บทที่129 ก้มหัวลงอย่างจับพลัดจับผลู
ลู่เหวินซูบึนปากและส่งเสียงดังเอะอะโวยวาย เย่นจิ่งเหนื ยนกำลังอยากจะพูดอะไรออกมา คล้ายกับว่าเห็นวี่เหวินถึง ขมวดคิ้ว ขากรรไกรตึงแน่น คล้ายกับว่ามีคำอะไรทิ่มเข้ามา ในใจเขา
ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันแบบพี่น้องที่นิวยอร์กมาหลายปี ลู่เหวิน ซเข้าใจความคิดของวี่เหวินถิงอย่างชัดเจน ต่อให้มีคนเอา ปืนมาจ่อหน้าผากของวี่เหวินถิง เขาก็ไม่เปลี่ยนอารมณ์ที่ แสดงออกมา
เหมือนกับเมื่ออาทิตย์ก่อนที่มาหามู่เฉินหย่วนที่โรง พยาบาลตอนดึก วี่เหวินถึงก็เหมือนกับมองเห็นอะไร อารมณ์ที่เปลี่ยนไปก็ปรากฏออกมาอย่างเห็นได้ชัด แม้จะ เป็นเพียงแค่ไม่กี่วินาทีสั้นๆ เขาก็มองเห็น
เป็นเพราะว่า…คนบางคนหรอ?
ความคิดของเย่นจิ้งเหนียนวกวนไปอย่างเร็ว เชื่อมโยงถึง ท่าทางที่วี่เหวินถึงมีต่อซู่จือจือในคืนวันนั้น คำพูดของลู่เห วินซูตอนนี้เหมือนเดาอะไรขึ้นมาได้ จึงยิ้มออกมา
เย่นจึงเหนียนจึงพูดขึ้นว่า “เปรียบเทียบกับถังซินแล้ว ฉัน ชอบผู้หญิงที่ได้รับการอบรมมาเป็นอย่างดีแบบคุณสัง”
“ไอ้สี่ ความคิดของนายนี่อันตรายมาก” ลู่เหวินซูชะงักงง จากนั้นก็ตบไปที่ไหล่เขาอย่างแรง ยิ้มมุมปากแบบมีเลสนัย”แต่คุณสั่งเป็นคู่หมั้นของพีรอง ถ้าอยากจะแย่งกับพี่รอง หรอ?”
“ไม่ใช่นะ เพียงแต่เธอเป็นคนในแบบที่ฉันถูกใจ” เย่นจิ่ง เหนียนพูดขึ้น สายตาเหลือบมองไปทางวี่เหวินถึง มองเห็น วี่เหวินถึงเม้มปากแน่น หน้าเศร้าหมอง
เป็นไปอย่างที่คิดไว้ เขาเดาได้แล้ว
“นายโสดมาตั้งหลายปี ยากที่จะเห็นนายสนใจผู้หญิง” ลู่ เหวินซูทำเสียงจุ๊ปาก “ไม่เช่นนั้นรอพี่รองตื่นขึ้นมา นายก็ พูดกับพี่รอง ไม่แน่พี่รองอาจจะช่วยให้พวกนายสมหวังก็ได้ นะ”
“รอพี่รองตื่นแล้วลองดู”
ทั้งสองคนยิ่งพูดก็ยิ่งรู้สึกตื่นเต้น มีเพียงวี่เหวินถิงที่กำลัง ขมวดคิ้วอยู่ กลิ่นอายที่อยู่บนตัวเต็มไปด้วยความเศร้าหมอง เขาหิ้วลู่เหวินซูออกไปเหมือนกับหิ้วไก่ พวกนายกลับไป คืน นี้ฉันเฝ้าไข้
เย่นจิ้งเหนียนรีบจับไปที่ข้อมือของเขา และมองไปที่นิ้ว นางของเขา และพูดด้วยความประหลาดใจ “พี่ใหญ่ พี่ทำไม ถึงสักคำภาษาอังกฤษไว้
“ไหนไหน ให้ฉันดูหน่อย ลู่เหวินซูเข้ามาประสมโรง เมื่อเห็นที่นิ้วเมื่อของวี่เหวินถึงมีรอยซักเป็นตัวหนังสือไม่น่าหล่ะพี่ใหญ่ถึงใส่แหวนตลอดเวลา ใช้ปิดอำพลางอยู่ หรอ!
Artemis? นี่ไม่ใช่ชื่อของเทพธิดานักล่าในตำนาน เทพเจ้ากรีกหรอ?
เย่นจิ่งหนานพูดอย่างให้ความสนใจ “คิดไม่ถึงว่าพี่ใหญ่ จะชอบเทพเจ้ากรีก ไม่ธรรมดาเลยที่สนใจ
“ฉันคิดว่าไม่ใช่” คุณชายผู้ชำนาญในเรื่องความรักแสดง ความคิดเห็นของตนเองออกมา “ผู้หญิงคนนั้นคงจะเป็น เทพธิดานักล่าที่อยู่ในความคิดของพี่ใหญ่”
“ในเมื่อพี่ใหญ่สักไว้ที่บนนิ้วมือ ถ้ายังงั้นก็คือว่าเมื่อมอง เห็นชื่อนี้ก็สามารถที่จะคิดถึงผู้หญิงคนนั้นได้
ลู่เหวินซูยิ่งพูดก็ยิ่งตื่นเต้น อยากที่จะค้นหาความจริง “พี่ ใหญ่เมื่อก่อนพี่เคยมีแฟนหรอ? ต้องเป็นผู้หญิงแบบไหนถึง ได้อยู่ในสายตาของพี่ เล่าให้พวกเราฟังหน่อย!”
สีหน้าที่นิ่งเงียบของวี่เหวินถึงเริ่มมีความแตกร้าว เขาไม่ ได้พูดอะไร เพียงแค่จ้องมองไปยังลู่เหวินซูอย่างอึมครึม
ในเวลานั้น ประตูห้องคนไข้ก็ได้ถูกเคาะขึ้น
เย่นจึงเหนียนไปเปิดประตู เมื่อเห็นข้างนอกห้องคนไข้ เป็นถังซินและสังจิ้งเหอก็ตกใจ “คุณถัง คุณสั่ง ดึกขนาดนี้ พวกคุณมาทําไมกัน?”
“ก่อนหน้านีฉันยุ่งตลอด ไม่รู้ว่าประธานมู่เป็นอย่างไรบ้าง แล้ว พอดีวันนี้มีเวลาว่าง” ถังซินพูดขึ้น “คิดไม่ถึงว่าคุณสังก็ มาดูประธานมู่เหมือนกัน ก็เลยมาด้วยกัน
ส้งจิ้งเหอพยักหน้าไปทางเย่นจิ้งเหนียน พูดด้วยเสียง อ่อนนุ่มขึ้นว่า “รบกวนคุณแล้ว”
“เธอเกรงใจเกินไปแล้ว เธอเป็นคู่หมั้นของพี่รอง ต้องแบก ภาระมากกว่าพวกเรามาก” เย่นจิงเหนียนยิ้มเบาๆ หันหน้า เข้าข้างในห้องคนไข้และเรียกลู่เหวินซู “ไอ้สี่พวกเราไปกัน เถอะ คืนนี้พี่ใหญ่เฝ้าไข้
“คุณถังกับคุณซังพึ่งมาไม่ใช่หรอ? พวกเราจะไปเลยหรอ? ไม่อยู่ก่อนหล่ะ?”
ลู่เหวินซูอยากที่จะอยู่กับสองสาว เย่นจิ่งเนียนจึงยิ้ม และ พูดขึ้นด้วยคำพูดที่แฝงถึงการกล่าวเตือน “ไม่กลับจริงๆหรอ ไอ้สี่ ฉันแนะนำให้นายคิดดูให้ดีๆนะ ตายกะทันหันในโรง พยาบาลไม่ค่อยดี
ลู่เหวินซูรู้สึกแปลกใจไปทั้งตัว
เขาไม่ได้ยั่วโมโหเย่นจึงเหนียน ทำไมถึงโดนเขาตีอีกแล้ว
เพื่อรักษาชีวิตอันเล็ก ลู่เหวินซูก้มหัวลงและออกไปกับ เย่นจิ้งเหนียน ไม่นาน ข้างในห้องคนไข้ก็เหลือแค่วี่เหวินถึง และยังมีถังซินกับสังจิ้งเหอ
ถังซิ่นไม่สนิทกับวี่เหวินถึง และผู้ชายคนนี้ก็ดูหมดอาลัย ตายอยาก ไม่มีชีวิตชีวา ทำให้ผู้อื่นรู้สึกถึงความห่างเหิน แต่ ว่าเขาอยู่ตรงนี้ ไม่ทักก็เสียมารยาท ดังนั้นจึงยิ้มให้วี่เหวิน ถิง “คุณ”
วี่เหวินถึงไม่แม้แต่จะมองเธอ เพียงแค่หยิบเสื้อสูทที่วาง อยู่บนเก้าอี้ และเดินออกไปจากห้องคนไข้
ถังซิน…
ตอนนี้เธอคิดว่าคุณอามู่นั้นเป็นคนดีมากจริงๆ อย่างน้อย ถ้าทักทายเขา เขาจะไม่มีการไม่ขานรับ
ส้งจิ้งเหอมองไปทางประตูและพูดกับถังซินขึ้นว่า “คุณ อยากที่จะได้มาดูเฉินหย่วน งั้นก็คุยเป็นเพื่อนเขา ฉันจะไป รอข้างนอก ไม่อยากรบกวนพวกคุณ
“ไม่ต้อง ฉันก็แค่… “ถังซินอยากจะพูดต่อแต่เธอได้เดิน ออกไปแล้ว หลังจากที่สั่งจิ้งเหอพูดจบ ก็รีบออกไปอย่าง ว่องไว และยังปิดประตูห้อง
เมื่อเห็นทั้งสองคนออกไป ห้องคนไข้มีเพียงแค่ตน ถังซิน จึงจำใจ เธอเดินไปทางเตียงคนไข้ หลังจากที่มู่เฉินหย่วน ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นเขา ครั้งที่แล้วเพียงแต่มองดูจากข้างนอกห้องคนไข้ไม่นาน
บนใบหน้าของมู่เฉินหย่วนมีความเปล่งปลั่งขึ้น สภาพดี ขึ้นกว่าแต่ก่อนเยอะมาก หายใจเหมือนกับกำลังหลับสนิท
เมื่อเห็นเขาเป็นแบบนี้ ถังซินก็รู้สึกใจหาย เธอนั่งเข้า ใกล้ๆข้างเตียงคนไข้ กำลังลังเลใจ จากนั้นเธอก็เอามือของ เขาที่วางอยู่ข้างนอกผ้าห่มมากุมไว้ในมือ
“หลังจากที่คุณเกิดเรื่อง ทุกคนก็ต่อสู้เพื่อที่อยากจะปฏิบัติ หน้าที่แทนประธาน แม้แต่คุณมู่ก็ไปที่บริษัทแล้ว” ถังซินพูด ขึ้น “จากนั้นท่านมู่ก็มา เขาเชื่อใจฉันมากเหมือนกับคุณเลย ออกคะแนนเสียงให้ฉันปฏิบัติหน้าที่แทนประธาน
นิ้วมือของเขาเรียวยาว ดูแล้วไม่เบื่อ แต่กลับไม่มีความ อบอุ่น มีแต่ความเย็นเฉียบ
ถังซินเอามือของเค้าวางไว้ที่บนแก้มของเธอเพื่ออังให้อุ่น และพูดเบาๆว่า “คุณอา งานที่คุณส่งต่อให้ฉัน ฉันรับผิดชอบ มันอย่างดี บริษัทมู่ซื่อไม่เป็นอะไรแล้ว ดังนั้นคุณก็ควรที่จะ รีบตื่นขึ้นมา”
หวังว่าพระเจ้าจะคุ้มครองคุณอาม่ให้ตื่นขึ้นมาเร็วๆ และ สองขาก็หายเร็วๆ ไม่อย่างนั้นเธอคงรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต
ถังซินกุมมือของเขาและพูดสิ่งต่างๆมากมาย ส่วนมากจะ เป็นเรื่องของบริษัท ในห้องคนไข้มีแต่เสียงที่เธอพูด ผู้ชาย ที่อยู่บนเตียงเพียงแค่นอนหายใจ ไม่มีการตอบรับใดๆ
หลังจากที่พูดจบแล้ว ถังซินมองไปที่แก้มอันเปล่งปลั่งขอ งมู่เฉินหย่วน และใช้นิ้วมือลูบคลำ ในสมองปรากฏภาพเมื่อ อยู่ที่ประเทศตุรกี ในตอนนั้นเพื่อทำให้เธอรู้สึกมีความสุข เขาได้จับหิ่งห้อยให้เธอหนึ่งกระปุก
ขอเพียงแค่ภรรยาชอบและอยากได้ ฉันจะทำทุกวิถีทาง เพื่อที่จะเอามาให้ได้
และตอนที่เป็นวันครบรอบวันเกิดสามสิบปีของเขา เธอพา เขาไปเล่นสวนสนุกในตอนกลางคืน เขาวิ่งซื้อของให้เธอ กิน อุ้มเธอขึ้นม้าหมุน และยังแค้นผู้ชายที่พร่ำตลอด
ในใจของฉัน ภรรยาของฉันอายุ18ตลอด เป็นเด็กที่ไม่โต ฉันเต็มใจที่จะกอดตลอดชีวิต
เมื่อคิดถึงเรื่องที่ดีในตอนนั้น ถังซินก็อดขำไม่ได้ จ้องมอง ที่ใบหน้าของเขา เหมือนกับค่อยๆตรานาบลงในใจเธอ จับ พลัดจับผลู เธอก้มหน้าลงและเข้าใกล้ชิดเขาอย่างช้าๆ
ระยะห่างของทั้งสองคนยิ่งสั้นมากขึ้น หายใจรดเข้าด้วย
กัน
ลมหายใจของเขาและกลิ่นยาฆ่าเชื้อได้อบอวลเข้าไปใน จมูกถังซิน เมื่ออยากที่จะจูบไปที่ริมฝีปากนั้น ถังซินก็มีสติ ขึ้นมา จึงกลับมานั่งทันทีทันใด แล้วหัวใจก็เต้นอย่างรุนแรง
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ