ฉันเป็นสุดที่รักของประธานมู่! ?

บทที่493 พูดมาก



บทที่493 พูดมาก

คนรับใช้ผู้หญิงเห็นว่าถังซินจะพาออกไป ก็อยากเข้า มาแย่ง

คนเดียวไม่มีทางสู้สามคนได้ สุดท้ายก็ถูกจู่ซือซือมัด ไว้ที่ห้องรับแขก

พอออกมาจากวัง ถังซินก็ขับรถไปสนามบินแล้วพู ดกับซือซือ : “ซือซือ เธอรู้จักคนเยอะ ติดต่อกับคนที่ สนามบิน เหมาลำพาสาวสวยไปต่างประเทศ”

“ไปต่างประเทศ? “หลี่ซูเจนิ่งไปแล้วก็รีบพูด: “ฉัน ไปต่างประเทศไม่ได้ ลุงฉันยังอยู่ที่โรงพยาบาล ฉัน กลัวว่าลู่เหวินซูไม่เห็นฉันแล้วจะทำอะไรลุง”

ถังซินจับพวงมาลัยแน่นพยายามยิ้ม: “ไม่เป็นไร ฉัน จะดูแลลุงหลี่อย่างดี”

จู่ซือซือถาม: “พี่ถังซิน เหมาลำไปไหน? ”

“ประเทศY”

ที่นั่นเป็นถิ่นของหลินเฉิงจื่

ให้หลี่ซูเจ๋ไปหลบที่นั่น ลู่เหวินซูไม่มีทางหาเจอแน่

จู่ซือซือใช้คำว่า’น้องสาวประธานมู่’แปปนึงก็หาคน ช่วยได้แล้ว
พอถึงสนามบิน จู่ซือซือพาถังซินไปตรงทางพนักงาน เพื่อไปพบกัปตัน

กัปตันคนนี้จะพาหลี่ซูเจ๋ไปถึงประเทศYอย่าง ปลอดภัย

หลี่ซูเจ๋จับมือถังซินแน่น ไม่อยากไป”ฉันไปแล้วเธอจะ ทำไง ลู่เหวินซูเขา……

“วางใจเถอะ เขาไม่มีทางทำฉันแน่”ถังซินเช็ดน้ำตา ของหล่อน พอถึงประเทศY เธอก็รอ จงเซิงจะส่งคนไป รับเธอ”

พูดไป เสียงของหล่อนก็ทุ้มลง: “ขอโทษนะ ฉันไร้ ประโยชน์จริงๆ ให้เธอมาช่วยขนาดนี้….….….

รักษาคนในครอบครัวของหลี่ซูเจไว้ไม่ได้ อย่างน้อยก็

รักษาหล่อนไว้

“ฉันแล้วแต่เธอ ฉันไปละนะ”หลี่ซูเจ๋กอดถังซิน“ส่วน ลุงฉัน……..ขอร้องเธอล่ะนะ”

ถังซินพยักหน้า

ถังซินยืนอยู่นั่นไม่ไปไหน หล่อนจ้องหลี่ซูเจ๋ขึ้นเครื่อง

ไป

พอเครื่องบินขึ้น หล่อนก็สบายใจขึ้นมาหน่อย แล้วจึง พาจู่ซือซือออกไปด้วยกัน
จู่ซือซือมองหน้าถังซินแล้วก็ถามอย่างทนไม่ไหวว่า “พี่ ถังซิน ลุงของพี่ซูเจ๋…..ไมพี่ไม่บอกหล่อนล่ะ?”

ถังซินรู้สึกเหนื่อยหน่ายมาก ตัวอ่อนไปทั้งตัว

หล่อนขมวดคิ้ว ตอบจู่ซือซืออย่างไม่เต็มใจ: “หล่อน ท้องอยู่ ข่าวแบบนั้นหล่อนรับไม่ไหวแน่ ยังปิดได้ก็ปิด ไปก่อน”

ส่วนจู่ซือซือก็เสียใจแทนหลี่ซูเจ๋ ถอนหายใจออก“คิด ไม่ถึงว่าพี่สี่ของฉัน….….…..ใจดำขนาดนี้”

จะฆ่าคนในครอบครัวของหลี่ซูเจ๋ได้

เท้าของถังซินดูอ่อนแรง ตัวบิดไปมา

“พี่ถังซิน ไม่เป็นไรใช่ไหม? “จู่ซือซือประคองหล่อน พอขยับตัวก็ทำให้หมวกตก เผยให้เห็นผมสีดำกับ ดวงตาที่สวยงามคู่นั้น

คนข้างๆทางมองเข้ามา

มีคนล้อมเข้ามา จ้องจู่ซือซือแล้วถามอย่างสงสัย “คุณ ใช่จู่ซือซือหรือเปล่า?

จู่ซือซือหยิบหมวกขึ้นมา แล้วประคองถังซินไป

“ไม่ผิดแน่ๆ เธอคือจู่ซือซือ! “คนนั้นจู่ๆก็ร้องออก มา“ผมคือแฟนคลับคุณ เซ็นลายเซ็นให้หน่อยได้ไหม?ทำไมไม่ถ่ายหนังล่ะครับ?

“จู่ซือซือ? ”

“ไม่มั้ง หล่อนจะมาอยู่นี่ได้ไง?

คนรอบๆพอได้ยินชายคนนั้นพูดก็ค่อยๆเข้ามาขอลาย เซ็นกับจู่ซือซือ

แต่ว่าไม่กี่วิถัดมาพวกหล่อนก็ถูกคนล้อมไว้

“ฉันไม่ใช่ พวกคุณขอทางหน่อยสิ! “จู่ซือซือเห็นถัง ซินหน้าขาวก็รีบร้อนรน เอามือดันพวกเขาออก“ให้พวก เราออกไปได้ไหม!

คนพวกนั้นไม่หลบทางให้ บางคนก็พยายามดึง หน้ากากที่หน้าของอู่ซือซือ

รอบๆมีแต่คนทำให้ไม่มีอากาศ

ตาของถังซินที่ดูเบื่อหน่ายก็ล้มลงที่ตัวของ ซือซือ

“พี่ถังซิน! “จู่ซือซือตื่นตระหนก ออกแรงพยุงถังซินพู ดกับคนพวกนั้นด้วยความโกรธ “ขอทางหน่อยค่ะ ถ้า ขวางอีกฉันจะแจ้งตำรวจ!

คนแออัดตรงนั้นถูกมือใหญ่ๆที่มีแรงเปิดออก

ร่างของคนเข้ามา
ผู้ชายวัยกลางคนรูปร่างสูง ๆ สีผิวคล้ำๆเข้ามาอุ้มถังซิ ๆ นออกไป

เขามองจู่ซือซือ”จับแขนผมไว้ ไป”

จู่ซือซือกับชายคนนั้นมองตากัน นิ่งไปเหมือนเคยรู้จัก

กัน

หล่อนงงแปปนึง เห็นเขาอุ้มถังซินออกจากฝูงคนก็รีบ ไปคว้าแขนของเขา

เดินก้าวเท้าไปก็ถามจู่ซือซือไป“รถอยู่ไหน กุญแจ ล่ะ?”

“อ๋? “จู่ซือซือมองเขาไม่เลิก ถามอย่างตะลึง“คุณรู้ ได้ไงว่าเราขับรถมากัน? คุณคือใคร? ”

ในความทรงจำของหล่อนไม่มีข้อมูลของชายคนนี้

อีกอย่าง……

ในสายตาของอู่ซือซือ มองเห็นคอของชายคนนี้มีรอย แผลเป็นน่ากลัว น่าสยดสยองสุดๆ

รอยแผลเป็นที่คอเลยทำให้เสียงแหบขนาดนั้น?

“อาสุ่ย ประธานมู่ส่งผมมา”ชายคนนั้นมองไปที่ด้าน หลัง คนพวกนั้นตามเข้ามาแล้ว“ถ้าไม่ขึ้นรถอีก คุณก็จะ ถูกพวกเขาล้อมไว้นะ”
จู่ซือซือเห็นว่าพวกเขาตามมา ก็รีบพาเขาไปที่รถ

พอขึ้นรถ อาสุ่ยก็รีบสตาร์ท

“แฟนคลับคนนี้บ้าจริงๆ! “พอรัดเข็มขัดเสร็จ จู่ซือซื อก็ถอดหมวกถอดหน้ากากออกแล้วเอามือพัดให้ตัว เอง”ฉันไม่ถ่ายละครนานขนาดนั้นยังนึกว่าพวกเขาเลิก ชอบแล้วไปชอบคนอื่นแล้ว”

อาสุ่ยที่ขับรถก็มองจู่ซือซือจากกระจกหลัง: “ผอม แล้ว กินข้าวน้อยเหรอ?

“กินอาหารที่ป้าทำทุกวัน เลี่ยนจะตาย ไม่อยากกิน”จู่ ซือซือบ่น

พอตอบ หล่อนเลยรู้สึกผิดปกติ จ้องอาสุ่ยอย่างไม่ พอใจ: “ฉันผอมแล้วเกี่ยวไรกับคุณ? คุณรีบขับรถไป ที่โรงพยาบาลเถอะ พูดมาก!

อาสุ่ยหัวเราะในลำคอ

จู่ซือซือมุ่ยปาก ไม่พอใจอย่างมาก

ลุงคนนี้น่ารำคาญจริงๆ!

แปปนึงอาสุ่ยก็ขับรถมาที่โรงพยาบาล อุ้มถังซินไป แผนกฉุกเฉิน

พอถังซินตรวจร่างกายเสร็จ หมอก็บอกว่าเหนื่อยล้าเกินเลยเป็นลม พักเยอะๆก็โอเค จู่ซือซือเลยโล่งใจ หล่อนถามอาสุ่ย : “แต่ก่อนคุณติดตามพี่เฉินเหรอ?

พี่เฉินอยู่ไหน ปิดเครื่องทำไม? ”

“ประธานมู่ต้องจัดการเรื่องด่วนก็เลยปิดเครื่องไว้ ตลอด”อาสุ่ยพูด”ประธานมู่กลับมาพรุ่งนี้”

จู่ซือซือขมวดคิ้วพูดอย่างไร้อารมณ์: “จัดการเรื่อง ด่วนก็ปิดเครื่องไม่ได้นะ จะติดต่อก็ติดต่อไม่ได้! ฉันว่า งั้นพี่เฉินก็ไปทำงาน แล้วก็โดดเดี่ยวไปทั้งชีวิตเถอะ!

“คุณกลับไปเถอะ เดี๋ยวผมคุ้มครองคุณถังที่นี่เอง”

“ไม่กลับ ฉันจะอยู่นี่ พี่ถังซินเหนื่อยมาก อ๋ย! “จู่ซือซื อรู้สึกหิว“ออกไปซื้ออะไรให้ฉันกินหน่อยสิ”

“โอเค ผมจะไป”อาสุ่ยพูดแล้วหยิบแหวนออกมาให้ หล่อน

“คุณ คุณทำอะไร! “จู่ซือซือตกใจจนถอยหลัง เหลือบมองแหวนนั่น

น่าเกลียดจะตาย ไม่เหมาะกับหล่อน

จู่ซือซือพูด: “ลุงไม่รู้เหรอว่าตัวเองอายุเท่าไหร่? ฉันเพิ่งยี่สิบกว่า วัยรุ่นสดใส คุณจะเอาแหวนมาขอฉัน แต่งงาน? ”
มุมปากของอาสุ่ยยกขึ้น จับมือของหล่อนแล้วเอา แหวนใส่ที่นิ้วนางของหล่อนอย่างบังคับ

จู่ซือซือร้องออกมา: “ผู้ชายแก่คนนี้นี่ ท่าทาง บ้าไป แล้วใช่ไหม! รีบเอาออกเลย! อ๊าาา ฉันจะไปฟ้องพี่ เฉินให้เขาไล่คุณออก

“อย่าหลงตัวเอง ไม่มีใครอยากขอคุณแต่งงาน หรอก”เสียงร้องสูงของหล่อนทำให้อาสุ่ยขมวดคิ้ว หลบ อยู่ที่ห้องคนไข้ เวลาเห็นมีอันตรายก็แตะไปที่แหวน เข้าใจไหม? ”

“แหวนใส่จีพีเอส? ”

“อือ”

จู่ซือซือใจเย็นลง กรอกตามองใส่เขา “งั้นทำไมคุณไม่ พูด บ้าจริง !

“คุณให้โอกาสผมพูดยัง? “


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ