ่งยังประกาศว่าแบ่ง หุ้น 20% ให้กับซ่งจิ้งเหอ

ถังซินเคยอ่านเอกสารที่จู่ซือซือให้ ซ่งจิ้งเหอไม่ได้รับ ความนิยมเท่าไหร่ตั้งแต่เธอเข้ามาในตระกูลซ่ง เธอมี สถานะเป็นแค่ลูกเมียน้อยมาโดยตลอด พอเข้ามาในตระกูล แล้วก็ยังไม่ได้รับความสนใจเท่าไหร่

จนถึงวันนี้ซ่งจิ้งเหอได้เป็นถึงหุ้นส่วนของบริษัทซ่งถือ เป็นการยอมรับว่าซ่งจิ้งเหอเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลซ่งแล้ว

ถังซินเลื่อนลงไปอ่านข่าวอื่นๆต่อ

เธอคิดว่าซ่งจิ้งเหอเป็นคนที่ไม่ธรรมดาคนหนึ่ง เธอไม่ ได้มีปากเสียงอะไรแต่ก็ได้หันมาถือถึง20% ลูกสาวคนอื่นๆ ของตระกูล งดงถือหุ้นไม่มากขนาดนี้หรอกมั้ง?
ถ้าอิงจากคำพูดของลู่เหวินซูล่ะก็ เธอมั่นใจว่าฉางผิงต้อง เป็นลูกของวี่เหวินถึงแน่นอน

ถ้างั้นฉางผิงมีความเกี่ยวข้องกับซ่งจิ้งเหอไหมนะ

เธออยากจะรู้ให้ชัดเจนจริงๆถ้าฉางผิงเป็นลูกของวี่เหวินถิ งกับซ่งจิ้งเหอจริงๆล่ะก็ งั้นซ่งจิ้งเหอก็ไม่ควรแต่งงานกับมู่ เฉินหย่วนสิ ไม่งั้นมันจะวุ่นวายไปหมด

“หืม?” ไม่รู้ว่าถังซินคติ๊กเมาท์ไปโดนอะไรเข้า แต่มีวิดิโอ หลายอันขึ้นมา

เหมือนว่าจะเป็นภาพจากกล้องวงจรปิด

มู่เฉินหย่วนอยู่อพาร์ตเม้นใหญ่ขนาดนี้คนเดียว ถังซินคิด ว่าเขาจะติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้เยอะขนาดนี้ก็ไม่แปลก

เธอถือโอกาสเปิดดู

ปรากฏภาพของวันที่กาวเหม่ยซีพาประธานเกามาประชุม ที่อพาร์ตเม้น พวกเขาขึ้นไปด้านบนแล้วก็ไม่ลงมาอีก มู่เฉิน หย่วนเองก็ติดตั้งอุปกรณ์ขึ้นลงและตามขึ้นไปชั้นบน

ถังซินรู้สึกเบื่อ ก็เลยเข้าไปที่ภาพบนหน้าจอ ดูจนถึงตอน กลางคืน เห็นตัวเองที่กำลังล้มอยู่ในห้องครัว มู่เฉินหย่วน เข็นรถเข็นเข้ามา ตบเบาๆที่หน้าของเธอแล้วโทรศัพท์

หลังจากที่คุณหมอตรวจเสร็จและจากไปเรียบร้อยแล้ว มู่เฉินหย่วนก็ต้มยานําป้อนให้เธอดื่ม แต่ดูเหมือนว่าจะป้อนไม่ เข้าไป เขาก็เลยดื่มยาเข้าไปแล้วจูบปากของเธอ

ถังซินนั่งมองภาพหน้าจอแล้วหน้าก็แดงขึ้นมา

ให้ตายเถอะ ฉันไม่กล้าดูจริงๆ ทำไมฉันน่าขายหน้าขนาด นี้เนี่ย ให้ตาลุง…….. น่าอายสุดๆ!

“คุณหนูถัง”

เสียงเคาะประตูดังมาจากด้านนอก พร้อมกับเสียงพูดทุ้ม ต่ำของชายคนหนึ่ง “จัดการธุระเรียบร้อยดีไหมครับ?”

“เสร็จ..เสร็จแล้วค่ะ!” ถังซินตกใจกลัวว่ามู่เฉินหย่วนจะ เปิดประตูเข้ามา เธอรีบปิดคอมพิวเตอร์แล้วเปิดประตูห้อง หนังสือ “มีอะไรหรือเปล่าคะ?”

มู่เฉินหย่วนมองเธอ “เธอเข้าห้องอบซาวน่าหรอ ทําไม หน้าแดงขนาดนี้”

ถังซินจับแก้มของเธอ ปรากฏว่ามันร้อน

นึกถึงภาพกล้องวงจรปิดที่เธอดูเมื่อกี้ จึงไม่กล้ามอง ตรงๆไปที่มู่เฉินหย่วน เธอหันหน้าหลบไป “ในห้องหนังสือ อบอ้าวนิดหน่อย แล้วฉันก็ลืมเปิดแอร์ ก็เลยกลายเป็นแบบ

“คุณถัง ค่าไฟแค่นั้นผมจ่ายไหวอยู่แล้ว” มือของมู่เฉินหย่วนพาดอยู่บนรถเข็นพร้อมกับยิ้มๆแล้วพูดว่า “แต่ว่าถ้ามี คนตายในห้องอ่านหนังสือของอพาร์ตเม้นก็น่าจะขายออก ยากหน่อย”

ความอับอายในใจของถังซินได้หายไปหมดแล้ว เธอ กัดฟันพร้อมกับยิ้มแล้วพูดว่า “งั้นก็ขอบคุณคุณมู่มากเลย ค่ะ!”

“ไม่ต้องขอบคุณหรอก ไปกินอาหารกลางวันกันเถอะ”

ถังซินอยากจะด่าจริงๆว่า “กินอาหารเที่ยงอะไรล่ะ กิน อากาศน่น!” แต่เธอก็ผ่อนคลายตัวเองแล้วค่อยๆกลืนคำพูด เหล่านั้นกลับไป เธอเดินกระแทกเท้าลงชั้นล่างไป

มู่เฉินหย่วนตามลงมาชั้นล่าง เขาพบเธอทิ้งขวดแก้วขวด ใหญ่ไว้ที่มุมห้องรับแขก พอเข้าไปใกล้ก็ได้กลิ่นหอมของ ผลไม้ จึงถามถึง น

“นี่คือไวน์หรอ?”

ถังซินยืดตัวมองออกไปทางห้องนั่งเล่น แล้วล้างผักต่อ “ใช่แล้ว แม่ฉันกลันเอง”

มู่เฉินหย่วนนึกถึงรอบที่แล้วที่ดื่มซุปเห็ดหูหนูขาว ก็ เหมือนว่าแม่ของเธอเป็นคนทํา รสชาติดีมาก เขาเดาว่าไวน์ อันนี้ก็ต้องรสชาติดีอย่างแน่นอน เขาคลายฝาออก

ถังซินที่ทำอาหารอยู่ในห้องครัวก็ไม่รู้ตัว
นอกจากนี้ถ้าเธอเห็นว่าเขากำลังจะดื่มไวน์ที่ทำเองเธอ ไม่มีทางสนับสนุนแน่นอน

เพราะถ้าเทียบกับที่ขายในตลาดไวน์ก็เทียบไม่ได้อยู่แล้ว แถมความเข้มข้นของแอลกอฮอร์ก็ไม่สูงนัก

ถังซินที่กำลังยุ่งจนเหงื่อเต็มตัว ทำอาหาร4อย่างกับซุป อีก1 ถ้วยออกมา หลังจากนั้นเธอก็เห็นว่าไวน์ในขวดลดลง เหลือเพียงแค่ครึ่งขวดแล้ว มู่เฉินหย่วนก็ยังดื่มต่ออีก

ถังซินถึงกับพูดไม่ออก “คุณมู่คะ นี่เหล้านะคะ ไม่ใช่น้ำ คุณไม่เลี่ยนหรอ!”

“อร่อยออกนี่นา” มู่เฉินหย่วนเงยหน้าขึ้นมามองเธอพร้อม รอยยิ้มภายใต้สายตาอันอ่อนโยนและอบอุ่น มองดูแล้ว เหมือนเด็กเชื่องๆคนหนึ่ง “ฝีมือของคุณแม่ดีที่สุด”

ห้ะ?

ถัง นมองไปที่เขา

มู่เฉินหย่วนลูบหน้า แล้วถามอย่างสงสัยว่า “ที่รัก ทำไม คุณจ้องผมแบบนั้นล่ะ

ถังซินนิ่งไปสองวิ แล้วก็รีบไปตามหาโทรศัพท์ เธอกดโทร หาแม่อย่างรวดเร็ว

พอโทรติดแล้ว เธอถามแม่อย่างรวดเร็วว่า “แม่ ไวน์ที่แม่กลั่นนี้เป็นไวน์จริงๆใช่ไหมคะ? ตอนแม่กลั่นไม่ได้ใส่อะไร อย่างอื่นลงไปด้วยใช่ไหมคะ?”

“ไม่นี่”

“แม่ คิดดีดี!”

“รอเดี๋ยวนะ”

แม่ของถังซินไม่รู้ว่าทำอะไรอยู่ สักพักถึงจะพูดว่า”แม่น่า จะสับสนน่ะ แม่เอาเหล้าที่ก่อนหน้านี้จะเอาไปขายให้พวก เธอไป ทำไมหรอ ไม่อร่อยหรอ?”

ถังซินมองไปที่มู่เฉินหย่วน เหอะๆ “อร่อยค่ะ มีคนดื่มจน เมาไปแล้ว!”

เธอว่าแล้ว ความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ในไวน์มันสูงแค่

ไหนเชียว!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ