ฉันเป็นสุดที่รักของประธานมู่! ?

บทที่ 132 ลอบฆ่า ห้องคนไข้



บทที่ 132 ลอบฆ่า ห้องคนไข้

หลังจากที่บริษัทมู่ชื่อพลิกจากร้ายกลายเป็นดี ถังซินก็ รู้สึกผ่อนคลาย เพียงแค่เป็นผู้ทำหน้าที่แทนประธาน ทุกวัน ต้องดูอีเมลนับสิบฉบับ ออกเอกสารสั่งการ แถมยังต้องเรียน หาความรู้เกี่ยวกับการเงินที่เข้าใจได้ยาก ทำให้เธอยากที่จะ รับได้

แม่ของถังซินไม่ค่อยที่จะได้เล่นโทรศัพท์ หลังจากที่เห็น ข่าวแล้ว ก็รีบโทรศัพท์หาถังซิน

“ลูกเขยไม่เป็นไรใช่มั้ย?”

“ แม่ ไม่ใช่ลูกเขยของแม่ อย่าเรียกซี้ซัว” ถังซินจนปัญหา ที่จะแก้ไขคำพูดของแม่ “ประธานมู่เป็นเจ้านายฉันจริงๆ เขา ยังนอนอยู่ที่โรงพยาบาล หมอบอกมาสถานการณ์ดีขึ้นแล้ว เดี๋ยวเย็นๆฉันจะไปดูประธานมู่

แม่ของถังซินเหมือนไม่ได้ฟังที่เธอพูด เพียงแค่พูดขึ้น ว่า “ฉันดูแล้ว เค้าเป็นคนที่ดีมากเลยนะ เปิดบริษัทของตัว เองใช่มั้ย? ถ้าเขายินยอมรับที่ลูกเคยหย่า ถ้าอย่างนั้นก็เป็น กำไรของลูกแล้ว”

“ถ้าลูกไม่มีธุระอะไรทำ ก็ไปโรงพยาบาลบ่อยๆ ฉันเห็นว่า ลูกเขยเปิดบริษัทเป็นของตัวเอง ผู้หญิงที่ชอบเขาคงมีไม่ น้อย ลูกระวังเถอะคนอื่นจะคว้าเอาไป เอาหล่ะไม่พูดละ ลูกอย่าลืมติดต่อกับน้องสาวนะ มีเวลาก็กลับมากินข้าวด้วยกัน”

จากนั้นโทรศัพท์ก็ถูกตัดสายลง

ตั้งแต่เริ่มคุยกันไม่ถึงสองนาที เธอถูกแม่วางสาย โทรศัพท์ใส่ และเรื่องที่คุยล้วนแล้วแต่เกี่ยวกับมู่เฉินหย่วน ทําเหมือนกับว่าเธอไม่มีตัวตน

ถังซินทอดถอนหายใจ

รู้อยู่แล้วว่าวันนั้นไม่น่าเอาเฉินหย่วนที่เมาเหล้าอยู่กลับ ไปบ้าน ไม่อย่างนั้นแม่ก็คงไม่คิดไปเองขนาดนี้

เมื่อถึงเวลาเลิกงานในช่วงบ่าย ถังซินยังทำเอกสารสั่ง การอยู่ หลี่ซูเจ๋ส่งวีแชทมาหาเธอ บอกเธออย่างตื่นเต้นว่า โรงเรียนของกวนชิงเฟิงปิดเทอมแล้ว พวกเขาวางแผนที่จะ นัดพบกัน

ถังซินก็ยังเชียร์กวนชิงเฟิง ถึงแม้ว่าจะเป็นผู้ชายตรงไป ตรงมา แต่ว่ารูปร่างดีและฉลาด ก็ดูว่าพวกเขาจะเข้ากันได้ มั้ย

หลังจากที่ตอบแชทหลี่ซูเจ๋แล้ว ถังซินก็ขลุกอยู่กับงาน

รอให้คนของแผนกความเสี่ยงมาส่งเอกสาร เมื่อเขาถาม ว่าเธอหิวข้าวมั้ย ถังซินจึงพบว่านี่มันสามทุ่มกว่าแล้ว เธอจัดเก็บเอกสารเรียบร้อยและไปที่โรงพยาบาล

ถังซินไม่ค่อยได้ไปโรงพยาบาล แต่เธอติดต่อทางวีแช ทกับลู่เหวินซูตลอด ได้รู้จากเขาว่ามู่เฉินหย่วนนั้นร่างกาย ฟื้นตัวดีขึ้น แต่การฟื้นตื่นขึ้นมายังเป็นปัญหาระหว่างนี้

“คุณถัง”

“คืนนี้คนเฝ้าไข้คือเย่นจิ้งเหนียน” เขาทักทายถังซินที่เดิน เข้ามา

ถังซินพยักหน้า มองไปที่มู่เฉินหย่วนที่นอนอยู่บนเตียง คนไข้ ในใจรู้รู้สึกแปลๆ มีความกลัวและความผิดหวัง “นี่ก็ ผ่านมาสองอาทิตย์กว่าแล้ว หมอยังไม่บอกเวลาที่แน่นอนที่ ประธานมู่จะสามารถฟื้นขึ้นมาได้หรอ?”

“เรื่องนี้คุณหมอก็ยังวินิจฉัยไม่ได้” เย่นจิ่งเหนียนพูดขึ้น เขาดูออกว่าถังซินนั้นกังวลใจ จึงพูดปลอบขึ้นว่า “คุณถังไม่ ต้องกังวลเลยจริงๆ พี่รองของผมไม่เป็นอะไรหรอก”

เย่นจิ่งเหนียนลากเก้าอี้หนึ่งตัวมาให้ถังซินนั่ง และเทน้ำ อุ่นให้เธอหนึ่งแก้ว “ฉันดูข่าวแล้ว คุณถังทำงานได้อย่าง ว่องไวมาก จัดการเรื่องของบริษัทมู่ซื่อได้ดีมาก”

“คุณก็ชมฉันเกินไป บริษัทมู่ซื่อสามารถพ้นวิกฤติกลับมา ดีได้ ก็ไม่ใช่เป็นคุณงามความดีของฉันคนเดียว” ถังซินพูด ขึ้น สายตาอดไม่ได้ที่จะชำเลืองมองไปที่เตียงคนไข้ “หมอ ได้บอกเรื่องขาของประธาน…ว่าสามารถกลับมาฟื้นคืนสู่สภาพเดิมได้มั้ยคะ”

เย่นจิ้งเหนียนลังเลใจอยู่ซักครู่

แผนการทั้งหมดของมู่เฉินหย่วนมีเพียงพวกเขาสี่คน เท่านั้นที่รู้ แม้แต่ท่านมู่ก็ยังไม่ให้รู้ หลังจากที่เขากลับมา ได้เห็นที่ถังซินได้ทำในแต่ละเรื่องกับตา เธอคือผู้หญิงที่มี ความสามารถและคุ้มค่าที่จะเชื่อใจ

เขาอยากที่จะบอกบางเรื่องกับถังซินมากๆ ให้เธอไม่ต้อง ถึงกับตำหนิตัวเอง แต่ก็เข้าใจว่าแผนการนี้ที่ไม่บอกถังซิน น่าจะต้องมีเหตุผลแน่นอน ดังนั้นไม่สามารถที่จะพูดได้

“คุณเย่น” เมื่อเห็นเย่นจิ้งเหนียนตอบตัวเองช้า เสียงของ ถังซินก็มีความตึงเครียดมากขึ้น หรือว่าคำพูดที่คุณหมอบ อกนั้นแย่มาก “ขาของประธานมู่แย่แล้วจริงๆหรอ? ”

เย่นจิ่งเหนียนทำได้แค่เพียงพยักหน้า เจตนาพูดด้วย เสียงต่ำกว่า “โดยภาพรวมแล้วแย่มาก แต่ว่าคุณไม่ต้อง กังวล เพียงแค่รอให้พี่รองตื่นก็จะบอกได้ การแพทย์ของ ประเทศDนั้นก้าวหน้า ผมก็มีเพื่อนที่รู้จัก ยังไงก็สามารถ รักษาสองขาของพี่รองได้

ถัง นมองตาละห้อย

เธอรู้ว่าเย่นจึงเหนียนกำลังปลอบใจเธออยู่ บาดเจ็บที่ ขา สามารถรักษาได้ง่ายขนาดนั้นเลยหรอ บนโลกนี้คงจะ มีคนไม่มากที่อยากอาศัยรถเข็นในชีวิตประจำวัน แต่ว่าเธอจําเป็นที่จะต้องเชื่อ

เป็นเพราะว่ามีคำพูดโกหกอยู่ เธอถึงไม่กังวลและตำหนิ ตัวเองมาก

เย่นจิ้งเหนียนรับโทรศัพท์ พูดกับถังซินิดหน่อยแล้วก็ เดินออกไป จากนั้นไม่นาน ประตูห้องคนไข้ก็ถูกเคาะ เป็น พยาบาลที่เข็นรถเล็กๆมายืนอยู่ที่ด้านนอก

พยาบาลได้เอ่ยขึ้นว่า “ฉันมาเปลี่ยนยาให้กับประธานมู่

ถังชินหลีกทางให้พยาบาลเข้ามา

เมื่อพยาบาลคนนั้นได้เข็นรถมาที่ข้างเตียงคนไข้ แต่ไม่ ได้ระวัง อีกนิดเดียวก็จะดึงสายกลูโคสตกลงมา

พยาบาลประคองรถเสร็จแล้ว ก็พูดกับถังซินที่ยืนอยู่ข้างๆ “ในนี้ค่อนข้างมืด เลยไม่ได้ระวัง”

คําพูดของเธอทําให้ถังซินไม่สบายใจ จึงมองหน้าดูที่ หลอดไฟ ในห้องเปิดหลอดไฟแสงสีนวลในระดับแสงที่ต่ำ แต่แสงไฟก็ทำให้ทั้งห้องสว่าง ไม่ถึงขนาดที่จะบอกว่ามืด

ถังซินมองไปทางที่เตียงคนไข้ ท่าทางเปลี่ยนยาของ พยาบาลนั้นคล่องแคล่ว แต่ดูเหมือนแสร้งทำออกมา หัวเข็ม น่าจะง่ายต่อการเปื้อนเชื้อโรคมากที่สุด แต่มือของเธอยัง สัมผัสไปที่หัวเข็มโดยตรง
พยาบาลคนนี้เป็นพยาบาลฝึกหัดหรอ?

ถังซินยิ่งดูก็ยิ่งคิดว่าพยาบาลคนนี้ไม่ชำนาญ จึงมองไปที่ ชุดพยาบาลของเธอ จากนั้นก็ชะงัก

เธอไม่ค่อยได้มาโรงพยาบาล แต่ก็รู้ว่าพยาบาลที่กำลัง ฝึกงาน จะใส่ชุดและรองเท้าพยาบาลเหมือนกัน แต่ว่า พยาบาลคนนี้ใส่รองเท้าหนังเล็กๆ

เมื่อถังซินพบว่าพยาบาลคนนี้ผิดปกติ เมื่อมองไปที่ พยาบาลก็เห็นเธอหยิบซองหลอดฉีดยาขึ้นฉีก และจะแทง เข้าไปที่คอของมู่เฉินหย่วนอย่างแรง

พยาบาลกระทำอย่างเร็วและแรง ถังซินห่างออกมาจาก เตียงคนไข้หน่อย เธอร้อนใจจนเหงื่อแตกไปทั้งตัว ชำเลือง เห็นกาน้ำที่ต้มวางอยู่บนโต๊ะ เธอจับและสาดออกไป

ฝาของกาน้ำร้อนเปิดออก น้ำที่ร้อนสุกได้สาดไปที่หลัง ของพยาบาลทั้งหมด

อ๊ะ! พยาบาลร้องเสียงสูง แขนได้ตกลง เข็มทิ่มเข้าไปที่ บนผ้าปูที่นอน ถังซินฉวยโอกาสในช่วงเวลาไม่กี่วินาทีโผ เข้าไปล็อกคอจากข้างหลังดึงไว้

นี่คือการที่เมื่อก่อนเวลากลับบ้านไปกินข้าว กวนชิงเฟิงจะ สอนเธอกับกวนหลิงเอ๋อ ให้พวกเธอปกป้องตัวเอง ถังซิน เห็นน้องชายจริงจังกับการสอนขนาดนี้จึงเรียนมาสองวิธี
คิดไม่ถึงว่าวันนี้จะได้เอามาใช้กับสถานการณ์จริง

ถังซินคาดว่าพยาบาลคนนี้ปลอมตัวมา ไม่ใช่พยาบาลที่ ถูกฝึกมาเหมือนที่เธอคิด ถูกเธอดึงล็อกคอจากข้างหลังไว้ ไม่นานก็ตอบโต้ เธอเอาเท้าถีบไปที่เข่าของถังซิน

ถังซินเข่าอ่อนแรงแทบจะทรุดลงไป แขนยังคงกดที่คอ ของพยาบาลคนนั้นไว้ หลังจากที่พยาบาลรู้สึกหายใจไม่ ออกการกระทำก็เลยเริ่มบ้าบิ่นขึ้น

มือจับไปที่รอบๆ และพบเจอหลอดฉีดยาที่ยังมีอยู่ เธอจะ ทิ่มเข้าไปในตัวของถังซิน

ทั้งสองคนล้มลงไปที่พื้นและต่อสู้กัน

“เข้ามาหน่อย รีบเข้ามา!”

ถังซินเปล่งเสียงเรียก หวังว่าบอดี้การ์ดข้างนอกจะได้ยิน แขนถูกเข็มฉีดยาแทงเป็นรูเล็กหลายรู เลือดสดๆไหลหยด ออกมา ทั้งเจ็บทั้งอ่อนแรง และค่อยๆเริ่มที่จะค้ำไว้ไม่อยู่

ทั้งสองขาของเธอล็อกพยาบาลไว้ที่เอว และออกแรง หยิบกาต้มน้ำที่ตกอยู่บนพื้นเก็บขึ้นมา และทุบไปที่หัวของ พยาบาลอย่างแรง พยาบาลถูกตีไปสองครั้งก็เริ่มใช้ไหว พริบในการที่จะหลบ

ถึงแม้ถังซินจะได้เปรียบขนาดไหนก็สู้พยาบาลที่มีทักษะ กังฟูไม่ได้ ขาเธอถูกขาของพยาบาลจับบิด เสียงแตกร้าวก็หักลง เธอร้องเจ็บออกมา ทั้งหัวเต็มไปด้วยเหงื่อ

พยาบาลพลิกตัว เขาม้วนกดตัวถังซินไว้ หายใจหอบออก มาอย่างหนัก

“นังผู้หญิงน่ารังเกียจ คิดที่จะฆ่าฉันหรอ?”

พยาบาลจับเข็มฉีดมาขึ้นมา รวบจับไปที่หัวเข็มและ ต้องการที่จะฆ่าถังซินโดยการที่จะแทงเข้าไปที่คอของถัง ซินให้แรง

ถังซินฉวยโอกาสตอนเอียงหัว ทุ่มแรงและคิดที่จะจับแขน ของพยาบาลไว้ คิดไม่ถึงว่าเมื่อพยาบาลเห็นว่าแทงเข้าไป ไม่สำเร็จ จึงแสยะยิ้ม และฉวยโอกาสเอาหัวเข็มขัดไปที่ หน้าของเธอ

ถังซินสั่นไปทั้งตัว เจ็บจนร้องเสียงแหลมออกมา


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ