ฉันเป็นสุดที่รักของประธานมู่! ?

บทที่538 พวกเขาตายยังไง



บทที่538 พวกเขาตายยังไง

หลี่ซูเจ๋นึกว่าคุณนายจ๋องโทรมาก็รับ

“คุณหลี่ซูเจ๋”พอโทรติด ปลายสายกลับไม่ใช่เสียง คุณนายจ๋องหรือจองซึง

ชัดเจนว่าไม่ใช่พวกเขาที่โทรมา

เห็นว่าปลายสายเรียกชื่อตัวเอง หลี่ซูเจ๋ก็ขมวดคิ้ว ถาม: “คุณคือใคร?

“ผมคือใครไม่สำคัญ ที่สำคัญคือสิ่งที่ผมจะ บอก”ผู้ชายที่อยู่ปลายสายหัวเราะในลำคอสองที่คุณ ใช้ชีวิตที่ประเทศYอย่างมีความสุขเหลือเกินนะ รู้ไหมว่า ลุงกับป้าคุณตายไปนานแล้ว? ”

“คุณพูดอะไรซ้ำซ้ำว! “หลี่ซูเจ๋ด่า”ฉันไม่รู้ว่าคุณรู้ชื่อฉัน ได้ไง แต่ฉันไม่รู้จักคุณ ลุงกับป้าฉันยังอยู่ดี ไม่ต้องมา ห่วงใยคนอื่นหรอก! ‘

“คุณหลี่”ชายคนนั้นลากเสียงยาว“ตอนนั้นคุณไม่ สงสัยเหรอว่าทำไมลุงคุณถึงโดนทำร้าย? ”

“หมายความว่าไง? ”

“ความหมายก็คือผมรู้ทุกอย่าง คิดว่าคุณหลี่ช่างน่า สงสารเลยอยากเอาความจริงมาบอกคุณ”ชายคนนั้นนิ่ง ไป เสียงหม่นๆนั้นอยู่ที่ข้างหูหล่อน
“คุณคงไม่รู้สินะ ก็ประธานลู่ให้ที่อยู่ให้พวกผมไปหา หลี่จิ่งผ่านถามเขาว่าคุณอยู่ไหน ประธานลู่ยังบอกพวก เราอีกว่า แค่ได้คำตอบมาก็พอ จะขู่เข็ญหลี่จิ่งผ่านยังไง ก็ได้หมด”

เขาถอนหายใจ : “เราก็ไม่อยากลงมือหนักมากไป หรอก แต่ว่าบอสสั่งมาก็ไม่มีทางอ่ะนะ ดูสิผมยังแอบส่ง ข้อความให้คุณมาด้วย ไม่งั้นลุงคุณก็จบเห่”

“เห้อ ผมก็แค่คิดไม่ถึงว่าป้าของคุณจะถูกรถชน เรื่อง นี้ไม่เกี่ยวกับพวกผมเลยนะ!

“ไร้สาระ! หุบปาก หุบปาก! “มือของหลี่ซูเจ๋ที่กำ โทรศัพท์ไว้แน่นก็สั่นและพูดไปอย่างเย็นชาว่า “ลุงกับ ป้าฉันมีคนดูแลดีแล้ว ไม่ต้องมาห่วงคนอื่นเขาหรอก”

หล่อนรีบวางสาย แต่เพราะคำพูดของเขาก็ยังทำให้ ในใจหล่อนตื่นตระหนก กลัวว่าจะเป็นจริง

หลี่ซูเจ๋อยากโทรหาถังซิน แต่สมองที่ยังงุนงงอยู่นั้น ทำให้ลืมเบอร์ไป

หล่อนจับโทรศัพท์พร้อมกับพยายามคิด แล้วจู่ๆ โทรศัพท์ก็สั่น

พอรับสายก็ยังเป็นเสียงของชายคนนั้นอยู่อีก: “คุณ หลี่ ในใจของผมเสียใจอย่างมาก โชคดีที่รู้เบอร์คุณ เลยโทรหาเพื่อบอกคุณ ถ้าไม่เชื่อก็หาเพื่อนที่เมือง หนานเฉิงไปสืบดู”
หลี่ซูเจ๋ถามอย่างเย็นชา : “ประธานลู่คือใคร? ”

“อย่าล้อเล่นน่า ประธานลู่คือใคร ทำไมให้เราไปบ้าน ลุงของคุณ คุณไม่รู้เหรอ?

ลู่เหวินซู?

หลี่ซูเจ๋วางสาย คิดว่าไม่มีทางเป็นไปได้

ถึงลู่เหวินซูจะหาหล่อนไม่เจอ แต่ไม่มีทางไร้จิตใจ ขนาดนั้นที่จะลงมือจัดการลุงกับป้าหล่อน

แต่หล่อนก็คิดว่าเมื่อก่อน ลู่เหวินซูเคยพูดจาร้ายๆ ข่มขู่หล่อนว่าถ้ากล้าหนีไปก็จะจัดการลุงกับป้า

“หลี่ซูเจ๋อย่าคิดว่าผมล้อเล่น ไม่มีอะไรที่ผมทำไม่ ได้!

ค่าพูดขู่เข็ญนั้นเหมือนอยู่ข้างหูหล่อน ทําให้หลี่ เจ๋ เย็นไปทั้งตัว เลยใช้เสียงเรียกผู้ช่วยเพื่อให้โทรหาจ๋อง ซึง มือสั่นไม่หยุด

หล่อนใช้แรงจิกนิ้ว บีบบังคับให้ตัวเองสงบลง รอจ๋อง ซึ่งรับสาย

“เป็นไรไป? ”

“คุณจ๋อง คุณ คุณช่วยฉันหาคนสองคนหน่อยสิ”พอ เห็นเขารับสาย หลี่ซูเจ๋ก็พูดไปทั้งที่สั่น“คนนึงชื่อหลี่จิ่งฝาน อีกคนชื่อ…..เลขบัตรประชาชนพวกเขาคือ……

จ่องซึงได้ยินเสียงผิดปกติของหล่อนก็รีบถามไป ว่า: “โอเคโอเค ผมจะให้คนรีบหา คุณโอเคหรือ เปล่า?

“ฉัน ฉันไม่เป็นไร”หลี่ซูเจ๋พยายามให้ตัวเองสงบ คุณ หาเจอต้องบอกฉันนะ”

จ๋องซึงปลอบหล่อน”ผมรู้ คุณใจเย็นๆนะ”

เมืองหนานเฉิง บริษัทลู่ซื่อ——

ผู้ช่วยที่มีความสามารถเข้ามาในห้องประธานเพื่อพูด กับชายที่ทำงานอยู่ว่า : “ประธานลู่ ยังคงไม่มีเงื่อนงำ ครับ”

“บ้าเอ้ย! “ลู่เหวินซูได้ยินก็ระเบิดออกมา เขวี้ยง ปากกาในมือใส่”ให้พวกนายหาผู้หญิงแค่คนเดียวยาก ขนาดนี้เชียว! จะไปทำไรได้! ”

ผู้ช่วยพยายามประนีประนอมพูดอย่างสุภาพว่า “เรา ยังหากันอยู่ ต้องหาเจอแน่ครับ”

ไปหาสิ มาหาฉันทำไม!

“มีเรื่องต้องคุยกับท่าน”ผู้ช่วยพูดอย่าง ระมัดระวัง”ตอนที่ผมหาหลี่ซูเจ๋ บังเอิญไปรู้ว่าลุงกับป้า ของหล่อนเสียแล้วครับ ส่วนเถ้ากระดูกถูกเก็บไว้ที่งานศพ”

ลู่เหวินซูมองเขา สีหน้าหม่นไปหน่อย พวกเขาตายยัง ไง? ”

“ได้ยินว่าป้าของคุณหลี่ถูกรถชนตายในที่เกิดเหตุผู้ ช่วยเห็นว่าลู่เหวินซูยังไม่โมโหอะไรก็รีบรายงานไป ว่า”ผมไปหามาแล้ว เพื่อนบ้านบอกว่าคืนนั้นมีคนไปบ้าน ลุงคุณหลี่ ทำร้ายเขา แต่ว่ากล้องวงจรปิดพังเลยไม่เห็น รูปร่างของคนพวกนั้น”

“ต้องจงใจทำแน่ๆ! “ลู่เหวินซูทุบโต๊ะอย่างแรง พูด อย่างหม่นหมองว่า: “ให้ตำรวจมาช่วย หากล้องของ ถนนอีกสาย ต้องหาให้เจอ!

ก่อนหน้านี้หลี่ซูเจ๋ก็ใช้โทรศัพท์ของเขาและยังโอน เงินให้อีก เขารู้นานแล้วแต่ไม่พูดอะไร คิดว่าลุงกับป้า หล่อนน่าจะไปต่างประเทศนานแล้วเลยไม่สนใจ

คิดไม่ถึงว่าจู่ๆสองสามีภรรยาจะตาย

ข่าวของผู้ช่วยนี้ทำให้ทั้งวันของลู่เหวินซูหงุดหงิดไป หมด แล้วก็มีความคิดเข้ามาว่าผู้หญิงคนนั้นไม่รู้ว่าลุง กับป้าหล่อนตายนานแล้วหรือไง ทำไมไม่กลับมาที่เมือง หนานเฉิง?

ในขณะที่หงุดหงิดอยู่นั้นก็มีสายโทรเข้ามา

“เหวินซู ตอนดึกมาเจอกันที่คลับหน่อยสิ! “จ๋องซึงพูดอย่างขำขัน”มีอะไรจะคุยด้วย จ่ายแพงนะต้องพอใจ แน่ๆ! ”

“คุยห่าไร ไม่มีอารมณ์!

“อ๊า อย่าแบบนี้สิ ไม่มีความสุขแต่ก็ต้องทำงานนะ ดูสิ นายยังเอารูปฉันไปเลย”

ลู่เหวินซูหัวเราะในลำคอ: “ฉันเอารูปนายไป แล้ว

นายไม่เอาเงินหรือไง?

“รูปนั่นวาดโดยศิลปินระดับสูง มีค่ากว่าใดๆ! “จองซึ่ง บ่นอย่างไม่พอใจว่า”อีกอย่างตอนที่นายเมาก็เป็นฉันที่ แบกนายกลับ เราไม่ใช่เพื่อนกันหรือไง บอกมาซิ!

“หุบปากเหอะ! “ลู่เหวินซูหงุดหงิดเลยพูดออกไป อย่างทนไม่ไหว: “เดี๋ยวดึกๆไป!

จ๋องซึงหัวเราะเหอเหอ”โอเคครับคุณชาย เดี๋ยวผม

รอ”

พอจัดการเรื่องเสร็จ ทุ่มครึ่งลู่เหวินซูก็ออกจากบริษัท ไปที่คลับ

จ๋องซึงก็พาแขกมาถึงพอดีเลยพาไปทานข้าว พอเห็น ข้อความว่าลู่เหวินซูมาถึงแล้วก็ไปรับแล้วแนะนำให้แขก รู้จัก

พอแขกที่มารู้จักลู่เหวินซู ทั้งสองก็ทักทายกัน ทานข้าวเสร็จก็ไปคุยธุระกันที่ห้องส่วนตัว

หลังจากที่ลู่เหวินซูได้ยินก็สนใจความร่วมมือนี้ ทั้ง สองพูดรายละเอียดกันแล้วตัดสินใจว่าวันพุธจะมาเซ็น สัญญากัน

จากนั้นก็ดื่มกินอย่างอย่างสนุกสนาน

หลังจากที่อ๋องซึงคุยกับพวกเขาเสร็จก็ไปหาลู่เหวินซู ส่งสายตาใส่เขา “เป็นไงบ้าง ฉันมีค่าพอไหม? มีเงินก็มา แบ่งนาย ดีจริงๆ!

ลู่เหวินซูยิ้มอย่างเย็นชา”ดีแต่พูด! ”

“ฉันเป็นเพื่อนนายนะ นายอย่าทำงี้สิ! “จ๋องซึงจับ ไหล่เขา “เอาเหมือนเดิม? ”

ลู่เหวินซูสลัดมือเขาออกพูดอย่างทนไม่ไหวว่า: “รู้ แล้ว!

“ชนเพื่อความเป็นเพื่อนของเรา!

ใบหน้าของจ๋องซึงยิ้มจนหูฉีก แม้ว่าลู่เหวินซูจะไม่สน ก็เอาแก้วไปชนกับเขาหน่อยนึง

จ๋องซึงเพิ่งดื่มไปสองแก้ว โทรศัพท์ในกระเป๋าก็สั่น

พอหยิบโทรศัพท์ออกมาก็เห็นข้อความเข้า สีหน้าก็ เปลี่ยนไปทันทีเลยขอตัวออกไปก่อน
พอออกจากห้องนั่นแล้วหามุมเงียบๆได้ก็โทรหาหลี่ซู

เจ๋

แปปนึงโทรศัพท์ก็รับ มีเสียงที่ร้อนรนของหลี่ซูเจ่เข้า มา: “คุณจ๋อง คุณหาเป็นไงบ้าง? “


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ