ฉันเป็นสุดที่รักของประธานมู่! ?

บทที่ 322 ความจริงช่างโหดร้าย



บทที่ 322 ความจริงช่างโหดร้าย

หลินเฉิงจื่มองไปที่กลีบดอกไม้ที่ตกอยู่บนพื้น ริม ฝีปากสั่นเครือ “พ่อบอกว่าคุณชอบดอกคาเมลเลียมาก ที่สุด…

ดังนั้นหลายสิบปีที่ผ่านมา เขาก็ชอบดอกคาเมลเลีย เหมือนกัน

แต่ทำไม?

“ดอกไม้ที่สกปรกแบบนี้ มีเพียงแค่พ่อเธอที่ชอบ!” โม มอยอี้พูดอย่างเกลียดชัง เธอเห็นหลินเฉิงจื่มีท่าทีเช่น นี้ เหมือนกับไม่รู้เรื่องที่ผ่านมาเลยแม้แต่น้อย ในใจก็ยิ่ง โกรธเกลียด

โมมอยอี้เอ่ยถามอย่างเย็นชา “พ่อนายพูดอะไรเกี่ยว กับฉันให้นายฟังบ้าง?”

ความเย็นชาและโหดร้ายของเธอทำให้ใจของหลิน เฉิงจี๋เจ็บปวด จึงกำหมัดไว้แน่น หลินเฉิงจี้พูดด้วยเสียง เบาๆขึ้นว่า “พ่อบอกว่าคุณคือผู้หญิงที่สวยที่สุดที่เขา เคยเจอมา เขารักคุณมาก แทบอยากจะเอาทุกอย่างบน โลกนี้ให้กับคุณ”

“ฮาฮาฮา ผู้ชายเลวคนนี้ คิดไม่ถึงเลยว่าจะสามารถ พูดครอบงำจิตใจได้อย่างยืนหยัดความถูกต้อง!” รอย ยิ้มของโมมอยอี้นั้นแสดงออกถึงความเวทนา เธอเขยิบ เข้าไปใกล้ตรงหน้าของหลินเฉิงจี๋ ใช้แววตาที่โหดร้ายจ้องมองเขา

“ที่พ่อนายพูดนั้นล้วนแต่โกหกทั้งนั้น! เขาเจอฉันและ ชอบฉันที่งานปาร์ตี้ บีบบังคับและจับฉันมัดเพื่อที่จะเอา ฉันกลับ! ฉันบอกเขาแล้วว่าฉันมีสามี มีลูก พูดอย่างไร เขาก็ไม่ฟัง กักขังฉันไว้ให้อยู่ข้างกายเขา

โมมอยอี้สั่นเครืออย่างแรงไปทั้งตัว เธอหลับตา “ฉัน ขอร้องเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพียงแค่เขาปล่อยฉันไป จะยัง ไงก็ได้ ฉันไม่แจ้งความจับเขาแน่นอน แต่เขาก็ไม่ยอม

เขาใช้อำนาจคุกคามสามีและลูกของฉัน อยากให้ฉัน แต่งงานกับเขา ไม่อย่างนั้นจะฆ่าพวกเขา ฉันคิดว่าแค่ ทําตามที่เขาพูด เมื่อเขาชนะแล้วก็จะปล่อยไป ใครจะ ไปรู้ว่า…”

เธอจ้องมองหลินเฉิงจื่อย่างเกลียดชัง และพูดอย่าง โกรธแค้นว่า “คิดไม่ถึงว่าฉันจะท้อง ฉันระมัดระวังเป็น อย่างมากขนาดนั้น คิดไม่ถึงว่าจะท้องไอ้ลูกชั่วช้าอย่าง นาย!”

“นายรู้มั้ยว่าฉันอยากจะฆ่านายมากขนาดไหน? ฉัน เกลียดจนอยากที่จะเอาเลือดในตัวฉันไหลออกมาให้ หมด! พอคิดว่ากำลังท้องลูกของผู้ชายประเภทนั้น ฉัน รู้สึกสะอิดสะเอียน ตายไปซะยังจะดีกว่า!”

เธอเกลียดชังมากจริงๆ แทบอยากจะตายไปพร้อม กับลูกคนนี้
แต่ผู้ชายคนนั้นกลับสืบหาการเคลื่อนไหวของเธอ ทุกก้าว หลังจากที่รู้ว่าเธอท้องก็ดีใจเป็นอย่างมาก ส่ง คนใช้เป็นสิบคนมาคอยดูแลข้างๆเธอ เธออยากที่จะฆ่า ตัวตายก็ทำไม่ได้!

คำพูดขอเธอแต่ละคำนั้นทิ่มแทงใจ ทิ่มแทงจนสภาพ จิตใจของหลินเฉิงจี๋พังยับเยิน ร่างกายที่สูงใหญ่ของ เขาส่ายไปมาจนแทบจะร่วงหล่นลงไป

หลินเฉิงจื่ถอยหลังออกไปสองก้าว ภาพความดีใจมี ความสุขที่เฝ้ารอคอยที่จะพบแม่ก่อนหน้านี้ก็ได้พังยับ เยินหมดสิ้น เขาแทบอยากจะคิดว่าไม่เคยมาเจอเธอที่นี่

ลูกกระเดือกของหลินเฉิงจี่ขยับไปมา ริมฝีปากสั่น เครือ “จดหมายพวกนั้นที่คุณให้ผม…

จดหมายพวกนั้น เป็นเหมือนความรักที่ประคับ ประคองให้ชีวิตของเขามีกำลังใจ

โมมอยอี้ยิ้มหัวเราะอย่างเย็นชา และพูดอย่างโหด ร้ายไร้ความปราณี “ตอนที่นายยังไม่เกิด ฉันอยากที่จะ ฆ่านาย หลังจากที่คลอดแล้ว เมื่อเห็นดวงตาทั้งสองคู่ ของนาย ฉันยิ่งอยากจะบีบคอนายให้ตาย แล้วฉันจะ เขียนจดหมายให้ลูกชั่วช้าอย่างนายได้ยัง?”

“ตั้งแต่เล็กๆนายคงจะใช้ชีวิตอยู่กับฝันหวานที่พ่อนาย ได้ถักทอขึ้นหล่ะสิ! ฉันจะบอกนายให้นะ ฉันมีสามี มีลูก ฉันรักพวกเขา ต่อให้นายจะเกิดออกมาจากท้องของฉัน ก็เป็นได้แค่เพียงลูกชั่วช้า!”
หลินเฉิงจี่รู้สึกเหมือนได้ยินเสียงใจสลาย เหมือนกับม อะไรถล่มเข้ามา

เขาเกิดมามีชื่อเสียงและอำนาจที่ยิ่งใหญ่ อยากได้ อะไรก็มีหมด เป็นเด็กที่เพียบพร้อมแทบจะทุกอย่าง แต่ ว่าสิ่งเหล่านี้ เป็นฝันหวานที่พ่อเขาถักทอขึ้น และยังเป็น สิ่งที่เขาเพ้อฝันไปเอง

แม้แต่ขอทานข้างถนนเขาก็ยังเทียบไม่ได้!

หลินเฉิงจี่ยิ้มหัวเราะออกมาอย่างทันที สีหน้าท่าทาง หงอยเหงาเศร้าโศก ที่แท้ทุกอย่างก็เป็นความฝัน…มัน ไม่ใช่ฉันซักอย่าง

โมมอยอี้พูดด้วยความคับแค้นใจ “ถ้าไม่ใช่เพราะพ่อ ของนาย ฉันคงไม่แยกจากสามีและลูก! ถ้าไม่ใช่เพราะ เขา ฉันคงจะไม่ถูกทำร้ายจนเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ และกลายเป็นเหมือนกับผีแบบตอนนี้หรอก!”

เธอช่างไร้เดียงสาเหลือเกิน! แค่อยากปกป้องสามี และลูก ให้ชีวิตเต็มไปด้วยความสุข ผู้ชายคนหนึ่งใช้ อำนาจและอิทธิพลแย่งชิงเธอมา หลังจากที่ถูกไฟ คลอกจนเสียโฉมและได้ถูกช่วยชีวิตไว้ ก็ได้เข้าไปใน ชีวิตของผู้ชายอีกคนที่มีอำนาจชั่วร้าย เขาให้คนทำ ศัลยกรรมให้เธอ เอาตัวเธอที่สูญเสียความทรงจำปั้นให้ เป็นคนใหม่ จากนั้นก็แต่งงานกับเขา ใช้ชีวิตอยู่กับเขา และมีลูกให้เขา

ถ้าไม่ใช่เพราะว่ารู้จากคุณหมอว่าตนเองมีก้อนเลือดคั่งในสมอง ทำให้เส้นประสาทถูกกดทับไว้ จึงสูญเสีย ความทรงจําที่ผ่านมา เธออาจจะลืมสามีและลูกแล้ว ก็ได้ และใช้ทั้งชีวิตไปอย่างโง่เขลา

เมื่อนึกถึงเรื่องนั้นโมมอยอี้ก็โกรธจนตัวสั่น ยิ่งมอง หลินเฉิงจี่ที่อยู่ตรงหน้าก็ยิ่งเจ็บปวดทุกข์ทรมาน

แทบอยากจะให้เขาไปตายซะ!

โมมอยอี้ชำเลืองไปเห็นมีดโลหะเงินเล็กๆที่อยู่บนโต๊ะ อาหาร แสงจากข้างนอกหน้าต่างสาดส่องเข้ามาที่มีดจึง เกิดการสะท้อนแสงเล็กน้อย ซึ่งทำให้แลดูคมกริบ

ในหัวของเธอถูกความเกลียดชังครอบงำ จึงหยิบมีด เล่มนั้นขึ้นมาอย่างไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย และทิ่มแทง อย่างแรงไปทางหัวใจของหลินเฉิงจี๋ หลินเฉิงจี่ยังคงไม่ ป้องกันตัว

มีดหั่นสเต็กที่ดูเหมือนจะไม่คม แต่ปลายมีดกลับ แหลมคมมาก

มีดเล็กแทงทะลุเสื้อเชิ้ตสีขาวที่อยู่บนตัวของหลินเฉิง จี๋ แทงเข้าไปข้างในผิวหนังและเนื้อ ความเจ็บทำให้เขา ร้องออกมา เลือดที่อุ่นพุ่งทะลักมาที่บนใบหน้าของโม มอยอี้

มือของโมมอยอี้ไม่มีความสั่นแม้แต่นิดเดียว สีหน้า เย็นชาไร้ความรู้สึก เธอดึงมีดออกมาและแทงเข้าไป อย่างแรงอีกครั้ง
แทงซ้ำไปซ้ำมา

เมื่อแขกคนอื่นๆในร้านอาหารเห็นเหตุการณ์ ก็ต่างพา กันกรีดร้องอย่างตื่นตกใจกลัว และวิ่งหนีแตกตื่นออก ไปทุกทิศทาง เมื่อพนักงานเสิร์ฟเห็นโมมอยอี้มีท่าทางที่ บ้าบิ่น ก็ยืนหยุดชะงักอยู่ตรงนั้น ไม่กล้าที่จะก้าวออกมา

ความรู้สึกเจ็บปวดที่ขยายออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจ ทำให้หลินเฉิงจี่ค่อยๆที่จะไม่รับรู้ถึงความเจ็บจากมีดที่ ทิ่มแทง เขามองเห็นเพียงแค่ใบหน้าที่เต็มไปด้วยเลือด ของโมมอยอี้กำลังจ้องมองเขาอยู่ แววตาเต็มไปด้วย ความรังเกียจ

บางทีอาจจะเป็นการระบายความแค้นทั้งหมดใน จิตใจออกมาอย่างเต็มที่แล้ว ในที่สุดโมมอยอี้ก็หยุดลง

เธอเอามีดเล็กทิ้งลงบนพื้น จ้องมองหลินเฉิงจี๋ที่ ใบหน้าซีดเซียวและเต็มไปด้วยเลือดทั้งตัว และพูดเน้น ย้ำอย่างชัดเจนว่า “นายมันคือไอ้เด็กชั่วช้า ไม่คู่ควรกับ ความรักของพ่อแม่ ฉันก็จะไม่ยอมรับว่านายเกิดมาจาก ท้องฉัน”

“จนกระทั่งฉันอยากที่จะให้นายตายไปซะตอนนี้!” เมื่อพูดจบ เธอก็หันตัวและเดินออกไป

หลินเฉิงจี๋เหมือนกับเป็นกองขยะที่ส่งกลิ่นเน่าเหม็น เมื่อมองมากๆแล้วทำให้เธอรู้สึกสะอิดสะเอียน

เธอไม่ชอบดอกคาเมลเลีย…เธอไม่เคยเขียนจดหมายหลินเฉิงจี่เอามือจับไปที่โต๊ะ ร่างกายจะล้ม ล้มแหล่ แววตาค่อยๆมืดสลัวไร้แสง

ความเชื่อในจิตใจนั้นพังทลายลงมา

เธอเกลียดพ่อ และก็เกลียดฉันด้วย…เธอคิดว่าฉันเป็น ไอ้เด็กชั่วช้าคนหนึ่ง เขาพูดพึมพำ และเสียงก็ค่อยๆเบา ลง เธอมีสามีและลูกของตัวเอง…

แสงข้างนอกหน้าต่างสาดส่องมาที่เขา แต่เขากลับ รู้สึกหนาวไปทั้งตัว เหมือนกับโดนแช่แข็ง

ในใจก็เช่นกัน

ถูกแช่แข็งจนเหมือนกับจะหยุดเต้นแล้ว

แขนของหลินเฉิงจี่กำลังสั่นไหว เขาไอออกมาอย่าง หนัก ลำคอรู้สึกมีรสหวาน จากนั้นก็พ่นเลือดออกมาที่ บนโต๊ะ สมองเหมือนกับกำลังสั่นสะเทือน รู้สึกเจ็บปวด ทรมานมาก

แขนของเขาไม่ได้กดโต๊ะไว้ เขาล้มเอียงไปข้างหลัง กระแทกไปบนแผ่นกระเบื้องสไตล์ยุโรปสีเทา แต่กลับ ไม่รับรู้ถึงความรู้สึกเจ็บใดๆ

ตรงหน้าพร่ามัว

ที่แท้ ทุกอย่างก็คือความฝัน
หลังจากที่รับโทรศัพท์จงเซิง ได้ยินว่าหลินเฉิงจี่หาย ไป ในใจถังซินก็คิดถึงเรื่องนี้ตลอด

ก่อนหน้านี้เมื่อแยกจากกันที่เมืองหางซี เธอก็รู้สึกว่า หลินเฉิงจี๋ดูแปลกๆ ต่อมาก็ที่บนเรือสำราญ คำพูดที่เขา พูด การกระทำพวกนั้น ล้วนแล้วแต่ดูแปลกประหลาด

ในขณะที่นอนอยู่บนเตียงในตอนกลางคืน เธอนอนไม่ หลับจึงพลิกไปพลิกมา

ถังซินคิดแล้วคิดอีก ก็ยังรู้สึกเป็นห่วง จึงหยิบ โทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายหาเบอร์ของหลินเฉิงจี๋ คาดว่า เขาคงจะไม่รับสายโทรศัพท์ แต่คิดไม่ถึงว่าจะเป็นเบอร์ ที่ไม่สามารถติดต่อได้

เขายกเลิกเบอร์ไปแล้วหรอ?

ถังซินลังเลใจอยู่สักครู่ อยากที่จะต่อสายหาจงเซิง ยังไม่ทันที่จะได้หาเบอร์ ก็มีเบอร์โทรศัพท์เบอร์หนึ่งต่อ สายเข้ามา

เป็นมู่เฉินหย่วน

ถังซินกดเลื่อนหน้าจอเพื่อรับสาย และพูดอย่างทุกข์ ใจขึ้นว่า “ไอ้แก่ กลางวันส่งผู้ช่วยจางมาเฝ้าฉันยังไม่ พออีกหรอ ตอนเย็นยังต้องโทรศัพท์มาควบคุมดูแลใช่ มั้ย?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ