บทที่ 519 คุณอย่ามาได้คืบจะเอาศอก
ถังซินคิดว่าจะด่าเขายังไงดี ทันใดนั้นร่างกายก็ว่าง เปล่า
พอโดนเขาอุ้มอีกครั้ง สีหน้าก็เปลี่ยนเป็นสีเทาๆมู่เฉิน หย่วน คุณอย่าเอาแต่อุ้มฉัน ฉันมีขาเดินไปเองได้!”
“ที่พื้นเย็น ผมอุ้มคุณไปเอง ให้คนใช้เอารองเท้าแตะ ให้”มู่เฉินหย่วนพูดเรียบๆ
เข่าของเขาชนติดผนังเปิดประตูอย่างชิลๆ อุ้มถังซินอ อกไป
“ฉันไม่ให้คุณอุ้ม คุณปล่อยมือ!
“มู่เฉินหย่วน คุณอย่ามาหน้าด้าน ฉันไม่ได้ต้องการ คุณ!
พอเห็นว่าไม่ว่าตัวเองจะด่ายังไงเขาก็ไม่สน ถังซิน เลยกัดไปที่บ่าเขาทีนึง
หล่อนไม่ได้ยินเสียงร้องเจ็บของเขา เหมือนว่ามีคน กำลังหัวเราะ
ถังซินเงยหน้าขึ้นจากอ้อมกอดเขาเห็นว่าพวกเขาอยู่ ด้านล่างแล้ว และท่านมู่ก็ยืนอยู่ไม่ไกล เห็นท่าทางของหล่อนทุกอย่าง ยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดู
ถังซินอายไปหมด หยิกใส่มู่เฉินหย่วน“คุณมันไร้ยาง อายจริงๆ!
“ผมเตือนแล้วไง คุณไม่ได้ยินเอง”
“เตือนบ้าอะไรล่ะ!”
ทั้งสองใกล้กันขนาดนี้ หล่อนไม่ได้หูหนวกที่จะไม่ ได้ยินที่เขาพูด
ไม่ได้เตือนสักนิด!
“ยินยิน ลูกให้ประธานมู่อุ้มได้ไง! “เสียงของคุณแม่ ถังเข้าไปในหูของถังซิน หล่อนหันไปถึงเห็นคุณแม่ถึง อยู่นี่!
ถังซินงง“แม่ มาอยู่นี่ได้ไง? ”
“ก็เสี่ยวอี้เรียกแม่มาทานข้าว”คุณแม่ถังพูด“รีบลงมา คนมองเยอะแยะ
ถังซินมองค้อนใส่เขา“เขาจะอุ้มหนูเอง! ”
“ไม่เป็นไรครับคุณป้า หล่อนตัวเบา”มู่เฉินหย่วนยิ้ม เบาๆให้คุณแม่ถึง
คนใช้เอารองเท้ามาให้ มู่เฉินหย่วนเลยปล่อย พเอคนหล่อนลง
พอใส่เสร็จหล่อนก็เถิบห่างจากเขา แล้วรีบดึงคุณแม่ ถังออกไป
ท่านมู่ยิ้มหรี่ตาพูด: “ถังซินหิวไหม? กินข้าวด้วยกัน ก่อนค่อยไปสิ ไม่เจอกันนานแลย”
เมื่อก่อนท่านมู่ก็ดีกับถังซินมาก อีกอย่างก็อาวุโสด้วย ร่างกายไม่แข็งแรง เขาพูดอย่างอบอุ่นด้วย ทำให้ถังซิน ไม่อยากปฏิเสธ ใจอ่อนจึงตอบตกลงไป
ตอนทานข้าวท่านมู่ก็คีบอาหารให้ถังซินไม่หยุด แล้วก็ได้โอกาสถามหล่อนเรื่องบริษัทเหอซ่ง แล้วยัง ออกปากชมว่าสุดยอดมากๆ
จากนั้นก็คีบให้คุณแม่ถังไม่หยุด”ท่านก็ทานเยอะๆนะ หลายปีมานี้ที่ดูแลถังซินก็ลำบากแล้ว”
“เกรงใจเกินไปแล้วค่ะ”พอคุณแม่ถังโดนทำแบบนี้ ใส่ก็ตกใจสุดๆ”ท่านอาวุโสสุด เรียกชื่อฉันเฉยๆก็ได้ค่ะ อย่างเกรงใจฉันขนาดนั้นเลย ไม่งั้นครั้งหน้าฉันคงไม่ กล้ามาอีก”
“โอเคโอเค”ท่านมู่พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม“ดูสิเธอ เหมือนพี่น้องแท้ๆกับเสี่ยวอี้ ตอนนี้เด็กทั้งสองอยู่ด้วย กันอีกครั้ง โชคชะตานำพาเสียจริง!
และมองไปที่ถังซินอีกครั้งด้วยใบหน้ารักใคร่เอ็นดู“ถังซินก็ท้องเดียวตั้งสามคนแหนะ ลำบากมาก เลยสินะ? ”
ที่โบสถ์เมื่อเช้าท่านมู่ยังดีใจที่หลานตัวเองช่างกล้า เสียจริงที่มาแย่งเจ้าสาวไป ต่อมาพอรู้ว่าถังซินท้องก็ ตื่นเต้นมากจนเกือบจะเข้าไปในโลง
เขาคิดว่ามู่เฉินหย่วนเอาภรรยาคืนมาได้ก็ดีแล้ว นึก ไม่ถึงว่าจะได้ลูกมาอีกสาม!
ถังซินอดไม่ได้ที่จะพูดแรงๆกับท่านมู่
แต่ว่าใจหล่อนเหมือนน้ำที่นิ่ง ไม่อยากเกี่ยวข้องอะไร กับมู่เฉินหย่วนอีก
หล่อนเลยพูดอย่างใจดำว่า : “ท่านมู่คะ หนูกับมู่เฉิน หย่วนเราเลิกกันแล้ว ฉันอยากเลี้ยงลูกไว้เอง”
ท่านมู่ก็ไม่ได้แสดงท่าทางอะไร พูดไปแค่ว่า “เธอ อยากเลี้ยงลูกมันคือเรื่องดี แต่ว่าเธอต้องดูแลบริษัท สองสามที่ งานก็ยุ่ง ฉันกลัวว่าร่างกายเธอจะแย่เอา”
ไม่รอถังซินพูดอะไร ท่านมู่ก็พูด : “ใช่ เธอเลิกกันแล้ว แต่เราต่างก็ยังเป็นเพื่อนกันใช่ไหม? เธอดูแม่เธอกับ ป้าเสี่ยวอี้สนุกกันขนาดนี้สิ เธอยังเรียกป้าเสี่ยวอี้ว่าแม่ บุญธรรมอีก?
“ท่านมู่คะ คุณอยากพูดอะไร?”
ท่านมู่พูดต่อ”ที่จะบอกคือ ในเมื่อป้าเสี่ยวอี้ถือเป็นแม่ อีกคน ดูแลเธออย่างปกติ เธอก็ย้ายมาที่นี่ ส่วนเรื่อง งานของเอ พวกเราต่างช่วยดูได้”
ถ้าถังซินไม่ทันคิดอะไรก็เกือบจะตกเข้าไปในหลุม พรางของท่านมู่แล้ว
ถ้าหล่อนย้ายมา ก็เท่ากับว่ายอมรับว่ามีความสัมพันธ์ กับมู่เฉินหย่วนไหม?
แล้วถ้าถูกถ่ายไว้ได้ ถ้าพูดอะไรไปคงยากจะเชื่อ
“ใช่ ถังซินย้ายมาสิ”โมมอยอี้ที่นั่งตรงข้ามก็พูดออก มาอย่างอ่อนโยน: “เธอท้องสามคน ลำบากกว่าปกติ นะ”
“แม่บุญธรรมเห็นใจหนูนะและก็อยากดูแลหนูดีๆ หนู คืนดีกับมู่เฉินหย่วนไม่ได้ เราก็ไม่บังคับ แต่พวกเราต่าง ยังผูกพันธ์กันอยู่ถูกไหม? ”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ”ถังซินปฏิเสธ พูดอย่างเกรงใจ”ฉันมี ห้องของตัวเอง ถ้ายุ่งมากก็จ้างคนมาดูแลหรือพักที่บ้าน แม่ก็ได้ พักที่นี่ฉันไม่ชิน ขอบคุณในความหวังดีของ ท่าน”
“อะแฮ่ม! “จู่ๆท่านมู่ก็ไอหนักๆมาสองที สีหน้าดูแย่
“พ่อเป็นอะไรไป? “โมมอยอี้รีบเข้ามาหรือว่าหัวใจไม่ ค่อยสบาย? ”
ท่านมู่พยักหน้า
โมมอย รีบให้คนใช้เอายามา
พอทานยาเสร็จ สีหน้าท่านมู่ก็ดีขั้น
เขาถอนหายใจพูดว่า “ฉันแก่แล้ว ร่างกายก็แย่ลงทุก วัน ต้องทานยาทุกวัน ไม่รู้ว่าจะอยู่ได้ถึงเมื่อไหร่”
ถังซินเห็นท่านหน้าซีดก็เสียใจมาก”ท่านอย่าคิดมาก ค่ะ ตอนนี้วงการแพทย์เติบโตอย่างมาก ท่านรักษาดีๆ จะต้องอายุยืนยาวแน่นอนค่ะ”
ท่านมู่โบกมือ“ฉันน่ะแก่แล้ว อยู่ได้ไม่นาน เห้อ ตาย ฉันก็ไม่กลัวหรอก อยู่กี่สิบปีก็เบื่อแล้ว แต่ถ้าลูกหลาน ผอมแห้ง ฉันล่ะปวดใจ!
“เธอก็รู้ พี่ๆน้องๆฉันพวกนั้น…..……. ส่วนเจ้าเฉินหย่วน ฉลาดแล้วยังไง ต้องเห็นตระกูลมู่ไม่มีทายาท? ”
พูดไป ท่านมู่ก็ถอนหายใจแรงๆ : “ฉันหวังว่าคนใน ตระกูลจะเจริญ ถึงจะรวยไม่ถึงทายาทรุ่นสามก็ไม่ เท่ากับถูกคนเอาไป
ถังซินก็ดื้อ ฟังท่านมู่พูดออกมาไม่ออก
แต่ว่าคนที่อยู่ยันแก่ ร่างกายไม่แข็งแรง น่าสงสารจัง ทำให้หล่อนใจอ่อน
คนในตระกูลที่ตายเพื่อหล่อน ก็ถือว่าเป็นคนของตระ กูลมู่
เรื่องเมื่อก่อนทำให้ถังซินปวดใจ
หล่อนหลับตาพูดกับท่านมู่ : “ขอโทษค่ะ ฉันอยู่ที่นี่ไม่ ได้ แต่ว่า…………….”
“ถ้าฉันคลอดออกมา ฉันจะให้เด็กสองคนแก่ตระกูลมู่ ฉันเอาแค่คนเดียวพอ ท่านมู่คะ นี่คือสิ่งที่มากที่สุดที่ฉัน จะทำให้ได้แล้ว หวังว่าจะไม่บีบฉันอีก”
ท่านมู่ขมวดคิ้วขาวๆ อยากพูด มู่เฉินหย่วนที่นิ่งอยู่ นานก็พูดขึ้นมา
“เธออยากได้ลูกน่ะได้”มู่เฉินหย่วนมองถังซิน พูดด้วย เสียงเรียบๆ“เรามาเซ็นสัญญา ก่อนลูกสามขวบ คุณ ห้ามแต่งงาน ไม่งั้นลูกคนนั้นต้องให้ตระกูลมู่”
ถังซินโกรธจนตบโต๊ะ
หล่อนพูดอย่างอัดอั้น: “ประธานมู่ รบกวนคุณพูดมี เหตุผลด้วย เด็กทั้งสามคือของฉัน ฉันให้ไปสองก็มาก พอแล้ว”
มู่เฉินหย่วนพูด: “ผมก็พูดอย่างมีเหตุผลอยู่ไง ต้องการให้คุณเซ็นสัญญาเท่านั้น”
“สัญญาบ้าอะไร คุณควบคุมชีวิตฉัน! ‘ ”
“ถังซิน ตอนลูกยังเล็กต้องอยู่กับพ่อแม่”มู่เฉินหย่วน พูด”ผมไม่อยากให้คุณแต่งงานไว มีสามีใหม่ ไม่สนใจ ลูกของผม”
“มู่เฉินหย่วน นายมันเกินไปแล้ว! “ถังซินพูดอย่างไม่ พอใจ”มีสเปิร์มของคุณแค่เท่าไหร่ ได้ลูกสองคนไปฟรีๆ ก็น่าจะพอใจแล้ว แค่ลูกคนนึงทำไมไม่ให้ฉัน? “
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ