ฉันเป็นสุดที่รักของประธานมู่! ?

บทที่ 382 ตะโกนอะไรกัน เสียงดังจะตายแล้ว



บทที่ 382 ตะโกนอะไรกัน เสียงดังจะตายแล้ว

คนรับใช้ได้เตรียมห้องให้เจียน่าไว้แต่เนิ่นๆแล้ว ของ ส่วนตัวที่ใช้ก็เป็นแบรนด์ที่เธอใช้ประจำ

เจียน่าเปิดตู้เสื้อผ้า เสื้อผ้าสุดหรูคอลเลคชั่นใหม่ ล่าสุดจากห้องเสื้อชั้นนำสิบกว่าเจ้า ต่างถูกแขวนอยู่ใน นั้น

เธอหยิบขึ้นมาใส่หนึ่งตัว และเซลฟี่กับทุกมุมของ ห้องนี้ ทั้งยังวิดีโอหาเหล่าเพื่อนสาว พาพวกเธอดูรอบๆ วิลล่า มีความสุขกับสายตาอิจฉาของพวกเธอ

ในตอนที่เจียน่าจะขึ้นไปยังชั้นสาม คนรับใช้ก็รีบปรี่ เข้ามาขว้างหน้าเธอ

“คุณเจียน่าคะ ในวิลล่านี้คุณจะเดินไปที่ไหนก็ได้

ยกเว้นชั้นสามค่ะ”

เจียน่าตวาดลั่น “ฉันคืนนายหญิงของที่นี่ จะมีที่ไหนที่ ฉันไปไม่ได้ได้อย่างไร

“ชั้นสามคุณหลี่พักอยู่ค่ะ” คนรับใช้ตอบกลับ “คุณลู่ สั่งพวกเรามา ว่าคุณจะไปที่ไหนก็ได้ แต่ขึ้นไปชั้นสาม ไม่ได้ คุณเจียน่า อย่าได้สร้างความลำบากให้กับพวก เราด้วยค่ะ”

เจียน่ารู้สึกเสียหน้าจนรีบกดวางสายทันที
เธอตวาดลั่น “คุณหลี่ คุณจางอะไรกัน ฉันต่างหาก แฟนของเหวินซู”

คนรับใช้กล่าวอย่างไม่ทุกข์ไม่ร้อน “ฉันไม่รู้ความ สัมพันธ์ของคุณกับคุณลู่หรอกค่ะ แต่ท่านที่อยู่ชั้นสาม นั้น ฉันได้ยินว่าเป็นคู่หมั้นของคุณลู่ค่ะ”

คู่หมั้น ทั้งนามสกุลหลี่

ทันใดนั้นเจียน่าก็นึกคิดมาได้คนหนึ่ง และรีบถามคน รับใช้ทันที “หลี่ซูเจรี”

“…ค่ะ”

เจียน่าใจสั่นสะท้าน

เธอคิดว่าลู่เหวินซูได้อ่านพวกนั้นแล้ว และผสมร่วม กับคำโกหกของเธอ จะต้องถูกกระตุ้นจนเลิกกับหลี่ซูเจ๋ เป็นแน่ แต่ทำไมลู่เหวินซูถึงได้พาไว้ที่นี่กัน

ทั้งยังส่งเธอมาที่นี่อีกด้วย นี่มันหมายความว่าอย่างไร กัน

เจียน่าถามคนรับใช้ด้วยสีหน้าสงบนิ่ง “แล้วทำไมเห วิน ถึงให้เธอมาอยู่ที่นี่”

“ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ คุณเจียน่า”

แล้วทำไมเธอถึงพักที่ชั้นสาม” เจียน่ากะพริบตา “ปริบๆ โบกมือและกล่าว “ฉันไม่ได้ใส่ใจว่าเหวินซูจะมี คู่หมั้นอยู่แล้วหรือไม่ แค่อยากจะปักทายเสียหน่อย อย่างไรก็คงได้พบหน้ากันมากขึ้น

คนรับใช้มีท่าที่สับสน ก่อนจะบอกกับเธอ “คุณเรียน าคงไม่ได้พบกับคุณหลี่หรอกค่ะ คุณลู่ไม่ให้เธอลงมา จากชั้นสาม และพวกเราก็เป็นคนอาหารทั้งสามมื้อขึ้น ไปให้เธอค่ะ”

เจียน่าคิดอย่างมีความสุข พลางถามอย่างสงสัย “เธอ ทะเลาะกับเหวินซูหรือ

เมื่อเห็นคนรับใช้มีท่าทีลังเล เจียน่าก็นำเงินออกมา จากกระเป๋าและวางลงบนมือของเธอ เธอบอกกับฉัน ได้ อย่างไรที่นี่ก็ไม่ได้มีฉันที่อยู่คนเดียว ฉันเองก็ไม่ อยากไปยั่วโทสะเหวินซูเข้า

คนรับใช้รับเงินไปจนมือไม้อ่อน จึงนำเรื่องครั้งที่แล้ว ที่ลู่เหวินซูทะเลาะกับหลี่ซูเจ๋ พวกเธอเป็นคนโอบหลี่ซู เจ๋ไปอาบน้ำ และทำความสะอาดร่างกายให้ เล่าราย ละเอียดทุกอย่างให้เจียน่าฟังจนหมด

เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจียน่าก็วางใจ

เรื่องโกหกที่เธอสร้างในครั้งนั้น ยังคงมีผลต่อลู่เหวิน และหลี่ซูเจี่ ลู่เหวิน เพียงแค่อยากให้หลี่ซูเจตั้งท้อง และคลอดลูกของเขา ถึงได้ขังตัวไว้ที่นี่

หลี่ซูเจ๋อยู่ที่ชั้นสามและไม่มีทางลงมาได้ ราวกับอยู่ในคุก ไม่เป็นภัยคุกคามต่ออิสระของเธออย่างแน่นอน

“เธอคงไปยั่วโมโหเหวินซูเข้า ถึงได้ถูกทำเช่นนั้น” เจียน่าแสร้งทำเป็นห่วงใยหลี่ซูเจ๋ และกำชับกับคนรับ ใช้อีกว่า “เช่นนั้นพวกเธอก็ดูแลเธอให้ดีๆนะ อย่าให้เธอ ลงมา หากเหวินซูมาเจอเข้าคงจะหงุดหงิดน่าดู”

“ค่ะ คุณเจียน่า”

เจียน่าพักอยู่ที่นี่ จะตื่นตอนไหนก็ได้

ไม่จําเป็นต้องเดิน เพียงแค่นอน และใช้โทรศัพท์ออด อ้อนลู่เหวินซู ก็มีเงินเข้าบัญชีทันที เพียงโทรออก คน ของร้านชั้นนำก็จะนำเสื้อผ้าและเครื่องประดับมาให้เธอ เลือกถึงวิลล่า

ชีวิตที่มัวเมาไปกับเงิน

บางครั้งที่เห็นคนรับใช้ขึ้นไปให้อาหารที่ชั้นสาม เจียน่ าก็นึกอยากจะขึ้นไปเจรจากับหลี่ซูเจ๋ เรื่องผลักหลี่ซูเจ๋ ตกบันไดจนทำให้เธอแท้ง มันทำให้ใจเริ่มร้อนรน

เพื่อที่จะแก้แค้น หลี่ซูเจ๋จึงวางแผนขึ้นมาอย่าง มากมาย เวลานั้นด้วยการยั่วยุที่ไร้ซึ่งความกลัวของ เธอ กลายเป็นคนที่ยุ่งด้วยไม่ได้ ตอนนี้ก็เล่นสงคราม ประสาทกับลู่เหวินซู และถูกขังอยู่ที่ชั้นสาม

แต่หากวันใดลู่เหวินซูขึ้นไปดูหลี่ซูเจ๋ที่ชั้นสาม แล้วหลี่ ซูเจ๋พูดเรื่องวันนั้นออกมากันล่ะ
ไม่ได้ เธอจะต้องจัดการกับมัน

ความไม่แน่นอนนั้นทำให้เจียน่าเริ่มอยู่ไม่สุข จึงส่ง ข้อความทางวีแชทไปหาคนที่จะสามารถช่วยเธอได้ ทันที

สองวันหลังจากนั้น ก็มีพัสดุมาส่งที่วิลล่า

เจียน่าแกะกล่อง นำของที่อยู่ในนั้นออกมา ก่อนจะ ลอบเข้าห้องครัว และโรยมันลงในอาหาร

เธอมองคนรับใช้ที่ยกอาหารขึ้นไปบนชั้นสาม ริม ฝีปากฉีกยิ้มโหดเหี้ยม

หลี่ซูเจ๋อยู่ที่ชั้นสามตลอด จึงไม่รู้ว่าเจียน่าได้เข้ามา อยู่ที่วิลล่าแล้ว

เธอตั้งตาคอยอยู่ทุกวัน แต่ก็ไม่เห็นลู่เหวินซูมา กลัว ว่าเรื่องที่บริษัทจะเยอะ และคงไม่ดีนักถ้าจะให้คนรับใช้ ไปถามเขา จึงอ่านหนังสือ วาดรูปฆ่าเวลา และรั้งรอต่อ

เช้าต่อมา หลี่ซูเจ๋รู้สึกไม่สบาย

เมื่ออาบน้ำ ทานอาหารเช้าเสร็จ เธอก็หยิบหนังสือ เล่มหนึ่งและนั่งลงที่ข้างหน้าต่าง และนั่งอ่านหนังสืออยู่ ท่ามกลางแสงแดดนั้น คนรับใช้เมื่อเห็นว่าเธอทำตัวดี ก็ ไม่ได้มาคอยตามติดตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงอีก
เวลาทั้งหมดต่างหายไปกับการอ่านหนังสือและวาด

รูป

ณ เวลานั้นเธอรู้สึกกึ่งหลับกึ่งตื่น บางทีอาจเพราะเจ็บ คอ ทั้งยังคิดว่าเป็นเพราะหลับไปทั้งที่อากาศเย็นด้วย จึงทานยาแก้หวัดไปสองเม็ด

สี่โมงกว่าๆ คนรับใช้นำผลไม้ขึ้นมา และบอกกับหลี่ซู เจ๋ “วันนี้คุณลู่กลับมานะคะ”

เขาจะมาหรือ

หลี่ซูเจ๋ที่นอนมึนอยู่บนเก้าอี้นวมได้ยินคนรับใช้พูด เช่นนั้น ก็ลุกขึ้น ดวงตาสีสลัวทอประกายทันที

เธอถามคนรับใช้ว่ากี่โมง

แต่คนรับใช้กลับมองเธอ และเอ่ยถามอย่างระแวด ระวัง “คุณหลี่ ฉันไม่ได้ยินเลยค่ะว่าคุณพูดว่าอะไร”

หลี่ซูเจนึกถึงอาการเจ็บคอของตัวเอง น่าจะเป็น เพราะอาการหวัดที่ทำให้เสียงของเธอขาดหายไป จึง ใช้พู่กันเขียนบอกแทน ฉันเจ็บคอ พูดไม่ได้ ฉันถามว่า เขาจะกลับมาตอนกี่โมง

คนรับใช้อ่านข้อความแล้วตอบกลับ ก่อนหน้านี้ก็ ประมาณหกโมงหนึ่งทุ่มค่ะ ครั้งนี้ก็น่าจะเช่นกัน

หลี่ซูเจ๋เขียนลงบนสมุดอีกครั้ง ได้
“ไม่ได้ค่ะๆ” คนรับใช้ที่เห็นดังนั้นก็ปฏิเสธทันที “คุณ หลี่ คุณผู้ชายบอกให้คุณอยู่แต่ที่ชั้นสาม หากคุณลงไป กับฉัน ฉันต้องโดนด่าแน่เลยค่ะ”

หลี่ซูเจ๋เริ่มเขียนอีกครั้ง ฉันกับเขาเข้าใจผิดกันเล็ก น้อย ฉันไม่อยากทำสงครามประสาทกับเขาอีกแล้ว หากเขาจะมา ฉันก็อยากจะทำอาหารให้เขาทาน และ พูดคุยกัน หากเขาจะต่อว่าเธอ ฉันขวางเอง

คนรับใช้ที่เห็นเธอเขียนเช่นนั้น ก็เกิดอาการลังเล และพาหลี่ซูเจ่ลงมาข้างล่างในท้ายที่สุด

ตอนที่มาถึงคฤหาสน์หลังนี้ หลี่ซูเจ๋ไม่ได้ใส่ใจราย ละเอียดมากนัก เมื่อได้ลองสังเกตอย่างตั้งใจแล้ว จึง พบว่าคฤหาสน์นี้โอ่อ่า ใหญ่โต คนรับใช้หลายคนต่างวิ่ง วุ่นกันอยู่ที่ชั้นล่าง ทั้งยังได้กลิ่นน้ำหอมที่ตลบอบอวล

เธอคิดว่าเป็นคนรับใช้ที่พ่นมาจึงไม่ได้ใส่ใจอะไร

สองประตูของตู้เย็นนั้นเต็มไปด้วยอาหารมากมาย ไม่ ว่าอะไรก็มีทั้งหมด หลี่ซูเจ๋ทำอาหารไปเพียงสองสาม มื้อเท่านั้น ยังไม่คุ้นชินนัก จึงเลือกวัตถุดิบมาเพียงบาง อย่าง และทำอาหารที่ลู่เหวินซูชอบอย่างสุดกำลัง

ตอนที่ทำอาหาร หลี่ซูเจ๋รู้สึกหน้ามืดตาลายตลอด เวลา ทั้งยังรู้สึกหายใจไม่ออก

เธอพยายามทนเอาไว้ และลงมือทำกับข้าวสามอย่าง และน้ำซุปด้วยตัวเอง
คนรับใช้นำอาหารขึ้นโต๊ะแทนเธอ ทั้งยังชื่นชม “คุณ หลี่ลงมือทําอาหารเอง และกลิ่นก็หอมตลบอบอวลแบบ นี้ คุณผู้ชายกลับมาต้องชอบเลยค่ะ”

หลี่ซูเจ่แย้มยิ้ม

ตราบใดที่ลู่เหวินซูไม่เลือก ไม่ว่าจะทานอะไรเธอก็ ทำให้ได้ทั้งหมด

เธอล้างมือจนสะอาด เพียงเดินออกมาจากห้องครัว เท่านั้น ก็หน้ามืดตาลาย ร่างกายไร้เรี่ยวแรงจนล้มฟุบ ไป

“ว้าย คุณหลี่” คนรับใช้ที่เห็นเธอเป็นลม ก็ กระวีกระวาดเข้ามาประคองทันพลัน

“เสียงอะไรกัน โวยวายกันทำไม เสียงดังจะตายแล้ว” เจียน่าเดินหาวลงมาจากชั้นสอง ทั้งยังกล่าวโทษคนรับ ใช้อย่างไม่พอใจ

จนกระทั่งยามที่เธอเห็นหลี่ซูเจ๋ลงมา ก็แทบจะกรีดร้อง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ