ฉันเป็นสุดที่รักของประธานมู่! ?

บทที่ 412 ผมคือสามีในอนาคตของคุณ



บทที่ 412 ผมคือสามีในอนาคตของคุณ

ขณะที่รอหนุ่มส่งอาหารมาส่งวัตถุดิบอยู่นั้น ถังซินก็ ได้ปิ้งขนมปังสไตล์ฝรั่งเศสคู่กับบิสกิตรูปสัตว์ไว้เสร็จ เรียบร้อย

เธอได้ยกไปให้จู่ซือซือทานที่ห้องรับแขก ในขณะ เดียวกันก็ได้เปิดประตูไปตรวจเช็ควัตถุดิบในการทำ อาหาร ถังซินได้ซื้อของมาเป็นจำนวนมาก เต็มล้นไปทั้ง สามถุง หลังจากที่เช็คเสร็จสรรพกำลังจะถือเข้าไปยัง ห้องครัว กลับมีมือข้างหนึ่งสอดเข้ามา ปะทะเข้ากับหลัง มือของเธออย่างไม่ได้ตั้งใจ

“ผมยกไปเอง”

ในระหว่างที่ถังซินกำลังงุนงงอยู่นั้น มู่เฉินหย่วนก็ได้ หยิบถุงช็อปปิ้งสามถุงขึ้นอย่างสบายใจ พร้อมเดินกลับ เข้าไปยังห้องครัว

เธอมองไปยังหลังมือ คล้ายกับยังหลงเหลือรอยที่ ฝ่ายชายได้ทำเอาไว้ ขณะที่กำลังพยุงตัวเองขึ้นนั้น ร่างกายที่โซเซอย่างรวดเร็ว ตอนนี้เหมือนเขาชนเธอแล้ วก็มองไม่เห็นอย่างนั้นแหละ

มู่เฉินหย่วนหยิบวัตถุดิบที่อยู่ในถุงออกมาแบ่งแยกไว้ เขาได้เห็นกับถังซินที่เดินเข้ามา “จะทำอะไรน่ะ ฉันช่วย คุณล้างผักแล้วก็หั่นไว้เรียบร้อยแล้วนะ”
ชื่อ ออยากกินโจ๊กปลาแผ่น คุณหยิบปลาออกมาแล้ วก็จับฆ่าขะ จากนั้นก็ล่างเนื้อแดง คันฉ่าย กับผักปวย เล้งด้วย” ถังซินสังก๊าซับ พร้อมหันกลับไปมองเขาครู หนึ่ง “ถ้าคุณไม่กล้าฆ่าปลายเรียกฉันได้นะ

มู่เฉินหย่านได้ยินคำพูดที่เธอเหน็ดแนม ก็มั่นใจได้ว่า เธอไม่พอใจเขา

เขาขมวดคิ้ว พร้อมเดินเข้าไปหาถังน มือข้างหนึ่งได้ ดันอยู่ที่เคาว์เตอร์ครัว จากมุมนี้ ทำให้เขาได้เห็นยอด หัวของถังซิน และได้รับรู้ถึงกลิ่นของกระดิ่งลมอ่อนๆ

“คุณถังครับ ผมไปทำอะไรให้คุณไม่พอใจหรอ?” มู่ เฉินหย่วนเอ่ยออกไปด้วยเสียงต่ำ “ตอนที่คุณล้มลงไป ผมก็ได้ช่วยประคองคุณขึ้นมาแล้ว แล้วทำไมเวลาคุณ พูดถึงได้เหน็บแนมผมทุกคำเลย”

พอถังซินได้ยินดังนั้นก็โกรธขึ้นมา พร้อมกล่าวด้วยน้ำ เสียงเย็นชา “คำไหนที่ฉันเหน็บแนมหรอ? ก็คุณไม่ชอบ ให้ใครมาดูแลหนิ ฉันก็กลัวว่าคุณจะทำเรื่องพวกนี้ไม่ ได้”

“คุณพูดดีๆ กับผมได้มั้ย?

“ฉันก็พูดอยู่นี่ไง!” ถังซินตอบไปอย่างไม่เกรงใจ “ฉัน ไม่ได้พูดดีๆ กับคุณอยู่หรอ? อีกอย่าง เวลาคุณชนใคร เข้ารบกวนพูดคำว่าขอโทษหน่อยก็ดีนะ

มู่เฉินหย่วนไม่อาจเก็บซ่อนสีหน้าไว้อีกต่อไปได้ “ผมเพิ่งจะประคองคุณ คุณก็ยังไม่เห็นขอโทษผมเลย” ถัง ซินกล่าวปากไวออกไป ” ก็คุณขวางฉันอยู่ตรงนั้น เลย ทำให้ฉันล้มลงไป ก็สมควรแล้ว คุณจะมาพยุงฉันหนิ! แล้วฉันก็ไม่ได้ใช้ให้คุณมาถือของด้วย คุณไม่ระวังมา ชนฉัน แถมยังไม่เอ่ยปากขอโทษ คุณว่าคุณผิดรึยัง ล่ะ?”

11

ไม่ได้เจอกันแค่ไม่กี่เดือน ผู้หญิงคนนี้ปากกล้าขึ้น เยอะ ถ้าไม่ได้ไปแข่งโต้วาทีนี่เสียดายแย่!

สายตาของมู่เฉินหย่วนได้กลิ้งกลอกไปด้วยอารมณ์ ยิ้ม แต่เพียงครู่เดียวก็หมดไป

เขาถอยกลับไปหนึ่งก้าว พร้อมกล่าวอย่างจนปัญญา “ได้ คุณพูดอะไรก็ถูกไปหมด พูดกับผมไม่ต้องให้ความ เคารพกันก็ได้งั้นสิ?”

“ฉันก็เคารพคุณอยู่นะ จึงเพิ่มช่องว่างระยะห่างของ เราสองคน” ถังซินกำลังยุ่งกับสิ่งที่ทำอยู่ในมือ พร้อม ตอบกลับเขา “การใช้คำสุภาพ มันทำให้ฉันได้จำระยะ ต่างระหว่างเราสองคน”

คิ้วทั้งสองของมู่เฉินหย่วนได้เลิกขึ้น ในที่สุดเขาก็ได้รู้ ว่าทำไมถึงห้ามทะเลาะกับผู้หญิง

เพราะทะเลาะให้ตายยังไงก็ไม่ชนะ

คุณพูดประโยคหนึ่ง เธอก็จะสามารถตอกกลับมาได้ เป็นสิบประโยค

“ไอหยา ถอยไปซิ” ถังซินผลักเขาออกอย่างไม่ เกรงใจ “ถ้าไม่ช่วยก็ออกไป อย่ายืนเกะกะคนอื่นเค้า! ฉันจะทำกับข้าวแล้วยังต้องรีบ……”

มองเห็นปากที่พูดอย่างไม่หยุดหย่อนของเธอ มู่เฉิน หย่วนก็รู้สึกหนวกหู เขาจึงหยิกคางของเธอพร้อมจูบ

เข้าไปอย่างหนักหน่วง

หลังจากที่เธอไม่พูดไม่จาแล้ว ก็สบายหูขึ้นเยอะ

จู่ซือซือมารับน้ำ พลันได้เห็นกับสถานการณ์นี้ภายใน ครัว จึงทำให้ตะลึงจนตาค้าง เกือบจะจับแก้วน้ำไว้ไม่ อยู่ “ขะ ขอโทษค่ะ ฉันไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น พวกคุณ ทำกันต่อเถอะ!”

เธอเห็นว่าแก้วน้ำยังว่างเปล่าอยู่ จึงบิดสะโพกกลับมา หยิบน้ำโซดา ในขณะเดียวกันก็แอบหยุดดูสถานการณ์ อยู่ทางด้านนี้

ถังซินเก้ๆกังๆ เป็นอย่างมาก เธอโมโหพร้อมหยิกไปที่ สะโพกของฝ่ายชาย ให้เขาออกห่างจากเธอ

ถังซินถอยหลังไปเล็กน้อยเพื่อป้องกัน พร้อมเงยหน้า จ้องไปยังฝ่ายชาย แก้มอันบอบบางเริ่มแดงขึ้นมาเล็ก น้อย “คะ คุณเป็นผู้ชายทำไมถึงไม่มีศักดิ์ศรีเลย ฉันจะ ไปฟ้องร้อง!”
“งั้นผมจะรอดูแล้วกันว่าทนายคนไหนจะกล้ารับคำ ร้องของคุณ” มู่เฉินหย่วนถูกแขกเสื้อขึ้นอย่างเฉื่อยชา เผยให้เห็นท่อนแขนที่ล่ำสัน เว้นแต่ว่าเขาไม่อยากอยู่ ในแวดวงของทนายแล้ว”

ถังซินหันกลับไปอย่างโมโห “ตาบ้า!”

มู่เฉินหย่วนเห็นเธอกำลังจัดการเนื้อต่างๆ ที่ซื้อมา จึง หยิบมีดหั่นผักมาส่งให้แก่เธอ “ต่อไปเรียกผมก็ไม่ต้อง พูดคำสุภาพแล้วนะ คุณพูดออกมากี่คำ ผมก็จะจูบตาม จํานวนคำที่คุณพูด”

“ทำไม —”

“หืม?”

เห็นว่าฝ่ายชายเข้ามาประชิดตัวเธอ มีความคิดอันแร งกล้าว่าเขาจะเข้ามาจูบ ถังซินจึงรีบถอยกลับไปอย่าง รีบร้อน รู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย “รู้แล้ว คุณยังจะช่วย อยู่มั้ย?”

มู่เฉินหย่วนเลิกคิ้วขึ้น คล้ายกับว่าพอใจในคำตอบ ของเธอ คงจะไม่เร่งรัดให้ไปจัดการนะ

จู่ซือซือที่อยู่ในห้องรับแขก ก็ได้แอบดูลาดเลาภายใน ครัวอยู่โดยตลอด เห็นทั้งสองคนร่วมมือร่วมใจกันทำ อาหาร ในใจก็คิดว่าสถานการณ์แบบนี้ก็ดีแล้ว ทั้งสอง คนจะมีโอกาสเข้ากันได้มั้ยนะ
เวลานี้ โทรศัพท์ที่อยู่บนโต๊ะก็ได้สั่นขึ้นมา

เป็นของถังซิน

จู่ซือซือคว้าโทรศัพท์ขึ้นมากะจะเอาไปให้กับถังซิน แต่บนหน้าจอนั้นกลับแสดงชื่อของ “ชิงเฟิง” เธอนึกขึ้น มาได้ว่าแต่ก่อนถังซินถามเธอว่าคิดถึงชิงเฟิงมั้ย ช่าง แปลกสิ้นดี

เธอแอบเข้าไปชำเลืองภายในครัว เห็นว่าทั้งสองคน กำลังยุ่งวุ่นวายกันอยู่ จึงแอบรับโทรศัพท์อย่างเงียบๆ

“พี่ครับ พี่กลับประเทศไปรึยัง?” พอเริ่มคุย จู่ซือซือก็ ได้ยินเสียงใสๆ ของผู้ชาย พร้อมน้ำเสียงที่นิ่งสงบ

เสียงที่คุ้นเคยทำให้เธอนั้นเจ็บปวดใจ

จู่ซือซือยังไม่ทันได้เอ่ยปากพูด ปลายสายก็ได้กล่าว ต่อ “ผมจะไปจัดการธุระที่ซีเรีย ต้องใช้เวลานานสัก หน่อย ฝากพี่ดูแลแม่ด้วย แล้วก็ ฝากดูแลซือซือให้ดี ด้วยนะครับ”

“พี่ครับ ยังได้ยินอยู่มั้ย?”

“พี่ถังซินทำอาหารอยู่ในครัวน่ะ” จู่ซือซือตอบเขา “คุณคือใครหรอครับ?”

ชายหนุ่มปลายสายได้หายใจออกมาเฮือกหนึ่ง
การเว้นช่วงพูดเป็นเวลานานทำให้เธอไม่ค่อยชินเอา ซะเลย เธออดไม่ได้ที่จะถาม “ให้ฉันเอาโทรศัพท์ไปให้ พี่ถังซินมั้ย?”

“ไม่ต้องแล้วครับ” กวนชิงเฟิงยับยั้งเธอ พร้อมเอ่ย ถาม “เธออยู่ที่อาพาร์ทเม้นท์ของคุณมั้ย?”

“อะอืม พี่ถังซินซื้อของเอามาทำให้ฉันทานเยอะแยะ เลย” จู่ซือซือตอบกลับ ภายในใจรู้สึกแปลกชอบกล พวกเขาสองคนไม่รู้จักกัน แต่ทำไมคล้ายกับเธอรู้จัก เขามานานแสนนาน

กวนชิงเฟิงกล่าว “งั้นทานอาหารให้อร่อยนะครับ”

“แน่นอนค่ะ พี่ถังซินทำอาหารอร่อยมาก แต่ว่า……” จู่ซือซือหยุดอยู่ครู่หนึ่ง พร้อมกล่าวด้วยความสงสัย “ทำไมคุณถึงพูดแบบนี้ล่ะ คุณรู้จักฉันหรอ?”

“รู้จักสิ”

จู่ซือซือกล่าวอย่างไม่สบายใจ “แต่ว่าฉันไม่รู้จักคุณ นะ ฉันไม่รู้เลยว่าคุณรูปร่างหน้าตาเป็นยังไง”

“ไม่เป็นไร พวกเรารู้จักกันตอนนี้ก็ยังไม่สาย” ภายใน น้ำเสียงของชายหนุ่มแฝงไปด้วยความอบอุ่นและความ รักความผูกพันอย่างเปี่ยมล้น “ผมเป็นคุณผู้ชายใน อนาคตของคุณ ที่จะอยู่เคียงข้างคุณไปจนแก่เฒ่า”
“ถึงเวลาแล้ว ฉันต้องปิดโทรศัพท์ คุณจําเอาไว้ว่าทาน อาหารให้อร่อย แล้วรอผมกลับไป”

เมื่อรอให้สติของ ซือซือกลับคืนมา สายก็ถูกตัดไป

เสียแล้ว หลังจากผ่านไปครู่ใหญ่ จู่ซือซือก็มีการตอบสนอง

กลับมา เธอถลึงตาไปยังโทรศัพท์อย่างคาดไม่ถึง

“ผู้ชายในอนาคต……..ไม่ใช่สามีหรอกหรอ!”

คนๆ นี้แปลกเสียจริง ทำไมถึงจะมาเป็นสามีฉันล่ะ?”

แต่ว่าเพิ่งจะได้ยินชายหนุ่มกล่าวเช่นนั้น เธอไม่มี ความรู้สึกรังเกียจเลยแม้แต่น้อย แถมยังแอบหวังอยู่ ด้วยซ้ำ

จ่ซือซืออยากจะถือโทรศัพท์เดินไปถามถังซิน ขณะที่ กำลังเข้าไปยังห้องครัว เธอกลับเห็นทั้งสองคนกำลังมี ปากเสียงกัน “คุณจะเหลือครีบปลาไว้ทำไมกัน กินรึไง?” คุณจะ

“ก็ผมเพิ่งฆ่าปลาครั้งแรก จะไปรู้ได้ยังไงล่ะว่าต้องขูด ออกด้วย”

“ฉันทำเป็น ทำไมถึงไม่ถามล่ะ?”

“ก็ผมกำลังจะถามคุณ คุณก็ให้ผมไปหาในไป่ตู้(ไซต์) ในไป่ตู้ไม่ได้บอกหนิว่าฆ่าปลาต้องขูดออกด้วย”
จู่ซือซือตัดสินใจไม่เข้าไปรบกวน กลัวตัวเองจะโดน ลูกหลงจากทั้งสองคน

ด้านหนึ่งก็เดินกลับไปยังห้องรับแขก อีกด้านหนึ่งก็ คิดถึงสายโทรศัพท์ที่เพิ่งคุยสายนั้น

เขาเป็นใครกันแน่นะ?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ