ฉันเป็นสุดที่รักของประธานมู่! ?

บทที่ 466 สถานที่ที่อันตรายที่สุดคือสถานที่ที่ปลอดภัย ที่สุด



บทที่ 466 สถานที่ที่อันตรายที่สุดคือสถานที่ที่ปลอดภัย ที่สุด

คนรับใช้ดูหมายเลขโทรศัพท์มือถือ ก็เป็นเบอร์ของลู่ เหวินซูจริงๆ เพียงแค่โทรไม่ติดเท่านั้น

คนรับใช้คิดว่าลู่เหวินซูออกไปทำงานต่างจังหวัด คง น่ายุ่งจริงๆ อีกอย่างเธอก็เห็นรูปที่ถังซินให้ดูแล้ว หาย สงสัยก็เอาโทรศัพท์มือถือคืนถังซิน “ พวกคุณจะกลับ มาทานข้าวเย็นใช่ไหมคะ ”

‘ค่ะ เตรียมให้ด้วยนะคะ ”

ถังซินทิ้งคำพูดไว้แล้วดึงหลี่ซูเจ๋ออกจากคฤหาสน์

หลังจากขึ้นรถ หลี่ซูเจ๋มองคฤหาสน์ที่ค่อยๆห่างออก ไป ในใจรู้สึกเสียใจอย่างบอกไม่ถูก

เธอคิดว่าเธอจะอยู่ที่นี่ไปตลอด อ่านหนังสือทุกวัน รอ คลอดลูกออกมาอย่างอกสั่นขวัญแขวน ไม่เคยคิดที่จะ อยากออกมาจากที่นี่เลยสักนิด

แต่วันนี้เธอออกมาแล้ว

“ อย่าคิดถึงเรื่องที่ไม่ดีพวกนั้นเลย ” ถังซินหยิบขวด น้ำโยนให้เธอ “ ดื่มน้ำหน่อย ปากคุณซีดมาก ฉันจะ ทำให้คุณกับเด็กในท้องมีชีวิตที่ดีขึ้นแน่นอน ”

หลี่ซูเจรีบรับขวดน้ำ มองถังซิน รู้สึกอบอุ่นในใจ “ ซินซิน ขอบใจนะ ”

“ เป็นฉันต่างหากที่ต้องขอบคุณคุณ ” เสียงถังซิน แหบแห้ง และอดทนพูดต่อว่า “ หลังจากที่ฉันไปต่าง ประเทศก่อนหน้านี้ เป็นคุณที่คอยช่วยเหลือฉันตลอด ถ้าไม่เป็นเพราะฉัน คุณก็คงไม่….…….

“ พอแล้ว ไม่ต้องพูดแล้ว ” กลัวว่าเธอพูดขึ้นมาอีก คงจะพูดไม่หยุด แล้วตัวเองร้องไห้ หลี่ซูเจ๋จึงห้ามไว้ ” เมืองหนานเฉิงนั้นใหญ่มาก ไปที่นั่นเขาคงจะหาเราไม่ เจอหรอกใช่ไหม ”

“ วางใจเถอะ ที่นั่นเขาหาไม่เจอแน่นอน ” ถังซินเผย รอยยิ้มเย็นชาออกมา

20 กว่านาทีต่อมา รถก็มาถึงสิงสุ่ยวาน

“ สถานที่ดีๆที่คุณพูดถึงคือที่นี่เหรอ ” หลี่ซูเจ๋มองถัง ซินที่พาเธอกลับมาคอนโดที่นี่ ตกใจ “ ถ้าเขารู้ว่าฉันหนี มา จะต้องมาหาฉันที่นี่ก่อนแน่นอน ”

ถังซินพาเธอมาคอนโด พูดอีกว่า “ ฉันก็ไม่ได้พูดหนิ ว่าเป็นคอนโดที่พวกเราอยู่

ลิฟต์มาถึงชั้นล่าง เดินไปหน้าคอนโดที่จู่ซือซือพักอยู่ ถังซินกดกริ่งหน้าประตู
ไม่นานประตูก็เปิดออก

“ คุณถัง ” ป้าหลินที่เปิดประตูมาเห็นถังซินในเวลา นี้ ก็ตกใจไม่น้อย “ วันนี้คุณไม่ทำงานเหรอคะ เอ๋ คนนี้ คือ………. ถังซินยิ้มแล้วพูดว่า “ นี่คือเพื่อนของฉันเองค่ะ ซือซือล่ะคะ

“ คุณซือซืออยู่ในครัวค่ะ ” ป้าหลินเชิญทั้งสองคนเข้า ห้อง พูดอย่างหน่ายๆว่า “ เธอชอบคุกกี้ที่คุณทำครั้งที่ แล้วมากเลยค่ะ แต่ของฉันไม่อร่อย เลยจัดการลงมือ ทำเองเลย ”

หลี่ซูเจ๋เข้าห้องไปกับถังซิน สักพักสติก็กลับมา เข้าไป กระซิบเธอใกล้ๆว่า “ คุณให้ฉันมาพักกับซือซือเหรอ คุณไม่รู้เหรอว่าลู่เหวินซูเป็นพี่ชายคนที่สี่ของเธอ

ถังซินตบไปที่ไหล่ของเธอ “ ที่ที่อันตรายที่สุดก็คือที่ที่ ปลอดภัยที่สุด เชื่อฉัน ”

เห็นเธอมีความเชื่อมั่นขนาดนี้ หลี่ซูเจ๋พยักหน้า ให้เธอ จัดการ

จู่ซือซือพอได้ยินว่าถังซินมาก็ทิ้งทุกอย่าง แล้ววิ่งออก มาจากครัวด้วยความดีใจ “ พี่ถังซิน พี่รีบมาทำคุกกี้ให้ หนูกินหน่อย หนูชอบคุกกี้ที่พี่ทำให้กินมากเลย ป้าหลิน ทำแล้วไม่อร่อย”

“ โอเค เดี๋ยวพี่ทำให้กินนะ ” ถังซินพูดอยู่ก็ถอดผ้ากัน เปื้อนออกจากตัวเธอ “ หนูอยากกินอะไรบอกพี่มาเลยห้ามทำเองอีกนะ เดี๋ยวก็บาดเจ็บได้ง่ายหรอก

จู่ซือซือยิ้มแย้มแจ่มใสและพูดว่า “ กลัวว่าพี่จะยุ่งอยู่ เลยไม่กล้ารบกวนพี่ค่ะ ”

เธอมองเลยไปก็เห็นหลี่ซูเจ๋อยู่ข้างหลังถังซิน ดวงตา เบิกกว้าง “ พี่สะใภ้สี่ พี่ก็มาด้วยเหรอคะ พี่ ทำไมพี่ซูบ ” ผอมเยอะขนาดนี้……..

หลี่ซูเจฝืนยิ้มให้เธอ

“ เธอเลิกกับพี่ชายสี่ของหนูนานแล้ว ” ถังซินดึงจู่ ซือซือมาแล้วพูดกับเธอเสียงเบา “ พี่ซูเจ่ของหนูสุขภาพ ไม่แข็งแรง ดังนั้นพี่เลยอยากจะให้เธอมาอยู่ที่นี่สักพัก

จู่ซือซือพยักหน้าตอบรับ “ ได้สิคะ ยังไงหนูก็อยู่ที่นี่ คนเดียวไม่ได้คุยกับใคร หนูอยากไปถ่ายทำแต่พี่เฉิน ให้หนูพักผ่อน ไม่ให้หนูไป”

คำพูดปนไปด้วยความเศร้า

เธอเก็บตัวอยู่บ้านมาหลายเดือนแล้ว ถึงแม้ว่า ต้องการอะไรก็หามาให้หมด แต่ว่ามันน่าเบื่อมาก เหมือนกับอยู่ในคุก

ถังซินรู้สึกเจ็บปวด ลูบหัวเธอด้วยความอ่อนโยน ฝืน ยิ้ม “ เขาก็เป็นห่วงหนู หนูรออีกหน่อยนะ หลังจากนี้พี่ จะพาหนูไปเที่ยวต่างประเทศ ดีไหม ”
จู่ซือซือตอบรับ และถามเบาๆอีกว่า “ พี่ถังซินคะ พี่กับ พี่เฉินเมื่อไหร่จะกลับมาคบกันคะ ”

“ พี่ไปทำคุกกี้ให้หนูกินดีกว่า ” ถังซินเปลี่ยนเรื่องคุย “ กินโมจิด้วยไหมคะ ”

“ กิน กินค่ะ ” จู่ซือซือถูกถังซินหลอกสำเร็จ

หลังจากสติเธอกลับมา ถังซินเรียกป้าหลินเข้าครัวไป เรียบร้อยแล้ว

จู่ซือซืออยากถามให้ชัดเจน หลี่ซูเจ๋กลับพูดดักขึ้นมา เสียก่อน “ ห้องครัวควันเยอะมาก พวกเราไปดูโทรทัศน์ กันเถอะ ”

ในห้องครัวกำลังยุ่งมาก ถังซินนำเรื่องที่หลี่ซูเจ๋จะพัก อยู่ที่นี่ชั่วคราวบอกให้ป้าหลินรู้

อธิบายว่าลู่เหวินซูนั้นผู้ชายที่ใจร้ายมาก ให้ป้าหลิน เห็นอกเห็นใจ และห้ามป้าหลินเอาเรื่องที่หลี่ซูเจ๋พักอยู่ที่ นี่ไปบอกใคร แม้แต่มู่เฉินหย่วนก็บอกไม่ได้

“ เธอกำลังท้องอยู่ ถูกทรมานจนผอมแบบนี้ เป็นคน นิสัยแย่จริงๆ ” ป้าหลินที่เพิ่งเคยเห็นหลี่ซูเจ๋ ทั้งผอมทั้ง ตัวเล็ก ทําให้รู้สีกเจ็บปวด

ถังซินพูดเกินความเป็นจริงเสริมเข้าไป แต่ป้าหลินเชื่อทั้งหมด

ป้าหลินบอกว่าเธอก็มีลูกสะใภ้ รู้ว่าผู้หญิงท้องนั้น ลำบากมาก ต้องดูแลหลี่ซูเจ๋ดีๆ เรื่องนี้จะไม่บอกใคร ถ้า ลู่เหวินซูมาก็จะปกป้องเอง

ได้ยินป้าหลินพูดแบบนี้ ถังซินก็รู้สึกวางใจ

ถังซินทำคุกกี้และโมจิเยอะมาก และยังเตรียมอาหาร เย็นที่แสนอร่อยอีกด้วย

ตอนกินข้าว หลี่ซูเจ๋กระซิบถามถังซินว่า “ ซือซือกับ ชิงเฟิงเป็นอะไรไป ฉันถามเรื่องของชิงเฟิงกับเธอ เธอ ก็ถามฉันกลับว่าชิงเฟิงคือใคร ” “ ก่อนหน้านี้เธอถ่าย ทำแล้วหัวแตกจนเสียความทรงจำ ” ถังซินพูดเสียงเบา “ดังนั้น…….

นางฟ้าน้อยช่างขมขื่นอะไรขนาดนี้ แถมยังท้อง อีก ถังซินกลัวว่าพูดออกไปแล้วเธอจะโทษตัวเอง เลย ตัดสินใจไม่บอกเธอ

หลี่ซูเจ๋ตะลึง “ เสีย เสียความทรงจำเหรอ

“ ใช่ ความทรงจำนั่นของเธอกับชิงเฟิงอยู่ด้วยกันสูญ เสียไปหมดเลย ”

“ ไม่แปลกที่ประธานมู่ไม่ให้เธอไปถ่ายทำ ” หลี่ซูเจ๋ ไม่รู้ว่าถังซินโกหกอยู่ ถามอีกว่า “ คุณเย่นเป็นคนที่เก่ง ไม่ใช่เหรอ เขาไม่มีวิธีเหรอ ”
ถังซินพูดอย่างหน่ายๆว่า “ เย่นจิ่งเหนียนเป็นนักวิจัย ไม่ใช่หมอ สองอาชีพนี้แตกต่างกันมาก ”

“ก่อนหน้านี้เขาไปหาฉัน ให้ยาฉันกิน ฉันคิดมา ตลอดว่าเขาเป็นหมอ ”

เขาเคยไปหาเธอด้วยเหรอ

หลี่ซูเจ๋ตอบรับ “ ก่อนหน้านี้สุขภาพไม่ดี เขามาดูฉัน ต่อมาหลังจากที่ฉันท้อง คุณเย่นก็เรียกหมออีกคนมา ดูแลแทน ”

ถังซินมีสีหน้าเคร่งขรึม กัดฟันด่าว่า “ ให้ตายเถอะ ” เขาเป็นพี่น้องกับลู่เหวินซูจริงๆ ถึงไม่เอาเรื่องของคุณ มาบอกฉัน และก็ไม่ช่วยคุณอีกด้วย ”

“ ลู่เหวินซูอารมณ์ไม่แน่นอน เขาน่าจะไม่รู้ว่าต้องทำ ยังไง ก็กลัวว่าคุณจะเดือดร้อน ” หลี่ซูเจ๋พูดอธิบาย “ ไม่ต้องคิดถึงเรื่องพวกนี้แล้ว กินข้าว กินข้าว..……….

หลี่ซูเจ๋กินไปไม่กี่คำ ก็อยากอาเจียนจึงรีบวิ่งไป ห้องน้ำ

จู่ซือซือมองตาม ถามถังซินว่า “ พี่ถังซิน พี่ซูเจ๋เป็น อะไรไม่สบายเหรอคะ ”

“ ใช่ เธอไม่ค่อยสบาย ”

ถังซินนึกถึงร่างกายของหลี่ เจ่ที่ซูบผอมขนาดนั้นรู้สึกเจ็บปวด ถอนหายใจ

ตอนที่ท้องแรกๆ อาเจียนหนักมาก แต่ไม่เหมือนหลี่ซู เจ๋ตอนนี้ ผอมจนน่ากลัว กินอะไรไม่ได้เลยสักนิด

ไม่รู้ว่าลูกของนางฟ้าน้อยจะรักษาไว้ได้หรือเปล่า

หลังจากกินข้าวเสร็จเรียบร้อย สองทุ่มกว่า ถังซินก็ กลับไป

เธอขับรถไปตู้ ATM ที่อยู่ใกล้ชุมชนเพื่อกดเงิน หลัง จากมาถึงเขตชุมชนก็ไปหาทรัพย์สิน บอกว่าแหวนรูป ไข่ของ Van Cleef & Arpels ซึ่งเป็นแบรนด์ฝรั่งเศส ของตัวเองถูกขโมยไป

ทรัพย์สินเป็นเรื่องที่ใหญ่มาก จึงโทรเรียกผู้จัดการมา จัดการให้ถังซิน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ