ฉันเป็นสุดที่รักของประธานมู่! ?

บทที่ 242 จี้เจียจื้อ



บทที่ 242 จี้เจียจื้อ

ถังซินพูด “หมาบ้านคุณมหัศจรรย์จริงๆ เลยนะคะ ไม่ติด เจ้าของอย่างคุณเลย

มู่เฉินหย่วนย้อนถาม “คุณไม่ใช่เหรอไง”

สักพักใหญ่ถังซินถึงได้รู้สึกตัว เธอก้มหน้าทำเป็นหั่นผัก แต่หน้าแดงขึ้นมาอย่างไม่อาจห้ามได้

เธออยากจะทอดปลาเสี่ยวหวงปลีกตัวไปทำอย่างอื่นไม่ ได้ก็เลยสอนมู่เฉินหย่วนปั้นลูกชิ้นสี่สุข

พอเห็นซอสเนื้อสองกะละมังชายหนุ่มก็เลยทนไม่ไหว จัดแจงใส่ถุงมือ ครั้งแรกที่ทำเรื่องพวกนี้ ทำไมปั้นไม่กลมนะ เห็นของถังซินแล้วก็กังวลใจ

“ปั้นสิคะ ใครให้คุณบีบละคะ ! ” ถังซินหงุดหงิดจนจับมือ สอนเองเลย “ปั้นอย่างนี้ ฉันละนับถือเลย ทำไมมือคุณไม่ ยืดหยุ่นแต่เขียนตัวหนังสือสวยขนาดนั้นได้นะ

มู่เฉินหย่วนอดที่จะพูดไม่ได้ “นี่มันคนละเรื่องกันนะ”

“ปั้นลูกชิ้นคุณสิ ! ” หญิงสาวตวาดแถมยังตบ ๆ หัวเขา อีกด้วย “ปั้นไม่ได้ก็ไม่ต้องกินข้าว ! ”
ห้ามเถียงผู้หญิงกลับ คำพูดนี้ใช้ได้ทุกที่จริง ๆ

ตอนกินข้าว พอรู้ว่ามู่เฉินหย่วนเป็นคนปั้นลูกชิ้นเนื้อ บวก กับเห็นสีหน้าจนปัญญาของเขาแล้วจู่ซือซือก็ตบโต๊ะหัวเราะ อย่างบ้าคลั่ง ” เฉินโดนรังเกียจด้วย นําชะมัดขาดเลย

จากนั้นเธอก็อธิษฐานอย่างจริงจัง “ต่อไปพระเจ้าโปรด ประทานลูกสาวให้กับพี่เฉินด้วยเถิด เอาแบบมนุษย์ปีศาจ น้อย ให้ เฉินทรมานตายไปเลย

“จู่ซือซือ” มู่เฉินหย่วนหน้าผากเส้นเลือดดำกระตุกตลอด “เธอไม่เอาความกล้ามาจากไหนฮะ”

กวนชิงเฟิงพูด “จากผมไง”

“ทำอะไรน่ะ กินข้าวสิ ! ” ถังซินโต๊ะกินข้าวจะกลายเป็น สนามรบเลยคีบกับข้าวให้พวกเขา “เลิกพูดได้แล้ว น้ำลาย พวกเธอจะพ่นลงกับข้าวหมดแล้วนะ”

มู่เฉินหย่วนดึง ๆ กับข้าวข้าง ๆ มือเข้ามาด้านใน

เมื่อกินข้าวเสร็จแล้ว ถังซินไล่จู่เฉินหย่วนเข้าห้องครัวไป เพราะเขาบอกว่าจะล้างจานเอง จากนั้นเธอก็เลยตามกวน ชิงเฟิงไปลานบ้าน

“นี่คือสิ่งที่เช็คได้” กวนชิงเฟิงให้จดหมายปิดผนึกกับถัง ซิน “ยี่สิบห้าปีก่อน ร้านจิวเวอร์รี่ร้านหนึ่งในอิตาลีต้อนรับ ลูกค้าคนหนึ่ง เขาให้ไพลินที่ยังไม่ได้เจียระไนหนึ่งก้อนบอกว่าจะแต่งงานอยากให้ร้านทําชุดเครื่องประดับให้เขา หนึ่งชุด”

“ร้านจิวเวอร์รี่ทาชุดเครื่องประดับสร้อยคอสามชิ้นให้กับ ลูกค้า ตอนที่ลูกค้ามาเอาก็ให้พวกเขาแกะสลักชื่อย่อของ ภรรยาบนแหวนด้วย ผมเช็คชื่อผู้ชายคนนั้นได้ว่ามู่ซือหนาน ภรรยาเขาชื่อว่าชิวเสี่ยว ”

กวนชิงเฟิงเงียบสักพักก็พูดขึ้น “เอกสารการทำงานของ พวกเขาสามีภรรยาถูกเผาทำลายหมดแล้วผมเลยหาไม่เจอ รู้แค่ผู้ชายคนนี้ต่อมายิงปืนกรอกปากฆ่าตัวตาย ผมเคยเห็น รูปของสามีภรรยาคู่นี้ด้วยนะ”

ถังซินหัวเราะ ๆ “เหมือนมู่เฉินหย่วนมากใช่ไหม

กวนชิงเฟิงพยักหน้า

ถังซินเล่าประวัติสั้น ๆ ของมู่เฉินหยวนให้เขาฟัง

“ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้นี่เอง” มิน่าล่ะถังซินขอให้เขาตรวจ สอบแหวนวงนี้ กวนชิงเฟิงถามต่ออีก “แต่ว่าเจ้ ผมดูท่าทาง เจ้เหมือนจะไม่ได้อยากสืบอยู่แค่เรื่องนี้นะ

ถังซินเพียงแค่ถามว่า “นายมีเบาะแสของสร้อยคอหรือ ตุ้มหูไหม”

“ตุ้มหูสิบปีถูกเทขายเลหลังในงานประมูล ตอนนี้ถูกไฮโซ สาวเก็บสะสมอยู่ ส่วนสร้อยคอก็ไม่รู้เลย ไม่เจอเบาะแสใด ๆเลย”

“น่าเสียดายจัง” ถังซินพูดด้วยความเสียดาย

กวนชิงเฟิงสืบหาเรื่องได้ไม่น้อยแต่ไม่มีเรื่องนั้นที่เธอ อยากรู้

“เจ้บอกผมมาสิว่าเรื่องอะไร ผมจะได้ไปหา

“ไม่ต้องหรอก” ถังซินส่ายหัวหัวเราะ เรื่องนั้นเธอก็ไม่ แน่ใจเหมือนกัน ถึงอย่างไรก็ไม่น่าบังเอิญขนาดนั้นหรอก “พี่อาจจะคิดมากไปก็ได้นะ”

กวนชิงเฟิงก็ไม่ได้ถามต่ออีก

จ่ซือซือเห็นบ้านมู่เฉินหย่วนเป็นบ้านตัวเองไปแล้ว กินข้าว ก็เปิดลำโพง ตะโกนใส่ไมค์ ทำเอาแก้วหูมู่เฉินหย่วนแทบ แตก

เขาใช้มือเดียวโยนกวนชิงเฟิงกับจู่ซือซือออกไปข้างนอก ทีละคน ๆ ด้วยใบหน้าที่เย็นชา

น่ารำคาญจริง ๆ เลย !

หลังจากที่มู่เฉินหย่วนกลับเข้ามา เห็นถังซินนั่งยอง ๆ ดู เจ้าอัลเซเชียนน้อยกินเนื้อก็เลยเดินเข้าไปแซว “คุณถัง คุณ อยากแย่งหมากินเหรอ”
ถังซินไม่สนใจเขา

เขารู้สึกสงสัยนิด ๆ นั่งยอง ๆ ลงไปถึงรู้ว่าถังซินจ้องมอง ไปที่พื้นอยู่ด้วยสีหน้าเศร้านิด ๆ “เป็นอะไรเหรอ บริษัทมีคน ทําให้คุณไม่สบายใจหรือเปล่า”

“คะ อะไรนะคะ” ถังซินหันหน้ามามองเขาเหมือนกับว่า เพิ่งได้สติกลับคืนมา

มู่เฉินหย่วนทั้งโมโหทั้งอยากหัวเราะ “เมื่อกี้คุณดูจะ ร้องไห้ ผมเลยถามว่าคุณโดนรังแกหรือเปล่า”

“เปล่าค่ะ” ถังซินใช้นิ้วถู ๆ หน้า “ฉันคิดว่าประธานมู่ขึ้ เหนียวมาก บริษัทมีคนตั้งมากมาย ขอยืมแค่สองสามคน หน่อยก็ไม่ได้”

มู่เฉินหย่วนคิดว่าโลกใบนี้ไม่มีใครใจกว้างเท่าเขาอีกแล้ว

เขาขึ้นไปหยิบโน้ตบุคลงมา เปิดระบบบริษัทแล้วดันโน้ต บุคไปให้เธอ “คุณเลือกเองเลย เลือกได้แล้วก็รับพวกเขา ไปเลย”

ถังซินไม่จะอยากจะเชื่อ “เลือกใครก็ได้จริง ๆ เหรอคะ ประธานมู่คะ คุณไม่มีแผนร้ายอะไรใช่ไหมคะ”

“มี”

“อะไรคะ” ถังซินกลั้นหายใจ “แพงมากไหมคะ”
พอเห็นเธอเครียดขนาดนี้ เฉินหย่วนเลยอยากจะแกล้ง เธอ “อืม ก็ไม่รู้ว่าคุณจะจ่ายไหวไหมนะ

“บริษัทของพวกเรามีเงินเยอะมากค่ะ”

“ผมดูเหมือนคนขาดเงินเหรอ” ร่างสูงใหญ่ของชายหนุ่ม โน้มตัวเอนไปหาเธอพร้อมปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตด้านบนสุด สองเม็ดออก ดูเหมือนหนุ่มหล่อที่ดูเย้ายวนมาก “คุณจ่าย อย่างอื่นก็ได้ ”

มือของถังซินที่ยันหน้าอกของเขาอยู่ ฝ่ามือร้อนระอุทำให้ เธอหัวใจเต้นเร็วยิ่งขึ้น

หนุ่มหล่อคนนี้ชักจะอดกลั้นเอาไว้ไม่ได้แล้ว

“ถ้าประธานมอยากจะละก็ ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้นะคะ” ถังชิ นพยายามคงสติเอาไว้ พูดอย่าง ๆ อึ้ง ๆ “เพียงแต่ว่าคุณ ฉินของพวกเราค่อนข้างอ้วน ฉันเกรงว่า…

มู่เฉินหย่วนหน้าดำคร่ำเครียด อารมณ์ที่ดีอยู่ก็หายไปปลิด ทิ้ง “คุณถัง คุณเก่งมากนะ

“ให้ฉันช่วยโทรให้คุณไหมคะ”

“ไม่ต้องหรอก คุณเลือกคนของคุณเถอะ ! ” มู่เฉินหยวน พูดจบก็ขึ้นข้างบนไปเลย

ขืนอยู่ต่ออีกหน่อยเขาคงจะโมโหตายแน่ ๆ
ถังซิมอารมณ์ดีมาก

โดนแกล้งมาหลายครั้ง ในที่สุดก็โล่งอกสักที !

หลังจากที่ถังซินยืมคนจากตระกูลมู่มา ศักยภาพทั้งหมด ของทีมคุณภาพก้าวกระโดดมาก ราคาเสนอที่ทํานั้นแตก ต่างจากก่อนหน้านี้ราวฟ้ากับดิน สามารถเป็นตัวต้นแบบได้ เลย

เธออดที่จะรู้สึกปลงไม่ได้ : คนเก้าสิบเปอร์เซ็นต์เข้าไปใน ตระกูลมู่ นี่มันช่าง…

วันประกวดราคา ถังซินพาคนไปยังสถานที่จัดงาน

รถไฟความเร็วสูงเป็นโครงการขนาดใหญ่ มากันหลาย บริษัทมาก นอกจากตระกูลมู่แล้ว ในวงการธุรกิจกับบริษัท ยักษ์ใหญ่ด้านการก่อสร้างส่วนใหญ่ก็ส่งคนมากันทั้งนั้น สถานที่จัดงานดูคึกคักมาก

ถังซินฝึกฝนวิชาอยู่ในตระกูลมู่มานานมากขนาดนั้น คราว นี้มาเป็นตัวแทนเหอชวนคว้าการประมูลคราวนี้อีก ท่าทางดู สวยสง่างามและใจกว้าง ไม่มีความหวาดกลัวใด ๆ เลยสัก นิด คนหลายคนเข้าไปคุยกับเธอก่อน

“ประธานถังแห่งเหอชวนใช่ไหมครับ”
เงาร่างสูงที่เดินเข้ามายืนอยู่ตรงหน้าถังซินเป็นชายหนุ่ม ใบหน้าหล่อเหลามีเสน่ห์ทําให้คนหลงใหลมาก มีผมสั้นสี ทองกับนัยน์ตาตาสีฟ้า

ดูเป็นคนชาติตะวันตกจริง ๆ แต่พูดภาษาจีนกลางดีมาก พูดไม่มีเสียงเพี้ยนเลย

“สวัสดีค่ะ ฉันถังซินจากเหอชวนค่ะ” ถังซินไม่รู้จักชาย หนุ่มเพียงแต่ทำตามมารยาท อีกทั้งเขาก็รู้จักเธอจึงยื่นมือ ออกไปจับมือชายหนุ่มด้วย

ชายหนุ่มยิ้มอย่างมีเสน่ห์ “จี้เจียจื้อครับ ผมเพิ่งมาประเทศ จีนเมื่อสามเดือนก่อน ซื้อกิจการบริษัทมาได้สองสามบริษัท แล้ว พอได้จดหมายประกวดราคาของรถไฟความเร็วสูงครั้ง นี้ก็เลยมาดูสักหน่อย

ตอนที่เขาพูดว่า “ซื้อกิจการบริษัทมาได้สองสามบริษัท แล้ว” น้ำเสียงดูพอใจมากเหมือนกับว่าได้ซื้อของที่คุ้มค่ามา ทำให้ถังซินไม่รู้จะตอบกลับอย่างไรไปเลย

คิดว่าเจ้าถิ่นรับซื้อกิจการก็เหมือนกับการซื้อผักกาดขาวล่ะ มั้ง

ถังซินก็ยิ้มตามเช่นกัน “ดูท่าทางคุณจี้ อยากจะประมูลครั้ง นี้ให้ได้เลยนะคะ”

“ผมแค่มาดู ๆ น่ะครับ” นัยน์ตาสีฟ้าของซินจี้เจียจื้อต้อง มองถังแล้วพูดอย่างมีนัยยะ “ผมกลับรู้สึกว่าการประมูลคราวนี้จะถูกเหอชวนคว้าไปได้นะครับ”

ถังซินขมวดคิ้วทันที รู้สึกไม่ค่อยดีเอามาก ๆ

ผู้ชายคนนี้เป็นเหมือนสุภาพบุรุษตะวันตก สง่างามและ มีเสน่ห์ แต่คู่ดวงตาของเขาทำให้เธอรู้สึกหนาวจนขนลุก เหมือนกับว่าตัวเองโดนอสรพิษจับจ้องอยู่


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ