ฉันเป็นสุดที่รักของประธานมู่! ?

บทที่ 56 เกิดอะไรขึ้นกับหัวหน้า



บทที่ 56 เกิดอะไรขึ้นกับหัวหน้า

ซึ่งเวยเป็นคนหน้าหนามาก เธอทำเป็นพูดติดตลกว่า “โธ่เอ๊ย ฉัน แคล้วคุณล่นเท่านั้นเอง

“งั้นเหรอ แต่ฉันไม่อยากคุยกับคุณแล้ว”ถังขนลุกขึ้น จากเก้าอี้ของเธอแล้วพูดเบาๆว่า “ให้คุณหนูสี่มหาคน อื่นเถอะ ฉันคงไม่สามารถช่วยเธอได้

แม้ว่าข้อตกลงระหว่างเธอกับเฉินหยวนจะเป็นเงิน เพียงครึ่งล้านเท่านั้น แต่เธอรู้สึกว่าเงินหยวนน่าเชื่อ ถือมากกว่าคุณหนู

หากไม่ใช่เพราะการปกป้องของมู่เฉินหย่วน คาดว่า หลินเฉิง จะไม่เพียงแต่ส่งดอกไม้มาให้เท่านั้น แต่เขา น่าจะมาหาเธอด้วยตัวของเขาเองด้วยซ้ำ

ส่วนเรื่องที่ เฉินหยวนจะไล่เธอออกจากบริษัท ชื่อ นั้น เธอรู้สึกว่ามันเป็นไปไม่ได้

“ถัง ม ค หมายความว่าคุณจะช่วยลงใช่ไหม คุณ เลือกที่จะอยู่ข้างเดียวกับเขาใช่ไหม?”

ข่งเวยคว้าแขนถังชินอย่างรวดเร็ว “คุณต้องคิดให้ดี นะ อย่าเพิ่งตัดหนทางถอยของตัวเอง

“หากคุณช่วยคุณหนูสี่ คุณจะไม่เพียงแต่จะได้รับเงิน ในภายหน้าคุณยังสามารถขอความช่วยเหลือจากคุณ หนูสีมได้อีก แต่ถ้าคุณช่วย เฉินหยวน คุณหนู จะไม่ ยอมปล่อยคุณเอาไว้แน่

งั้นเหรอ?” ใบหน้าของถังซินไม่ได้แสดงความรู้สึก ใดๆ เธอปัดมือของซงเวยออกไป

“ถ้าจําเป็นต้องเลือก ฉันขอเลือกประธาน

” ง ม คุณมีความสัมพันธ์กับเฉินหยวนจริงๆ ซงเวยยิ้มอย่างเย็นชา ดวงตาฉายแววดูถูก

“ยังมีหน้ามาหาว่า หยาง นอกใจ แล้วสิ่งที่เธอทำ อยู่ล่ะไม่ใช่หรือไง? วันนั้นคุณกับ เฉินหยวนทําอะไร กันในห้องนํ้ากันแน่?

ถังบนเม้มริมฝีปากของเธอแน่น

เธอยังไม่ได้พูดอะไร แต่บ่งเวยตัดสินไปแล้วว่าเธอ ผิด พูดไปก็เหมือนแก้ตัวเปล่าๆ “วันนั้นฉันถ่ายรูปเอาไว้หมดแล้ว คุณคิดว่าถ้าฉันเผย แพร่ออกไป ผู้คนจะลือกันว่ายังไงนะ?

“ฉันบอกแล้วไงว่าฉันไม่ได้มีความสัมพันธ์กับประธาน มู่ ถังซินเหลือบมองซ่งเวย

ไม่รู้ว่าซงเวยแอบบันทึกเสียงอะไรรึเปล่า เธอต้องพูด อย่างระมัดระวัง

ฉันหย่าขาดจาก หยางซิวแล้ว ภาพถ่ายของคุณ อาจจะทําให้ฉันถูกโจมตีเรื่องการส่วนตัวได้แค่ไม่กี่วัน จากนั้นยังไงฉันก็ยังต้องทํางานต่อไป แต่ผลกระทบ ต่อประธาน และบริษัทมู่ชื่อนั้นย่อมต้องมีมากอย่าง แน่นอน”

สิ่งที่ไม่เป็นความจริงประธานมู่ย่อมจะปฏิเสธและ เขาจะต้องตรวจสอบหาที่มาอย่างละเอียดแน่” ถัง น เหยียดริมฝีปากของเธอ “คุณหนูสี่ เองก็ย่อมไม่กล้า ที่จะยั่วยุประธานมูเป็นแน่ คุณแน่ใจหรือว่าล่าพังแค่ด้ว คุณสามารถจัดการกับมันได้?

บ่งเวยตกใจกลัว เผลอก้าวถอยหลังไปหลายก้าว

แม้ว่ามู่เฉินหยวนที่ไม่ได้มีสายเลือดตระกูลมู่จะได้รับ สืบทอดบริษัท ชื่อสำนักงานใหญ่ แต่พี่น้องทั้งหลาย ในตระกูลมู่กลับไม่กล้าแสดงความไม่พอใจออกมา มี หน้าพวกเขายังกลัวมเงินหยวนอีกด้วย

เฉินหยวนมีความสามารถในการทำธุรกิจมาก เขา เปิดตลาดยุโรปเองกับมือ แถมยังท่ากำไรประจำปีให้แก่ บริษัท ซีอเป็นสองเท่า หากไม่มีเขา บริษัท ซ๊อคงจะ ไม่เจริญรุ่งเรืองได้เหมือนอย่างทุกวันนี้

เขาดูเข้ากันได้กับทุกคน แต่ก็ไม่ค่อยมีปฏิสัมพันธ์ กับพี่น้องคนอื่นในตระกูลมากนัก เว้นเสียแต่จะเป็น งานเทศกาลที่สําคัญเท่านั้น เขาไม่ชอบการที่คนอื่นๆ มักจะใช้ชื่อของเขาเพื่อดึงความสนใจจากนักข่าว แต่นัก ข่าวทุกคนในสํานักข่าวกลับรู้ดี แม้ว่าเขาจะรับ ขอออ อกไปทานข้าว ก็ไม่มีใครกล้าเขียนข่าวใดๆ

ถ้าซ่งเวยเผยแพร่ภาพถ่ายออกไป แล้วทำให้เฉิน หย่วนกลายเป็นจุดสนใจ มันจะไม่ใช่แค่ถังซินที่เดือด ร้อน

แต่จะเป็นของเธอและปูซางมากกว่า

“ถังขิม คุณอย่าเหยียบน้ำโคลนดีกว่า” ซึ่งเวยไม่กล้า ข่มขู่ ง นอีกต่อไป แต่พูดว่า “ถ้าคุณไม่ช่วยคุณหนูสี่ ก็ไม่ควรจะช่วยมเงินหยวน ด้วย เธอจะได้ไม่โกรธ

นั่นมันก็เป็นเรื่องของฉัน คุณไม่ต้องเป็นห่วง ถังซิน ย้มและเดินจากไปพร้อมกับอาหารที่ห่อกลับ

ซึ่งเวยมองดูถังซันเดินออกจากร้านอาหารไปจน ลับตา

จากนั้นเธอก็ดึงปากกาบันทึกเสียงออกมาจากกระเป๋า ของเธออย่างหงุดหงิดใจ

เหตุผลที่เธอรู้ว่า เฉินหยวนและถังซินเดินตามกัน ออกมาจากห้องน้ำของผู้หญิง เพราะโทรศัพท์มือถือ ของญาติคนหนี่งหายไป และในระหว่างที่เธอกำลังช่วย หาก็บังเอิญไปเห็นเข้าพอดี

เดิมทีซ่งเวยต้องการจะบันทึกเสียงเพื่อข่มขู่ถัง น

คาดไม่ถึงว่าถึงชินจะรับมือได้ยากแบบนี้ เธอระวังตัว อยู่ตลอดเวลา สุดท้ายแล้วยังขู่กลับเสียอีก

ถึงเธอจะรู้ว่าถังขืนไม่ใช่คนหัวอ่อน แต่ตอนนี้เธอรู้ซึ้ง แล้วว่าใบหน้าที่แท้จริงของถังซินเป็นอย่างไร! เนื่องจากถูกซ่งเวยรบกวน เมื่อมาถึงบริษัทพร้อม อาหารกลางวันก็เป็นเวลาบ่ายโมงแล้ว

แต่เมื่อเธอก้าวเข้ามาในบริษัท เธอก็รู้สึกได้ว่ามีบาง อย่างที่ไม่ถูกต้อง

ที่แผนกต้อนรับส่วนหน้า มีพนักงานหลายคนกำลังพูด คุยกันเกี่ยวกับเรื่องอะไรบางอย่าง พวกเขาดูเศร้าและ ตกใจ พนักงานหันมาพูดคุยกันเป็นครั้งคราว ราวกับมี บางอย่างเกิด นกับบริษัท

“เกิดอะไรขึ้นเหรอ?” เมื่อถึงขินขึ้นลิฟต์ เธอเห็น พนักงานคนหนึ่งทีรอลิฟต์อยู่ใกล้ๆ จึงถามขึ้นอย่าง สงสัย

“คุณอยู่แผนกไหน?” พนักงานคนนั้นถาม

“แผนกแปล”

“โอ้พระเจ้า มีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นในแผนกของคุณ คุณรู้ รึเปล่า?” พนักงานมองไปที่ถังซินด้วยความตกใจ ฉัน ได้ยินมาว่าหัวหน้าของคุณรู้สึกไม่ค่อยดีเมื่อเขากลับ มาจากข้างนอก แต่พอคนขับรถพาเขาไปโรงพยาบาล หัวหน้าของคุณเขาก็ตาย ได้ยินว่าเป็นหัวใจวาย เฉียบพลัน เขารู้กันทั้งบริษัท คุณไม่รู้เหรอ?

“อะไรนะ หัวหน้าตายแล้ว?

ข่าวนี้น่าตกใจมาก ถังซินยืนอึ้งจับต้นชนปลายไม่ถูก อยู่เป็นเวลานาน

หลังจากที่ลิฟต์มาถึง ถังซันก็วุ่นวายอยู่กับโทรศัพท์ มือถือของเธอ

ตอนนี้ข่าวในวีแชทกลุ่มยังแจ้งเตือนไม่หยุด แต่เธอ ปิดเสียงเอาไว้

หลังจากเปิดอ่านวีแชทกลุ่ม เธอก็พบว่า แชทกลุ่ม แทบระเบิดเมื่อหนึ่งชั่วโมงก่อน โดยบอกว่ามีเรื่องไม่ คาดฝันเกิดขึ้นกับหัวหน้า ประธานรีบพาไปส่งที่โรง พยาบาลและแผนกแปลก็กำลังวุ่นวายมาก

เจียงจิ้งเรียกทุกคนเข้าประชุมตอนบ่ายโมง หลายคน ต่างก็เห็นด้วย

ถังขนขมวดคิ้ว เธอไม่รู้ว่าสิ่งที่เจียงจึงกำลังจะเรียก ประชุมคือเรื่องอะไร แต่ถ้าทุกคนในแผนกอยู่ที่นั่นแล้ว เธอไม่อยู่ที่นั่นด้วย เธอก็เกรงว่าจะถูกนินทาลับหลัง

เธอขอให้คนอื่นช่วยส่งอาหารกลางวันไปให้หลี่ซูเจ๋ ก่อนจะเร่งรีบกลับไปที่แผนกแปล แต่ภายในสำนักงาน กลับว่างเปล่าเพราะผู้คนไปรวมตัวกันแน่นขนัดอยู่ที่ ห้องประชุมกระจก

ถังซีนเร่งฝีเท้า เปิดประตูเข้าไป ขออภัยที่มาสาย

ถัง น คุณทําอะไรอยู่ คุณไม่เห็น แชทกลุ่มเห รอ?”เมื่อเห็นว่าถังซินมาสาย เจียงจิ้งก็รู้สึกไม่พอใจ ทุก คนนั่งอยู่ด้านล่างสวนเธอกลับเอนกายนั่งลงบนโต๊ะ ประชุมซึ่งเป็นตำแหน่งของหัวหน้า

ออกไปทํางานข้างนอกมา”ถังซินอธิบายสั้นๆ ก่อนจะ เดินตรงเข้าไปหา าแหน่งที่จะนั่ง

ใบหน้าของเจียงจิ้งบูดบึง

“พี่เจียง ทุกคนมากันครบแล้ว มีคนพูดน “รีบๆว่ามา จะเอายังไงดอ?”

เจียงจิ้งยืนขึ้น กวาดตามองทุกคนที่อยู่รอบๆ และพูด อย่างเน้นเสียงว่า “พวกคุณคงได้ยินแล้วว่าเมื่อหนึ่ง ชั่วโมงที่แล้ว หัวหน้าได้เสียชีวิตจากไปแล้ว

“ฉันรู้ว่าทุกคนเศร้า แต่เหตุสุดวิสัยนั้นไม่สามารถ หลีกเลี่ยงได้ ประธาน ได้จัดการกับเรื่องนี้แล้ว สำหรับ แผนกเราใครจะได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าคนต่อไป จะ ต้องรอฟังผลหลังจากเสร็จสิ้นงานศพของหัวหน้าหว

หลังจากหยุดไปครู่หนึ่ง เจียงจิ้งก็พูดต่อ “แต่ในช่วง เวลานี้ การบริหารงานในแผนกของเราไม่สามารถที่ จะละเลยได้เพราะมีงานมากมายที่เราต้องแก้ปัญหา ฉันเข้ามาในบริษัทมู่ อก่อนทุกคนหลายปี ถือว่าฉัน มีอาวุโสที่สุด จะเป็นคนรักษาการในระหว่างที่ยังไม่มี การแต่งคั่งหัวหน้าคนใหม่ พวกคุณมีความคิดเห็นยังไง บ้าง?”

ห้องประชุมเงียบสงัดไปครู่หนึ่ง

จากนั้นมีคนเปิดมากขึ้นมาก่อนว่า “ฉันเห็นด้วย พี่เจียง เก่งที่สุดในแผนกของเรา อาวุโสมากกว่าและรู้อะไร มากกว่าเรา คุณเหมาะสมที่สุดที่จะรักษาการ

“ฉันก็คิดแบบนั้น งั้นก็ให้พี่เจียงเป็นรักษาการแทน หัวหน้าละกัน “ฉันไม่ขัดข้อง

เมื่อเห็นว่าทุกคนต่างพากันพูดยกย่องและสนับสนุน เธอ เจียงจิ้งก็เผยรอยยิ้มน้อยๆออกมา

เธอปรบมือและตะโกนว่า “เอาล่ะ ช่วงนี้ฉันจะทำ หน้าที่รักษาการหัวหน้าไปก่อนและทุกคนก็ต้องจัดการ งานที่ทําอยู่ต่อไป เอกสารสำคัญจะต้องเอามาให้ฉันดู ก่อนทุกครั้ง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ