ฉันเป็นสุดที่รักของประธานมู่! ?

บทที่ 381 ชีวิตหายไปครึ่งเพราะผู้หญิงเพียงคนเดียว



บทที่ 381 ชีวิตหายไปครึ่งเพราะผู้หญิงเพียงคนเดียว

พ่อบ้านที่อุ้มช่อทานตะวันไว้เอ่ยขึ้นอย่างทนไม่ไหว “คุณหลี่ ชอบดอกทานตะวันหรือครับ”

ทำไมหรือ

“ผมมารับป้าอยู่หลายครั้ง ได้ยินว่าห้องของคุณต้อง เปลี่ยนดอกทานตะวันทุกวัน ต้องสดใหม่ ผมจึงคิดว่า คุณชอบมันใช่ไหม ดังนั้นคุณลู่ถึงได้ให้คนส่งมาให้คุณ ทุกวัน”

หลี่ซูเจ๋กะพริบตาปริบๆ เหยียดริมฝีปากออก “ไม่ชอบ ความหมายของมันคือโกหก”

แต่ประจวบเหมาะ ลู่เหวินซูกลับมาที่วิลล่าในบ่ายวันนี้ เพื่ออยากมาดูหลี่ซูเจ๋

เมื่อขึ้นมาถึงที่ชั้นสาม ยังไม่ทันได้เข้าห้อง ก็ได้ยิน เสียงเธอพูดคุยกับพ่อบ้านดังลอดออกมาจากในห้อง นอน

เหวิน ชะงักเท้าอยู่ที่หน้าประตู

เขาได้ยินหลี่ซูเจ๋พูดอย่างขบขัน “ดอกทานตะวันที่ถูก ห่อหุ้มด้วยแสงอาทิตย์ ดูงดงาม แต่กลับเรียกความโหด เหี้ยมในตัวคน และฆ่าคนจนถึงตายได้
“ทำไมถึงพูดเช่นนั้นกันครับ”

“เพราะฉันเคยใช้มันทำเรื่องๆหนึ่ง พูดไปแล้วฉันก็ยัง นึกขอบคุณดอกไม้นี้”

ลู่เหวินซูที่อยู่ข้างนอกหัวเราะอย่างไร้เสียง เขาดึง ดอกทานตะวันที่อยู่ตรงคอออก และจ้องอย่างแน่นิ่ง นึก ไปถึงที่ประเทศR วันนั้นที่หลี่ซูเจซื้อมันให้กับตัวเขา เมื่อ เทียบกับคำพูดของเธอในวันนี้แล้ว ดอกทานตะวันนี้คือ การเย้ยหยัน

คือการฆ่าคนให้ถึงตาย

ผู้หญิงหนึ่งคน ที่ทำให้เขาชีวิตเขาหายไปครึ่งชีวิต อย่างไรค่า

เขาไม่ได้เคาะประตูทั้งไม่ได้มีท่าทีเดือดดาลแต่อย่าง ใด เพียงเดินกลับไปด้านล่างด้วยสีหนาเรียบนิ่ง จึงไม่ ได้ยินประโยคที่หลี่ซูเจ๋คุยกับพ่อบ้านหลังจากนั้น

ภายในห้องนอน หลี่ซูเจ๋ย่อมไม่รู้ถึงการมาของลู่เหวิน ซู มองออกไปนอกหน้าต่าง ราวกับกำลังตกอยู่ในภวังค์ “เพราะมัน ฉันถึงได้รู้ว่าชายคนหนึ่งจะดีกับฉันได้มาก เท่าไหร่ และฉันจะรักเขาได้มากเท่าไหร่

พ่อบ้านถาม “คุณหมายถึงคุณลู่หรือครับ”

หลี่ซูเจ๋ตอบอือ และกล่าวอย่างขบขันกับเขา “คำพูด ของดอกทานตะวันคือ ในสายตาไม่มีใคร มีเพียงคุณคนเดียว สวยงามใช่ไหม ฉันหวังว่านายจะส่งอีกครึ่ง หนึ่งของนายและช่อทานตะวันนี้ โดยที่ไม่พูดอะไร เธอ ก็จะรับรู้ได้ถึงความรักของนาย”

“ไม่รู้ทำไมคุณลู่ถึงไม่ให้คุณออกไป แต่ในความคิด ผม เขาต้องรักคุณมากแน่ๆ ” พ่อบ้านมองหลี่ซูเจ๋ “ยามที่ คุณพูดถึงคุณลู่ ริมฝีปากมีรอยยิ้มอยู่ตลอดนะครับ”

“มีหรือ แต่ฉันยังไม่ได้พูดถึงเขาเลยนะ” หลี่ซูเจ๋ลูบ แก้มไปมา

จ้องมองพ่อบ้านที่นั่งอยู่ที่โซฟา แต่ในหัวของเธอเต็ม ไปด้วยความโกรธที่มีต่อลู่เหวินซู จนไม่มีกะจิตกะใจ จะวาดรูปต่อ จึงบอกให้พ่อบ้านนำดอกไม้กลับไปที่เดิม และดูแล

หลี่ซูเจ๋นั่งลงที่เตียงและอ่านหนังสือ โดยมีพ่อบ้าน คอยเฝ้าอยู่ตรงนั้น

เพียงไม่นาน คนรับใช้คนหนึ่งก็ขึ้นมา กระซิบที่ข้างหู ของพ่อบ้านคนนั้นไม่กี่คำ ทั้งสองคนก็ออกจากห้องนอน ไป

เธอไม่ได้สนใจ และก้มหน้าอ่านหนังสือของตัวเองต่อ

จนกระทั่งหลี่ซูเจ๋อ่านหนังสือเสร็จ ถึงได้รู้สึกตัวว่า ท้องฟ้านั้นเริ่มมืดแล้ว ห้องนอนถูกเปิดไฟ คนรับใช้ที่มา เฝ้าเธอถูกเปลี่ยนเป็นแม่บ้านที่อายุอานามประมาณ สามสิบกว่าๆ
หลี่ซูเจนึกสงสัย “คนที่มาดูแลฉันเมื่อเที่ยง เขาไม่มา แล้วหรือ

“ค่ะ ป้าของเขาอาการหนัก ทางโรงพยาบาลโทรมา ก็รีบออกไปทันที” คนรับใช้ตอบกลับโดยที่ก้มหน้าไป ด้วย “คุณลู่อนุญาตให้เขาไปดูแลป้าที่โรงพยาบาลได้ ค่ะ แล้วให้ฉันมาดูแลคุณหลี่แทน”

คนรับใช้เอ่ยถามต่อ โดยที่ไม่ให้โอกาสหลี่ซูเจ๋ได้เปิด ปากพูดแม้แต่นิด “มื้อค่ำนี้คุณหลี่อยากทานอะไรคะ หากไม่มี ก็จะทำตามตารางที่เตรียมไว้นะคะ”

“ทำตามตารางเถอะ” หลี่ซูเจ๋เองก็ล้มเลิกคำถามที่อยู่ ในหัวไปทันที

หนึ่งชั่วโมงต่อมา คนรับใช้ก็กลับมาพร้อมอาหารค่ำ

หลี่ซูเจ๋เหลือบสายตามอง ก็เห็นยังมีหนังสือพิมพ์ถูก ใช้แทนถาดมาด้วย ราวกับมีไว้ป้องกันไม่ให้น้ำซุปหก เลอะเทอะ

แต่เดิมก็คิดว่าไม่มีอะไร แต่เธอเหลือบไปเห็นหัวข้อ พาดข่าว ประธานบริษัทเหอเส็งเสียชีวิตแล้ว นี้เข้า ความแค้นที่อัดอั้นอยู่ในอกปะทุขึ้นมาทันที

หลี่ซูเจ๋หันไปถามคนรับใช้ “ฉันขออ่านได้ไหม”

“ได้ค่ะ” คนรับใช้รีบส่งหนังสือพิมพ์ให้กับเธอทันที ทั้งยังกล่าวว่า “แต่นี่คือหนังสือพิมพ์ของสัปดาห์ที่แล้วนะคะ ฉันนำมาใช้เพื่อรองจานเท่านั้น หากคุณต้องการ อ่าน เดี๋ยวฉันนำของวันนี้มาให้ค่ะ”

“ไม่ต้อง ฉันแค่อยากอ่านเรื่อยเปื่อยเท่านั้น”

หลี่ซูเจ๋ทานอาหาร พร้อมทั้งเปิดหนังสือพิมพ์ที่วางอยู่ บนโต๊ะไปด้วย

หลังจากได้อ่านบทความอย่างละเอียด เธอก็ตื่นตกใจ จนมือชะงัก สายตาจ้องไปที่หนังสือพิมพ์เขม็ง

กลางคืนเมื่อหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา คุณเส็งได้ไปคลับ เพื่อเจรจาธุรกิจ ระหว่างทางกลับได้มีรถที่ขับมาด้วย ความเร็วสูงพุ่งชนจนรถตกลงไปในแม่น้ำ รวมคนขับไป ผู้เสียชีวิตทั้งหมดมีสี่คน

ส่วนรถอีกคันนั้น ประธานบริษัทหยางซิงและพรรค พวก เพราะรถนั้นได้ขับผ่านบริเวณฆ่าเชื้อ หนึ่งในนั้น ได้โยนบุหรี่ออกไปนอกหน้าต่าง จนเกิดไฟลุกท่วมไป ทั้งบริเวณฆ่าเชื้อ รถระเบิดในทันที สี่คนที่อยู่บนรถเสีย ชีวิตคาที่

หากเป็นแค่คุณเส็งเพียงคนเดียว หลี่ซูเจ๋ยังรู้สึกเขา สมควรตาย นี่คือการลงโทษจากสวรรค์ แต่ในจำนวน ผู้ที่เสียชีวิต นอกจากคนขับทั้งสอง นอกเหนือจากนั้นก็ เป็นคนทำร้ายพี่สาวของเธอจนตายถ้วนหน้า

ประธานเหล่านี้ที่มาตายด้วยกันจะต้องมีคนจงใจจัด ฉากเป็นแน่
ความแค้นที่ทอประกายอยู่ในดวงตาของหลี่ซูเจ๋จาง หายไปอย่างรวดเร็ว เมื่อสงบลงแล้ว เธอก็เริ่มวิเคราะห์ หลินเฉิงจี้ไปประเทศYกับถังซิน ย่อมไม่มีเวลามา จัดการเรื่องนี้ให้เธอแน่

ก็เหลือเพียงลู่เหวินซูคนเดียวเท่านั้น

หลังจากที่เธอมาที่วิลล่า โทรศัพท์ที่พังเครื่องนั้นก็ถูก ลู่เหวินซูยึดไปและยังไม่ได้คืน

บางทีเขาอาจจะซ่อมแล้ว และเห็นแผนการทั้งหมดที่ เธอจดบันทึกไว้

หลี่ซูเจ่ลูบหนังสือพิมพ์ จดจ้องข่าวที่ทำให้มีความสุข ที่สุดนี้ สายตาฉายแววสับสน เปลวไฟในใจที่กำลังจะ มอดดับไปจุดติดขึ้นมาทันพลัน

เธอโกหกลู่เหวินซู ตัดสิ้นชีวิตคุณพ่อลู่จนถึงแก่ กรรม ทั้งยังฆ่าลูกของเขา ทำให้เขาทั้งโกรธทั้งเกลียด เกลียดจนอยากจะฆ่าเธอให้ตาย แต่กลับตัดสินชีวิตคน ที่ฆ่าพี่สาวของเธออย่างลับๆ แทนเธอ

ในใจของเขายังคงมีเธออยู่ เขาถึงได้ช่วยเธอจัดการ เรื่องนี้

ทันใดนั้นหลี่ซูเจ๋ก็คลายท่าทีมืดมน ทานข้าวทั้งหันไป ถามคนรับใช้ “เขาจะกลับมาเมื่อไหร่”

คนรับใช้ซะงักนิ่ง เข้าใจว่าเธอหมายถึงลู่เหวินซู ก็เลยตอบกลับไป “ไม่ทราบค่ะ คุณลู่กลับมาเมื่อไหร่ ฉัน จะแจ้งให้คุณหลี่ทราบนะคะ”

“อือ”

หลี่ซูเจ๋ตั้งตาคอยการกลับมาของลู่เหวินซู จะคุยกับ

เขาดีๆ เพื่อแก้ไขความเข้าใจผิดระหว่างสองเรา ยังไม่ทันที่ลู่เหวินซูจะมา ก็มีแขกที่ไม่ได้รับเชิญมา

เยือนเสียก่อน

ช่วงเช้าตรู่ ก็มีเบนท์ลีสีดำมาจอดเทียบที่หน้าวิลล่า

คนขับรถเปิดประตูให้เจียน่าลงมา สายตาที่มอง คฤหาสน์เบื้องหน้านั้นเผยประกายแวววาว

เธอเพียงขอร้องลู่เหวินซูให้หาที่อยู่ที่ตัวเธอจะพักได้

เท่านั้น ไม่คิดว่าเขาจะให้คนขับรถมาส่งถึงที่นี่

คฤหาสน์ปี้สี่หลังโดดที่วิลล่านี้ช่างกว้างขวางโอ่อ่า คาดว่าน่าจะไม่ต่ำกว่าห้าสิบล้าน

และคฤหาสน์หลังนี้ จะมีเจียน่าเป็นเจ้าของ

เจียน่าคิดในใจว่าอีกสักครู่จะโพสต์ลงไทม์ไลน์ ให้ นางแบบเหล่านั้นได้ดู เธอที่ไม่ได้เข้าไปในเส้นทางนั้น แต่กลับได้ต้นเงินต้นทองมาครอบครอง มีใครจะเก่ง กว่าเธออีกหรือ
เจียน่าหันหลังกลับมาสังกับคนขับรถ “เอาของของ ฉันที่อยู่ท้ายลงมาดีๆละ หากเสียหายแม้แต่นิด ฉันเอา นายตายแน่

เธอเดินเข้าไปข้างในคนแรก ด้วยท่าเดินบิดพลิ้ว และ ท่าทางหยิ่งยโส

หลังจากที่เปิดประตูและพบกับคนรับใช้ เจียน่าก็ วางท่าทีนายหญิงของบ้าน ตั้งแต่วันนี้ไป เหวินซูให้ฉัน มาพักที่นี่ เขาได้บอกพวกเธอหรือยัง”

คนรับใช้โค้งตัวและตอบกลับ “คุณลู่บอกพวกเราแล้ว ค่ะ ต่อจากนี้เราจะคอยดูแลคุณเจียน่าค่ะ”

เจียน่าแค่นเสียงเหอะ

เมื่อเข้าไปในห้อง สายตาของเจียน่าก็กวาดไปรอบ ห้อง สายตาร้อนแรงราวกับจะระเบิดออกมาได้

เธอข่มกลั้นความรู้สึกตื่นเต้นภายในอกไว้ และขึ้นชั้น สองไปกับคนรับใช้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ