ฉันเป็นสุดที่รักของประธานมู่! ?

บทที่ 327 เขาจะไปที่ไหนได้



บทที่ 327 เขาจะไปที่ไหนได้

ถังซินหายใจเข้าออกลึกๆ บอกกับตัวเองว่าจะต้อง ต้านทานไว้

เธอถอดรองเท้าส้นสูงออก เนื้อหนังที่หลังเท้าแทบจะ ติดออกมากับรองเท้าส้นสูง ขณะที่ถอดออกได้ฉีกดึง ถูกเนื้อ เจ็บจนคิ้วเธอขมวดแน่น แต่กลับเม้มปากไว้ไม่ ให้เปล่งเสียงออกมา

เธอวนไปวนมาอยู่ที่เมืองใหญ่อย่างหนานเฉิง ประมาณสิบกว่าชั่วโมง หามาหมดทุกที่แล้ว

ที่ไหนก็ไม่มีผู้ชายคนนั้น

เขาจะไปไหนได้?

วัยรุ่นคนหนึ่งเดินผ่านมาเห็นถังซินใบหน้าเต็มไปด้วย ความจนตรอก เหมือนกับค่อนข้างเห็นใจ จึงยื่นทิชชู่ เปียกส่งให้เธอหนึ่งห่อ “ผมไม่รู้ว่าคุณไปเจอกับอะไรมา แต่ว่าถ้าคุณต้องการก็รับไว้เถอะ”

ถังซินรู้สึกว่าใบหน้านั้นแห้งเล็กน้อย คิดได้ว่าเมื่อเช้า ตอนออกมาได้แต่งหน้า ร้องไห้มาทั้งวัน คิดว่าเครื่อง สําอางคงเลอะหายไปหมดแล้ว

เธอจึงรับทิชชู่เปียกมา และพูดด้วยเส้นเสียงที่แหบ แห้ง “ขอบคุณค่ะ”
ถังซินเห็นในมือของวัยรุ่นคนนั้นได้ถือดอกกุหลาบส เขียวไว้ กลิ่นหอมอ่อนๆของดอกโชยมา จึงตกตะลึงเล็ก น้อย

“ดอกกุหลาบเขียวนี้สวยจริงๆเลย”

“สวย แต่ว่าร้านที่ขายมีน้อยมาก ดอกกุหลาบเขียวใน เมืองหนานเฉิง ล้วนส่งมาจากเมืองหางซี” เด็กวัยรุ่นคน นั้นพูดบ่นขนาดนี้ แต่น้ำเสียงกลับมีความสุขมาก “แฟน ผมชอบดอกกุหลาบเขียวมาก วันนี้เป็นวันเกิดของเธอ ผมซื้อมาจากทางอินเตอเน็ต รอหนึ่งวันถึงจะได้มา!”

ถังซินหรี่ตาเล็กน้อย “ที่เมืองหางซี มีดอกกุหลาบ เขียวเยอะ!”

เด็กวัยรุ่นถามอย่างสงสัย “คุณไม่รู้หรอ? ดินที่เมือง หางซีนั้นชื้น เหมาะกับดอกไม้ที่ต้องใส่ใจอย่างละเอียด แบบนี้ ผมยังจำได้ว่าที่เมืองหางซีได้เอาดอกกุหลาบ เขียวเป็นวันเริ่มต้น กำหนดวันวาเลนไทน์ของท้องถิ่น”

วาเลนไทน์?

ถึงซินนึกถึงตอนที่ไปเมืองหางซีกับหลินเฉิงจี๋ครั้งนั้น ได้เจอกับคู่รักเด็กหนึ่งคู่ที่สถานีรถไฟใต้ดิน

คู่รักเด็กคู่นั้นบอกเธอว่า วันนี้เป็นเฉลิมฉลองใหญ่ของ เมืองหางซีวันหนึ่ง และน้องผู้หญิงยังให้ลูกอมสีชมพูเธอ มาหนึ่งเม็ด บอกว่าสำหรับดอกกุหลาบเขียวให้หลินเฉิง จี้คิดวิธีหาเอาเอง
ที่แท้วันนั้นก็คือวันวาเลนไทน์ของคนท้องถิ่นเมืองหาง

ถังซิ่นค่อยๆหายใจแรงขึ้นเรื่อยๆ และถามจี้ขึ้นอีก ว่า “เธอรู้เรื่องวันวาเลนไทน์นั่นมั้ย ช่วยพูดให้ละเอียด หน่อยได้มั้ย?”

เด็กวัยรุ่นจึงพูดขึ้นว่า “ก็คือผู้ชายถือดอกกุหลาบสี เขียวไว้ ถ้าเจอผู้หญิงที่ชอบและถามว่า อนุญาตมั้ย? ถ้าผู้หญิงบอกว่าอนุญาต ก็แสดงถึงการอนุญาตคบกัน ได้”

และผู้หญิงก็ต้องถือลูกอมรูปกระต่ายและถามให้กับ “ ผู้ชาย ถ้าผู้ชายรับไว้ ก็แปลว่าเห็นด้วยเช่นกัน ในวันนี้ ของทุกปี ส่งเสริมให้คนมีคู่เกิดขึ้นกว่าหมื่นคู่ขึ้นไป และ เคยออกข่าวท้องถิ่นด้วย”

มิน่าหล่ะตอนนั้นหลินเฉิงจื่อยากได้ลูกอมกระต่าย สีชมพูนั้นจากเธอ และมีท่าทางที่ดีใจขนาดนั้น

ที่แท้เขาก็รู้ทุกอย่าง

ไอ้ผู้ชายเซ่อ! ผู้ชายโง่เง่า!

เขาคิดว่ากำลังทำให้ใครซาบซึ้ง เพียงแค่การหลอก ตัวเองและการหลอกคนอื่นก็เท่านั้น

ถังซินกำลังดุด่าในใจอย่างแรง จากนั้นเอามือกุมปาก ไว้แน่น ไม่อยากให้คนที่อยู่ข้างๆหัวเราะเยาะ แต่ก็อดกลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหวจึงไหลพรั่งพรูออกมาอย่างไม่ขาด สาย บริเวณไหล่นั้นสั่นเครือ

เมืองหางซี! เมืองหางซีเ

เธอคิดออกทันทีทันใด หลินเฉิงจี่เคยพาตนเองไป วิลล่าที่เมืองหางซี เขาบอกว่าเขาซื้อไว้ และอยากที่จะ อยู่ที่นั่น

เขาจะอยู่ที่วิลล่านั้นมั้ย?

เด็กวัยรุ่นเห็นเธอร้องไห้ออกมาอย่างกะทันหัน มือเท้า จึงลุกลี้ลุกลนอยู่ช่วงขณะหนึ่ง “นี่…คุณ…คุณไม่เป็นไร ใช่มั้ย? ผมพูดเรื่องพวกนี้ทำให้คุณคิดถึงเรื่องที่ไม่ดี หรอ? ขอโทษนะครับ!”

ฉันไม่เป็นไร ขอบคุณคุณนะ” ถังซินเช็ดน้ำตา และ กล่าวขอบคุณอย่างจริงจัง

ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเห็นกุหลาบสีเขียวในมือของเด็กวัย รุ่น เธอก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะนึกถึงเรื่องที่เคยไปเมืองหาง ซีออก

ถังซินพูดขอบคุณครั้งแล้วครั้งเล่า และโบกรถแท็กซี่ ไปสนามบิน

เธอโทรศัพท์ไปหาผู้ช่วยจาง “ผู้ช่วยจาง ช่วย โทรศัพท์หาบริษัทสายการบินเหล่านั้นที่สนามบิน และดู ว่าเครื่องบินโดยสารของบริษัทไหนสามารถบินส่วนตัวได้ เมื่อฉันไปถึงสนามบินก็จะออกเดินทางเลย

“ ห้ะ?” ผู้ช่วยจางไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับไปครู่หนึ่ง “คุณผู้หญิงคุณจะไปไหน?”

“ฉันจะไปทำธุระสักหน่อย นายพยายามช่วยติดต่อให้ ฉันอย่างเร็วที่สุด ผู้ช่วยจาง ฉันขอร้องหล่ะ” ถังซินบีบ โทรศัพท์ไว้แน่นและพูดอย่างวิงวอนขอร้อง “ราคาเท่า ไหร่ก็ได้หมด”

ผู้ช่วยจางรู้สึกว่าเรื่องนั้นร้ายแรง จึงรีบเอ่ยถามขึ้น ว่า” เดี๋ยวผมจะไปติดต่อให้ บินในประเทศหรือต่าง ประเทศ?”

“ในประเทศ ไปเมืองหางซี”

“คุณรอสักครู่นะ!”

หลังจากที่ถังซินรีบร้อนมาถึงที่สนามบิน ผู้ช่วยจางก็ โทรศัพท์เข้ามา บอกเธอว่าได้จัดการให้เรียบร้อยแล้ว

เธอเดินตรงไปจัดการเช็คอินที่พื้นที่ของบริษัทสาย การบินที่ผู้ช่วยจางได้บอกไว้ รายงานชื่อให้กับเจ้า หน้าที่ภาคพื้นดิน ไม่นานก็ถูกนำทางให้เดินไปถึงพื้นที่ รันเวย์ และขึ้นไปบนเครื่องบินโดยสารขนาดเล็ก

ในเวลากลางดึก เครื่องบินโดยสารก็เดินทางมาถึง เมืองหางซี
หลังจากที่รอให้รถแท็กซี่ในสนามบินที่จอดอยู่หลาน จอดรถออกมา ถังซินก็พบว่าเมืองหางซีนั้นฝนตกหนัก อากาศหนาวเย็น หน้าต่างรถยนต์ถูกสายฝนตกกระทบ และเกิดหมอกฝ้าขึ้นทั้งบาน

เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เธอค้นหาชื่อของถนนนั้น ตามสิ่งที่เธอพอจะจำได้ ค้นหาอยู่สักครู่ก็หาเจอ

หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง เมื่อรถแท็กซี่มาถึงปลาย ทาง ถังซินลงรถและใช้ไฟที่อยู่ตามถนนเพื่อมองออก ไป สวนอันกว้างใหญ่ที่ปลูกดอกคาเมลเลียไว้เมื่อก่อนนี้ ตอนนี้กลับโล่งเตียน และวิลล่าก็ดูไร้ชีวิตชีวา

ทำไมถึงได้เป็นเช่นนี้? เกิดอะไรขึ้น?

ถังซินรีบจนไม่ได้ตั้งใจดูอะไรมากขนาดนั้น ฝ่าสาย ฝนเดินเข้าไปในวิลล่า หลังจากที่มาถึงหน้าบ้าน เธอก็ เปียกชื้นไปทั้งตัว

เธออยากที่จะกดกริ่งประตู แต่กลับพบว่าประตูใหญ่ ไม่ได้ปิดไว้ ผลักไปเบาๆก็เปิดได้แล้ว แรงลมหนา วอ่อนๆได้ปะทะเข้ามาที่หน้า เธอหนาวจนปลายนิ้วสั่น และจากนั้นเธอก็เดินเข้าไป

ภายในบ้านมืดสนิทและหนาวเย็น ทำให้รู้สึกไม่อยาก ที่จะอยู่นานแม้แต่วินาทีเดียว

ถังซินเปิดไฟฉายในโทรศัพท์ แสงได้สาดส่องไป รอบๆภายในบ้านทีละน้อย และเธอจึงตะโกนเรียก”หลินเฉิงจี๋”

แต่กลับมีแค่เสียงลมหายใจและเสียงฝีเท้าของเธอ เอง

“หลินเฉิงจี๋ นายอยู่ที่นี่ใช่มั้ย ให้ฉันได้เจอนายได้ มั้ย?” เสียงของเธอได้สะอึกสะอื้นขึ้นแล้ว “ขอโทษ… นายออกมาเจอฉันเถอะนะ”

เธอหาภายในบ้านอย่างละเอียด แต่ก็ยังหาผู้ชายคน นั้นไม่พบ

ถังซินหาอยู่นาน หาจนเธอรู้สึกเหนื่อยล้า หาที่แห่ง นี้เจอแต่ก็หาคนไม่เจอ จึงอดไม่ได้ที่จะคิดอย่างหดหู หรือบางทีเขาอาจจะซ่อนตนเองไว้ในที่ปิดสนิท ไม่ อยากให้ใครหาเจอ

เมื่อออกมาจากในบ้าน ทันใดนั้นเธอก็เห็นว่าด้านหลัง ของวิลล่ายังมีชั้นลอยบนบ้านเล็กๆ จึงรีบวิ่งไปที่ข้าง หลังวิลล่า จากนั้นเธอจึงมองเห็นบันไดบ้านแบบก้นหอย ที่กำลังถูกสายฝนซัดสาดอยู่

เธอจับบันไดและเดินขึ้นไปทีละก้าวๆ เมื่อมาถึงหน้า ประตู จึงผลักเปิดเบาๆ และประตูก็เปิดออก

แสงไฟฉายสาดส่องไปภายในห้องชั้นลอยเล็กๆ ถังซิ นเห็นพื้นที่เล็กๆของห้องชั้นลอยได้อย่างชัดเจน มีเตียง หนึ่งเตียงวางชิดกับหน้าต่างแบบที่ยาวจรดพื้น และเห็น เงาของคนคนหนึ่งอยู่บนเตียงอย่างเลือนราง
เธออดกลั้นไม่ให้นําตาไหล เดินก้าวเท้าเบาๆเข้าไป

หลังจากที่เดินมาถึงปลายเตียง เธอก็เห็นหลินเฉิงจื่ นอนขดตัวหันหลังให้กับประตู บนตัวได้พันผ้าพันแผล ที่แทบจะแดงไปด้วยเลือดทั้งผืน ในอากาศมีกลิ่นของ เลือดเจือจาง

เขาไม่เป็นไร ยังหายใจปกติอยู่

หลังจากที่แน่ใจแล้วว่าเขาปลอดภัย ถังซินจึงลงไปนั่ง ที่ข้างเตียง และจับมือเขาไว้ ร่างกายของชายหนุ่มนั้น เย็นเฉียบ “ขอโทษที่ฉันมาช้า… นัน…” ทำไม่บอกฉันเรื่องพวก

หลินเฉิงจี่ไม่ได้พูดอะไร ภายในห้องชั้นลอยมีเพียง เสียงลมหายใจของพวกเขาทั้งสองคน

ถังซินน้ำตาคลอเบ้า และพูดด้วยเสียงสะอึกสะอื้น “ขอร้องเถอะ นายพูดอะไรหน่อย…ฉันเป็นห่วงนาย”

เธอตามหาเขาทั้งวัน แทบจะเป็นบ้าแล้ว

หลังจากที่ผ่านไปนานมาก หลินเฉิงจี้ถึงได้พูดออกมา เบาๆว่า “แม่ฉันยังไม่ตาย ฉันไปเจอเธอมาแล้ว…เธอใช้ สายตาที่เกลียดชังมองฉัน ด่าฉันว่าทำไมต้องมีชีวิตอยู่”

“เธอไม่ชอบดอกคาเมลเลีย และไม่ได้เขียนจดหมาย ให้ฉัน ทั้งหมดเป็นเพียงความฝันที่พ่อฉันได้ถักทอขึ้น”
“เธอเกลียดฉัน แทบอยากที่จะให้ฉันไปตาย”

เสียงของเขาไม่แสดงอารมณ์ใดๆแม้แต่นิดเดียว มี เพียงความอึมครึมไร้ชีวิตชีวา ทำให้รู้สึกสะกดอารมณ์ มาก “เธอว่า ฉันมีชีวิตอยู่เพื่ออะไร? ตายไปคงจะดีกว่า มั้ย?”

น้ำตาถังซินไหลพรั่งพรูออกมา อ้าสองแขนโอบกอด เขาไว้ “ไม่ใช่ เธอให้ชีวิตนาย แต่ชีวิตของนายควรจะ เป็นนายเองที่เป็นคนกำหนด นายมีชีวิตอยู่ก็เพื่อตัวเอง”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ